กรณีทหารอียิปต์แหกกติกา ออกไปเดินห้าง
ดูรูปการณ์แล้ว ไม่น่าจะมีนโยบายที่จะให้อภิสิทธิ์อะไร แต่มันเป็นพวกไร้วินัย เป็นทหารเลวของแท้ แหกกฎกติกาจริงๆ ถึงขนาดมีคลิปที่ทางสาธารณสุขยกโขยงไปตรวจตามกฎระเบียบ ถึงขั้นเอาตำรวจไปด้วย ถึงขนาดต้องประสานสถานทูตให้เจรจากึ่งบังคับ เขาถึงยอมให้ตรวจ
ซึ่งถ้ามีนโยบายให้อภิสิทธิ์อยู่เหนือกฎหมาย ก็คงจะไม่มีเหตุการณ์ที่ต้องบังคับกันแบบนี้ (มีคลิปหลักฐาน)
แต่ประเด็นล่าสุด ที่คนสงสัยกันมาก คือ ทหารอิยิปต์พวกนี้ มาทำอะไรที่ประเทศไทย? ทำไมต้องแวะอู่ตะเภา? ทำไมต้องพักที่ไทย? ทำไมต้องไปจีนวันเดียวกลับ? มีภารกิจลับอะไร? มันปกติหรือไม่? ฯลฯ
1. ประเด็นหลังนี้ ทางการไทยไม่ได้ชี้แจง และแน่นอน เรื่องความมั่นคงและการทหารบางอย่าง ก็ไม่สามารถเปิดเผยได้หมดแน่ๆ ต่อให้เป็นประเทศประชาธิปไตยจ๋าแค่ไหน อย่างสหรัฐ อังกฤษ ฝรั่งเศส ฯลฯ ก็ตาม
นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 (ศบค.)ก็แถลงข่าวให้รายละเอียดเฉพาะข้อเท็จจริงว่า มาอย่างไร พลาดตรงไหน แก้อย่างไร กราบขออภัย ฯลฯ
ระบุว่า กรณีทหารอียิปต์นั้น สถานทูตได้ขออนุญาตมาไปยังกระทรวงการต่างประเทศ (กต.) และกองทัพอากาศ ซึ่งกรณีนี้ไม่ใช่กลุ่มวีไอพี แต่เป็นกรณีปฏิบัติโดยปกติที่มีการอนุญาตให้เข้ามา ซึ่งเหมือนกับลูกเรือสายการบินทั่วไปที่เข้ามาพักในโรงแรมที่จัดไว้ให้แล้วเดินทางกลับออกไป เพียงแต่ครั้งนี้ไม่ได้ลงที่สุวรรณภูมิตามปกติ แต่ไปลงที่อู่ตะเภา โดยเที่ยวบินเข้ามา 2 เที่ยวบิน คือ EGY1215 และ EGY1216 เป็นเที่ยวบินทางทหาร มีกัปตันเรือและลูกเรือรวม 31 คน โดยวันที่ 6 ก.ค. เดินทางจากไคโร ประเทศอียิปต์ มาสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ วันที่ 7 ก.ค. เดินทางต่อมายังปากีสถาน และวันที่ 8 ก.ค.เดินทางถึงไทย โดยบริษัทสายการบินภาคพื้นประสานงานจองห้องพัก มีสถานทูตเป็นผู้เลือก กำหนดพัก 8-11 ก.ค. โดยเข้าพักโรงแรมดีวารี อ.เมืองฯ จ.ระยอง ถึงเวลา 23.00 น. เครื่องบินล่าช้า 2 ชั่วโมงจากกำหนดการ ทุกคนพักร่วมห้อง 2 คน ยกเว้นกัปตันพักห้องเดี่ยว
“วันที่ 9 ก.ค. เวลา 05.30 น. คณะเดินทางออกจากโรงแรมไปสนามบินอู่ตะเภา เพื่อไปทำภารกิจทางทหาร และเติมน้ำมันเมืองเฉิงตู บินกลับถึงไทยสนามบินอู่ตะเภาเวลา 23.30 น.ของวันเดียวกัน และกลับโรงแรมที่พักเวลา 02.00 น. ของวันที่ 10 ก.ค. ต่อมาเวลา 11.20 น.มีจำนวนหนึ่งเดินทางออกจากที่พักไปยังห้างสรรพสินค้า 2 แห่งในอำเภอเมือง จ.ระยอง คือ แหลมทอง และเซ็นทรัล ทั้งนี้ ทีมสอบสวนโรค สำนักงานสาธารณสุขจังหวัด (สสจ.) ระยอง รับทราบจึงพยายามขอเข้าตรวจคัดกรอง ก็จะเห็นจากคลิปว่ายุ่งยากพอสมควร จนต้องประสานตำรวจ และประสานสถานทูต โดยผลตรวจคือ ไม่ติดเชื้อ 30 คน และผลกำกวม 1 คน จนต้องตรวจซ้ำ โดยผลออกวันที่ 12 ก.ค.ว่าติดเชื้อ แต่คณะเดินทางกลับไปวันที่ 11 ก.ค.เวลา 11.30 น.”
นอกจากนี้ ยังมีรายละเอียดต่อไปว่า ได้มีการติดตามผู้สัมผัสใกล้ชิดและกลุ่มเสี่ยงกี่คนบ้าง อย่างไร ฯลฯ
2. พล.อ.ท.พงษ์ศักดิ์ เสมาชัย โฆษกกองทัพอากาศ ชี้แจงกรณีที่มีข่าวกองทัพอากาศอนุญาตเปิดน่านฟ้าให้อากาศยานทหารอียิปต์เข้าประเทศไทย ระบุว่า ขั้นตอนคือสถานทูตของประเทศนั้นๆ จะติดต่อไปยังกระทรวงต่างประเทศ และเมื่อ กต.เห็นว่าเป็นเครื่องบินทหารก็จะประสานมายังกองทัพอากาศ พิจารณาว่ามีความขัดแย้งเรื่องความมั่นคงหรือไม่ หลังกองทัพอากาศตรวจสอบแล้วพบว่าไม่มีปัญหาเรื่องความมั่นคง และเคยมีปฏิสัมพันธ์ที่ดีต่อกันก็ตอบกลับไปยัง กต.ว่าไม่ขัดข้อง ถือเป็นการทำหน้าที่ตามปกติของกองทัพอากาศที่ต้องพิจารณาในส่วนที่ต้องรับผิดชอบ
“กองทัพอากาศ ได้รับมอบหมายให้เป็นผู้พิจารณาในกรณีที่เป็นเครื่องทหารว่าจะไม่ส่งผลกระทบต่อความมั่นคง และเมื่อเครื่องมาลงในพื้นที่แล้วทุกอย่างต้องเข้าสู่มาตรการที่ได้กำหนดไว้ ไม่ใช่ว่ากองทัพอากาศมีอำนาจพิเศษ การพิจารณาอยู่ในขอบเขตที่จำกัด... ภารกิจอากาศยานอียิปต์เป็นภารกิจบินเดินทางประจำในลักษณะของการบินของอากาศยานของรัฐ/State Aircraft จากต้นทางถึงปลายทาง เป็นความชอบธรรมทางกฎหมาย ในการขอลงจอดเพื่อเติมน้ำมัน พักเครื่องและลูกเรือ เฉกเช่นการบินของอากาศยานของประเทศไทยที่สามารถจะประสานขอลงจอดพักเครื่องและลูกเรือ ในระหว่างต้นทางถึงปลายทางได้”
3. สำหรับประเด็นว่า ทหารอียิปต์มาทำไม? มีภารกิจลับสุดยอดอะไรเหมือนในหนังสายลับนั่นหรือไม่?
แฟนเพจ ThaiArmedForce.com ได้นำเสนอบทวิเคราะห์ไว้ ใครสนใจก็ลองเข้าไปหาอ่านได้
แต่ย้ำว่า เป็นการวิเคราะห์ ซึ่งประกอบด้วยการคาดการณ์ของผู้วิเคราะห์เอง
ยกตัวอย่างบางประเด็นวิเคราะห์ เช่น
- C-130 กองทัพอียิปต์ บินเส้นทางไหน?
ตอบ: เริ่มจากประเทศอียิปต์ แวะพักที่สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์เป็นจุดแรก จุดที่สองคือ ปากีสถาน และมาแวะพักที่ประเทศไทย เป็นจุดที่สาม ก่อนที่จะบินเข้าเฉิงตูในประเทศจีน ขากลับแวะพักตามจุดต่างๆ เส้นทางเดิมเพื่อเดินทางกลับอียิปต์
- C-130 อียิปต์บินไปทำอะไรที่ประเทศจีน?
ตอบ: TAF คาดว่าบินไปซื้่ออาวุธครับ
กองทัพอียิปต์มีอาวุธจีนหลายรายการในทั้งสามเหล่าทัพ เช่น เครื่องบินโจมตี/ฝึก K-8 อากาศยานไร้นักบิน Wing Loong หรือเรือดำน้ำชั้น Romeo แต่เราคาดว่าน่าจะเป็นการมาซื้ออาวุธหรืออะไหล่อากาศยานมากกว่า เนื่องจากเมืองเฉิงตูนั้นเป็นที่ตั้งของบริษัทด้านการบินของจีนหลายบริษัท
ส่วนอาวุธจะเป็นอะไรนั้น เราคงจะรู้ได้ยาก แต่ถ้าให้เดา ก็น่าจะเป็นอาวุธหรืออะไหล่ที่ติดตั้งกับเครื่องบินโจมตี/ฝึกแบบ K-8 หรืออาวุธหรืออะไหล่ที่ติดตั้งกับอากาศยานไรันักบินแบบ Wing Loong ซึ่งผลิตโดยบริษัท Chengdu Aircraft Industry Group ที่มีที่ตั้งอยู่ในเมืองเฉิงตูนั่นเอง
- ทำไมต้องใช้ C-130 ขน ไม่จ้างบริษัทเอกชนขน?
ตอบ: เนื่องจากเป็นอาวุธหรืออะไหล่อากาศยาน เราคิดว่าคงหาบริษัทเอกชนที่รับจ้างขนค่อนข้างยาก ประกอบกับกองทัพอากาศอียิปต์มีเครื่องบินลำเลียงอยู่แล้ว จึงคิดว่ากองทัพอากาศอียิปต์น่าจะอยากใช้เครื่องบินลำเลียงของตนไปขนมากกว่าเพื่อความสะดวกและเป็นการหาประสบการณ์ในการเดินทางไกลอีกด้วย
- กองทัพอากาศอียิปต์บินแบบนี้มานานหรือยัง?
ตอบ: ตามข้อมูลคือกองทัพอากาศอียิปต์ใช้เส้นทางนี้ (อียิปต์-UAE-ปากีสถาน-ไทย-จีน) มาหลายปีแล้ว
- ประเทศอื่นเขามีเอาเครื่องบินลำเลียงไปขนอาวุธแบบนี้บ้างไหม?
ตอบ: มี และหนึ่งในนั้นก็คือประเทศไทย ที่มักจะมีการใช้เครื่องบิน C-130 ไปขนอาวุธที่ไทยซื้อจากสหรัฐอเมริกาเกือบทุกปี และก็ขนอาวุธผ่านหลายประเทศเป็นปกติ ดังนั้น นี่น่าจะเป็นเรื่องปกติครับ
- แล้วทำไมต้องแวะพักหลายจุด ถ้าเป็นเครื่องบินโดยสารนี่บินตรงได้แล้ว?
ตอบ: เนื่องจากข้อจำกัดของ C-130 ซึ่งมีพิสัยบินใกล้มากเมื่อเทียบกับเครื่องบินโดยสารและเครื่องบินลำเลียงขนาดใหญ่แบบอื่นๆ คือมีพิสัยการบินราว 3,500 กิโลเมตร เทียบกับ Airbus A320 ซึ่งเป็นเครื่องบินโดยสารที่สายการบินต้นทุนต่ำชอบใช้ ที่มีพิสัยบินไกลถึง 6,000 กิโลเมตร อีกทั้ง C-130 ยังค่อนข้างบินได้ช้า คือราวๆ 290 นอต หรือมัค 0.4 เทียบกับ A320 ที่บินได้เร็ว 440 นอต หรือราวๆ มัค 0.78 พูดง่ายๆ คือบินได้สั้นกว่าและช้ากว่า A320 ราว ๆ 1 เท่า การบินไกลจากอียิปต์นั้นจึงต้องแวะพักหลายจุด เนื่องจากเครื่องบินบินได้ช้าและใกล้
เช่นเดียวกับกองทัพอากาศไทยที่บินไปซื้ออาวุธที่สหรัฐอเมริกา ก็ต้องแวะพัก 5-6 จุดเช่นกันกว่าจะถึงครับ
- งั้นแค่แวะเติมน้ำมัน แล้วไปต่อได้มั้ย ทำไมต้องนอน?
ตอบ: เนื่องจากบินจากปากีสถานมาประเทศไทยน่าจะใช้เวลานานหลายชั่วโมง อาจจะถึง 8 ชั่วโมง คิดว่านักบินอาจจะอยากพักมากกว่าครับ
- แล้วทำไมต้องมาแวะที่ #อู่ตะเภา?
ตอบ: เราคิดว่ามันคือครึ่งทางของระยะทางระหว่างปากีสถานกับเฉิงตูพอดี แม้อาจจะบินไปโดยตรงที่เฉิงตูได้ แต่อาจจะเสี่ยงเกินไป หรือนักบินอาจจะต้องการแวะพักก่อน เป็นต้น
สิ่งหนึ่งที่ต้องยอมรับก็คือ สนามบินอู่ตะเภามักจะเป็นจุดหมายแวะพักของเที่ยวบินกองทัพทั่วโลกที่มักจะมีเครื่องบินมาแวะที่นี่ทุกๆ ปี อาจจะด้วยความที่ประเทศไทยเป็นจุดกึ่งกลางของภูมิภาค อู่ตะเภา เป็นสนามบินทหารที่มีสิ่งอำนวยความสะดวกครบและกว้างขวาง และแน่นอน มันอยู่ใกล้ #พัทยา ซึ่งเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงไปทั่วโลก ไม่น่าจะเป็นเรื่องบังเอิญแน่นอนที่กองทัพต่างๆมักจะมาแวะพักที่นี่ครับ
TAF สรุปว่า การที่กองทัพอียิปต์มาแวะพักที่ประเทศไทย ไม่ใช่เรื่องแปลก การที่ประเทศไทยอนุญาตให้กองทัพอียิปต์และกองทัพอื่นๆ มาแวะพักที่อู่ตะเภา หรือสนามบินอื่นๆ ก็ถือว่าไม่ใช่เรื่องแปลกเช่นกัน ตรงนี้ไม่น่าจะเป็นประเด็น...”
ข้างต้นนี้ คือ มุมมองการวิเคราะห์ของเพจ ThaiArmedForce.com
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี