วันอาทิตย์ ที่ 28 ธันวาคม พ.ศ. 2568
ในยุคที่สังคมกำลังต่อสู้กับไวรัสโควิด-19 แทบทุกหน่วยงานทั้งภาครัฐและเอกชน ได้ใช้เทคโนโลยีที่ทันสมัย เข้าไปช่วยดำเนินการให้เกิดความถูกต้อง แม่นยำนำไปสู่การพัฒนาองค์กรให้ได้มาตรฐานที่สุด
เมื่อค่ำวันพุธที่ผ่านมา กองทุนเพื่อความเสมอภาคทางการศึกษา (กสศ.) เปิดตัวระบบ “iSEE 2.0 นวัตกรรมสร้างความเสมอภาคทางการศึกษา” เครื่องมือสำคัญที่ทำให้การช่วยเหลือไปถึงเด็กๆ ได้อย่างถูกต้องแม่นยำตรงตามสภาพปัญหาอย่างแท้จริงพร้อมจัดเวทีเสวนา “EdTech และการขับเคลื่อนสังคมด้วยข้อมูล (Data Activism) กรณีศึกษาระบบ iSEE กับการระดมความร่วมมือเพื่อความเสมอภาคทางการศึกษา”
ซึ่งทางดร.ไกรยส ภัทราวาท รองผจก.กสศ. เผยว่า กสศ.ได้วิจัยและพัฒนานวัตกรรมเทคโนโลยีสารสนเทศเพื่อความเสมอภาคทางการศึกษา (Information System for Equitable Education : iSEE) ซึ่งเป็นฐานข้อมูลขนาดใหญ่ (BIG Data) รายบุคคลครอบคลุมกลุ่มเป้าหมายเด็กและเยาวชนผู้ขาดแคลนทุนทรัพย์และด้อยโอกาสมากกว่า 4 ล้านคน โดยเชื่อมโยง
ข้อมูลเด็กและครอบครัวกับฐานข้อมูลขนาดใหญ่ของ 6 กระทรวง ได้แก่กระทรวงศึกษาธิการ กระทรวงการคลัง กระทรวงมหาดไทย กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ กระทรวงแรงงานและกระทรวงสาธารณสุข รวมถึงข้อมูลจากระบบสารสนเทศทางภูมิศาสตร์ (GIS)
ซึ่งจะทำให้มองเห็น สถานการณ์ความเหลื่อมล้ำได้ชัดเจนทุกพื้นที่ทั่วประเทศตลอดจนเป็นเครื่องมือให้กับหน่วยงานภาคีต่างๆ ที่มีภารกิจในการลดความเหลื่อมล้ำทางการศึกษาได้ในอนาคต นับเป็นฐานข้อมูลขนาดใหญ่ด้านการศึกษาที่จะช่วยยกระดับการค้นหาคัดกรอง
เด็กเยาวชนทั้งในและนอกระบบการศึกษาอย่างละเอียดโดยจะสำรวจตั้งแต่ระดับประเทศภูมิภาค จังหวัด อำเภอ ตำบลโรงเรียนจนถึงรายบุคคลทำให้ติดตามสถานการณ์การศึกษาอัตราการมาเรียนรายได้เฉลี่ยของครัวเรือนและการพัฒนาคุณภาพชีวิตเด็กในอนาคต ฯลฯ เพื่อที่จะให้ความช่วยเหลือได้เข้าถึงตัวเด็กอย่างทันท่วงที
“จุดเด่นของระบบ iSEE คือการแสดงข้อมูลสุขภาวะและทุพโภชนาการของเด็กและเยาวชนข้อมูลสถานะครัวเรือนและสวัสดิภาพของเด็กและเยาวชนข้อมูลการเดินทางระหว่างไปโรงเรียนข้อมูลสาธารณูปโภคขั้นพื้นฐานของโรงเรียนและจากการประมวลผลข้อมูลพบปี 2562 มีนักเรียนในระบบการศึกษาหายไปครึ่งหนึ่งหลังจบ ม.3 ยังพบว่า 3 จังหวัด ได้แก่ ตาก กรุงเทพฯ แม่ฮ่องสอน มีเด็กหลุดออกนอกระบบการศึกษามากที่สุด” รองผู้จัดการกสศ.กล่าว
นายเรืองโรจน์ พูนผล ประธานกสิกรบิซิเนส-เทคโนโลยีกรุ๊ป (KBTG) ในฐานะมือปั้น Startup มือหนึ่งของไทยกล่าว จากการที่ตัวเองทำงานด้านสตาร์ทอัพมาหลายปีและในฐานะผู้ปั้นสตาร์ทอัพในประเทศไทยทำให้รู้ว่าฐานข้อมูลเป็นสิ่งสำคัญสำหรับการแจ้งเกิดสตาร์ทอัพอย่างมาก
“สตาร์ทอัพหลายภาคส่วนถามหาข้อมูลอยู่ไหน ซึ่งการที่ กสศ.สร้างระบบ iSEE ขึ้นมาเหมือนมอบพลังอำนาจแห่งเทคโนโลยีมาให้ ในเมื่อเราจะเปลี่ยนแปลงประเทศด้วยพลังอำนาจของข้อมูล วันนี้ชวนทุกคน เข้ามาเปลี่ยนแปลงเรื่องการศึกษา เพราะการศึกษาเปลี่ยนแปลงชีวิตได้โดยร่วมกันเปลี่ยนแปลงเด็ก 4 ล้านกว่าคนเพื่อให้ประเทศไทยไปอยู่ข้างหน้าได้โดยเข้าไปในระบบ iSEE” นายเรืองโรจน์กล่าว
นายพริษฐ์ วัชรสินธุ หรือ “ไอติม” ผู้ก่อตั้ง startdee เน็ตฟลิกซ์แห่งวงการการศึกษาไทย กล่าวว่า สตาร์ทดีต้องขอบคุณกสศ. เพราะหลายเรื่องต้องตัดสินใจบนพื้นฐานข้อมูลของกสศ. ซึ่งทั้งสตาร์ทดีและกสศ. มีเป้าหมายต้องการลดความเหลื่อมล้ำทางการศึกษาปัจจุบันเด็กไทยเจอความเหลื่อมล้ำสองตลบ ตลบที่หนึ่งเป็นคุณภาพการเรียนการสอนในแต่ละโรงเรียน ไม่เท่ากันระหว่างหัวเมืองกับชนบท และตลบที่สองคือ ช่องทางการเรียนนอกห้องเรียน ก็ถูกปิดกั้นด้วยวัฒนธรรมการเรียนพิเศษที่ราคาค่อนข้างสูง สิ่งที่เล็งเห็นคือสัดส่วนเด็กไทยที่เข้าถึงการศึกษาที่มีคุณภาพจึงไม่สูงมาก
การใช้งานในส่วนของระบบ iSEE ส่วนแรกมาจากความสงสัยส่วนตัวต้องการตรวจสอบตัวเองอยากรู้ว่าเด็กที่เข้าถึงแอพพลิเคชั่นของสตาร์ดีเป็นเด็กยากจนมากน้อยแค่ไหนเราจึงเอาข้อมูลโรงเรียนของนักเรียนที่มาใช้แอพพลิเคชั่นไปจับคู่
กับข้อมูลใน iSEE ดูว่าโรงเรียนนี้มีสัดส่วนเด็กยากจนมากน้อยแค่ไหนซึ่งพบว่ามีโรงเรียนที่มีสัดส่วนเด็กยากจน 80-100% ซึ่งเมื่อรู้กลุ่มเป้าหมายของเราแล้วก็ทำให้เราสามารถออกแบบการเรียนรู้สอดคล้องกับกลุ่มเป้าหมายเพราะเรารู้ว่าเรากำลังช่วยเหลือใครอยู่ทำให้สามารถต่อยอดได้เพราะมีเอกชนหลายแห่งพร้อมสนับสนุนเรื่องการศึกษา
“โดยเราเห็นว่าจังหวะก้าวการทำงานของกสศ. เร็วกว่าการทำงานของภาครัฐที่เราคุ้นเคย การช่วยลดความเสมอภาคไม่จำเป็นต้องให้สิ่งเดียวกับทุกคนแต่สามารถให้สิ่งที่ดีที่สุดกับทุกคนซึ่งเครื่องมืออย่าง iSEE ช่วยสตาร์ทอัพอย่างสตาร์ทดีให้ไปสู่เป้าหมายจุดนั้นได้” นายพริษฐ์ กล่าว
ครับ ก็ต้องให้กำลังใจทุกฝ่ายที่เติมข้อมูลเกี่ยวกับการศึกษาของเด็กไทยเพื่อนำไปสู่การช่วยเหลือและแก้ไขปัญหาต่อไป

แห่ขอเลขเด็ด วิหารอาถรรพ์ เรื่องเล่าลี้ลับสุดสะพรึง วัดหนองเต่า
ภูมิธรรม โวบอกจับได้เบอร์ 9 เหมือนสมัย ทักษิณ ตั้งรัฐบาล 376 เสียงพรรคเดียว
อนุทินเตรียมบินบุรีรัมย์ ส่งพี่น้องกลับบ้าน เมินข่าวเครื่องบินอาวุธเบลารุส
อภิสิทธิ์ ยิ้ม บอกเบอร์ 27 สมพงษ์ตัวเอง เหตุเป็นนายกฯคนที่ 27
นักท่องเที่ยวช็อก เครื่องบินเล็กพุ่งตกทะเลโคปาคาบานา พบร่างนักบินเสียชีวิต1ราย

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี