วันศุกร์ ที่ 19 ธันวาคม พ.ศ. 2568
หัวข้อนี้เป็นชื่อหนังสือ “สื่อสารผ่านสายลม” เขียนโดย นายฐากร ตัณฑสิทธิ์อดีตเลขาธิการ กสทช. มิตรน้ำหมึกผู้ทรงคุณวุฒิ ถือฤกษ์ดี 4 สิงหาคม 2563 วันการสื่อสารแห่งชาติ เปิดตัวหนังสือฉบับนี้ ณ ร้าน PONTE Cafe & Garden
ทุกตัวอักษรได้ถ่ายทอดเรื่องราวจากประสบการณ์ต่างๆ ในขณะดำรงตำแหน่ง เลขาธิการ กสทช. ตลอดระยะเวลาเกือบ 9 ปี ตั้งแต่ปี 2555 ถึงปัจจุบัน ซึ่งประเทศไทยมีการเปลี่ยนผ่านทางด้านเทคโนโลยี ไม่ว่าจะเป็น เรื่องของระบบโทรคมนาคม ทั้ง 3G,4G จนถึง 5G
จึงเป็นการถ่ายทอดเรื่องราวทั้งหมดจากประสบการณ์จริง ทั้งในเชิงกลยุทธ์ของการแก้ปัญหา รวมถึงหลายๆ เหตุการณ์ที่ ไม่ว่าจะเป็น การขอออกมาตรา 44 ในยุค คสช.เพื่อ การเดินหน้าเปลี่ยนผ่านทีวีดิจิทัลต่างๆ ที่ประสบปัญหาอยู่ในขณะที่เป็นคณะกรรมการ ซึ่งได้มีการแก้ไขปัญหาเรื่องนี้อยู่ 3 ครั้ง ครั้งสุดท้ายเป็นการออกมาตรการไม่เก็บเงินกับทีวีดิจิทัลรวมถึงการช่วยค่าโครงข่ายในระยะเวลาที่เหลือ

ขณะที่การขับเคลื่อนสัญญาณ 5G แม้หลายฝ่ายมองว่าประเทศของเรายังไม่มีความจำเป็นต้องรีบเดินหน้าในการใช้ 5G ที่รวดเร็วเนื่องจากต้องใช้งบประมาณค่อนข้างสูง แต่เมื่อมีการนำวิธีการกลยุทธ์มาใช้อย่างถูกต้อง จนวันนี้ประเทศไทยเป็นที่ 1 ในอาเซียน
ทั้งโฟกัส ว่าท่านผู้อ่านพลาด คือ หัวข้อ การแก้ปัญหาของทีวีดิจิทัล ซึ่งในขณะนั้นมีเสียงส่วนหนึ่งตั้งคำถามเรื่องการออกมาตรา 44 ในการแก้ปัญหาเรื่องนี้ว่า เป็นการเอื้อประโยชน์ให้กับหน่วยงานใดหน่วยงานหนึ่งหรือไม่? ในความเป็นจริงการช่วยเหลือเรื่องไม่มีค่าปรับคืนสัญญาในวันนั้น ไม่ได้ทำให้รายรับของแผ่นดินลดลง หรือเสียผลประโยชน์แต่อย่างใด
อีกเรื่องคือ “บทสุดท้ายหรือ บทที่ 16” เป็นเรื่องที่เคยจะยื่นเรื่องลาออกเมื่อวันที่ 17 พฤษภาคม แต่เมื่อเจอสถานการณ์โควิดจึงทำให้เลือกที่จะปฏิบัติงานต่อ และได้ทำโครงการเพิ่มอีก 4 โครงการ 1.เจียดจ่ายเงินสำนักงาน กสทช.ในการจัดสรรเงินให้กับโรงพยาบาลต่างๆ เป็นจำนวนกว่า 1,200 ล้านบาทเศษ 2.นำเงินค่าปรับจากผู้ประกอบการโทรคมนาคม จากปัญหาสัญญาณโทรศัพท์มือถือล่มประชาชนไม่สามารถใช้งานได้ กสทช.ได้นำเงินค่าปรับเหล่านี้มาช่วยเหลือให้กับโรงพยาบาลต่างๆ 3.เพิ่มอินเตอร์เนต10 กิ๊ก ให้ประชาชนใช้งานฟรี 4.โทรฟรี 100 นาที ทุกเครือข่าย
มีคำถามสำคัญจากสื่อที่ไปร่วมงานว่า มีสิ่งใดที่ท่านอยากทำในฐานะเลขาธิการ กสทช. แล้วยังไม่ได้ทำบ้างหรือไม่? ทางอดีตเลขาธิการ กสทช. บอกว่า งานของทางด้านเทคโนโลยีเป็นสิ่งที่เราได้ดำเนินการมาโดยตลอดแต่ยังไม่เสร็จจึงเป็นสิ่งที่ต้องฝาก กสทช.ชุดใหม่ จะมารับช่วงต่อต่อไป ดังนี้
นำสายสื่อสารลงใต้ดิน จัดระเบียบสายสื่อสารเป็นสิ่งที่ต้องรีบดำเนินการ การต่อยอดขับเคลื่อนเศรษฐกิจ 5G จะต้องเดินหน้าต่อยอดให้เร็ว การประมูลคลื่นความถี่ต่างๆ ที่กำลังจะเกิดขึ้นในอนาคตข้างหน้า ไม่ว่าจะเป็นคลื่นความถี่ที่กำลังจะสิ้นสุดสัญญาสัมปทานลงระหว่างไทยคม และกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ในขณะนี้
ปัจจุบันทั่วโลกได้พูดถึงและให้การยอมรับประเทศไทยอยู่ 2 เรื่อง ได้แก่ 1.ระบบกระทรวงสาธารณสุขไทย ดีที่สุดในโลก 2.ระบบโทรคมนาคมของไทย ดีที่สุดในโลก
ทั้งหมดที่กล่าวมานี้คือจุดแข็งของไทย และเป็นสิ่งที่เราไม่ควรรอช้าที่จะรีบเร่งพัฒนาให้ดีขึ้นกว่าเดิมทำประเทศไทยให้เป็น Hub ของ Work from Home, Work from Thailand to The hold World เราควรที่จะเดินหน้าในการนำกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม กสทช.ขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศด้านการสื่อสาร ให้เร็วที่สุด
หนังสือ “สื่อสารผ่านสายลม” นั้นทำขึ้นเพื่อแจกฟรี 5 พันเล่ม ผมได้มา1 เล่ม อ่านไม่ทันจบเพื่อนที่ทำงานด้านการสื่อสารของเอกชน ขอยืมไปอ่านก่อน ก็คิดว่า อดีตเลขาธิการ กสทช.คงต้องสั่งพิมพ์เพิ่มแล้วล่ะครับ

ไทย ครอง 197 เหรียญทอง รั้งจ่าฝูงการแข่งขันกีฬาซีเกมส์ ครั้งที่ 33
เปิดวินาที เสี่ยตา ปัญญา เดินเข้าสวมกอด ตั๊ก มยุรา หลังมาเจอกันอีกครั้ง เผยเหตุผลที่ไม่กล้ามาหา
ยังไม่หยุด กัมพูชา นำกำลังตีคืน บ้านสามหลัง โดนไทยระดมยิงตอบโต้หนีแตกกระเจิง
ยิปซีพยากรณ์'ดวงรายวัน' ประจำวันศุกร์ที่ 19 ธันวาคม 2568
กลาโหมเปิดข้อเท็จจริง เครื่องยิงวิถีต่อต้านรถถัง GAM-102 ที่ยึดได้จากทหารเขมร

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี