การเปิดเผยข่าวเรื่องการติดสินบนแก่อดีตผู้พิพากษาศาลฎีกาและผู้พิพากษาศาลฎีกาเพื่อล้มคดีภาษีอากรของบริษัทโตโยต้าประเทศไทยได้เป็นข่าวโด่งดังกึกก้องระดับโลกในเวลาอันรวดเร็วและก่อผลกระทบเชิงลบให้แก่กระบวนการยุติธรรม โดยเฉพาะสถาบันศาลยุติธรรมอย่างรุนแรง
เป็นเรื่องที่ผู้มีหน้าที่เกี่ยวข้องทั้งหลายจะดูเบาเรื่องนี้ไม่ได้ จะปล่อยให้เรื่องเงียบไปตามสายลมก็ไม่ได้ จะแกล้งถ่วงเวลาให้ผู้คนลืมเลือนก็คงไม่สำเร็จ และยิ่งช้านานไปเท่าใดความเสื่อมเศร้าหมองก็จะบังเกิดแก่สถาบันตุลาการมากขึ้นเท่านั้น
เพราะเรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องที่เกิดขึ้นแบบเรื่องเล่าข่าวลือ แต่เป็นเรื่องที่มีชาติมหาอำนาจเข้าเกี่ยวข้อง โดยมีทั้งประเทศมหาอำนาจทางการทหารของโลกและมหาอำนาจทางเศรษฐกิจของโลกด้วยการเปิดเผยเรื่องนี้ขึ้นในต่างประเทศในสถานการณ์ที่มีความขัดแย้งอย่างรุนแรงในประเทศไทยนั้นเป็นเรื่องที่แยกไม่ออกกับการบ่อนทำลายสถาบันพระมหากษัตริย์ โดยตีกระทบคราดผ่านสถาบันตุลาการซึ่งกระทำการในพระปรมาภิไธยพระมหากษัตริย์ด้วย
เรื่องแบบนี้ไม่ใช่เพิ่งเกิดขึ้นเป็นครั้งแรกในประเทศไทย แต่เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นมาก่อนแล้วในหลายประเทศ แม้กระทั่งประเทศจีนก็ถูกเปิดข่าวในลักษณะนี้และเป็นเหตุให้ผู้นำระดับสูงของจีนถูกอายัดทรัพย์ในต่างประเทศ จนกระทั่งทำให้ประเทศจีนต้องสืบหาต้นตอของเรื่องราวและได้พบความเชื่อมโยงของสำนักงานกฎหมายยักษ์ใหญ่ต่างประเทศและสำนักงานตรวจสอบบัญชียักษ์ใหญ่ต่างประเทศที่มีความเชื่อมโยงกับหน่วยงานราชการลับของมหาอำนาจ
ดังนั้นถึงจะปกปิดมิบเม้มประการใดในที่สุดก็จะถูกกระชากหรือแฉโพยมากขึ้นเท่านั้น มีแต่จะเสื่อมเสียมากขึ้นเท่านั้น และในประเทศไทยเรื่องแบบนี้ก็เคยเกิดขึ้นมาแล้ว จนเป็นเหตุให้อดีตผู้ว่ารัฐวิสาหกิจแห่งหนึ่งพร้อมลูกสาวต้องถูกจำคุกหลายสิบปี
ดังนั้นเมื่อกรณีเป็นเช่นนี้จึงแทนที่จะยอมให้ประเทศไทยเป็นฝ่ายถูกกระทำ หรือปล่อยให้สถาบันตุลาการถูกเหยียบย่ำทำลายด้วยเจตนาร้าย จึงเป็นเรื่องที่ผู้มีอำนาจหน้าที่ควรต้องถือเป็นภารกิจสำคัญในการชำระสะสางปัญหาเพื่อไม่ให้ความเศร้าหมองดำรงอยู่หรือค้างคาในสายตาชาวโลกและคนไทยอีกต่อไป
ตามรายงานข่าวปรากฏว่ามีการตรวจสอบหลักฐานทางบัญชีการเงินของบริษัทโตโยต้าสำนักงานใหญ่ที่ญี่ปุ่น และพบว่าบริษัทโตโยต้าประเทศไทยซึ่งเป็นบริษัทลูกของบริษัทโตโยต้าในประเทศญี่ปุ่น ซึ่งถูกประเมินภาษีจากหน่วยงานของประเทศไทยเป็นหนี้ค่าภาษีกว่าหมื่นล้านบาท
กรณีดังกล่าวได้เป็นที่มาของข่าวการตรวจสอบพบหลักฐานทางการเงินที่มีการตรวจสอบบริษัทโตโยต้าสำนักงานใหญ่ ซึ่งมีงบการเงินและเอกสารหลักฐานทางการเงินของบริษัทโตโยต้าในประเทศไทยอยู่ด้วย ผลการตรวจสอบจึงพบว่ามีการจ่ายเงินสินบนให้แก่อดีตผู้พิพากษาและผู้พิพากษาเพื่อให้พลิกคดีภาษีดังกล่าวให้บริษัทโตโยต้าประเทศไทยชนะคดีนั้นเป็นมูลค่าภาษีกว่าหมื่นล้านบาท
เมื่อหน่วยงานด้านการข่าวกรองของสหรัฐทราบเรื่องนี้จึงต้องดำเนินการตามกฎหมายของสหรัฐซึ่งมีบทบัญญัติว่าบริษัทใดๆ ในโลกนี้ถ้าหากมีสาขาหรือดำเนินธุรกิจกับสหรัฐก็จะอยู่ภายใต้บังคับของกฎหมายสหรัฐที่ต้องห้ามมิให้จ่ายเงินสินบนแก่เจ้าหน้าที่ประเทศต่างๆ หากมีการกระทำก็ถือว่ากระทำผิดตามกฎหมายเกี่ยวกับการปราบปรามคอร์รัปชั่นของสหรัฐด้วย
ดังนั้นเมื่อบริษัทโตโยต้าสำนักงานใหญ่ที่ญี่ปุ่นมีหน่วยงานประกอบธุรกิจในสหรัฐ สหรัฐจึงขยายขอบเขตของกฎหมายให้ครอบคลุมถึงญี่ปุ่นและประเทศไทยด้วย เมื่อพบว่ามีการจ่ายเงินสินบนจึงมีการแจ้งต่อรัฐบาลญี่ปุ่นให้ดำเนินคดีเรื่องนี้
และยังไม่ปรากฏข่าวที่ชัดเจนว่าได้มีการแจ้งต่อรัฐบาลไทยให้ดำเนินคดีกับผู้ที่ต้องรับผิดชอบในเรื่องนี้แล้วหรือไม่
แต่ข่าวปรากฏขึ้นจากรายงานข่าวของบริษัทโตโยต้าสำนักงานใหญ่ที่ญี่ปุ่นว่ามีการตรวจสอบเรื่องราวดังกล่าวที่มีการจ่ายสินบนในประเทศไทย
แม้เป็นข่าวเพียงเท่านี้ จะจริงหรือไม่จริงยังไม่มีข้อสรุปชัดเจน แต่ข่าวเพียงแค่นี้ก็ได้สร้างผลกระทบหรือความเสื่อมเสียแก่สถาบันศาลยุติธรรมของประเทศไทยอย่างรุนแรง และยิ่งในสถานการณ์ความขัดแย้งที่ดำรงอยู่ในปัจจุบันนี้จึงมีผู้ไม่หวังดีนำเรื่องนี้ไปขยายผลจนเกินเลย
กระทั่งขยายผลถึงขนาดว่ามีองค์กรลับเพื่อค้าความยุติธรรมรับวิ่งเต้นคดีให้แก่องค์กรธุรกิจเอกชนรายใหญ่หลายแห่ง ทำให้ผลของคดีไม่เป็นไปตามบทบัญญัติแห่งกฎหมายและความยุติธรรม
ที่ว่าเป็นองค์กรลับนั้นก็เพราะมีขบวนการที่เชื่อมโยงของหลายฝ่าย โดยเฉพาะนักกฎหมายที่มีบทบาทสำคัญในวงการอำนาจของประเทศไทย รวมทั้ง
บริษัทกฎหมายต่างชาติที่ตั้งตนเป็นล็อบบี้ยิสต์ในประเทศไทยและกลุ่มคนในวงการอำนาจหลายองค์กร ซึ่งถ้าข่าวนี้เป็นจริงก็เป็นเรื่องน่าตกตะลึงพรึงเพริดว่าในยุคสมัยที่รัฐบาลประกาศว่าจะเป็นยุคของการปราบโกงนั้น ไฉนการโกงจึงหยั่งรากลึกถึงขนาดนี้โดยที่ไม่เคยปรากฏมาก่อนในประวัติศาสตร์ของชาติ
ภายใต้สถานการณ์เช่นนี้ผู้มีอำนาจหน้าที่ที่เกี่ยวข้องจึงต้องรีบชำระสะสางระงับดับอธิกรณ์เรื่องนี้ให้เสร็จสิ้นโดยเร็วที่สุด อย่าให้ความเสื่อมเศร้าหมองขยายตัวไปมากกว่านี้ เพราะจะกระทบกระเทือนไปถึงองค์กรและสถาบันต่างๆ อีกมากมาย
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี