วันพฤหัสบดี ที่ 13 พฤศจิกายน พ.ศ. 2568
.jpg)
มุมมองและจุดยืนของผู้เคยเข้าร่วมชุมนุมกับคณะราษฎร 63
เขาชื่อ “อัมรินทร์ ยี่เฮง”
ในเฟซบุ๊คของเขา เคยโพสต์ภาพการเข้าร่วมชุมนุม ภาพถ่ายกับคนดังที่เข้าร่วมชุมนุม รวมไปถึงโพสต์แสดงความคิดเห็นทางการเมือง เช่น ด่าสลิ่ม ด่ารัฐบาล ด่านักการเมืองฝ่ายรัฐบาล ฯลฯ
ล่าสุด ได้โพสต์เรื่อง “ #ขอยุติการเข้าร่วมชุมนุมกับคณะราษฎร”
เขาแจกจงเหตุผลประกอบไว้อย่างน่าสนใจ ระบุว่า
“...การชุมนุม ทางการเมือง ที่คุณตั้งเป้าหมายไว้ 3 อย่าง 1.ประยุทธ์ลาออก 2. แก้ไขรัฐธรรมนูญใหม่ 3. ปฏิรูปสถาบัน กับสิ่งที่คุณขับเคลื่อนมาเป็นเวลาหลายเดือนแล้ว เป็น 3 ข้อเรียกร้องก็ชัดเจน ก็เป็นเรื่องดี ถึงแม้ว่า จะมีบางกลุ่มไม่เห็นด้วยก็ตาม
ผมไม่รู้หรอกว่า สิ่งที่พวกคุณทำอยู่ จะจบลงแบบไหน แน่นอนสิทธิเสรีภาพ ย่อมเป็นของประชาชนทุกคน และผมก็ยังเชื่อว่า เจตนารมณ์ ที่มีเบื้องหลังนั้น ย่อมทำให้ความบริสุทธิ์ของการชุมนุมหมดความชอบธรรม
คุณอ้างความเชื่อของคุณ แต่ในคณะที่คนอีกฝั่งก็มีความเชื่อที่ตรงข้ามกับความเชื่อของคุณ และในความเชื่อ นั้นเป็นสิ่งที่เคารพเทิดทูน และศรัทธาเป็นที่รัก วันนี้สิ่งที่พวกคุณทำจะเป็นความกล้า แต่ไม่สามารถจะทำลายพลังแห่งความศรัทธาได้ เพราะพื้นฐานของคุณมาจากนักการเมืองที่อยู่เบื้องหลัง จึงไม่สามารถล้มความศรัทธาและความศักดิ์สิทธิ์ รวมไปถึงความจงรักภักดีนั้นได้
สำหรับผมแล้ว ผมเคารพสิทธิเสรีภาพของคนที่อาจจะเห็นต่าง แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นก็ต้องปราศจากความรุนแรง รวมถึงไม่ไปคุกคามผู้อื่นด้วย แต่ที่ผ่านมา ผมได้เข้าร่วมการชุมนุมและ ก็พยายามอดทนกับถ้อยคำจาบจ้วง และพยายามเดินหนี และมองโลกให้เป็นบวก และร่วมชุมนุมต่อไป แต่ความอดทนมันก็มีขีดจำกัด เพราะสิ่งที่คุณทำกับผู้ร่วมชุมนุมบางคนบางกลุ่มมีท่าทีสวนทางและขัดแย้งกับหลักการของคุณที่เรียกร้อง
สิ่งที่ผมรับไม่ได้ คือ การเหมารวมวิพากษ์วิจารณ์ครอบครัว ของบุคคลที่เคารพรักและศรัทธาของประชาชนซึ่งเป็นแม่ที่นอนป่วยอยู่ด้วยถ้อยคำที่รุนแรงจาบจ้วง จนเกินกว่าคำว่าปฏิรูป
ยิ่งการชุมนุมของพวกคุณ ยิ่งนานวันยิ่งทำให้เห็นว่า ประชาธิปไตยมันหายไป หรือหลักการที่คุณตั้งไว้ หรือเป้าหมายที่คุณตั้งไว้มันหายไป เกิดจากความแค้นที่มาจากการกระทำของเจ้าหน้าที่รัฐ ซึ่งก็เป็นไปตามคำสั่งของผู้บังคับบัญชาเพื่อไม่ให้มีเหตุการณ์วุ่นวาย สุดท้ายก็มีการปะทะ จากความเชื่อของกลุ่มคนทั้งสองฝั่ง เลยทำให้การชุมนุมความเคลื่อนไหวต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นการเคลื่อนไปที่สำนักงานตำรวจแห่งชาตินั้น แสดงให้เห็นว่า คุณลืมเป้าหมาย คุณลืมหลักการ
สิ่งที่ทำนั้นเป็นความแค้น ทั้งๆ ที่ คุณก็รู้อยู่แก่ใจว่าตำรวจก็ทำตามหน้าที่ซึ่งเป็นคำสั่ง จากผู้บังคับบัญชา โดยคุณมองว่า ฝั่งของพวกคุณนั้นมีผู้บาดเจ็บจากการปะทะจากการป้องกันของเจ้าหน้าที่ ทั้งๆที่ มันต้องเป็นความรับผิดชอบของพวกคุณเองต่างหาก ที่ต้องควบคุมอารมณ์ของมวลชนไม่ได้คุณเอาแต่โทษฝั่งตรงข้ามและการกระทำของเจ้าหน้าที่ตำรวจ โดยคุณไม่สนใจความเชื่อของคนอื่นที่มีความศรัทธาความจงรักภักดีอยู่
คุณศรัทธาความเชื่อของคุณเอง ว่าพวกคุณจะนำพาประเทศชาติ ไปสู่ความเจริญก้าวหน้า จนกลายเป็นคำว่าทำลายและทำร้าย และความแค้น
สิ่งพวกนี้หรืออยู่ในหลักการของพวกคุณ 3 ข้อที่คุณเรียกร้องเป้าหมายของคุณคืออะไร
วันนี้ คุณทำลายทรัพย์สินที่เป็นเงินภาษีของประชาชน และในขณะเดียวกันคุณเองก็อ้างว่าเจ้าหน้าที่รัฐก็ใช้เงินภาษีมาทำร้ายพวกคุณ ซึ่งก็เป็นมูลค่า 100 กว่าล้าน ซึ่งก็เป็นคดีอาญา และแน่นอนการบังคับใช้กฎหมายย่อมมีแน่นอนตัวคุณเองก็รู้ดี เพราะสุดท้าย สิ่งที่พวกคุณทำ คุณก็หวังที่จะนิรโทษกรรมตัวเองเช่นกันเพื่อให้พ้นความผิด ก็ไม่แตกต่างอะไรเลยจากการรัฐประหาร เพียงแต่ต่างกันตรงที่ความเป็นประชาชนที่ไม่มีอาวุธก็เท่านั้นเอง
การชุมนุมทางการเมือง การแสดงสิทธิเสรีภาพทางการเมือง เป็นสิ่งที่สวยงามเสมอ ประชาธิปไตยต้องมีความเท่าเทียมกันในทุกภาคส่วน
เอกภาพ เสรีภาพ ภราดรภาพ เป็นสิ่งที่ทุกคนต้องการ คุณเองก็ต้องเคารพในสิทธิเสรีภาพของคนอื่นด้วย
ถ้าสิ่งที่คุณทำอยู่ในวันนี้ ลืมเป้าหมาย ลืมหลักการ คิดว่าสิ่งที่ตนเองทำนั้นถูกต้อง คุณก็ทำไป แต่คุณจะไม่สามารถสร้างศรัทธาให้คนอีกฝั่งนึงได้เลย เพราะคุณไปทำลายความเชื่อความศรัทธาของคนอื่น แล้วที่สำคัญ กระบวนการกฎหมายมันจะหมดความศักดิ์สิทธิ์ไปในทันทีหากคุณร้องขอนิรโทษกรรม เพราะนับจากนี้ไป กระบวนการทางกฎหมายจะทำหน้าที่ของมันเอง
ขอบคุณ ที่ผ่านมา ผมเคยเข้าร่วมชุมนุมกับกลุ่มของพวกคุณคณะราษฎรและได้เห็นได้ยินทุกๆ อย่าง แต่ก็พยายามอดทนเดินหนี กับถ้อยคำร้ายๆจาบจ้วงสถาบัน เพราะสิ่งที่พวกคุณทำ ก็เพียงข้อความแค้นและสนองความต้องการของตัวพวกคุณเอง และ คนที่อยู่เบื้องหลังเท่านั้นเอง
ประชาธิปไตยเสรีภาพต้องไม่ไปทำลายความเชื่อของคนอื่นด้วย
ด้วยจิตคารวะ
อัมรินทร์ยี่เฮง
22/11/63
#ขอยุติการเข้าร่วมชุมนุมกับคณะราษฎร”
1. นี่เป็นหนึ่งในหลายกรณีบุคคลที่เคยเข้าร่วมชุมนุม แต่ได้ฉุกคิด ทบทวนขบวนการของม็อบที่เคลื่อนไหวไปเลยเถิด ออกทะเลไปไกลเหลือเกิน
และนับวันยิ่งดูจะไม่จริงใจกับประชาชนที่เข้าร่วมชุมนุมมาตั้งแต่แต่ต้น
ในที่สุด จึงตัดสินใจยุติการร่วมชุมนุมกับคณะราษฎร 63
2. ล่าสุด ม็อบคณะราษฎร 63 ก็ไหลไปรวมกับม็อบเสื้อแดงอย่างเปิดเผย โดยไม่อายอีกต่อไป
เชื่อว่า จะมีคนรุ่นใหม่อีกจำนวนมากที่ได้รู้แจ้งเห็นจริง ประจักษ์แก่ตนเองแล้วว่า สุดท้าย ข้ออ้างที่สวยหรูทั้งหลายนั้น ก็แค่คำโกหกหลอกลวงให้ออกมาร่วมชุมนุมเป็นต้นทุน เป็นเหมือนบันไดรองตีนให้กับขบวนการชุมนุมทางอำนาจล้างแค้นของเสื้อแดงเจ้าเก่า
3. ขอเชิญชวนคนหนุ่มสาว ปัญญาชนผู้บริสุทธิ์ใจ จง “ปลดแอก” ด้วยการยุติการร่วมชุมนุมกับคณะราษฎร และคณะเสื้อแดง ที่สุดท้าย ก็เพียงแค่หวังช่วงชิงอำนาจรัฐให้แก่พรรคการเมืองพวกพ้องของตนเอง เพื่อผลประโยชน์ของนักการเมืองและพรรคการเมือง เท่านั้นเอง
สารส้ม

‘อดีตเสธ.ทหาร’เผยรู้แหล่งผลิต PMN-2 แต่ไปไม่ถึงหลักฐาน เชื่อลุยถึงคลังเก็บมัดเขมรได้แน่
สัมผัสหนาวแรก! 'ห้วยน้ำดัง'15องศา ทะเลหมอกขาวนวลตัดกับเทือกเขา'ดอยหลวงเชียงดาว'
ทองคำพุ่งแรง! ปรับเพิ่ม 900 บาท ราคาทองรูปพรรณ 65,100 บาท
'ชัชชาติ'เผย'ฝนถล่มกรุง'ทำท่วมขังหลายจุด ยันไม่เกี่ยวน้ำเจ้าพระยา เร่งระบายเช้านี้แห้งปกติแล้ว
‘จุดชมวิวดอยกิ่วลม ห้วยน้ำดัง’อากาศเย็นสบาย นักท่องเที่ยวแห่ชมทะเลหมอก

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี