วันศุกร์ ที่ 17 ตุลาคม พ.ศ. 2568
แนวหน้า
  • แนวหน้า
  • หน้าแรก
  • คอลัมน์
    • คอลัมน์วันนี้
    • คอลัมน์ออนไลน์
    • คอลัมน์การเมือง
    • คอลัมน์ลงมือสู้โกง
    • โลกธุรกิจ
    • ผู้หญิง
    • บันเทิง
    • Like สาระ
    • ดูทั้งหมด
  • ข่าวเด่น
  • พระราชสำนัก
  • การเมือง
  • โลกธุรกิจ
  • อาชญากรรม
  • กทม.
  • ในประเทศ
  • เกษตร
  • ต่างประเทศ
  • กีฬา
  • ผู้หญิง
  • บันเทิง
  • ยานยนต์
  • Like สาระ
หน้าแรก / คอลัมน์ / คอลัมน์การเมือง / กวนน้ำให้ใส
กวนน้ำให้ใส

กวนน้ำให้ใส

สารส้ม
วันพฤหัสบดี ที่ 17 กันยายน พ.ศ. 2563, 02.00 น.
อย่าปล่อยให้แก๊งแทรกแซงคดีบอสลอยนวล

ดูทั้งหมด

  •  

กรณีสั่งไม่ฟ้องคดีบอส คือที่สุด ของที่สุด


แก๊งแทรกแซงคดี ปั้นแต่งพยานหลักฐานเท็จ กดดันข่มขู่ เพื่อนำไปสู่การสั่งไม่ฟ้องคดี ตามที่คณะกรรมการอิสระฯ ชุดที่อาจารย์วิชามหาคุณ เป็นประธาน ได้ตรวจพบ กระทั่งเสนอให้กันอาจารย์ ส. และ พ.ต.ท.ธ.ไว้เป็นพยาน เพื่อดำเนินคดีอาญากับผู้เกี่ยวข้อง ไม่ว่าจะเป็นบิ๊กตำรวจ อัยการ ทนาย ผู้บงการ ผู้สนับสนุน ฯลฯ

ร่วมมือกันสร้างพยานหลักฐานเท็จเรื่องความเร็ว นำเข้าสู่สำนวนการสอบสวน เพื่อทำลายน้ำหนักพยานหลักฐานเดิมที่ถูกต้อง และนำไปสู่การสั่งไม่ฟ้องของอัยการ

ถ้าสังคมไทยไม่ต้องการให้ทุกอย่างเงียบหาย ราวกับไม่มีอะไรเกิดขึ้น ก็จะต้องช่วยกันติดตาม ทวงถาม กดดัน เพื่อให้ผู้เกี่ยวข้องทำหน้าที่อย่างเด็ดขาด ตรงไปตรงมา ไม่ลูบหน้าปะจมูก

หนึ่งในข้อเสนอแนะที่น่าสนใจ และนำเสนอมาอย่างต่อเนื่อง คือข้อเสนอจาก “สถาบันเพื่อการปฏิรูปกระบวนการยุติธรรม (สป.ยธ.)”อันเป็นองค์กรภาคประชาชน ที่ออกแถลงการณ์เสนอแนะเกี่ยวกับการดำเนินการมาอย่างต่อเนื่อง

ล่าสุด

1. แถลงการณ์ สป.ยธ. คดีบอส อยู่วิทยา (ฉบับที่ 2) ขอให้นายกรัฐมนตรีสั่งให้ตำรวจผู้ร่วมขบวนการสร้างพยานหลักฐานเท็จในคดีนายวรยุทธ อยู่วิทยา “ออกจากราชการไว้ก่อน” ระหว่างการดำเนินคดีอาญาและวินัยร้ายแรง

สาระสำคัญบางตอน ระบุว่า

“..เนื่องจาก ระหว่างนี้ข้าราชการตำรวจผู้เข้าไปร่วมสร้างพยานหลักฐานเท็จดังกล่าวทุกคน ยังคงปฏิบัติราชการตามอำนาจหน้าที่ของตนกันเป็นปกติ ทั้งที่ผลการตรวจสอบได้พบพยานหลักฐานอย่างชัดเจนว่าเป็นทั้งตัวการและผู้สนับสนุน แม้กระทั่งเป็นผู้รับผิดชอบด้านการบริหารของหน่วยงานตำรวจระดับต่างๆ ที่ปล่อยปละละเลยหรืออาจรู้เห็นเป็นใจให้มีการสอบสวนทำลายพยานหลักฐานคดีนี้มาตั้งแต่เกิดเหตุ ไม่ว่าจะเป็นการไม่ตรวจวัดความเมา การปล่อยให้คดีขาดอายุความ หรือไม่แจ้งข้อหาเสพโคเคนนำมารวมไว้ในสำนวน

เพื่อเป็นการสร้างความเชื่อมั่นต่อประชาชนว่า นายกรัฐมนตรีมีความจริงใจในการปราบปรามการทุจริตของชาติ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในระบบงานสอบสวนคดีอาญาซึ่งส่งผลเสียหายต่อกระบวนการยุติธรรมอย่างร้ายแรงยิ่งในปัจจุบัน จึงขอให้ดำเนินการดังนี้

1. เร่งออกคำสั่งตั้งกรรมการสอบสวนวินัยร้ายแรงข้าราชการตำรวจทุกคนที่ไปร่วมประชุมปรึกษากับสมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ อัยการ อาจารย์มหาวิทยาลัยและทนายความตามที่ปรากฏหลักฐานคลิปเสียงการสนทนาในการสร้างพยานหลักฐานเท็จคดีอาญาเพื่อช่วยให้ผู้กระทำผิดไม่ต้องรับโทษ ณ สำนักงานพิสูจน์หลักฐานเมื่อวันที่ 29 กุมภาพันธ์ 2559 ตามที่คณะกรรมการ รายงาน ซึ่งถือเป็นพฤติกรรมกระทำผิดที่แน่ชัดในการกดดันให้ พ.ต.ท.ธนสิทธิ์ แตงจั่น นักวิทยาศาสตร์คำนวณความเร็วด้วยวิธีใหม่ของดร.สายประสิทธิ์ ก่อให้เกิดความสับสนได้ผลออกมาเพียง 79.23 กม.ต่อชั่วโมง ขัดต่อหลักวิชาการและมาตรฐานการปฏิบัติงานพิสูจน์หลักฐาน ถือเป็นความผิดตามกฎหมายอาญา มาตรา 200 ตามที่ส่งให้กรมสอบสวนคดีพิเศษดำเนินคดีอาญา และเป็นการประพฤติชั่วอย่างร้ายแรง ถือเป็นความผิดทางวินัยร้ายแรงตาม พ.ร.บ.ตำรวจแห่งชาติ มาตรา 79(5) ซึ่งผู้บังคับบัญชามีอำนาจสั่ง “ให้ออกจากราชการไว้ก่อน” ระหว่างรอผลการสอบสวนคดีอาญาและวินัยร้ายแรงเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดความเสียหายต่อราชการได้ตาม พ.ร.บ.ตำรวจแห่งชาติ พ.ศ.2547 มาตรา 94

2. สั่ง ผบ.ตร. ให้เร่งรัดการสอบสวนทางวินัยให้แล้วเสร็จภายใน 30 วัน โดยรายงานความคืบหน้าให้ทราบผ่านเลขานุการ ศอ.ตช. ทุก 7 วัน

3. สั่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรมควบคุมการปฏิบัติงานของอธิบดีสอบสวนคดีพิเศษให้เร่งสอบปากคำ พ.ต.อ.ธนสิทธิ์ แตงจั่น ยืนยันหลักฐานคลิปเสียง และนำไปเสนอศาลออกหมายจับผู้ร่วมกระทำผิดอาญาทุกคนที่อยู่ในการประชุมปรึกษาดังกล่าวโดยเร็วที่สุด

4. ใช้อำนาจตาม พ.ร.บ.ระเบียบบริหารราชการแผ่นดิน ออกคำสั่งตั้งปลัดสำนักนายกรัฐมนตรีเป็นประธานคณะกรรมการตรวจสอบเพิ่มเติมว่า ในกรณีที่เกิดปัญหาการสอบสวนทำลายพยานหลักฐานคดีนี้มาตั้งแต่วันแรกเกิดเหตุและต่อเนื่องมาอีกหลายปี ทั้งการที่ไม่ดำเนินการให้นายวรยุทธเป่าทดสอบความเมาทันทีที่พบตัว การไม่ดำเนินคดีข้อหาเสพโคเคน รวมทั้งการปล่อยให้บางข้อหาขาดอายุความ ตำรวจผู้บังคับบัญชาทุกระดับตั้งแต่สถานีไปจนถึงผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติในแต่ละช่วงเวลา มีใครเป็นผู้รับผิดชอบทางการบริหารในการที่ไม่ตรวจสอบควบคุมหรือแม้กระทั่งรู้เห็นเป็นใจให้มีการกระทำผิดดังกล่าวบ้าง...”

2. แถลงการณ์ สป.ยธ. คดีบอส อยู่วิทยา (ฉบับที่ 3) ขอให้อัยการสูงสุด “สั่งพักราชการ” พนักงานอัยการผู้ร่วมขบวนการสร้างพยานหลักฐานเท็จกับตำรวจ ระหว่างรอผลการดำเนินคดีอาญาและวินัยร้ายแรง

สาระสำคัญบางตอน ระบุว่า

“...เนื่องจาก ระหว่างนี้พนักงานอัยการ ช. ผู้ถูกระบุว่าได้เข้าไปร่วมสร้างพยานหลักฐานเท็จกับตำรวจในคดีดังกล่าว ยังคงปฏิบัติราชการตามอำนาจหน้าที่อยู่เป็นปกติทั้งที่ผลการตรวจสอบได้พบพยานหลักฐานชัดเจนว่าเป็นตัวการร่วมสร้างพยานหลักฐานเท็จคดีอาญาจนนำไปสู่การสั่งไม่ฟ้องของรองอัยการสูงสุดที่สร้างความเสียหายต่อกระบวนการยุติธรรมของชาติอย่างร้ายแรงดังกล่าว

เพื่อเป็นการสร้างความเชื่อมั่นต่อประชาชนว่า สำนักงานอัยการสูงสุดมีความจริงใจในการจัดการกับปัญหาการทุจริตของบุคลากรในองค์กรอย่างจริงจังจึงขอให้เร่งออกคำสั่งตั้งกรรมการตรวจสอบว่า อัยการ ช.ที่ปรากฏในหลักฐานคลิปเสียงร่วมสนทนากับสภานิติบัญญัติแห่งชาติ ตำรวจ อาจารย์มหาวิทยาลัยและทนายความในการสร้างพยานหลักฐานเท็จคดีอาญา ณ สำนักงานพิสูจน์หลักฐานเมื่อวันที่ 29 กุมภาพันธ์ 2559 ดังกล่าวคือใคร มีตำแหน่งหน้าที่อะไร และเร่งดำเนินคดีวินัยร้ายแรงแจ้งให้ประชาชนทราบพร้อมทั้ง “สั่งพักราชการ” อัยการคนดังกล่าว เพื่อมิให้เกิดความเสียหายต่อราชการตาม พ.ร.บ.ระเบียบข้าราชการฝ่ายอัยการ พ.ศ.2553 มาตรา 80 โดยเร็ว..”

3. หากนายกรัฐมนตรีมีความกล้าหาญ จริงใจที่จะสะสาง และเดินหน้าสู่การปฏิรูปจริง

หากอัยการสูงสุดบริสุทธิ์ใจ ไม่ปกป้องพวกเดียวกัน หรือปกป้องตนเอง ต้องการให้องค์กรอัยการมีธรรมาภิบาล เป็นที่เชื่อถือในสายตาประชาชนจริง

พึงพิจารณาดำเนินการอย่างหนึ่งอย่างใดโดยด่วนที่สุด มิใช่ฝังกลบไปเงียบๆ

สารส้ม

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

  •  
  • Breaking News
  • ข่าวยอดนิยม
  • คอลัมน์ฮิต
14:32 น. ชาวเกาหลีใต้ผวา! แห่ยกเลิกทริปไป'กัมพูชา'กลัวแก๊งมิจฉาชีพ
14:24 น. 'อ.ไชยันต์'เตือนสติ หากประเทศไม่มีสถาบัน
14:19 น. รุดตรวจสอบ'ช้างป่วยตาย' ไม่แจ้งจนท.แอบฝังกลางชุมชน เหม็นคลุ้งหวั่นเชื้อโรค
14:08 น. เพชรบูรณ์สุดคึกคัก! ‘ชาวบ้าน-ร้านค้า’ หลายพื้นที่แห่ลงทะเบียน ‘คนละครึ่งพลัส’
14:07 น. โคตรคุ้ม 'ก๋วยเตี๋ยวไก่มะระบุฟเฟ่ต์' เจ้าเดียวในพิชัย ตักเครื่องไม่อั้น ลูกค้าแน่นทุกวัน
ดูทั้งหมด
ร้านอาหารจีนในไทยสวนกระแสทูตจีน ติด'หน้าฮุนเซน'พื้นทางเข้าร้าน ลูกค้าทั้งเหยียบทั้งขยี้ฉ่ำ
บุกจับ'เสี่ยบอย'พร้อมเมีย! รองหัวหน้าพรรคการเมืองดังเปิดตลาดเถื่อน ทุบของหลวงสร้างพื้นที่
‘กรรชัย’เป็นดาราไม่ใช่สื่อ ‘ใบตองแห้ง’อัด‘สัญลักษณ์ยุคตกต่ำ’
จาก‘โรฮิงแยม’ถึง‘พี่อังคณา’ สะท้อนความเข้าใจ‘สิทธิมนุษยชน’
'สิทธิชัย สันติวิจิตร'จี้'ม.นครพนม'ทบทวนมอบปริญญากิตติมศักดิ์ 'ก้อง ห้วยไร่'
ดูทั้งหมด
รวมพลังปกป้อง‘รธน.ฉบับปราบโกง’
บันไดหนีไฟ คอนโดฯ หนีตาย หรือหนีไปตาย?
กินแห้ว
ยึดคืนแผ่นดินไทย อย่างมีจังหวะ ปิดจ๊อบ ก่อนมหาอำนาจบีบสันติภาพจอมปลอม
บุคคลแนวหน้า : 17 ตุลาคม 2568
ดูทั้งหมด

เรื่องอื่นๆ ที่น่าสนใจ

ชาวเกาหลีใต้ผวา! แห่ยกเลิกทริปไป'กัมพูชา'กลัวแก๊งมิจฉาชีพ

'อ.ไชยันต์'เตือนสติ หากประเทศไม่มีสถาบัน

รุดตรวจสอบ'ช้างป่วยตาย' ไม่แจ้งจนท.แอบฝังกลางชุมชน เหม็นคลุ้งหวั่นเชื้อโรค

รวบเซ็กซ์ครีเอเตอร์! ลวงเด็กม.3 ถ่ายคลิปวิตถารที่สาธารณะ

หนุ่มอิสราเอลนวดไทยไม่พอใจ! ขอเงินคืนไม่ได้ ฉกซองผ้าป่าหนี วินจยย.ช่วยตะครุบตัว

'นายกฯ'หารือทูตจีน ย้ำมิตรภาพ'ใช่อื่นไกล พี่น้องกัน' พร้อมร่วมมือปราบสแกมเมอร์

  • Breaking News
  • ชาวเกาหลีใต้ผวา! แห่ยกเลิกทริปไป\'กัมพูชา\'กลัวแก๊งมิจฉาชีพ ชาวเกาหลีใต้ผวา! แห่ยกเลิกทริปไป'กัมพูชา'กลัวแก๊งมิจฉาชีพ
  • \'อ.ไชยันต์\'เตือนสติ หากประเทศไม่มีสถาบัน 'อ.ไชยันต์'เตือนสติ หากประเทศไม่มีสถาบัน
  • รุดตรวจสอบ\'ช้างป่วยตาย\' ไม่แจ้งจนท.แอบฝังกลางชุมชน เหม็นคลุ้งหวั่นเชื้อโรค รุดตรวจสอบ'ช้างป่วยตาย' ไม่แจ้งจนท.แอบฝังกลางชุมชน เหม็นคลุ้งหวั่นเชื้อโรค
  • เพชรบูรณ์สุดคึกคัก! ‘ชาวบ้าน-ร้านค้า’ หลายพื้นที่แห่ลงทะเบียน ‘คนละครึ่งพลัส’ เพชรบูรณ์สุดคึกคัก! ‘ชาวบ้าน-ร้านค้า’ หลายพื้นที่แห่ลงทะเบียน ‘คนละครึ่งพลัส’
  • โคตรคุ้ม \'ก๋วยเตี๋ยวไก่มะระบุฟเฟ่ต์\' เจ้าเดียวในพิชัย ตักเครื่องไม่อั้น ลูกค้าแน่นทุกวัน โคตรคุ้ม 'ก๋วยเตี๋ยวไก่มะระบุฟเฟ่ต์' เจ้าเดียวในพิชัย ตักเครื่องไม่อั้น ลูกค้าแน่นทุกวัน
ดูทั้งหมด

คอลัมน์ที่เกี่ยวข้อง

ยึดคืนแผ่นดินไทย อย่างมีจังหวะ  ปิดจ๊อบ ก่อนมหาอำนาจบีบสันติภาพจอมปลอม

ยึดคืนแผ่นดินไทย อย่างมีจังหวะ ปิดจ๊อบ ก่อนมหาอำนาจบีบสันติภาพจอมปลอม

17 ต.ค. 2568

นักสิทธิฯ เพื่อใคร?

นักสิทธิฯ เพื่อใคร?

16 ต.ค. 2568

คนละครึ่ง พลัส กับ แก้รัฐธรรมนูญ  ใครได้ประโยชน์?

คนละครึ่ง พลัส กับ แก้รัฐธรรมนูญ ใครได้ประโยชน์?

15 ต.ค. 2568

หนี้รถไฟฟ้าสายสีเขียว ราคาของการหาเสียงการเมือง ราคาของความล่าช้า

หนี้รถไฟฟ้าสายสีเขียว ราคาของการหาเสียงการเมือง ราคาของความล่าช้า

14 ต.ค. 2568

ความจริงอุทยานฯร.9  ดักดานแค่ไหน ถึงยังเชื่อศาสดาล้มเจ้า?

ความจริงอุทยานฯร.9 ดักดานแค่ไหน ถึงยังเชื่อศาสดาล้มเจ้า?

13 ต.ค. 2568

MOU43-44 ประชามติบอกความต้องการ  แต่ไม่ได้บอกความรู้ความเข้าใจ

MOU43-44 ประชามติบอกความต้องการ แต่ไม่ได้บอกความรู้ความเข้าใจ

10 ต.ค. 2568

ปฏิบัติ เมื่อเราได้เปรียบ

ปฏิบัติ เมื่อเราได้เปรียบ

9 ต.ค. 2568

เพื่อไทยอาจถึงทางตัน  แต่แน่ๆ ประเทศไทยไม่ได้ถึงทางตัน

เพื่อไทยอาจถึงทางตัน แต่แน่ๆ ประเทศไทยไม่ได้ถึงทางตัน

8 ต.ค. 2568

Back to Top

ผู้ดูแลเว็บไซต์ www.naewna.com
webmaster นายปรเมษฐ์ ภู่โต
ดูแลรับผิดชอบข่าว/ภาพ/โฆษณา/ข้อมูลอื่นๆที่เกี่ยวข้องกับเว็บไซต์
กรรมการบริษัทฯ, กรรมการผู้มีอำนาจ ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการนำเสนอข่าว/ภาพ/ข้อมูลใดๆในเว็บไซต์ทั้งสิ้น

Social Media

  • หน้าแรก |
  • เกี่ยวกับแนวหน้า |
  • โฆษณากับเรา |
  • ร่วมงานกับเรา |
  • ติดต่อแนวหน้า |
  • นโยบายข้อตกลง
Copyright © 2025 Naewna.com All right reserved