วันอาทิตย์ ที่ 9 พฤศจิกายน พ.ศ. 2568
แนวหน้า
  • แนวหน้า
  • หน้าแรก
  • คอลัมน์
    • คอลัมน์วันนี้
    • คอลัมน์ออนไลน์
    • คอลัมน์การเมือง
    • คอลัมน์ลงมือสู้โกง
    • โลกธุรกิจ
    • ผู้หญิง
    • บันเทิง
    • Like สาระ
    • ดูทั้งหมด
  • ข่าวเด่น
  • พระราชสำนัก
  • การเมือง
  • โลกธุรกิจ
  • อาชญากรรม
  • กทม.
  • ในประเทศ
  • เกษตร
  • ต่างประเทศ
  • กีฬา
  • ผู้หญิง
  • บันเทิง
  • ยานยนต์
  • Like สาระ
หน้าแรก / คอลัมน์ / คอลัมน์การเมือง / ที่นี่แนวหน้า
ที่นี่แนวหน้า

ที่นี่แนวหน้า

วิภาวดี หลักสี่
วันเสาร์ ที่ 21 พฤศจิกายน พ.ศ. 2563, 02.00 น.
ปฏิรูปรถเมล์จนคนกรุงลำบาก?

ดูทั้งหมด

  •  

“1 เส้นทาง 1 ผู้ประกอบการ” เป็นนโยบาย “ปฏิรูปรถเมล์” หรือรถประจำทางที่วิ่งให้บริการรับ-ส่งผู้โดยสารในกรุงเทพฯ-ปริมณฑล หมายถึงเส้นทางรถเมล์จะปรับเปลี่ยนจากการที่เส้นทางเดียวกันมีผู้ประกอบการหลายราย เช่น องค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) วิ่งร่วมกับเอกชน 1 ราย หรือ ขสมก. วิ่งร่วมกับเอกชนหลายราย ให้เหลือเพียง 1 รายต่อเส้นทาง เช่น หากเป็นเส้นทางของ ขสมก. ก็จะไม่มีรถเมล์ของเอกชน หรือหากเป็นเส้นทางของเอกชนก็จะไม่มีรถเมล์ของขสมก. และผู้ประกอบการเอกชนก็จะมีเพียงรายเดียวในเส้นทางนั้น

เป้าหมายมี 2 ส่วน คือ 1.แก้ปัญหาคุณภาพการให้บริการของรถร่วมเอกชน พนักงานรถร่วมเอกชนมักต้องพึ่งพารายได้หลักจากส่วนแบ่งค่าตั๋วโดยสาร เพราะผู้ประกอบการไม่ได้รับการอุดหนุนจากรัฐ กดดันให้ต้อง “ทำรอบ” ขับขี่ด้วยความเร็วปาดซ้าย-ขวาน่าหวาดเสียวสุ่มเสี่ยงเกิดอุบัติเหตุ เพื่อให้วันหนึ่งวิ่งได้จำนวนเที่ยวมากที่สุด กับ “ทำยอด” รับผู้โดยสารให้ได้มากที่สุดแม้จะอัดแน่นเพียงใดก็ตาม ทั้ง 2 ส่วน นำไปสู่การขับแข่งและลงไปต่อยตีทำร้ายร่างกายกันของบรรดาคนขับและกระเป๋ารถเพราะแย่งผู้โดยสาร โดยมีประชาชนผู้ใช้บริการเป็นผู้รับเคราะห์กรรม


2.แก้ปัญหาขาดทุนสะสมของ ขสมก. แม้การให้บริการของ ขสมก. โดยรวมจะมีภาพลักษณ์ดีกว่ารถร่วมเอกชน ซึ่งมาจากการที่พนักงานได้รับค่าจ้างและสวัสดิการที่ดีและมั่นคงกว่า ทำให้ ขสมก. ควบคุมมาตรฐานการปฏิบัติงานได้มีประสิทธิภาพกว่า แต่เบื้องหลังนั้นคือการที่รัฐบาลต้องจัดงบอุดหนุนอย่างต่อเนื่อง การไม่วิ่งร่วมกับเอกชนก็ดี หรือการตัดสายให้สั้นลงในบางเส้นทางก็ดี คาดว่าจะทำให้ ขสมก. ยืนอยู่ได้ด้วยตนเองในระยะยาว

แต่เมื่อเริ่มใช้นโยบายดังกล่าวเรื่องวุ่นๆ ก็ตามมาทันที ดังกรณีของ “สาย 29” ที่วิ่งระหว่างย่านรังสิต ถึงสถานีรถไฟหัวลำโพง (หรือหากเป็นรถเสริมก็จะวิ่งจากรังสิต ถึงอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ) ผ่านถนนวิภาวดีรังสิต ช่วงพิพิธภัณฑ์อนุสรณ์สถาน ถึงหน้าสำนักงานใหญ่ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) เดิมมีรถเมล์ทั้งของ ขสมก.และรถร่วมเอกชน กระทั่งเมื่อวันที่ 1 พ.ย. 2563 ที่ผ่านมารถของ ขสมก. ได้หยุดให้บริการไป ทำให้เกิดปัญหา 2 ประการ

1.คนรายได้น้อยเดือดร้อน เนื่องจากรถเอกชนไม่รับบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ และไม่มีตั๋วรายสัปดาห์-รายเดือนจำหน่ายเหมือน ขสมก. เมื่อบวกกับนโยบายที่กำหนดให้ผู้ประกอบการต้องเร่งเปลี่ยนไปใช้รถปรับอากาศแทนรถร้อนแต่ค่าโดยสารรถปรับอากาศนั้นแพงกว่า เท่าเพิ่มภาระค่าครองชีพของประชาชนไปโดยปริยาย 2.คนเดินทางกลางคืนได้รับผลกระทบ แต่เดิมสาย 29 ของ ขสมก. จะมีรถบริการตลอด 24 ชั่วโมง ในขณะที่เอกชนจะหยุดวิ่งเวลา 22.00-04.00 น. เมื่อไม่มีรถ ขสมก. วิ่งอีกคนเดินทางรอบดึกต้องไปใช้บริการอื่นที่จ่างแพงกว่า เช่น รถแท็กซี่

จากความเดือดร้อนที่เกิดขึ้นแล้ว รวมกับกระแสข่าวที่ว่ายังมีอีกหลายเส้นทางที่ ขสมก. จะต้องหยุดวิ่งเช่นเดียวกับสาย 29 ทำให้เมื่อวันที่ 18 พ.ย. 2563 มีการหารือร่วมกันระหว่างคณะผู้บริหารกรมการขนส่งทางบก กับคณะตัวแทนสหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจ องค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) โดย บุญมา ปังมา ประธานสหภาพฯ ขสมก. เปิดเผยว่า ในเบื้องต้น กรณีเส้นทางที่มีทั้ง ขสมก. และเอกชนร่วมเดินรถ และมีแผนจะเปลี่ยนแปลงให้เข้าระบบ 1 เส้นทาง 1 ผู้ประกอบการในอนาคต ให้ชะลอออกไปก่อนจนกว่าแผนฟื้นฟู ขสมก.จะผ่าน

อีกทั้งการดำเนินการเปลี่ยนแปลงต้องทำแบบค่อยเป็นค่อยไปเมื่อมีรถใหม่ทยอยเข้าประจำการ นอกจากนี้ กรณีเส้นทางที่มีทั้ง ขสมก. และเอกชนร่วมเดินรถ แต่มีเพียง ขสมก. ที่เดินรถตลอด 24 ชม. หากปฏิรูปตามระบบ 1 เส้นทาง 1 ผู้ประกอบการแล้ว เหลือเพียงเอกชนเดินรถ เอกชนต้องจัดการเดินรถ 24 ชม. ด้วย แต่อนุโลมให้รถที่วิ่งในช่วงดึกใช้รถร้อน (รถไม่ปรับอากาศ)ได้ รวมถึงเส้นทางของ ขสมก. ก็ให้ใช้หลักเดียวกัน

“ได้ถามท่านอธิบดีไปแล้ว ก็ตรงกันว่าเป็นอยู่ที่ ขสมก. ฉะนั้นถ้า ขสมก. จะจัดรถครีมแดงวิ่งช่วงกะกลางคืนในอนาคตข้างหน้าก็สามารถทำได้ เพราะขนส่งเขาเปิดให้ เช่นเดียวกันกับพี่น้องประชาชน คนยากคนจน พ่อค้าแม่ค้าในสายหลักที่ต้องใช้ ขสมก. เพื่อซื้อของไปประกอบอาหารแล้วขายพี่น้องประชาชนซึ่งต้นทุนต่ำ ก็ยังสามารถใช้ได้ ขอให้ ขสมก. ไปพิจารณาเอาเองว่าสามารถเดินรถครีมแดงในเส้นทางนั้นได้ ส่วนสาย 29 ของเราไม่มี แต่เขาจะเอารถธรรมดา รถร้อนของเอกชนมาวิ่ง อย่างสาย 203 ที่มีรถธรรมดาวิ่งอยู่ด้วย”ปธ.สหภาพฯ ขสมก. กล่าว

อีกด้านหนึ่ง สุเมธ องกิตติกุล นักวิชาการด้านงานคมนาคมและระบบขนส่งมวลชน สถาบันวิจัยเพื่อการพัฒนาประเทศไทย (TDRI) ให้ความเห็นว่า หากมองบัตรสวัสดิการแห่งรัฐมีความจำเป็น ก็ต้องวางระบบให้สามารถใช้ได้กับรถเมล์ทุกสาย โดยหากผู้ประกอบการเอกชนรายใดมีความพร้อม รัฐโดยกระทรวงการคลัง หรือธนาคารกรุงไทย ควรเข้าไปประสานเชื่อมต่อระบบให้สามารถรับบัตรสวัสดิการแห่งรัฐได้

“ผมไม่แน่ใจเรื่องข้อกฎหมายในการเอาเงินไปให้กับเอกชน ซึ่งบัตรสวัสดิการแห่งรัฐเดิมก็ให้กับรัฐวิสาหกิจ ก็อาจไม่มีข้อขัดข้องทางกฎหมาย แต่ในปัจจุบันไม่แน่ใจว่าจะข้ามไปด้วยหรือเปล่า แต่ในความเห็นผมก็น่าจะไม่มีปัญหา เพราะปัจจุบันเท่าที่ทราบ อย่างเอกชนเองที่เป็นผู้รับสัมปทานรถไฟฟ้าก็รับการใช้จ่ายบัตรสวัสดิการแห่งรัฐด้วย คือเอาบัตรสวัสดิการแห่งรัฐไปซื้อตั๋วรถไฟฟ้าไปทำอะไรได้ระดับหนึ่ง” สุเมธ กล่าว

ส่วนเรื่องเอกชนไม่เดินรถกะดึกในเส้นทางที่ ขสมก.เคยให้บริการรถกะดึก เวลา 22.00-04.00 น. ไว้แต่เดิม อาจเป็นข้อบกพร่องหรือข้อจำกัดในช่วงเปลี่ยนผ่าน ซึ่งการขาดความรู้หรือขาดข้อมูลจำนวนผู้ใช้บริการในช่วงที่ไม่ใช่เวลาปกติ จุดนี้ควรมีการสำรวจและกำหนดเป็นเงื่อนไขในการเดินรถ ว่าควรกำหนดให้มีบริการกะดึก แต่ไม่จำเป็นต้องมีทุกสาย

อย่างไรก็ตาม สำหรับเส้นทางที่มีความจำเป็นต้องจัดรถบริการตลอด 24 ชม. ในส่วนของการเดินรถกะดึกนั้นอาจกำหนดให้ผู้ประกอบการเก็บค่าโดยสารเพิ่มขึ้นจากราคาในช่วงเวลาปกติได้ เนื่องจากจำนวนผู้โดยสารที่ใช้บริการในช่วงเวลาดังกล่าวค่อนข้างน้อย ดังที่ ขสมก.เก็บค่าโดยสารรถร้อนวิ่งเวลาปกติ 8 บาท ส่วนวิ่งกะดึกขอขึ้นราคาอีก 1.50 บาท เป็น 9.50 บาท

“1.50 บาทที่กำหนดจริงๆ มันก็ยังไม่คุ้มกับปริมาณผู้โดยสารที่ขึ้นอยู่ เพราะมันก็ขึ้นมาบาทกว่าๆ เองทั้งที่คนขึ้นก็ Low Factor (อัตราการบรรทุกผู้โดยสารต่อเที่ยว) มันก็ Drop (ลดลง) ไปมากกว่า 50% คือคนขึ้นไม่ได้เยอะมาก อันนี้ก็คงต้องหาแนวทาง คือผมไม่ได้คิดว่าเรื่องพวกนี้จะสามารถแก้ไขปัญหาได้ในคราวเดียว แต่ถ้าเรา Highlight (ให้ความสำคัญ) ปัญหาแล้วมันควรมีแนวทางแก้ไขที่ถูกต้อง แต่การกลับไปสู่สภาพเดิมนั้นผมยังคิดว่ามันไม่ใช่ทางแก้ปัญหา” นักวิชาการ TDRI ให้ข้อเสนอแนะ

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

  •  
  • Breaking News
  • ข่าวยอดนิยม
  • คอลัมน์ฮิต
15:06 น. นักวิชาการ มธ.หนุนมาตรการ เก็บภาษีนำเข้าสินค้าออนไลน์ตั้งแต่บาทแรก สร้างความเป็นธรรม SME ไทย
14:57 น. ใครสั่งหยุดยิง! ‘ที่ปรึกษา รมว.กลาโหม’เปิดบทสนทนาถาม‘บิ๊กเล็ก’โทร.คุย‘แม่ทัพกุ้ง’หรือไม่
14:53 น. ชื่นชมเยาวชนสร้างชื่อ! 'ธรรมนัส'มอบ 1 แสน หนุนทีมหมอนทองวิทยา
14:25 น. จับแล้วไอ้เสือ แก๊งเงินกู้โหด กำปั้นทุบหญิงคนพิการ
14:05 น. ‘ประธาน กมธ.แก้ รธน.’มั่นใจ 12 พ.ย. องค์ประชุมครบโหวตเคาะ‘กลไกยกร่างฯ’ได้
ดูทั้งหมด
ขอบคุณ'คุณจ๋า'! ภรรยานายกฯอนุทิน เลือกใช้ 'กระเป๋า' ฝีมือคนไทยสู่สายตานานาชาติ
งานหมั้น'มายด์-พาย'สุดอบอุ่น! ตระกูล'ภิรมย์ภักดี'พร้อมหน้าต้อนรับสะใภ้คนใหม่
ปภ.เตือน 10 จังหวัดภาคกลาง-กทม. เฝ้าระวังเจ้าพระยาเพิ่มสูง เตรียมพร้อมขนของขึ้นที่สูง
ปิดตำนาน! ประกาศเลิกกิจการ 2 โรงเรียนดังย่านลาดพร้าว
'เพลง ชนม์ทิดา'โพสต์ไอจีล่าสุด! ประกาศสถานะชัดทำชาวเน็ตแห่คอมเมนต์
ดูทั้งหมด
อียิปต์ที่เต็มไปด้วยคำถาม(ตอน3)
(นัก) การเมืองไทย ไม่มี (คน) ดี
บุคคลแนวหน้า : 9 พฤศจิกายน 2568
ไทยแลนด์ : ดินแดนฟอกเงินเทา?
‘สุขภาพดี ด้วยวิถีนายแพทย์เฉก ธนะสิริ’
ดูทั้งหมด

เรื่องอื่นๆ ที่น่าสนใจ

ชื่นชม! เยาวชนเมืองตรังใช้เวลาว่าง'แสดงมโนราห์' หารายได้ช่วยพ่อแม่เก็บค่าเทอม

ยิปซีพยากรณ์ดวงรายวัน ประจำวันอาทิตย์ 9 พฤศจิกายน 2568

เปิดไทยเฮาส์! ใช้วิทยาศาสตร์การกีฬาช่วยสู้ซีเกมส์เต็มที่

เช็กเสียง‘คนเหนือ’! วันนี้หนุน‘พรรคการเมือง’ไหน เชียร์ใครนั่งเก้าอี้‘นายกรัฐมนตรี’

ทุบเปรี้ยง! ‘ธรรมนัส’อยู่ยาว-ไม่ลาออก มองสาเหตุทำไมกล้าประกาศขอตายในสนามการเมือง

‘1,000CLUB’ กับโค้ชที่ชื่อ‘เป๊ป กวาร์ดิโอล่า’

  • Breaking News
  • นักวิชาการ มธ.หนุนมาตรการ เก็บภาษีนำเข้าสินค้าออนไลน์ตั้งแต่บาทแรก สร้างความเป็นธรรม SME ไทย นักวิชาการ มธ.หนุนมาตรการ เก็บภาษีนำเข้าสินค้าออนไลน์ตั้งแต่บาทแรก สร้างความเป็นธรรม SME ไทย
  • ใครสั่งหยุดยิง! ‘ที่ปรึกษา รมว.กลาโหม’เปิดบทสนทนาถาม‘บิ๊กเล็ก’โทร.คุย‘แม่ทัพกุ้ง’หรือไม่ ใครสั่งหยุดยิง! ‘ที่ปรึกษา รมว.กลาโหม’เปิดบทสนทนาถาม‘บิ๊กเล็ก’โทร.คุย‘แม่ทัพกุ้ง’หรือไม่
  • ชื่นชมเยาวชนสร้างชื่อ! \'ธรรมนัส\'มอบ 1 แสน หนุนทีมหมอนทองวิทยา ชื่นชมเยาวชนสร้างชื่อ! 'ธรรมนัส'มอบ 1 แสน หนุนทีมหมอนทองวิทยา
  • จับแล้วไอ้เสือ แก๊งเงินกู้โหด กำปั้นทุบหญิงคนพิการ จับแล้วไอ้เสือ แก๊งเงินกู้โหด กำปั้นทุบหญิงคนพิการ
  • ‘ประธาน กมธ.แก้ รธน.’มั่นใจ 12 พ.ย. องค์ประชุมครบโหวตเคาะ‘กลไกยกร่างฯ’ได้ ‘ประธาน กมธ.แก้ รธน.’มั่นใจ 12 พ.ย. องค์ประชุมครบโหวตเคาะ‘กลไกยกร่างฯ’ได้
ดูทั้งหมด

คอลัมน์ที่เกี่ยวข้อง

‘Dashboard’ อัจฉริยะ ทางรอด ‘เกษตรไทย’…สู้ ‘วิกฤตภูมิอากาศ’

‘Dashboard’ อัจฉริยะ ทางรอด ‘เกษตรไทย’…สู้ ‘วิกฤตภูมิอากาศ’

8 พ.ย. 2568

เปิดประชุมชี้แจง ‘กองทุนบัตรทอง’69’ 6 แนวทางยกระดับ ‘30 บาทรักษาทุกที่’

เปิดประชุมชี้แจง ‘กองทุนบัตรทอง’69’ 6 แนวทางยกระดับ ‘30 บาทรักษาทุกที่’

1 พ.ย. 2568

‘Chiang Mai Marathon 2026’ ส่งเสริมสุขภาพ สร้างสัมพันธ์นิสิต – ศิษย์เก่า - ชุมชน

‘Chiang Mai Marathon 2026’ ส่งเสริมสุขภาพ สร้างสัมพันธ์นิสิต – ศิษย์เก่า - ชุมชน

25 ต.ค. 2568

เปิดประสบการณ์ ‘ฐานการเรียนรู้ทางการแพทย์’ แนะแนวศึกษาต่อสายวิทยาศาสตร์สุขภาพ’69

เปิดประสบการณ์ ‘ฐานการเรียนรู้ทางการแพทย์’ แนะแนวศึกษาต่อสายวิทยาศาสตร์สุขภาพ’69

18 ต.ค. 2568

เสียงจาก ‘ไรเดอร์’ วอนรัฐ ปรับปรุง ‘ระบบ-กฎหมาย’ ก่อนใช้จริง

เสียงจาก ‘ไรเดอร์’ วอนรัฐ ปรับปรุง ‘ระบบ-กฎหมาย’ ก่อนใช้จริง

11 ต.ค. 2568

‘fai-fah Art Fest 2025’ นิทรรศการศิลปะ จุดประกายเยาวชน สร้างสิ่งดีๆคืนสู่สังคมไทย

‘fai-fah Art Fest 2025’ นิทรรศการศิลปะ จุดประกายเยาวชน สร้างสิ่งดีๆคืนสู่สังคมไทย

4 ต.ค. 2568

ชวน ‘บัณฑิต’ จุฬาฯ ฉลอง แชร์ภาพถ่ายขึ้นจอยักษ์กลางสยาม!

ชวน ‘บัณฑิต’ จุฬาฯ ฉลอง แชร์ภาพถ่ายขึ้นจอยักษ์กลางสยาม!

27 ก.ย. 2568

‘ดัชนีสุจริตไทย’..น่าห่วง แนะรัฐใช้ ‘MBI’ มั่นใจไทยขึ้นแท่น ‘นวัตกรรมคุณธรรมฯ’ แห่งแรกของโลก

‘ดัชนีสุจริตไทย’..น่าห่วง แนะรัฐใช้ ‘MBI’ มั่นใจไทยขึ้นแท่น ‘นวัตกรรมคุณธรรมฯ’ แห่งแรกของโลก

20 ก.ย. 2568

Back to Top

ผู้ดูแลเว็บไซต์ www.naewna.com
webmaster นายปรเมษฐ์ ภู่โต
ดูแลรับผิดชอบข่าว/ภาพ/โฆษณา/ข้อมูลอื่นๆที่เกี่ยวข้องกับเว็บไซต์
กรรมการบริษัทฯ, กรรมการผู้มีอำนาจ ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการนำเสนอข่าว/ภาพ/ข้อมูลใดๆในเว็บไซต์ทั้งสิ้น

Social Media

  • หน้าแรก |
  • เกี่ยวกับแนวหน้า |
  • โฆษณากับเรา |
  • ร่วมงานกับเรา |
  • ติดต่อแนวหน้า |
  • นโยบายข้อตกลง
Copyright © 2025 Naewna.com All right reserved