กูรูทางการเมืองจำนวนไม่ใช่น้อยต่างออกมาวิเคราะห์อย่างกระหน่ำว่า สิ่งที่คาวบอยชักปืนไว “กลัวที่สุด” ในขณะนี้ คือกลัวประเทศจีนจะกลายเป็น “มหาอำนาจอันดับ 1 ของโลก” แทนตนเอง และยังกลัวจีนจะจับมือกับรัสเซียอย่างแนบแน่น จนมีอิทธิพลกับชาติอื่นๆ ทั่วโลก จนทำให้ฐานะ “พี่ใหญ่” ของอินทรีหัวขาวกลายเป็น “ผู้ร้าย” ในสายตาประเทศต่างๆ
ดังนั้น “ผู้นำอินทรีหัวขาวที่มาจากทั้งสองพรรค” ต่างจึงมีเป้าหมายเดียวกันคือ “เตะตัดขาจีน” และ “โหลดเตี้ยรัสเซีย” ในทุกๆ ด้าน ชนิด “พลิกตำราทุกเล่มมาเล่นงานอย่างเข้มข้น”
ในยุค “ผู้เฒ่าทรัมป์” เป็นผู้นำอินทรีหัวขาว จิวแป๊ะทงต่อต้านจีนแบบ “ลูกทุ่ง” หรือแบบ “คาวบอยอารมณ์ฉุนเฉียว” เช่น ทำสงครามการค้า และสร้างกระแสให้คนมะริกันเกลียดชังจีน เช่น เรียกโควิด-19 เป็น “ไชนีสไวรัส” เป็นต้น
ครั้นมาถึงยุค “เฒ่าโจ สายเหยี่ยว” ผู้นำอินทรีหัวขาวรายนี้ก็ทำการต่อต้านจีนและเตะตัดขาจีนแบบ “สับขาหลอกด้วยเล่ห์กล” บวกใช้ “ลัทธิบ่างช่างยุ” ให้เกิดกบฏในประเทศของสูเจ้า ด้วยการขุดคุ้ยประวัติศาสตร์ของชนกลุ่มน้อยในประเทศนี้ ให้ “ชังชาติตนเอง” แล้วออกมา “ต่อต้านรัฐบาลทุกรูปแบบ”
แท้จริง การเป็น “บ่างช่างยุ” ของ “คนผิวเผือก” นั้น มีมายาวนานนับพันปี จนสร้างความแตกแยกในประเทศต่างๆ แล้วพวกตนก็ฉวยโอกาสเข้าไล่ล่าเป็นเมืองขึ้น
“คนผิวเผือก” ประจักษ์ความจริงมายาวนานว่า “ลัทธิบ่างช่างยุ” ได้ทำให้พวกตนเป็น “มหาอำนาจที่ยิ่งใหญ่” สามารถไล่ล่าเมืองขึ้นได้ง่ายๆ อย่าง “หวานคอแร้ง” ทำให้ชาวผิวเผือก “บูชาลัทธิบ่างช่างยุยิ่งกว่าพระเจ้า”
จึงไม่น่าประหลาดใจ วันนี้คนผิวเผือกแตะมือกันสกัดจีนด้วยการ “ยุชาวทิเบตและชาวอุยกูร์” ให้ต่อต้านและเกลียดชังจีนล่าสุดก็ยังเป็น “บ่างช่างยุ” ให้ชาวมองโกลในจีนลุกขึ้นมาก่อกบฏ
ส่วนที่ฮ่องกงและไต้หวัน “คนผิวเผือก” ได้สร้าง “ตุ๊กตาประชาธิปไตย” ขึ้นมาเป็น “ขนมหวานเคลือบไส้ยาพิษ” มาหลอกล่อ
อีหรอบเดียวกับที่เกิดขึ้นในประเทศไทย “อาจมและอาเจียน” บางรายในมหา’ลัย ก็กลายเป็นเครื่องมือให้อั้งม้อขยาย “ลัทธิบ่างช่างยุ”ได้อย่างสุดมัน จนเกิด “ม็อบมนุษย์สามนิ้ว” ออกมาต่อต้านสถาบัน และยุให้คนเชียงใหม่ตื่นตกใจว่า “ตนไม่ใช่คนไทย”
เหยื่อรายต่อไปที่อั้งม้อจะใช้ “ลัทธิบ่างช่างยุ” เข้าจัดการคือ “พม่า” ที่มีกลุ่มชาติพันธุ์ต่างๆ มากมาย อั้งม้อมีเป้าหมายให้เกิดสงครามกลางเมือง เพื่อสกัดจีนไม่ให้มีทางออกสู่มหาสมุทรอินเดีย
บาปกรรมที่ “เจ้าลัทธิบ่างช่างยุ” ทำไว้กับประเทศต่างๆ ทั่วโลกนั้นมีมากมายเกินกว่านับ
น่าเชื่อว่า วันหนึ่ง “จะต้องรับกรรมที่ตนได้ก่อ”
กมลศักดิ์ ตั้งธรรมนิยม
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี