รายงานข่าวระบุว่า ในสัปดาห์นี้ กกต.จะพิจารณาลงมติเรื่องการดำเนินคดีอาญากับอดีตกรรมการบริหารพรรคอนาคตใหม่ กรณีสืบเนื่องจากการกระทำผิดกฎหมายพรรคการเมือง เรื่องที่มีการรับทรัพย์สินหรือประโยชน์อื่นใดเกิน 10 ล้านบาทต่อปี กรณีนายธนาธร เอาเงินให้พรรคกู้ยืม 191 ล้านบาท
1. กรณีนี้ นับว่าเนิ่นช้ามาก
หลายคน อาจลืมไปแล้วด้วยซ้ำ
2. คงจำได้.. ศาลรัฐธรรมนูญคำวินิจฉัยยุบพรรคอนาคตใหม่ กรณีกู้เงินนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรค วงเงิน 191.2 ล้านบาท
ศาลชี้ให้เห็นว่า การกู้เงินดังกล่าวในสัญญาที่ 2 คิดอัตราดอกเบี้ยร้อยละ 2 ต่อปี ไม่เป็นไปตามปกติทางการค้า แต่เป็นการเอื้อประโยชน์หรือช่วยเหลือพรรคอนาคตใหม่เป็นพิเศษ ดังนั้น จึงเข้าข่ายเป็นการให้
ผลประโยชน์อื่นใด
นอกจากนี้ นายธนาธรให้เงินกู้ยืม 191.2 ล้านบาท ขณะที่บริจาคเงินให้พรรคด้วยอีก 8.5 ล้านบาท ย่อมชัดแจ้งว่าเป็นกรณีการบริจาคเงิน ทรัพย์สิน หรือประโยชน์อื่นใดที่มีมูลค่าเกิน 10 ล้านบาท/พรรค/ปี
คำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญยังชี้ด้วยว่า การที่นายธนาธรให้พรรคกู้เงินยืมเงินจำนวนมาก กรรมการบริหารพรรคควรจะรู้ว่าการเป็นหนี้จำนวนมากต่อบุคคลใด ย่อมก่อให้เกิดการครอบงำ สามารถอาศัยอำนาจมูลหนี้ หรืองดเว้นการอันใดอันหนึ่งตามสัญญาก็ได้ ก่อให้เกิดความได้เปรียบทางการเงินมาเป็นผู้บงการพรรคแต่เพียงผู้เดียว ส่งผลให้พรรคการเมืองเป็นธุรกิจการเมือง
การกู้ยืมเงินดังกล่าว หลีกเลี่ยงการรับบริจาคเงิน ทรัพย์สิน หรือประโยชน์อื่นใดตามมาตรา 66 แห่ง พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง พ.ศ. 2560 จึงต้องห้ามตามมาตรา 66 และเป็นการรับประโยชน์อื่นใดโดยรู้หรือควรจะรู้ว่าได้มาโดยมิชอบด้วยกฎหมายตามมาตรา 72 แห่ง พ.ร.บ.พรรคการเมืองฯ เป็นเหตุให้ยุบพรรคตามมาตรา 92 แห่ง พ.ร.บ.พรรคการเมืองฯ กรรมการบริหารพรรคถูก เพิกถอนสิทธิเลือกตั้ง 10 ปี
3. คำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญ ถือเป็นที่สุด มีผลผูกพันทุกองค์กร
4. คดีอาญา สืบเนื่องจากกรณีเงินกู้ 191 ล้านบาท
เมื่อวันที่ 24 ก.พ. 2563 นายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย ได้เข้ายื่นคำร้องเพื่อขอให้ กกต.เร่งแจ้งข้อกล่าวหา เพื่อดำเนินการฟ้องร้องนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจและพวก
อาจารย์ชูชาติ ศรีแสง อดีตผู้พิพากษาหัวหน้าคณะในศาลฎีกา เคยให้ข้อคิดเห็นในทางกฎหมายไว้ว่า
“...พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง พ.ศ. 2560
.....มาตรา 66 บุคคลใดจะบริจาคเงิน ทรัพย์สิน หรือประโยชน์อื่นใดให้แก่พรรคการเมือง มีมูลค่าเกินสิบล้านบาทต่อพรรคการเมืองต่อปี มิได้ และในกรณีที่บุคคลนั้นเป็นนิติบุคคล การบริจาคเงิน ทรัพย์สิน หรือประโยชน์อื่นใดให้แก่พรรคการเมืองไม่ว่าพรรคเดียวหรือหลายพรรคเกินปีละห้าล้านบาท ต้องแจ้งให้ที่ประชุมใหญ่ผู้ถือหุ้นทราบในการประชุมใหญ่คราวต่อไปหลังจากบริจาคแล้ว
.....พรรคการเมืองจะรับบริจาคเงิน ทรัพย์สิน หรือประโยชน์อื่นใดซึ่งมีมูลค่าเกินวรรคหนึ่งมิได้
.....มาตรา 72 ห้ามมิให้พรรคการเมืองและผู้ดํารงตําแหน่งในพรรคการเมืองรับบริจาคเงิน ทรัพย์สิน หรือประโยชน์อื่นใด โดยรู้หรือควรจะรู้ว่าได้มาโดยไม่ชอบด้วยกฎหมายหรือมีเหตุอันควรสงสัยว่า มีแหล่งที่มาโดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย
.....มาตรา 124 ผู้ใดไม่ปฏิบัติตามมาตรา 66 วรรคหนึ่ง ต้องระวางโทษจําคุกไม่เกินห้าปี หรือปรับไม่เกินหนึ่งแสนบาท หรือทั้งจําทั้งปรับ และให้ศาลสั่งเพิกถอนสิทธิเลือกตั้งของผู้นั้นมีกําหนดห้าปี
.....มาตรา 126 ผู้ดํารงตําแหน่งในพรรคการเมืองผู้ใดฝ่าฝืนมาตรา 72 ต้องระวางโทษจําคุกไม่เกินสามปี หรือปรับไม่เกินหกหมื่นบาท หรือทั้งจําทั้งปรับ และให้ศาลสั่งเพิกถอนสิทธิสมัครรับเลือกตั้งของผู้นั้น
.....เมื่อวันที่ 21 กุมภาพันธ์ 2563 ศาลรัฐธรรมนูญได้มีคำวินิจฉัยให้ยุบพรรคอนาคตใหม่ กรณีที่นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวพรรคให้พรรคกู้ยืมเงินจำนวน 191 ล้านบาทเศษ เป็นการกระทำที่ฝ่าฝืนมาตรา 66 วรรคหนึ่ง และการที่พรรคอนาคตใหม่รับเงินจำนวนดังกล่าวเป็นการฝ่าฝืนมาตรา 66 วรรคสอง และมาตรา 72
.....นายธนาธรโดยส่วนตัวเข้าข่ายมีความผิดตามมาตรา 124 มีโทษจำคุกไม่เกินห้าปี หรือปรับไม่เกินหนึ่งแสนบาท หรือทั้งจําทั้งปรับ
......นายธนาธร ในฐานะหัวหน้าพรรค นายปิยบุตร แสงกนกกุล เลขาธิการพรรค นางสาวพรรณิการ์ วานิช โฆษกพรรค และกรรมการบริหารพรรคคนอื่นๆ เข้าข่ายมีความผิดตามมาตรา 126 มีโทษจําคุกไม่เกินสามปี หรือปรับไม่เกินหกหมื่นบาท หรือทั้งจําทั้งปรับ และให้ศาลสั่งเพิกถอนสิทธิสมัครรับเลือกตั้งของผู้นั้น
.....รัฐธรรมนูญมาตรา 211 วรรคสี่ บัญญัติว่า คําวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญให้เป็นเด็ดขาด มีผลผูกพันรัฐสภา คณะรัฐมนตรี ศาล องค์กรอิสระ และหน่วยงานของรัฐ
.....นับตั้งแต่ศาลรัฐธรรมนูญมีคำวินิจฉัยจนถึงวันนี้ เป็นเวลา 8 เดือนแล้ว แต่คณะกรรมการการเลือกตั้งหรือกกต. ยังหาได้กระทำการใดๆ เพื่อมีการดำเนินคดีแก่นายธนาธรกับพวกตามมาตรา 124 และ มาตรา 126 ไม่
...กกต.ทำอะไรกันอยู่ จึงละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ที่ต้องกระทำ ?...”
5. ยังมิได้เอ่ยถึงกรณีคดีอาญาเกี่ยวเนื่องจากการถือครองหุ้นสื่อของนายธนาธร
ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยตั้งแต่ปลายปี 2562 ว่า นายธนาธร ถือครองหุ้นสื่ออยู่ในตอนสมัครรับเลือกตั้ง สส. และมีคำสั่งให้พ้นสภาพ สส. นับแต่วันที่ศาลรัฐธรรมนูญสั่งหยุดปฏิบัติหน้าที่ (วันที่ 23 พ.ค. 2562)
พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร พ.ศ. 2561 มาตรา 151 ระบุว่า ผู้ใดรู้อยู่แล้วว่าตนไม่มีสิทธิสมัครรับเลือกตั้ง เนื่องจากขาดคุณสมบัติหรือมีลักษณะต้องห้ามมิให้ใช้สิทธิสมัครรับเลือกตั้งเป็น สส. ได้สมัครรับเลือกตั้งหรือทำหนังสือยินยอมให้พรรคการเมืองเสนอรายชื่อเพื่อสมัครรับเลือกตั้งแบบบัญชีรายชื่อ ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่ 1-10 ปี และปรับตั้งแต่ 20,000-200,000 บาท และให้ศาลสั่งเพิกถอนสิทธิเลือกตั้งของผู้นั้นมีกำหนด 20 ปี
6. ทั้งหมด ใครผิด-ถูก ผู้จะพิพากษาชี้ขาด คือ ศาลยุติธรรม
แต่จนถึงบัดนี้ คดียังไปไม่ถึงศาล
จะล่าช้าเลียนแบบคดีบอส หรือไม่?
ใครจะติดคุกแทนผู้กระทำผิด?
สารส้ม
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี