วันศุกร์ ที่ 24 ตุลาคม พ.ศ. 2568
แนวหน้า
  • แนวหน้า
  • หน้าแรก
  • คอลัมน์
    • คอลัมน์วันนี้
    • คอลัมน์ออนไลน์
    • คอลัมน์การเมือง
    • คอลัมน์ลงมือสู้โกง
    • โลกธุรกิจ
    • ผู้หญิง
    • บันเทิง
    • Like สาระ
    • ดูทั้งหมด
  • ข่าวเด่น
  • พระราชสำนัก
  • การเมือง
  • โลกธุรกิจ
  • อาชญากรรม
  • กทม.
  • ในประเทศ
  • เกษตร
  • ต่างประเทศ
  • กีฬา
  • ผู้หญิง
  • บันเทิง
  • ยานยนต์
  • Like สาระ
หน้าแรก / คอลัมน์ / คอลัมน์การเมือง / บทบรรณาธิการ
บทบรรณาธิการ

บทบรรณาธิการ

วันอังคาร ที่ 20 ตุลาคม พ.ศ. 2563, 02.00 น.
ปลดล็อกพืชกระท่อม

ดูทั้งหมด

  •  

พืชกระท่อม ได้รับการอนุมัติจากที่ประชุมคณะรัฐมนตรีเมื่อเดือนมีนาคม 2563 ให้ถอนออกจากการเป็นยาเสพติดให้โทษประเภท 5 และให้มีการออกมาตรการควบคุมเป็นการเฉพาะ ล่าสุด ที่ประชุม ครม. เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา ได้มีมติ อนุมัติหลักการร่าง พ.ร.บ.พืชกระท่อม ที่มีกรอบสำคัญในการควบคุมเพื่อใช้ทางการแพทย์ ป้องกันไม่ให้เด็กเข้าถึงพืชกระท่อม และห้ามไม่ให้มีการนำพืชกระท่อมไปใช้ผิดวัตถุประสงค์ สาระของร่าง พ.ร.บ. ดังกล่าว จึงกำหนดหลักเกณฑ์การควบคุมอย่างชัดเจน เช่นห้ามขายพืชกระท่อมให้กับเด็กและเยาวชนอายุต่ำกว่า 18 ปี ห้ามโฆษณาหรือสื่อสารการตลาดพืชกระท่อม รวมทั้งห้ามผู้อายุต่ำกว่า 18 ปี ใช้พืชกระท่อม

กระท่อมจึงกลายเป็นอีกหนึ่ง “อดีต” พืชยาเสพติดต่อจากกัญชา ที่ได้รับการปลดล็อกให้ใช้เพื่อการแพทย์และมีกฎหมายควบคุมเป็นการเฉพาะเพื่อให้การใช้เป็นไปตามวัตถุประสงค์และป้องกันการซื้อ-การใช้ของเด็กและเยาวชน


เบื้องหลังการ “ปลดล็อก” ครั้งนี้ ก็เพื่อให้พืชกระท่อมได้รับการควบคุมอย่างเหมาะสมตามสภาพความเป็นจริงของสังคมไทย โดยเฉพาะในพื้นที่ภาคใต้ที่มีการนำพืชกระท่อมมาเคี้ยวสดๆ หรือผสมชงกับน้ำดื่มเพื่อรักษาโรค เช่น ไอ ท้องร่วง ปวดท้อง หรือเพิ่มกำลังในการทำงานในกลุ่มเกษตรกรชาวสวนและผู้ใช้แรงงาน ซึ่งถือเป็นภูมิปัญญาท้องถิ่นที่ใช้กันมายาวนานตั้งแต่ในอดีต

หากพิจารณาแนวทางการควบคุมพืชกระท่อมของต่างประเทศก็พบว่า มีเพียง 5 ประเทศ ได้แก่ เกาหลีใต้ ไทยเมียนมา อิตาลี และอินเดีย เท่านั้น ที่กำหนดให้พืชกระท่อมเป็นยาเสพติดให้โทษ ขณะที่อีกกว่า 80 ประเทศไม่ได้มีกฎหมายควบคุม หรือควบคุมโดยกฎหมายอื่นๆ ที่ไม่ใช่กฎหมายยาเสพติด

นอกจากนี้ ก่อนที่จะได้มีการจัดทำร่าง พ.ร.บ.ฉบับนี้ กระทรวงยุติธรรมจัดให้มีการรับฟังความคิดเห็นของผู้ที่เกี่ยวข้องถึง 2 ครั้ง พร้อมวิเคราะห์และเผยแพร่ผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นให้ทุกฝ่ายได้รับทราบอย่างโปร่งใส

เรียกได้ว่า การปลดล็อกพืชกระท่อมในครั้งนี้ เป็น“นิมิตใหม่” ของการออกกฎหมายในประเทศไทยที่พิจารณาภาพรวมทั้งบริบทความต้องการใช้จริงของคนในสังคม แนวทางของต่างประเทศ และความคิดเห็นของผู้เกี่ยวข้อง เพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดกับทุกฝ่ายในสังคม

ยังมีอีกหนึ่งประเด็น คือ เรื่องของบุหรี่ไฟฟ้า ที่ก็เป็นสิ่งเสพติด เพราะมีส่วนประกอบของนิโคติน แต่ก็มีความปลอดภัยมากกว่าบุหรี่ ตามที่งานวิจัยของหลายๆ ประเทศยืนยันว่าบุหรี่ไฟฟ้าไม่มีกระบวนการเผาไหม้ นิโคตินที่ระเหยเป็นไอออกมาจึงเป็นอันตรายน้อยกว่าควันบุหรี่ 95% หลายประเทศทั่วโลก จึงไม่ได้กำหนดให้ผลิตภัณฑ์บุหรี่ไฟฟ้าเป็นสินค้าผิดกฎหมาย

จึงควรติดตามต่อไปว่า กระทรวงสาธารณสุข และกระทรวงพาณิชย์ สองกระทรวงต้นเรื่องของการออกกฎหมายห้ามบุหรี่ไฟฟ้า จะหาทางแก้ปัญหาการใช้บุหรี่ไฟฟ้าแบบผิดกฎหมายอย่างไร ต้องยอมรับกันตรงๆ ว่าการห้ามนำเข้าจำหน่าย และให้บริการผลิตภัณฑ์บุหรี่ไฟฟ้ามาตั้งแต่ปี 2557 “ไม่ได้ผล” แต่อย่างใด เพราะจำนวนผู้ใช้ในประเทศไทยก็คาดการณ์ว่าน่าจะมีถึง 5 แสนคน ส่งผลให้เกิดการลักลอบซื้อขายแบบผิดกฎหมาย สร้างภาระให้เจ้าหน้าที่ตำรวจและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องที่ต้องจับกุมปราบปราม

หากจะแก้ปัญหาการใช้บุหรี่ไฟฟ้าแบบผิดกฎหมายในประเทศไทย กระทรวงสาธารณสุข และกระทรวงพาณิชย์น่าจะพิจารณามาตรการควบคุมให้เหมาะสม โดยเริ่มจากการศึกษาผลวิจัยเกี่ยวกับบุหรี่ไฟฟ้า และตัวอย่างการควบคุมของต่างประเทศอย่างจริงจัง เช่นเดียวกับที่ กัญชา และพืชกระท่อม ได้ทำเป็นแนวทางไว้

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

  •  
  • Breaking News
  • ข่าวยอดนิยม
  • คอลัมน์ฮิต
22:12 น. ป.ป.ช.เปิดทรัพย์สิน ‘ฉันทวิชญ์-วีระพงษ์’ คู่สมรสเท่าเทียมคู่แรกใน ครม.
21:44 น. มาตามนัด! ‘สุชาติ-ธนกร’ ได้ฤกษ์ขน สส.ซบภูมิใจไทย เที่ยงตรงพรุ่งนี้
21:34 น. ส่งกำลังใจ! 'เต๊ะ ศตวรรษ'แจ้งข่าวป่วยความทรงจำหาย ลืมแม้กระทั่งเลขบนนาฬิกา
21:25 น. (คลิป) แนวหน้าTAlk : เศรษฐกิจไทย วิกฤติและโอกาส
21:20 น. ย้ำไทยยึดหลักการ 4 ข้อ! รัฐบาลยันประชุม JBC ไม่มีเรื่องมาตราส่วนแผนที่-ปักหมุดเขตแดน
ดูทั้งหมด
'สนามบินเตโช'มีผู้โดยสารเทียบเท่า'สุวรรณภูมิ' 2พ่อลูกตระกูลฮุนยันไม่ได้กู้เงินจีนสร้าง
‘เกาหลีใต้’บอมบ์‘ฮุน มาเนต’กลางวงทูตทั่วโลก หมดสภาพผู้นำ
ลดราคาดีเซล 50 สตางค์/ลิตร-เบนซิน 30 สตางค์/ลิตร มีผลพรุ่งนี้
ฟ้าผ่าบอลไทย! ปลด'อิชิอิ'พ้นกุนซือช้างศึก
ยิปซี 12 นักษัตร พยากรณ์ : ระหว่างวันที่ 19 - 25 ตุลาคม พ.ศ. 2568
ดูทั้งหมด
สามแถบสีที่เป็นชาติประกาศนาม
‘ฟ้ากับเหว’นายกฯหญิงญี่ปุ่นกับ‘2 นายกฯหญิงตระกูลชิน’
ทีมผู้คิด ผู้ทำ ของนายกรัฐมนตรี
แพแตกหรือไม่?
เพื่อไทยเปลี่ยนหัว ยกเครื่อง หรือศัลยกรรมการเมือง?
ดูทั้งหมด

เรื่องอื่นๆ ที่น่าสนใจ

ส่งกำลังใจ! 'เต๊ะ ศตวรรษ'แจ้งข่าวป่วยความทรงจำหาย ลืมแม้กระทั่งเลขบนนาฬิกา

(คลิป) แนวหน้าTAlk : เศรษฐกิจไทย วิกฤติและโอกาส

ย้ำไทยยึดหลักการ 4 ข้อ! รัฐบาลยันประชุม JBC ไม่มีเรื่องมาตราส่วนแผนที่-ปักหมุดเขตแดน

'ฮุน มาเนต'บิดเบือน! กต.ยันประชุม JBC ไม่ได้หารือแผนที่ 1:200,000

ร่างตัวประกันชาวไทยที่เสียชีวิตในกาซาถึงไทยแล้ว กต.ร่วมพิธีรับร่าง-ไว้อาลัย

'พลอย เฌอมาลย์'เปิดใจครั้งแรก! ตรวจพบมะเร็งเต้านม น้ำหนักฮวบ13โล-ฉายแสงจนหน้าอกไหม้

  • Breaking News
  • ป.ป.ช.เปิดทรัพย์สิน ‘ฉันทวิชญ์-วีระพงษ์’ คู่สมรสเท่าเทียมคู่แรกใน ครม. ป.ป.ช.เปิดทรัพย์สิน ‘ฉันทวิชญ์-วีระพงษ์’ คู่สมรสเท่าเทียมคู่แรกใน ครม.
  • มาตามนัด! ‘สุชาติ-ธนกร’ ได้ฤกษ์ขน สส.ซบภูมิใจไทย เที่ยงตรงพรุ่งนี้ มาตามนัด! ‘สุชาติ-ธนกร’ ได้ฤกษ์ขน สส.ซบภูมิใจไทย เที่ยงตรงพรุ่งนี้
  • ส่งกำลังใจ! \'เต๊ะ ศตวรรษ\'แจ้งข่าวป่วยความทรงจำหาย ลืมแม้กระทั่งเลขบนนาฬิกา ส่งกำลังใจ! 'เต๊ะ ศตวรรษ'แจ้งข่าวป่วยความทรงจำหาย ลืมแม้กระทั่งเลขบนนาฬิกา
  • (คลิป) แนวหน้าTAlk : เศรษฐกิจไทย วิกฤติและโอกาส (คลิป) แนวหน้าTAlk : เศรษฐกิจไทย วิกฤติและโอกาส
  • ย้ำไทยยึดหลักการ 4 ข้อ! รัฐบาลยันประชุม JBC ไม่มีเรื่องมาตราส่วนแผนที่-ปักหมุดเขตแดน ย้ำไทยยึดหลักการ 4 ข้อ! รัฐบาลยันประชุม JBC ไม่มีเรื่องมาตราส่วนแผนที่-ปักหมุดเขตแดน
ดูทั้งหมด

คอลัมน์ที่เกี่ยวข้อง

คนดีคือรากฐานของระบบ

คนดีคือรากฐานของระบบ

23 ต.ค. 2568

คนละครึ่ง กระตุ้นเศรษฐกิจได้บ้าง

คนละครึ่ง กระตุ้นเศรษฐกิจได้บ้าง

22 ต.ค. 2568

พรรคเพื่อไทยฝ่ายค้านที่เข้มแข็ง

พรรคเพื่อไทยฝ่ายค้านที่เข้มแข็ง

21 ต.ค. 2568

เขมรกลัวทุกประเทศ ยกเว้นไทย

เขมรกลัวทุกประเทศ ยกเว้นไทย

20 ต.ค. 2568

อภิสิทธิ์ come back, ประชาธิปัตย์จะ come back หรือไม่

อภิสิทธิ์ come back, ประชาธิปัตย์จะ come back หรือไม่

19 ต.ค. 2568

บ่อนในเขมร เป็นของใคร

บ่อนในเขมร เป็นของใคร

18 ต.ค. 2568

อย่าปล่อยให้‘ฮุนเซน’ลอยนวล

อย่าปล่อยให้‘ฮุนเซน’ลอยนวล

17 ต.ค. 2568

ผู้นำกัมพูชาคือ :  ภัยคุกคามที่โลกต้องช่วยกันจัดการ

ผู้นำกัมพูชาคือ : ภัยคุกคามที่โลกต้องช่วยกันจัดการ

16 ต.ค. 2568

Back to Top

ผู้ดูแลเว็บไซต์ www.naewna.com
webmaster นายปรเมษฐ์ ภู่โต
ดูแลรับผิดชอบข่าว/ภาพ/โฆษณา/ข้อมูลอื่นๆที่เกี่ยวข้องกับเว็บไซต์
กรรมการบริษัทฯ, กรรมการผู้มีอำนาจ ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการนำเสนอข่าว/ภาพ/ข้อมูลใดๆในเว็บไซต์ทั้งสิ้น

Social Media

  • หน้าแรก |
  • เกี่ยวกับแนวหน้า |
  • โฆษณากับเรา |
  • ร่วมงานกับเรา |
  • ติดต่อแนวหน้า |
  • นโยบายข้อตกลง
Copyright © 2025 Naewna.com All right reserved