ถูกถล่มจากกลุ่มคนที่ชอบอ้างตัวว่าเป็นฝ่ายประชาธิปไตยไปเรียบร้อย
นั่นคือ งานวิจัยปริญญาโท ของดาราหนุ่มสุดฮอต “มาริโอ้ เมาเร่อ” เรื่อง “ทัศนคติของดารานักแสดงที่มีต่อการบริหารงานของรัฐบาลพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา : ศึกษาในช่วงเวลา ปี พ.ศ. 2559” ที่มีกลุ่มตัวอย่างเป็นดารานักแสดง นักร้อง พิธีกร ฯลฯ รวม 309 คน
1. พูดกันตรงๆ ก็เพราะคนบางกลุ่มอ่านงานวิจัยแค่บางส่วน เฉพาะส่วนที่ชี้ออกมาว่า ในภาพรวมนักแสดงมีทัศนคติต่อนายกฯ พลเอกประยุทธ์ในระดับมาก 4 ข้อแรกที่ได้รับคะแนนสูง คือ 1.มีความกล้าหาญ 2.ส่งเสริมเทิดทูนพิทักษ์รักษาไว้ซึ่งสถาบันพระมหากษัตริย์ 3.พัฒนาระบบขนส่งมวลชนให้มีประสิทธิภาพ 4.ให้ข้อมูลข่าวสารทุกด้านแก่ประชาชน
ผลบางส่วนออกมาเช่นนี้ ทำให้คนบางกลุ่มจะเป็นจะตาย ไม่ถูกอกถูกใจตัวเอง
2. อาจารย์บางคน ที่สนับสนุนฝ่ายผู้ชุมนุมปลดแอกในเวลานี้ ถึงขนาดออกมาด้อยค่างานวิจัย กล่าวหาว่าทำวิจัยแบบหยาบมาก ถ้าตนเป็นอาจารย์จะไม่มีวันให้ผ่าน
นับเป็นการแสดงความคิดเห็นทางวิชาการที่หยาบช้ามาก
เพราะอาจารย์คนนั้น ยังไม่ได้อ่านตัวงานวิจัยด้วยซ้ำ อ่านแค่ข้อสรุปไม่กี่ย่อหน้า
ที่สำคัญ งานวิจัยชิ้นนี้ จัดทำจนผ่านการตรวจรับรองโดยมหาวิทยาลัยอีกแห่งเป็นที่เรียบร้อย แถมอาจารย์ที่ปรึกษาสารนิพนธ์ชิ้นนี้ คือ ดร.นันทนา นันทวโรภาส ก็มีชื่อเสียงน่าเชื่อถือกว่าตัวอาจารย์คนที่ออกมาด้อยค่างานวิจัยแบบหยาบๆ นั่นมากมาย และ ดร.นันทนา ก็ไม่ใช่คนที่ชื่นชมสนับสนุนรัฐบาลพลเอกประยุทธ์ ตรงข้าม เป็นคนที่วิพากษ์วิจารณ์พลเอกประบุทธ์หนักหน่วงด้วยซ้ำ
3. ประการสำคัญ เมื่อไล่อ่านดูเนื้อหาสาระของงานวิจัยชิ้นนี้ ซึ่งมีความยาว 109 หน้า
ก็พบว่า มีเนื้อหาสาระที่น่าสนใจ ไม่ได้หยาบ เหมือนที่มีคนพยายามด้อยค่าเลย
มีกรอบแนวคิดในการวิจัย นำมาซึ่งการสำรวจข้อมูลจากกลุ่มตัวอย่าง วิเคราะห์ประมวลผล สรุปผล แล้วยังมีการอภิปรายผล และยังมีข้อเสนอแนะต่อรัฐบาลอีกด้วย (ซึ่งฝ่ายที่ออกมารุมถล่มมาริโอ้ ไม่เคยอ่านเลย)
4. สรุปผลการวิจัย
กล่าวโดยสรุปใจความที่น่าสนใจ ดังนี้
4.1 ปัจจัยส่วนบุคคลของดารานักแสดง พบว่า ผู้ตอบแบบสอบถามส่วนใหญ่เป็นเพศหญิง อายุ 31-40 ปี สถานภาพโสด จบการศึกษาปริญญาตรี เป็นดารา/นักแสดง มีรายได้ต่อเดือน 200,001-250,000 บาท
4.2 พฤติกรรมการเปิดรับสื่อของดารานักแสดง พบว่า ภาพรวมอยู่ในระดับมากในสื่อโทรทัศน์ ลําดับถัดมา สื่ออินเตอร์เนต สื่อหนังสือพิมพ์และสื่อวิทยุ
4.3 ทัศนคติของดารานักแสดงที่มีต่อการบริหารงานของรัฐบาลพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา
ในภาพรวม อยู่ในระดับมาก (ดี)
สำหรับด้านคุณลักษณะส่วนบุคคล มากที่สุด (ดี) คือ เห็นว่า มีความกล้าหาญในการตัดสินใจ
ด้านการบริหารงานทั่วไป มากที่สุด คือ เห็นว่า ส่งเสริม เทิดทูน และพิทักษ์รักษาไว้ซึ่งสถาบันพระมหากษัตริย์
ด้านการบริหารเศรษฐกิจในภาพรวม มากที่สุด คือ เห็นการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านการขนส่งมวลชนให้มีประสิทธิภาพ
ด้านการบริหารการศึกษาและคุณภาพชีวิต มากที่สุด คือ เห็นการส่งเสริมด้านหลักประกันสุขภาพของประชาชน
ด้านสิทธิเสรีภาพของประชาชน ในระดับปานกลาง มากที่สุดคือการให้ข้อมูลข่าวสารแก่ประชาชน
5. ในงานวิจัย พบว่า ผู้วิจัยได้มีการอภิปรายผลด้วย ยกตัวอย่าง
5.1 พฤติกรรมการเปิดรับสื่อของดารานักแสดง พบว่า ภาพรวมอยู่ในระดับมาก ในสื่อโทรทัศน์เป็นส่วนใหญ่ และสื่ออินเตอร์เนต นั่นเพราะดารานักแสดงจะติดตามผลงานการแสดงของตนเองทางสื่อโทรทัศน์และสื่ออินเตอร์เนต
5.2 ทัศนคติของดารานักแสดงที่มีต่อการบริหารงานของรัฐบาลพลเอกประยุทธ์ ในภาพรวม อยู่ในระดับมาก ที่เป็นเช่นนี้ อาจจะเนื่องจากประชาชนเห็นถึงการบริหารงานรัฐบาลพลเอกประยุทธ์ ในภาพรวมที่มีความสงบเรียบร้อย ประชาชนลดความขัดแย้งกัน จึงมีทัศนคติในภาพรวมอยู่ในระดับมาก
เหตุดารานักแสดงระบุในประเด็นลักษณะส่วนบุคคลว่า มีความกล้าหาญในการตัดสินใจ มีความทุ่มเทกับการบริหาร ที่เป็นเช่นนี้อาจจะเนื่องจากนายกรัฐมนตรีเป็นผู้นําทางการทหารมาก่อน จึงมีลักษณะบุคลิกที่มีความกล้าหาญในการตัดสินใจตลอดจนในปัจจุบันบ้านเมืองมีปัญหาความขัดแย้งของบุคคลหลายกลุ่ม จึงส่งผลให้นายกฯมีความจําเป็นต้องทุ่มเทในการบริหารประเทศเพิ่มมากขึ้นเป็นการเร่งด่วนและมีประสิทธิภาพ
ในประเด็นส่งเสริม เทิดทูน และพิทักษ์รักษาไว้ซึ่งสถาบันพระมหากษัตริย์เร่งส่งเสริมและพัฒนาความสัมพันธ์กับประเทศเพื่อนบ้าน ที่เป็นเช่นนี้ อาจจะเนื่องว่า ประชาชนทุกคนให้ความสําคัญและเทิดทูนสถาบันพระมหากษัตริย์ ซึ่งรัฐบาลจึงมีบทบาทสําคัญในการส่งเสริมให้ประชาชนเทิดทูนสถาบันพระมหากษัตริย์ไว้เป็นที่ยึดเหนี่ยวจิตใจของประชาชนทุกคน มิให้เกิดความขัดแย้ง มีความปรองดองสมานฉันท์ให้เกิดแก่คนในชาติมากยิ่งขึ้น ซึ่งจะเห็นได้จากวันสําคัญต่างๆ เช่น วันพ่อแห่งชาติ วันแม่แห่งชาติ รัฐบาลและประชาชนทุกคนพร้อมใจเข้าร่วมกิจกรรมอย่างต่อเนื่อง
ประเด็นพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านการขนส่งมวลชนให้มีประสิทธิภาพ ที่เป็นเช่นนี้ อาจจะเนื่องจากนายกรัฐมนตรีมีความสามารถทางด้านการทหาร ไม่มีความชํานาญทางด้านลงทุน การค้าขาย จึงส่งผลให้ราคาพืชผลผลิตของประชาชนไม่มีราคา อีกทั้งเป็นรัฐบาลที่ยึดอํานาจจากการทํารัฐประหาร จึงส่งผลให้ขาดความเชื่อมั่นทางการลงทุนของต่างชาติ ก่อให้เกิดสภาพเศรษฐกิจไม่ดีเท่าที่ควร (นี่คือการอภิปรายของมาริโอ้)
ประเด็นด้านสิทธิเสรีภาพของประชาชน ในภาพรวมอยู่ในระดับปานกลาง โดยดารานักแสดงมองว่ารัฐบาลให้ข้อมูลข่าวสารทุกด้านแก่ประชาชน เปิดโอกาสให้ประชาชนรับรู้ข่าวสารในขอบเขตจํากัด จํากัดเสรีภาพในการชุมนุม และยังขาดการสร้างความเชื่อมั่นในด้านประชาธิปไตยจนเป็นที่ยอมรับของต่างชาติ ที่เป็นเช่นนี้ อาจจะเนื่องจากรัฐบาลมาจากการทํารัฐประหาร ไม่ได้มาจากการเลือกตั้งตามระบอบประชาธิปไตย เพื่อให้ประชาชนไม่เกิดความขัดแย้งกันขึ้น จึงไม่เปิดโอกาสให้ประชาชนได้รับรู้ข้อมูลข่าวสารของรัฐบาลเท่าที่ควร อีกทั้งไม่ให้ ประชาชนมีการแสดงออกทางการเมืองแบบระบอบประชาธิปไตย มีการปิดกั้นในการแสดงความคิดเห็นของประชาชนในทุกด้าน จึงส่งผลทําให้ดารานักแสดงมีทัศนคติต่อการบริหารงานด้านสิทธิเสรีภาพของประชาชนอยู่ในระดับปานกลาง
ข้างต้นนี้ คือ การอภิปรายผลของผู้วิจัย ซึ่งจะเห็นได้ว่า มีการวิพากษ์วิจารณ์รัฐบาลด้วย
6. ในงานวิจัยชิ้นนี้ ยังมีข้อเสนอแนะด้วย ระบุว่า
“1) คณะรัฐบาลควรมีนโยบาย แผนงาน และยุทธศาสตร์ในการพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศให้มีทิศทางที่ดีขึ้น ตลอดจนสร้างความเชื่อมั่นให้ต่างชาติเข้ามาลงทุนในประเทศเพิ่มมากยิ่งขึ้น
2) คณะรัฐบาลควรให้ความสําคัญในการส่งเสริม และแก้ไขปัญหายาเสพติดอย่างเร่งด่วน
3) คณะรัฐบาลควรเปิดโอกาสให้ประชาชนมีส่วนร่วมในการดําเนินงานของรัฐบาลเพิ่มมากขึ้น โดยไม่จำกัดสิทธิเสรีภาพของประชาชน ควรเปิดโอกาสให้ประชาชนได้แสดงความคิดเห็น และรับรู้ข้อมูลข่าวสารทางการบริหารงานมากยิ่งขึ้น”
7. โดยสรุป จะเห็นได้ว่า งานวิจัยนี้ ไม่ได้หลับหูหลับตาอวยรัฐบาลพลเอกประยุทธ์ เหมือนที่ถูกคนบางฝ่ายพยายามด้อยค่าอยู่ เพียงแต่มีเนื้อหาบางส่วนสะท้อนถึงการยอมรับ “ด้านบวก” ของรัฐบาลประยุทธ์ ที่มัน “จี้ใจดำ” ของฝ่ายที่อ้างตัวเป็นฝ่ายประชาธิปไตยแต่ “ใจแคบ” เท่านั้นเอง
สารส้ม
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี