วันจันทร์ ที่ 22 ธันวาคม พ.ศ. 2568
ขอฝากเรื่องที่จะพูดในวันนี้ไปให้รัฐบาลที่กำลังเริ่มต้นในการบริหารบ้านเมือง ได้นำไปพิจารณาด้วยว่าในการบริหารบ้านเมืองอันจะก่อประโยชน์สุขแก่ประชาชนทุกหมู่เหล่าในประเทศนั้น อย่าใช้วิธีการเพียงแจกโน่นแจกนี่ ให้นั่นให้นี่อย่างที่เคยทำกันมา โดยไม่ยึดหลักการสำคัญในการพัฒนาเพื่อให้ทุกคนยืนอยู่ได้อย่างมั่นคง ช่วยตัวเองได้ในชีวิตความเป็นอยู่
ขอให้บริหารบ้านเมืองแบบที่ให้เบ็ด ซึ่งเป็นเครื่องมือในการเลี้ยงตัวเองได้ เหมือนอย่างที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 9 ได้ทรงเคยแนะนำไว้จากประสบการณ์ในการทรงงานของพระองค์ที่ผ่านมา
พระองค์ท่านได้ทรงทุ่มเทพระวรกายตรากตรำ และมุ่งมั่นแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนให้แก่พสกนิกร ไม่ว่าจะเชื้อชาติใด ศาสนาใด หรืออยู่ห่างไกลสักเพียงใด ก็มิทรงย่อท้อ เข้าไปช่วยเหลือราษฎรทั้งด้านสาธารณสุข การศึกษา สาธารณูปโภคขั้นพื้นฐาน การเกษตร การฟื้นฟูทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ทรงคิดค้นแนวทางแก้ไขปัญหาได้อย่างแยบยล
การทรงงานของพระองค์ท่าน ทรงยึดการดำเนินงานในลักษณะทางสายกลางที่สอดคล้องกับสิ่งที่อยู่รอบตัว และสามารถปฏิบัติได้จริง ทรงคิดค้นหาแนวทางพัฒนาเพื่อมุ่งสู่ประโยชน์ของประชาชนสูงสุด
ทรงคิดค้นทั้งข้อมูลจากเอกสาร สอบถามเจ้าหน้าที่นักวิชาการ และราษฎรในพื้นที่ เพื่อให้ได้รายละเอียดที่ถูกต้อง เพื่อทรงช่วยเหลือตรงตามความต้องการของประชาชนในพื้นที่นั้นๆ
ทรงมองปัญหาในภาพรวมก่อนเสมอ แต่การแก้ไขปัญหาของพระองค์จะเริ่มจากชุดเล็กๆที่คนมักจะมองข้าม แต่เป็นสิ่งจำเป็นที่สุดของประชาชนก่อน เช่น การสาธารณสุข เมื่อมีร่างกายสมบูรณ์แข็งแรงแล้ว ก็จะสามารถทำงานได้ด้วยดี
เรื่องสาธารณูปโภคขั้นพื้นฐาน และสิ่งจำเป็นในการประกอบอาชีพ เช่น ถนน แหล่งน้ำเพื่อการเกษตร การอุปโภค บริโภค ที่เอื้อประโยชน์ต่อประชาชน โดยไม่ทำลายทรัพยากรธรรมชาติ รวมถึงการให้ความรู้ทางวิชาการและเทคโนโลยีที่เรียบง่าย เน้นการปรับใช้ภูมิปัญญาท้องถิ่นที่ราษฎรสามารถนำไปปฏิบัติได้ และเกิดประโยชน์สูงสุด
โดยเฉพาะที่เคยทรงกล่าวแนะนำไว้ว่า
“การพัฒนาประเทศต้องทำตามลำดับขั้น ต้องสร้างพื้นฐานคือความพอมีพอกิน พอใช้ ของประชาชนส่วนใหญ่เป็นเบื้องต้นก่อน ใช้วิธีการและอุปกรณ์ที่ประหยัด แต่ถูกต้องตามหลักวิชาการ เมื่อได้พื้นฐานที่มั่นคงพร้อมพอสมควรแล้ว ปฏิบัติได้แล้ว จึงค่อยสร้างค่อยเสริมความเจริญ และฐานะทางเศรษฐกิจที่สูงขึ้นโดยลำดับต่อไป
หากมุ่งแต่จะทุ่มเทสร้างให้รวดเร็วแต่ประการเดียว โดยไม่ให้แผนปฏิบัติการสัมพันธ์กับสภาวะของประเทศ และของประชาชน โดยสอดคล้องด้วย ก็จะเกิดความไม่สมดุลในเรื่องต่างๆขึ้น ซึ่งอาจเป็นความยุ่งยาก ล้มเหลวได้ในที่สุด
การช่วยเหลือสนับสนุนประชาชนในการประกอบอาชีพ และตั้งตัวให้มีความพอกิน พอใช้ ก่อนเพื่อเป็นพื้นฐานนั้นเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่งยวดเพราะผู้ที่มีอาชีพและฐานะเพียงพอที่จะพึ่งตนเอง ย่อมสามารถที่จะสร้างความเจริญก้าวหน้าระดับที่สูงได้ต่อไปแน่นอน
ส่วนการถือหลักที่จะส่งเสริมความเจริญให้ค่อยเป็นค่อยไปตามลำดับ ด้วยความรอบคอบระมัดระวังและประหยัดนั้น ก็เพื่อป้องกันความผิดพลาด และล้มเหลว และเพื่อได้บรรลุผลสำเร็จได้แน่นอนบริบูรณ์...”
นี่เป็นตัวอย่างในการพัฒนาบ้านเมืองและประชาชน ที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 9 ได้ทรงเคยแนะนำไว้ เปรียบเทียบเหมือน “ให้เบ็ด” ไว้กับประชาชนในการหากินเพื่อการดำรงชีวิตอยู่ได้ด้วยตัวเอง
ไม่ใช่ “ให้ปลา” อย่างนักการเมืองทั้งหลายทั้งในอดีตและปัจจุบันชอบทำกัน เพื่อให้ประชาชนเลือกตัวเป็นผู้แทนเข้าไปเป็นรัฐบาล
โดยเฉพาะในเรื่องการมีส่วนร่วมของประชาชนในการแสดงออก หรือให้ข้อคิดเห็นต่างๆ นั้น ก็เป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่งเช่นเดียวกัน เพราะบ้านเมืองมีการปกครองในระบอบประชาธิปไตย อำนาจอธิปไตยเป็นของปวงชนชาวไทยไม่ใช่อยู่ที่รัฐบาลเพียงอย่างเดียว จะคิด จะทำอย่างไร โดยไม่รับฟังประชาชน เป็นสิ่งที่ไม่ถูกต้อง
ขอนำคำแนะนำของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 9 ซึ่งเคยทรงนำเรื่อง “ประชาพิจารณ์” มาสอนใจผู้บริหารทุกคนว่า
“...สำคัญที่สุดจะต้องหัดทำใจให้กว้างขวางหนักแน่น รู้จักรับฟังความคิดเห็น แม้กระทั่งการวิพากษ์วิจารณ์จากผู้อื่นอย่างฉลาด เพราะการรู้จักรับฟังอย่างฉลาดนั้น แท้จริงคือ การระดมสติปัญญาและประสบการณ์อันหลากหลาย มาอำนวยการปฏิบัติบริหารงานให้ประสบความสำเร็จที่สมบูรณ์นั่นเอง...”
ขอฝากมายังนักการเมือง นักบริหารบ้านเมืองทุกๆคนที่กำลังเริ่มทำงานในขณะนี้ ได้เลิกละในเรื่องแต่ “ให้ปลา” หันมา “ให้เบ็ด” หรือหาเบ็ดมาให้ชาวบ้าน
เพื่อเป็นเครื่องมือในการดำรงชีพ ได้ตลอดเวลาดีกว่า ไม่ต้อง “รอปลา” ว่าจะมาอีกเมื่อไร
โดยเฉพาะเป็นปลาที่มาจากภาษีของชาวบ้าน ที่นักการเมืองหลายคนชอบล้วงไปจากงบประมาณของแผ่นดิน ที่เป็นเงินภาษีของชาวบ้านนั่นเอง
น.ต.ประสงค์ สุ่นศิริ

รุกแดนไทย! ทหารไทยรื้อรูปปั้นเทพเจ้าฮินดู ของกัมพูชา ป้องกันใช้เป็นข้ออ้างสิทธิเหนือดินแดน
ศาลระยองยกฟ้อง คดีชาวประมง 832 คน เรียกค่าเสียหายบริษัททำน้ำมันรั่วลงทะเล
ชัยภูมิหลั่งน้ำตา! รับร่างวีรบุรุษ ส.อ.กัมปนาท ทองแสง ทหารเสือราชินี พลีชีพชายแดนตาพระยา
ในหลวงโปรดเกล้าฯ พระราชทานสิ่งของ-ดินฝังศพ อส.นราธิวาส เสียชีวิตจากเหตุลอบยิง
ศาลนัดสืบพยานตึกสตง.ใหม่ จ่อขยับวันเร็วขึ้น โจทก์ หวั่น กระทบรูปคดี ชี้เอกสารเพียบอาจไม่รอบคอบ

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี