เต็มไปด้วยสาระและข้อเท็จจริง คือหนังสือพิมพ์แนวหน้าทุกบรรทัด ตรงไป ตรงมา...nn ยังตามหาตัวไม่เจอสำหรับ “ไอ้โม่ง” แอบอ้างหักหัวคิวโรงแรมที่ใช้เป็นสถานที่กักตัว (State Quarantine) คนไทยที่กลับจากต่างแดนกลุ่มเสี่ยงที่มีโอกาสลุ้นติดเชื้อโควิด-19...
nn เรื่องนี้ พล.ท.คงชีพ ตันตระวาณิชย์ โฆษกกระทรวงกลาโหม ลงพื้นที่พัทยา พูดคุยกับนายกสมาคมธุรกิจโรงแรมภาคตะวันออก ทราบว่าเป็นเรื่องจริงซึ่งเป็นกลุ่มของพวกนายหน้า และว่า ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างทยอยให้ข้อมูลกับเจ้าหน้าที่ และต้องไปดูข้อมูลเพิ่มเติมว่ามีใครอยู่เบื้องหลังหรือไม่...
nn ในขณะที่ ศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย ก็แย้มว่าไอ้โม่งที่รับประทานหัวคิวนี้ คือ “พ.” ข่าวว่าหัวคิวโควิด-19 นั้นสูงถึง 40 เปอร์เซ็นต์ เนื่องจากว่า ผู้กลับจากต่างประเทศและต้องเข้ากักตัวตามโรงแรมต่างๆ ที่กำหนดไว้ 14 วันและรัฐจะต้องจ่ายให้โรงแรม 1 พันบาท/คน/วัน...
nnและยังมีคนไทยจากต่างประเทศที่รอกลับบ้านเกินอีกหลายพันคน ถ้าจ่ายกันจริงหัวคิวก็คงหลายล้าน...
nn เรื่องนี้ก็ชวนให้คิดถึง Local Quarantine ในต่างจังหวัด ทั้งสถานที่ราชการและเอกชนเพื่อกักตัวกลุ่มเสี่ยง ก็ไม่รู้ว่ารัฐตามไปช่วยค่าน้ำ ค่าไฟบ้างหรือป่าว...
nn บรรทัดนี้“มือปราบ” เห็นใจพี่น้องชาวภูเก็ต ทั้งพลเมืองท้องถิ่นโดยแท้ หรือที่เข้าไปประกอบอาชีพ สื่อโซเชียลมีเดียที่เกี่ยวกับภูเก็ต รายงานน่าห่วงใย ว่า ผู้คนตกงานกันค่อนเกาะเพราะอิทธิฤทธิ์ของโควิด-19 ต้องกลับภูมิลำเนาเดิม (เหนือ-อีสาน-ตะวันออก) หลังจากถูกกักตัวบนเกาะแล้ว 14 วัน ทางผู้ว่าฯภูเก็ตท่านใจดีจัดรถไปส่ง...
nn แต่มีบางรายที่ไปเสี่ยงโชคที่ภูเก็ตแล้วต้องกลับภูมิลำเนาเดิม ปรากฏว่าคนในดินแดนบ้านเกิดมองเป็นตัวน่าขยะแขยงกลัวติดเชื้อ...
nn บางรายจะไปเผาศพพ่อ แต่ทางญาติแจ้งว่าไม่ต้องไป เพราะเจ้าหน้าที่รอจับตัวอยู่หน้าวัดเพื่อไปตรวจหาเชื้อโควิด-19...
nn บางรายจำยอมกักตัวจนหมดเงิน ญาติพี่น้องเพื่อนฝูงหายหมด น่าเศร้าใจยิ่งนัก...
nn ส่วนคนภูเก็ตโดยกำเนิด ไม่ได้รังเกียจ คนต่างแดนที่ไม่ทำงานที่ภูเก็ตและพร้อมจะเปิดบ้านตอนรับเสมอ รอวันแค่ฟ้าเปิดเท่านั้น...
nn ภูเก็ตคือแดนสวรรค์มาตั้งแต่อดีต เมื่อก่อนเงินทองอยู่ใต้ดินต้องขุดไปขาย (ดีบุก วุลแฟรม) แต่ตอนนี้เงินทองลอยมาในอากาศสุดแท้แต่ใครจะคว้าเอามาได้ โดยเฉพาะธุรกิจการท่องเที่ยว ก่อสร้าง ประมง ฯลฯ...
nnจับตาการประชุมสภาผู้แทนราษฎรในวันที่ 27 พฤษภาคมนี้ เพื่ออภิปรายกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับการป้องกันและแก้ไขปัญหาไวรัสโควิด-19 คือ ฉบับคือ พระราชกำหนดให้อำนาจกระทรวงการคลังกู้เงินเพื่อแก้ไขปัญหา เยียวยาและฟื้นฟูเศรษฐกิจและสังคม ที่ได้รับผลกระทบจากการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 พ.ศ.2563...
nn 2) พระราชกำหนดการให้ความช่วยเหลือทางการเงินแก่ผู้ประกอบวิสาหกิจ ที่ได้รับผลกระทบจากการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 พ.ศ. 2563...
nn 3) พระราชกำหนดการรักษาเสถียรภาพของระบบการเงินและความมั่นคงทางเศรษฐกิจของประเทศ พ.ศ. 2563 และ4) พระราชกำหนดว่าด้วยการประชุมผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์ พ.ศ. 2563...
nn ชัดเจน ว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯและรมว.กลาโหม ชี้แจงเสนอหลักการและเหตุผลของกฎหมายดังกล่าวด้วยตนเอง แต่บางประเด็นอาจมอบหมายให้ สมคิดจาตุศรีพิทักษ์ รองนายกฯ และ อุตตม สาวนายนรมว.คลัง...
nn สส.ซีกรัฐบาลไม่น่าจะมีปัญหาในการอภิปราย ทุกคนพร้อมโหวตสนับสนุนหรือเพิ่มเติมข้อเสนอแนะห่วงใยต่างๆ ในการอภิปราย...
nn แต่ในซีกฝ่ายค้าน งานนี้ข่าวว่าได้ซุ่มลับฝีปากเพื่อมาทุบจริงๆ ซึ่งก็คงไม่มีอะไรในกอไผ่ เหมือนกับการอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาล...
nn เพราะคนกำหนดเกมของฝ่ายค้านในสภา ฝ่ายค้านเขาไม่ได้เป็นผู้แทนฯ ไม่มีโอกาสพูดในสภา...
nn ส่วนฝ่ายค้านที่เป็นสส.มีโอกาสพูดในสภาเขาก็ต้องดูตาม้าตาเรือคัดค้านมั่วๆ มีโอกาสสอบตกสูงเพราะโพลล์ต่างๆ ชอบในส่ิงที่รัฐบาลเยียวยาช่วยเหลือประชาชนโดยเฉพาะการแจกเงินที่โดนใจมากที่สุด...
nn สู้ถนอมเนื้อถนอมตัวเชียร์ลุงตู่ไปบ้างเผื่อจะได้ย้ายพรรคในการเลือกตั้งครั้งต่อไปโอกาสจะได้เป็นสส.ก็มีสูงกว่าเดิม...
nn จึงไม่แปลกว่า ทำไมสมาชิกในพรรคฝ่ายค้านบางพรรค ถึงออกมาพูดเรื่องการไปก่อตั้งพรรคใหม่อยู่เนืองๆ...
nn เพราะสัญญาณเหล่านี้บ่งชี้ชัดว่าบิ๊กตู่อยู่ยาว ปาฏิหาริย์ของคนแดนไกลไม่มีอีกแล้ว จึงขอไปตั้งพรรคใหม่เป็นพรรคเล็กๆ ยังมีโอกาสได้ร่วมรัฐบาลในอนาคตค่อนข้างสูงกว่า...nn สวัสดีครับ
มือปราบ
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี