แนวหน้า มั่นคง ตรงไป ตรงมา...nn สำหรับผู้สำเร็จการศึกษาได้รับปริญญาและอนุปริญญาในวันนี้ ข้าพเจ้าขอแสดงความยินดีด้วย เพราะการที่จะบรรลุถึงผลขั้นสุดท้ายของการศึกษาเช่นที่ได้ปฏิบัติมานั้นเป็นสิ่งที่ทำได้ยากและน่าสรรเสริญ แต่ขอให้นึกอยู่เสมอว่าเมื่อท่านสำเร็จการศึกษาออกไปแล้ว ยังมีคนเป็นจำนวนมากที่เอาใจใส่เฝ้าดูการกระทำของท่านอยู่ต่อไป ใครทำดีก็ได้รับคำชมเชยและสรรเสริญ ใครทำไม่ดีเขาก็จะพากันติ และพลอยติชมถึงสถานศึกษาของท่านด้วย ชื่อมหาวิทยาลัยของท่านคือ “จุฬาลงกรณ์” จะติดตัวท่านไปด้วยเสมอ ไม่ว่าจะประพฤติดีหรือประพฤติชั่ว ฉะนั้นทุกๆ ครั้งที่ท่านจะกระทำการใดสิ่งใดลงไป จงคิดแล้วคิดอีกทบทวนดูทั้งทางได้ทางเสียให้แน่ชัดเสียก่อน “จุฬาลงกรณ์” หาได้เป็นแต่เพียงชื่อของมหาวิทยาลัยนี้เท่านั้นไม่ ยังเป็นนามของผู้พระราชทานกำเนิดของสถานที่แห่งนี้ด้วย ฉะนั้นจึงเป็นการจำเป็นอย่างยิ่งที่ท่านจะต้องปฏิบัติตนให้เหมาะสมกับเป็นผู้ที่ได้รับการอบรมสั่งสอนไปจากจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยนี้…(ความตอนหนึ่งจากพระบรมราโชวาท พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศรมหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ในพิธีพระราชทานปริญญาบัตรแก่นิสิตจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ปีการศึกษา 2492 วันที่ 21 พฤษภาคม 2493)..
.nn ในขณะที่คนจำนวนหนึ่งกำลังเพ่งสายตาไปยังวันที่ 19 กันยายน ว่าจะเกิดสิ่งใดขึ้นบนแผ่นดินไทยหรือไม่ แล้วก็ยังจับตาอีกว่าท่อน้ำเลี้ยงการชุมนุมจะมาจากฝ่ายใดบ้าง แต่เท่าที่รู้ก็คือฝ่ายเดิมๆ ที่เป็นปรปักษ์กับรัฐบาลประยุทธ์ จันทร์โอชา แต่คนอีกจำนวนไม่น้อยก็เพ่งสายตาไปยังรัฐสภาแห่งใหม่ ที่เพิ่งเปิดใช้ได้ไม่นานแต่มีปัญหาบานเบอะ หลายคนหวาดหวั่นว่าอาจมีการยุบสภา แล้วเมื่อยิ่งมีข่าวว่าสำนักงบประมาณวิตกว่าหากเกิดยุบสภาก่อนร่าง พ.ร.บ.งบประมาณ 2564 จะสำเร็จเสร็จสิ้นจะส่งผลให้งบฯ ปี 2564 ไม่สามารถใช้ได้ในวันที่ 1 ตุลาคม 2563 ดังนั้นสำนักงบฯ จึงออกหนังสือให้ใช้กรอบงบฯ ปี 2563 ให้ใช้ไปพลางก่อน เพื่อป้องกันปัญหาที่อาจจะเกิดขึ้นในอนาคต ทั้งนี้ร่าง พ.ร.บ.งบประมาณ 2564 จะถูกพิจารณาวาระ 2-3 โดยสภาผู้แทนฯ ในวันที่ 16-18 กันยายน และเข้าสู่การพิจารณาวาระต่อไปในวันที่ 21-22 กันยายน และวันที่ 28 กันยายนจะนำขึ้นทูลเกล้าฯ ถวายเพื่อประกาศบังคับใช้ต่อไป ขอย้ำอีกที่ว่าวงเงินงบประมาณคือ 3.3 ล้านล้านบาท ส่วนประธานสภาผู้แทนราษฎร ชวน หลีกภัย มั่นใจว่าจะพิจารณาเสร็จสิ้นในวันที่ 18 กันยายน...
nn มีคำถามมากมายจากคนรักใคร่การบินไทย สายการบินที่เคยเป็นสายการบินแห่งชาติ ว่าทำไมจึงไม่เปิดบินในยามนี้ แม้บินไปต่างประเทศไม่ได้ แล้วเหตุใดไม่เปิดบินภายในประเทศ ไม่ทราบว่าที่ไม่ยอมบินนั้น เป็นเพราะว่ายังอยู่ในขั้นตอนการพิจารณาโดยศาลล้มละลายกลาง หรือไม่บินเพราะเกรงว่าสายการบินอื่นๆ ที่เปิดให้บริการอยู่จะเสียรายได้ หรือว่าไม่มีนักบินจะบินให้ ขอบอกว่ามีคำถามอีกมากมายก่ายกองจากคนรักการบินไทยที่รอคำตอบจากผู้บริหารการบินไทย ส่วนเรื่องการบินไทยขายปาท่องโก๋นั้น เมื่อมองแบบผิวเผินก็ดูเสมือนน่ารักมาก เพราะอุตส่าห์กระเสือกกระสนหารายได้เข้าองค์กร แต่คำถามใหญ่คือการบินไทยขายได้แค่ปาท่องโก๋เท่านั้นเองหรือ ขายบริการสายการบินไม่ได้แล้วหรือ หรือผู้บริหารยังงุนงงกับสิ่งใดจนทำให้คิดเรื่องใหญ่กว่านี้ไม่ได้ แต่คำถามที่คนจำนวนไม่น้อยฝากถามไปยังผู้บริหารการบินไทยคือ ทราบแล้วใช่ไหมว่าไทยแอร์เอเชีย สายการบินสัญชาติต่างด้าวเขาสยายปีกบินไปครองท่าอากาศยานสุวรรณภูมิแล้ว เหตุไฉนการบินไทยยังคงเงียบงัน แต่ที่สำคัญไม่แพ้กันคือ ในยามนี้มีเสียงโจษจันกันภายในการบินไทยว่า ผู้บริหารบางรายที่เคยสัญญิงสัญญาว่าไม่รับเงินเดือนหรือค่าตอบแทนนั้น ล่าสุดจะเปลี่ยนใจรับค่าตอบแทนหรือเงินเดือนหรือเปล่า เรื่องนี้กำลังถูกจับตามองอย่างใกล้ชิดสนิทแนบ...
nn เมื่อปลายสัปดาห์ก่อน ธรรมกร และคณะบินไปกระบี่ด้วยสายการบินไทยสมายล์ (แล้วบินกลับด้วยไทยสมายล์ต้นสัปดาห์) แล้วก็มหัศจรรย์ใจมากกับการบริการบนเครื่อง รวมถึงบริการในเลานจ์การบินไทย ที่สนามบินสุวรรณภูมิ โดยเฉพาะในเลานจ์ที่สุวรรณภูมินั้นโกลาหลเป็นที่สุด เพราะที่นั่งไม่เพียงพอกับผู้ใช้บริการ แถมของกินก็ยังไม่พออีก เลยมีคำถามว่าผู้บริหารเลานจ์การบินไทยไม่รู้ล่วงหน้าเลยหรือว่าจะมีผู้เข้าใช้บริการกี่มากกี่น้อย แล้วทำไมปล่อยให้เกิดปัญหาได้ ส่วนเที่ยวบินขากลับยามดึก (สามทุ่ม) ก็แสนมหัศจรรย์ เพราะเสิร์ฟข้าวซอยไก่ที่แสนจะไม่เป็นสับปะรด รสชาติประหลาด เส้นก๋วยเตี๋ยวแข็งยิ่งกว่าแข็งเท่าที่สังเกตนั้นในที่นั่งชั้นที่ตั๋วแสนแพง (ราคากว่าหกพันบาท) ไม่มีผู้โดยสารรายไหนรับประทานอาหารประหลาดชนิดนี้เลย ยกเว้น ธรรมกร เท่านั้น เหตุที่ต้องรับมากินเพราะอยากรู้ว่าเขาเสิร์ฟอะไร เลยอยากรู้ว่าใครคิดให้เสิร์ฟเมนูนี้บนเครื่องบินในยามดึกเช่นนี้หนอ แหม! ช่างคิดได้ เสิร์ฟข้าวซอยไก่ยามสามทุ่มกว่าบนเครื่องบินที่บินเพียงชั่วโมงนิดๆ ถามจริงๆ เถอะแม่คุณ แม่ไม่คิดบ้างหรือว่ามันไม่เหมาะกับการเสิร์ฟอาหารชนิดนี้บนเครื่องบินที่บินเพียงเวลาสั้นๆ แต่ถ้าหากอาหารรสชาติดีก็คงไม่สู้กระไรนัก แต่นี่รสชาติแย่มากๆ ก็เลยยิ่งเกิดคำถามตามมาว่า ที่อุตส่าห์ตะบี้ตะบันประกาศแบบโฆษณาชวนเชื่อว่า ไทยสมายล์ได้รับการ vote จากใครก็ไม่รู้ให้เป็นสายการบินยอดเยี่ยมนั้น อยากรู้ว่ายอดเยี่ยมตรงไหน แล้วหากเป็นสายการบินยอดเยี่ยมจริงๆ เหตุไฉนจึงขาดทุนมาตลอด ไม่เคยปรากฏว่าได้กำไรสักปีเดียว มีคำถามทิ้งท้ายว่า ผู้บริหารการบินไทยรู้ใช่ไหมว่าไทยสมายล์ขาดทุนมาโดยตลอด แล้วเหตุใดจึงยังยอมเก็บบริษัทที่ขาดทุนไว้ต่อไปหรือเป็นเพราะผู้บริหารบินไทยบางรายเป็นผู้ให้กำเนิดสายการบินไทยสมายล์ ดังนั้นจึงต้องทนเก็บบริษัทที่ขาดทุนไว้ เพราะไม่ต้องการเสียหน้า เพราะถูกวิจารณ์ว่าไม่สามารถเก็บสายการบินที่ตนตั้งขึ้นไว้ได้ แต่คำถามก็ยังดังเหมือนเดิมคือ แล้วจะเก็บของที่ไม่ทำกำไรไว้เพื่ออะไร วานผู้บริหารการบินไขข้อข้องใจเรื่องนี้โดยด่วนด้วย...nn
ธรรมกร
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี