ขณะนี้ ข่าวการปลูกกัญชา ขายกัญชา และนำกัญชาไปต่อยอดทำอาหาร กำลังได้รับความสนใจจากประชาชน
เกษตรกร และผู้ประกอบการแขนงต่างๆ สนใจมาก
หลายคน หลงคิดไปว่า กัญชาเสรีแล้ว!!
จะสามารถปลูกไว้ตามบ้านเหมือนผักสวนครัวรั้วกินได้ หรือจะไปซื้อหามากินมาใช้ก็ตามอำเภอใจ
นั่นเป็นความเข้าใจผิด
เสี่ยงคุกเสียงตะราง
1. สถานะของกัญชาในปัจจุบัน
ภายหลังกระทรวงสาธารณสุข ออกประกาศ เมื่อวันที่ 15 ธ.ค. 2563 กำหนดให้ส่วนของพืชกัญชาและกัญชง เฉพาะที่ A ได้รับอนุญาตให้ปลูก ผลิต หรือสกัดในประเทศไทย ไม่จัดเป็นยาเสพติดให้โทษนั้น
สถานะปัจจุบัน คือ การปลูกกัญชาสามารถทำได้ แต่ต้องปฏิบัติตามกฎหมายและระเบียบของหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
การปลูก สกัด และผลิต จะต้องขออนุญาตจาก อย. ตาม พ.ร.บ.ยาเสพติด ฉบับที่ 7
กำหนดให้ผู้ที่จะขออนุญาตต้องเป็นหน่วยงานรัฐสถาบันอุดมศึกษา วิสาหกิจชุมชน สหกรณ์ผู้ประกอบวิชาชีพแพทย์ เภสัชกร แพทย์แผนไทย
สำหรับกลุ่มวิสาหกิจชุมชน สหกรณ์ จะต้องร่วมกับหน่วยงานรัฐเพื่อขออนุญาต ซึ่งการยื่นคำขออนุญาตปลูกนั้น สามารถยื่น ณ สถานที่ปลูกตั้งอยู่ (หากอยู่ที่กรุงเทพฯ ให้ยื่นที่ อย. หากอยู่ต่างจังหวัดให้ยื่นที่สำนักงานสาธารณสุขจังหวัด)
ไม่ใช่นึกอยากจะปลูก ก็หามาปลูกเองเลย
2. ที่เห็นโรงเรือนปลูกกัญชาด้านบนนั้น เป็นโรงเรือนกัญชาของ วิสาหกิจชุมชน ท่าบุญมี ประชาร่วมใจ อยู่ที่ตลาดเกาะโพธิ์ ต.ท่าบุญมี อ.เกาะจันทร์ จ.ชลบุรี ได้รับอนุญาตตามขั้น ถูกต้องตามกฎหมาย
ระบุข้อมูลในแฟนเพจว่า “วิสาหกิจชุมชน ท่าบุญมีประชาร่วมใจ เป็นเอกชนแห่งแรกของจังหวัดชลบุรีที่ได้รับอนุญาตปลูกกัญชา เมื่อปี 2563 ครับ ดังนั้น ท่านๆไม่ต้องกลัว เพราะกัญชา ที่ปลูกที่นี่คือ ถูกกฎหมายครับ เรามีใบอนุญาตปลูก และครอบครองโดยถูกต้องครับ ขอบคุณครับ”
ยืนยันว่า ไม่มีการขายปลีก หรือขายต้นกล้ากัญชา เพราะผิดกฎหมาย “กัญชา ที่ปลูกนี้ เมล็ด เราได้มาจากกรม และจะต้องขายส่งคืนช่อดอก กลับไปยังกรมครับ ไม่มีสิทธิ์ที่จะจำหน่ายให้กับใครทั้งสิ้น”
แต่มีกิจกรรมเสริม คือ ขายดินปลูกกัญชาจัดอบรมการบรรยายเรื่องการปลูกกัญชา และการขออนุญาตปลูกกัญชา อย่างถูกกฎหมาย
ขณะนี้ มีวิสาหกิจชุมชนที่ดำเนินการลักษณะหลายสิบแห่งทั่วประเทศ
3. นางสาวไตรศุลี ไตรสรณกุล รองโฆษกรัฐบาล ยืนยันว่า
“ประชาชนมีสิทธิ์ปลูกกัญชาได้ผ่านการรวมตัวเป็นวิสาหกิจชุมชนและร่วมมือกับหน่วยงานรัฐ เช่นร่วมกับ โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล(รพ.สต.)เพื่อขออนุญาตปลูกกัญชาโดยมีจุดประสงค์เพื่อใช้ในทางการแพทย์
เวลานี้ หน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้ผลักดันให้เริ่มความร่วมมือรูปแบบนี้แล้ว ใน 46 จังหวัด
ครอบคลุมประชาชนประมาณ 2,500 ครัวเรือน
รพ.สต. 251 แห่ง
ปลูกกัญชาไปแล้ว 15,000 ต้น
รัฐบาลคาดหวังว่า ตั้งแต่นี้ไปทั้งกัญชาและกัญชงจะเป็นอีกหนึ่งพืชเศรษฐกิจหลัก ที่เป็นทางเลือกการสร้างรายได้และสร้างชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นให้กับเกษตรกร และเป็นพื้นฐานสำคัญของการผลิตสินค้าที่เป็นนวัตกรรมใหม่ๆ ในอนาคต” น.ส.ไตรศุลี กล่าว
น.ส.ไตรศุลี ยังระบุด้วยว่า ปัจจุบัน ส่วนของกัญชาและกัญชงที่ไม่จัดเป็นยาเสพติด ซึ่งสามารถนำมาใช้ประโยชน์ได้นั้น ได้แก่ เปลือก ลำต้น เส้นใย กิ่งก้าน และราก ใบซึ่งไม่มียอดหรือช่อดอกติดมาด้วย สารสกัดที่มีสารแคนนาบิไดออล (CBD) เป็นส่วนประกอบ และมีสารเตตราไฮโดรแคนนาบินอล (THC) ไม่เกิน 0.2% โดยน้ำหนัก เมล็ดกัญชง น้ำมันจากเมล็ดกัญชง หรือสารสกัดจากเมล็ดกัญชง ซึ่งแต่ละส่วนสามารถใช้ประโยชน์ทั้งทางการแพทย์ เช่น ใช้ในตำรับยาแผนไทย ผลิตภัณฑ์สมุนไพร อุตสาหกรรมยา อาหาร เครื่องสำอาง ตลอดจนเป็นเส้นใยใช้ในอุตสาหกรรมสิ่งทอ
ประการสำคัญ ผู้สามารถใช้ประโยชน์นั้น สามารถนำส่วนของกัญชา และกัญชงไปใช้เป็นวัตถุดิบในการผลิตผลิตภัณฑ์ต่างๆ นำไปประกอบอาหารในครัวเรือน หรือประกอบอาหารและเครื่องดื่มเพื่อขายในร้านอาหารก็ได้ แต่ต้องเป็นผลผลิตจากผู้ที่ได้รับอนุญาตปลูกที่ถูกต้องตามกฎหมาย สามารถระบุที่มาของส่วนกัญชาหรือกัญชง
4. อย่าลืม กัญชายังไม่สามารถดูดจากบ้องได้ หรือจะนำเข้า จะปลูก ก็จะต้องเป็นไปตามเงื่อนไข
ผู้สนใจ อย่าก้าวถลำไปไกลกว่ากรอบของกฎหมายมิฉะนั้น อาจจะต้องไปอ่านหนังสือเพิ่มเติมอยู่ในคุก
สารส้ม
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี