กาลเทศะเป็นเรื่องจำเป็นและสำคัญสำหรับมนุษย์ที่มีความคิด เพราะทำให้ทั้งสังคมและตนเองมีความสุขในการดำรงชีวิต แต่สำหรับคนจำพวกล้น ห่าม คะนองแล้ว คนพรรค์อย่างนั้นไม่เคยคำนึงถึงกาลเทศะ สังคมที่มีความสุขสงบร่มเย็นโดยแท้จริง คือสังคมที่สมาชิกส่วนใหญ่รู้กาละเทศ สำหรับบ้านเมืองไทยของเรานั้น ก็นับได้ว่าสุขสงบร่มเย็นดีพอสมควร เพราะคนส่วนมากของเรารู้กาลเทศะ รู้ความเหมาะความควร แต่ในระยะหลัง ๆ นี่บ้านเมืองของเราที่เคยสงบพอประมาณ กลับเกิดความโกลาหลจนดูเสมือนไร้ความสงบ ก็เพราะคนบางกลุ่มพยายามสร้างสถานการณ์ สร้างความปั่นป่วน เพราะต้องการเห็นความวุ่นวายเกิดกับบ้านเมือง
คนบางกลุ่มพยายามปลุกปั่นด้วยข้อความเท็จว่า บ้านเมืองของเราเลวร้ายไปเสียทุกสิ่งอย่าง โดยอ้างอย่างไร้เหตุผลว่ามูลเหตุของความเลวร้ายเกิดมาจากสถาบันพระมหากษัตริย์ แล้วก็โยงสถาบันพระมหากษัตริย์กับการเมือง แล้วก็อ้างไปเรื่อยเปื่อยด้วยการส่งข้อความเท็จ รวมถึงรูปภาพอันเป็นเท็จ โดยส่งผ่านสื่อฯ สังคมออนไลน์ว่าบ้านเมืองเราไม่เป็นประชาธิปไตย
คนไทยที่ไร้ปัญญา ไร้สติ ไร้เหตุผล ไร้เท็จจริง เพราะไม่เคยรู้ความจริงของสังคมโลก ก็หลงเชื่อว่าบ้านเมืองของเราขาดอิสระ ขาดเสรีภาพ ขาดประชาธิปไตย แต่สำหรับคนที่ไม่โง่ ไม่บ้า ไม่ไร้ปัญญา และเห็นความจริงของโลกใบนี้ในแง่มุมต่างๆ มามากมายพอประมาณแล้ว กลับยืนยันตรงกันว่า ประเทศไทยนี่แหละที่แสนอิสระ สุดเสรี มีกินมีใช้ไม่ขาดแคลน คนที่มีปัญญาและเห็นโลกกว้างมามากแล้วยืนยันอีกด้วยว่าคนในประเทศที่อ้างว่าเป็นต้นแบบประชาธิปไตยตะวันตกยังไม่มีเสรีภาพเท่าคนไทย เพราะในประเทศประชาธิปไตยตะวันตกนั้นมีกฎเกณฑ์ มีขั้นตอนในการดำรงชีวิตอย่างเคร่งครัด ผิดกับประเทศไทยที่ทุกอย่างเต็มไปด้วยความอะลุ้มอล่วย ผ่อนสั้นผ่อนยาว จนหลายต่อหลายครั้งทำให้ดูเสมือนว่าประเทศไทยไร้ระเบียบ แต่จริงๆ แล้วประเทศไทยมีระเบียบ มีกฎเกณฑ์ แต่ทว่าคนไทยจำนวนไม่น้อยไม่เคารพกฎระเบียบ
เมืองไทยยังมีสิ่งดีสิ่งงามอยู่อีกมาก แต่สำหรับพวกรกโลก รกสังคมก็พยายามปลุกปั่นทุกวันว่าเมืองไทยเลวทราม สาเหตุที่คนจำพวกนั้นมองว่าเมืองไทยเลวทราม เพราะว่าจิตใจของคนที่มองเช่นนั้นเต็มไปด้วยความเลวทราม ดังนั้นจึงเพ่งเห็นเฉพาะความเลวทรามของสังคม ซึ่งก็เป็นไปตามจิตใจที่เลวทรามอันอยู่ในตัวของเขาเหล่านั้น
ความเลวทรามที่แท้จริงในสังคมไทยมาจากคนจำพวกที่ต้องการเห็นบ้านเมืองลุกเป็นไฟ ต้องการเห็นสมาชิกในสังคมเข่นฆ่าล้างผลาญกัน เพราะคนเหล่านั้นไม่มีความสุขในชีวิตประจำวัน จึงต้องการเห็นบ้านเมืองและสมาชิกในสังคมไม่มีความสุขไปด้วย เพราะฉะนั้นคนเหล่านี้จึงพยายามสร้างเรื่องมดเท็จขึ้นมาเพื่อทำลายสังคมตลอดเวลา ซึ่งก็น่าเสียใจที่ยังมีคนจำนวนหนึ่งหลงเชื่อความเท็จ แต่ก็นับว่าน่ายินดีที่คนจำนวนมากในบ้านเมืองนี้ยังมีสติปัญญาและมีความคิด ดังนั้นจึงยังคงมีเสียงแห่งความจริงดังออกมาบอกเล่าถึงความดีงามของสังคมอยู่เสมอ
คนที่มีสติ มีปัญญา และมองเห็นความจริงของโลกรู้ดีว่าคนที่จงใจอยากให้บ้านเมืองลุกเป็นไฟนั้นคือนักการเมืองจำพวกเลวทราม และคนสอนหนังสือจำพวกลวงโลก โดยคนสามานย์เหล่านั้นใช้การปลุกปั่นให้เด็กเมื่อวานซืนลุกขึ้นมาก่อเหตุป่วนสังคมเป็นระยะๆ ส่วนเด็กที่ยังไร้ปัญญาก็หลงตัวเอง เพราะคิดว่าตนเองเฉลียวฉลาดปราดเปรื่องจนเกินใครทั้งปฐพี แล้วก็หลงตัวเองว่าจะมีปัญญาสร้างชาติสร้างแผ่นดินใหม่ทั้ง ๆ ที่เด็กไร้ปัญญาเหล่านั้นยังไม่สามารถช่วยเหลือตัวเองได้แม้แต่น้อย
มีข้อคิดฝากไปยังคนที่เกลียดชังบ้านเกิดเมืองนอนของตนว่า หากอยู่ประเทศไทยแล้วมันอึดอัดเสียเหลือเกิน หายใจไม่สะดวก ก็ขอให้โยกย้ายตนเองและโครตเหง้าเหล่ากอออกไปจากประเทศไทยโดยพลัน แล้วเชิญไปอาศัยบนพื้นที่อื่นของโลกใบนี้ เพราะไม่มีความจำเป็นจะต้องทนอยู่บนแผ่นดินที่ตนเองเห็นว่าไม่มีความสุข เมื่ออยู่แล้วไม่เป็นสุข ก็เชิญไปหาที่ชอบ ที่ชอบอยู่เถอะ
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี