ชื่อเรื่องที่นำมาพูดในวันนี้ เป็นสำนวนไทยที่ชวนให้คิดเป็นคำพูดที่รวมใจความยาวๆให้สั้นลงสะท้อนให้เห็นถึงภาวะที่เป็นอยู่ หรือเปรียบเทียบกับสิ่งที่กำลังเกิดขึ้นในขณะนั้น ว่ากำลังอยู่ในภาวะอย่างไร
เช่น ภาวการณ์ของบ้านเมืองในขณะนี้ ภายใต้อำนาจการบริหารปกครองของคณะผู้บริหารที่มาจากการรัฐประหาร ที่กำลังมีทิศทางในการสืบทอดอำนาจต่อไปเรื่อยๆ ในกระบวนท่าหลายอย่างขณะนี้
เหมือนคนไม่รู้จักพอ
เป็นกิเลสที่เกิดจากความโลภ
ความจริงแล้วเรื่องของความโลภนั้นมีอยู่ในสามัญชนทุกคน จะแตกต่างกันที่มากหรือน้อยเท่านั้น ขึ้นอยู่กับ “สติ” ของแต่ละบุคคลเป็นสำคัญที่จะกำกับจิตใจตนที่จักคอยยับยั้งไม่ให้เกิดขึ้น หรือเลยเถิดเกินเหตุ จนกลายเป็นคน “ไม่รู้จักพอ”
เข้าได้กับสำนวนไทยที่ว่า “ได้คืบจะเอาศอก”
และเข้าใจกับพวกถืออาวุธที่ว่า “ได้หอกจะเอาง้าว” นั่นเอง เพราะง้าวเป็นอาวุธแหลมคมที่มีด้ามยาวกว่าหอก
“ได้คืบจะเอาศอก ได้หอกจะเอาง้าว” เป็นลักษณะของคนที่ “ไม่รู้จักพอ” ซึ่งคนประเภทนี้เป็นคนที่ร้อนเร่า แสวงหาไม่สิ้นสุด
ความพอนั้น ความจริงแล้วเป็นเรื่องของใจ ไม่เกี่ยวกับฐานะ เพราะความไม่รู้จักพอนั้นมีอยู่ได้ทั้งผู้ยากจน ต่ำต้อย หรือผู้ที่เป็นใหญ่เป็นโตมีอำนาจหรือแม้กระทั่งผู้ที่มั่งมีมหาศาล
ความไม่รู้จักพอจะนำความไม่สงบมาให้จิตใจ ต้องเที่ยวเสาะหาตลอดเวลา อย่างพวก “ได้หอกจะเอาง้าว” ในขณะนี้ ที่เที่ยวเร่ไปในที่ต่างๆ เพื่อ “ดูด” ผู้คนมาเข้าพวกเข้าพรรค ใครมีชื่อเสียง มีฐานเสียงมาก แม้จะเคยถูกตราหน้าจากสังคมว่าเป็นคนไม่ดีมาก่อนก็ตาม ชักจูงเข้ามาร่วมพวกร่วมพรรคของตนที่จัดตั้งขึ้น หวังชัยชนะในการเลือกตั้งข้างหน้าเพื่อเป็นมือเป็นไม้สนับสนุนให้ตนได้มีตำแหน่งหน้าที่ มีอำนาจต่อไปอีก
เครื่องดูดฝุ่น ดูดส้วม กำลังขาดตลาดในขณะนี้
เหตุเกิดจาก “ความไม่รู้จักพอ” นั่นเอง
เมื่อ “ความไม่รู้จักพอ” เกิดจาก “ความโลภ”ก็ต้องรู้ด้วยว่า ความโลภไม่ช่วยอะไรให้ดีขึ้นได้เลย ไม่ว่าวัตถุ สิ่งของ เงินทอง หรือผู้คนที่ได้มานั้น ดูเผินๆเหมือนเป็นการยกฐานะตน แต่ความจริงแล้วเป็นการทำลายตัวเองมากกว่าให้ด่างพร้อย ไม่เป็นที่เชื่อถือ ศรัทธา จากผู้คนที่พบเห็นหรือรู้ที่มาที่ไป
ความไม่ไว้วางใจจากผู้คนทั้งหลาย จะทำให้มีเหตุร้ายๆหรือเหตุไม่ดีเกิดขึ้นตามมา เมื่อถึงเวลานั้นก็สายเกินแก้
พูดถึงเรื่องความโลภอย่างว่านี้แล้ว ทำให้นึกถึงคำสอนของพระพุทธองค์ ถ้าความโลภเป็นของดี พระพุทธองค์คงไม่สอนให้รู้จักละความโลภ และพระองค์เองก็จะไม่ทรงพากเพียรปฏิบัติละความโลภ จะเป็นที่ประจักษ์ชัดว่าทรงละความโลภได้อย่างหมดจดสิ้นเชิง เป็นแบบอย่างที่บริสุทธิ์สูงส่ง ยั่งยืนตลอดมาจนทุกวันนี้
ผู้มีอำนาจในการบริหารบ้านเมืองขณะนี้ที่เป็นพุทธศาสนิกชน นับถือพระพุทธเจ้า อย่าเป็นคนสักแต่ว่านับถือเพียงที่ปาก ต้องนับถือเข้าไปให้ถึงใจ ทรงสอนไว้อย่างไรก็สมควรปฏิบัติตามนั้นให้ได้
คงไม่มีผู้ใดที่เห็นว่า ความโลภ ความหลง เป็นความดี ทุกคนคงเห็นว่าไม่ดีด้วยกันทั้งนั้น เมื่อเคยเห็นคนอื่นที่ประพฤติปฏิบัติตนในทางไม่ดีใช้อำนาจเพื่อผลประโยชน์ของตนหรือพวกพ้อง จนต้องถูกผู้คนสาปแช่ง หรือถูกขับไล่มาแล้ว ทำไมไป “ดูด” มาใช้อีก
โอกาสที่จะดูตนเอง ให้เห็นโทษ เห็นผิดของตนเองนั้น มีอยู่ตลอดเวลา แม้กระทั่งเสียงวิพากษ์วิจารณ์ที่ดังขรมทั้งบ้านทั้งเมืองในเรื่องไม่ดีเหล่านี้ ก็มีอยู่ตลอดเวลา ถ้าไม่รับฟัง เพราะใส่ใจแต่เรื่อง“ได้หอกจะเอาง้าว” แล้ว บอกได้คำเดียวว่า“จบไม่สวย”
ความขัดแย้ง ความวุ่นวายทั้งหลายที่ยังคงมีอยู่ในบ้านเมืองขณะนี้ ต้องแก้ที่ตนเองหรือพวกของตนเองให้ได้ก่อน เพื่อเป็นแบบอย่างที่ดีแก่คนอื่น โดยเฉพาะในเรื่อง “ได้คืบจะเอาศอกได้หอกจะเอาง้าว” เพราะตัวเองยังคิดและทำอย่างนี้ จะให้คนอื่นไม่คิด ไม่ทำในเรื่องอย่างนั้นอย่างนี้ ได้อย่างไร
เฉพาะอย่างยิ่งต้องไม่เป็นคนประเภท “ตักน้ำรดหัวตอ”
ความหมายของสำนวนนี้ก็คือ ไม่ยอมฟังใคร
“หัวตอ” ตามสำนวนนี้ หมายถึงตอของต้นไม้ที่ตายแล้ว เมื่อตักน้ำรด ก็ไม่มีประโยชน์อะไร เพราะไม่งอกขึ้นมาใหม่ได้ สำนวนนี้เดิมเรียกว่า“ตักน้ำรดหัวสาก” สากเป็นเครื่องมือสำหรับตำ ทำมาจากท่อนไม้ ซึ่งน้ำไม่สามารถซึมซับเข้าไปได้
ดังโคลงกระทู้สุภาษิตบทหนึ่งอธิบายความหมายว่า
ตัก น้ำรดสากสิ้น หลายถัง
สาก บ่ซึมซับขัง น้ำไว้
เฉก บุตรบ่ใฝ่ฟัง โอวาท
สอน เท่าสอนฤาได้ ดุจข้อคำสอน
เคยนำโคลงกระทู้บทนี้มากล่าวให้ฟังในครั้งก่อนๆ
บ้างแล้ว จนหมดน้ำไปหลายถัง แต่สากก็ไม่เคยซึมซับขังน้ำไว้ จึงหิ้วน้ำมารดสากอีกในวันนี้
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี