นับวัน ม็อบคณะราษฎร 63 และแนวร่วม ยิ่งกู่ไม่กลับ
ออกทะเลไปไกล
คนที่เคยชื่นชมบางคน เริ่มอายที่จะคอยตามแก้ตัว แก้ต่าง ตามกลบเกลื่อนสร้างภาพให้ดูดีกว่าพฤติกรรมจริง
กรณีที่วิพากษ์วิจารณ์กันมาก คือ ผู้หญิงใส่ชุดนักเรียน แต่งแต้มร่างกาย ซอกคอ ด้วยสีให้ดูเหมือนถูกกระทำทางเพศมา เอาเทปสีดำปิดปากไว้ มือถือกระดาษที่มีข้อความว่า “หนูถูกครูทำอนาจาร รร.ไม่ใช่สถานที่ปลอดภัย”
1. ความจริงปรากฏว่า เธอไม่ใช่เด็กนักเรียน
และรอยที่คอก็ไม่ใช่รอยที่ถูกกระทำจริง แต่เป็นการสร้างภาพ เหมือนที่แนวร่วมม็อบบางกลุ่มเคยเอาน้ำแดงมาราดตัว แล้วบอกว่าถูกทำร้ายร่างกาย เลือดตกยางออก ทั้งๆ ที่ ไม่ได้ถูกกระทำเช่นนั้น
2. ความจริง คือ เธอทำกิจกรรมมาหลายครั้ง โดยเปลี่ยนเสื้อผ้าการแต่งตัวไปตามหัวเรื่องที่จะนำมาแสดง เหมือนนักเล่นละครนักแสดง หรือเป็นนางแบบคอสเพลย์
3. โลกออนไลน์และสื่อได้เผยแพร่ภาพชุดที่เธอแต่งคอสเพลย์ในธีมต่างๆ ส่วนใหญ่ออกแนวเซ็กซี่
ปรากฏว่า นักแสดงแม่ยกของม็อบได้ออกมาบิดเบือนประเด็น หาว่าคนที่ขุดภาพมาเผยแพร่เป็นคนไม่ดี อ้างว่าภาพเหล่านั้นเป็น “รูปส่วนตัว”
นี่เป็นอีกหนึ่งการแก้ตัวที่น่าสังเวชมาก...
ประการแรก ภาพเหล่านั้น ล้วนแต่เป็นภาพเธอจริงๆ แต่งจริงๆ โดยไม่ได้ถูกบังคับ ไม่ได้แอบถ่าย
ประการต่อมา ภาพเหล่านั้นไม่ใช่ภาพส่วนตัว แต่เป็นภาพที่เจ้าตัวตั้งใจเผยแพร่สู่สาธารณะด้วยตนเอง เพราะเผยแพร่อยู่ในแฟนเพจเฟซบุ๊ค “หมวยแมวเมี้ยว” muaymaewmeowww ซึ่งเป็นเพจสาธารณะ ใครก็เข้าไปดูได้ แชร์ได้ โดยความสมัครใจนำเสนอเผยแพร่ของเจ้าตัวเอง ไม่ใช่ภาพส่วนตัวในเฟซบุ๊คส่วนตัว หรือภาพลับเฉพาะที่เจ้าตัวไม่ได้เผยแพร่แต่ประการใด
4. นอกจากนี้ เจ้าตัวยังมีอินสตาแกรม ระบุชื่อ ระบุอาชีพว่าเป็นนางแบบ นักแสดง อินฟลูเอนเซอร์และในอินสตาแกรม ตลอดจนแฟนเพจเฟซบุ๊คของเธอนั้นก็จะมีการโพสต์รูปตนเองในชุดต่างๆ มากมาย เช่น ชุดมัธยมชุดนักเรียนญี่ปุ่น ชุดนักเรียนอินเตอร์ ชุดมหาวิทยาลัย สาวออฟฟิศในแบบเซ็กซี่ ชุดพละแบบเซ็กซี่ ฯลฯ
แฟนแพจ Vaccine ตั้งข้อสังเกตน่าคิดว่าด้วยเรื่อง “เกมดิสเครดิตของเหล่าผู้กำกับ....งานคอสเพลย์ก็มาฯ”
ระบุว่า “..ไม่ใช่นักเรียนนาจา นางเป็นพริตตี้คอสเพลย์ อยากให้นางใส่ชุดอะไรนางใส่หมด....
... แต่มุ้งมิ้งเอานางมาแต่งเป็นชุดนักเรียนมัธยม ถึงขนาดแต่งรอยให้เหมือนโดนลวนลามมา ถือป้าย “หนูถูกครูทำอนาจาร โรงเรียนไม่ใช่สถานที่ปลอดภัย” เพื่อเป็นการแสดงออกทางสัญลักษณ์(ตามเคย) แต่ภาพที่ออกไปต่างชาติเขาก็จะมองเป็นภาพจริง ไม่ใช่สัญลักษณ์ เขาจะเข้าใจว่าเธอคนนี้คือเหยื่อ แต่ความจริงเธอคือนักแสดง
ทั้งหมดนี้ ก็เหมือนการสร้างเฟคนิวส์ หวังผลดิสเครดิตรัฐบาลดิสเครดิต “ครู” ทั้งประเทศ
เราไม่ปฏิเสธว่าเรื่องครูละเมิด ลวนลามนักเรียน มันมีอยู่จริงในสังคมซึ่งไม่มีใครปล่อยผ่านอยู่แล้ว แต่การเอาพริตตี้สายยั่วมาแต่งชุดนักเรียนนี่มันใช่เหรอคะ คุณผู้กำกับเบื้องหลังทั้งหลาย ทีหลังถือป้ายเองนะคะ”
5. เนื้อหาที่เธอนำเสนอ จะอ้างทำนองว่า ถูกทำอนาจารเมื่อ 4-5 ปี
แล้ว สมัยเรียนมัธยมในโรงเรียนแห่งหนึ่ง
ถ้าเธอไม่ใช่แค่นักแสดงรับจ้าง แต่หวังผลในทางประโยชน์สาธารณะจริง ปัจจุบัน เธอโตแล้ว ไม่ใช่เด็กแล้ว กล้าแต่งเนื้อตัวออกมาขนาดนี้แล้ว เธอควรจะให้รายละเอียดกับสังคมมากขึ้น ผู้เกี่ยวข้องจะต้องไปสอบสวนว่าเหตุเกิดที่ไหน โรงเรียนใด ครูผู้ชายคนนั้นเป็นใครมิฉะนั้น มันจะลอยนวล ทำกับคนอื่นต่อไป
หากไม่เช่นนั้น คนในสังคมที่กินข้าว ไม่ใช่กินหญ้า ก็ย่อมมีสิทธิครหาสงสัยในเจตนาที่แท้จริงของเธอ
และถ้าหากเธอให้ข้อมูลเท็จ ทั้งในที่ชุมนุม สื่อมวลชน และสื่อออนไลน์ก็จะเข้าข่ายผิด พ.ร.บ.คอมพ์ โดยเจตนา และหวังผลประโยชน์ตอบแทน สมควรจะถูกจัดการตามกฎหมายอย่างเด็ดขาด เพื่อมิให้เป็นเยี่ยงอย่าง
มิฉะนั้น ต่อไปใครจะแต่งตัวแบบไหน ออกมาโป้ปดมดเท็จอย่างไร ตอหลดตอแหลแค่ไหนก็ได้ อย่างนั้นหรือ?
6. การล่วงละเมิดทางเพศเป็นปัญหาสำคัญ ควรจัดการอย่างจริงจัง ลงโทษเด็ดขาด
แม้แต่ในที่ชุมนุมคณะราษฎร 63 ก็เคยมีการโพสต์แฉว่ามีการคุกคามทางเพศอย่างไร
แม้แต่แกนนำกลุ่มนักเรียนเลวบางคน ก็เคยถูกแฉว่ามีพฤติกรรม Sexual Harassment รุ่นน้องคนหนึ่งอย่างไร กระทั่ง นาย ม. ได้โพสต์คลิปชี้แจง ยอมรับ และขอโทษ
หรือแม้แต่ในกลุ่ม “สมาชิกพรรคโดมปฏิวัติ” (ที่นายเพนกวิน-พริษฐ์ร่วมก่อตั้ง) ยังเคยมีกรณีแฉพฤติกรรมล่วงละเมิดนักศึกษาหญิงของสมาชิกบางคน ถึงขั้นกระทำชำเรา
“...ฝ่ายหญิงตอบโต้ว่า นาย...ขอมีเพศสัมพันธ์แล้วกอดจูบ จับหน้าอกทันทีโดยไม่รอคำตอบ อาจมีบางครั้งที่ยอมแต่ที่ผ่านมาไม่เคยขอ แต่แค่บอก ซึ่งการที่เคยสมยอมไม่ได้แปลว่าครั้งต่อมาจะยินยอมอีกทั้งนาย...บังคับให้ฝ่ายหญิงเสพกัญชาจนขาดสติ หมดแรง ร้องไห้กับพื้นห้อง ก่อนกระทำชำเราอีกรอบ ในสภาพขัดขืนไม่ได้ ที่ผ่านมาเคยเอาเรื่องนี้ไปแจ้งให้ที่พรรค แต่ทางพรรคก็ไม่ได้มีการเคลื่อนไหวอย่างจริงจัง อ้างว่าเป็นเรื่องส่วนตัว เมื่อย้ำว่า เป็นการข่มขืนและยาเสพติด ก็อ้างว่าตอนนี้เขาก็ยังไม่ได้ทำอะไร แต่ถ้ามาคุกคามจะดำเนินการให้...”
ร้ายไม่แพ้กัน แม้กระทั่งหัวหน้าพรรคการเมืองที่ชอบสร้างภาพว่าหัวก้าวหน้า ก็ยังเคยมีพฤติกรรมทำร้ายเมีย ข่มขู่คุกคามเมีย ราวกับเมียเป็นสัตว์เลี้ยงที่ตนจะสั่งการกำหนดชีวิตยังไงก็ได้
ทั้งหมด สะท้อนถึงว่า ปัญหานี้มีอยู่จริง
แต่นั่นไม่ใช่คำแก้ตัวว่า จะจัดหาใครมาแต่งตัวคอสเพลย์ แต่งหน้าทาสีตามเนื้อตัว เพื่อ “แสดง” อย่างไรก็ได้ โดยไม่คำนึงถึงความจริงเพียงเพราะหวังผลทางการเมืองในการขับไล่รัฐบาล
สารส้ม
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี