วันอาทิตย์ ที่ 9 พฤศจิกายน พ.ศ. 2568
รายงานความเสี่ยงทางการคลังประจำปีงบประมาณ 2563ที่กระทรวงการคลังเสนอในคณะรัฐมนตรีรับทราบเมื่อเร็วๆ นี้ ได้ระบุถึงประเด็นหนึ่งที่น่าสนใจเกี่ยวกับการจ่ายเบี้ยยังชีพให้ผู้สูงอายุจากกองทุนผู้สูงอายุที่เชื่อมโยงกับความเสี่ยงด้านรายได้ที่อาจมีผลทำให้รายได้ของกองทุนผู้สูงอายุมีงบประมาณไม่เพียงพออีกต่อไป
กระทรวงการคลังระบุว่าการจัดเก็บภาษียาสูบและรายได้นำส่งคลังของโรงงานยาสูบมีแนวโน้มลดลงอย่างต่อเนื่องจากโครงสร้างตลาดและพฤติกรรมผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงไป ดังนั้น การเก็บภาษีเพื่อการเฉพาะ (Earmark) เพื่อไปใช้อุดหนุนกองทุนต่างๆ ที่เก็บจากสินค้ายาสูบก็อาจะมีแนวโน้มลดลงตามไปด้วย ในขณะที่เสนอให้รัฐบาลติดตามและประเมินสถานการณ์การบริโภคยาสูบประกอบการพิจารณาปรับเพิ่มอัตราภาษีและการจัดทำประมาณการรายได้รัฐบาล รวมทั้งเพิ่มความเข้มงวดในการตรวจจับการบริโภคยาสูบที่ผิดกฎหมายนั้น
การลดลงของรายได้ภาษียาสูบได้ส่งผลให้เกิดความเสี่ยงทางการคลังอีกประเภทที่กระทรวงการคลังเสนอให้ติดตาม ได้แก่ การชะลอจ่ายเงินสงเคราะห์เพื่อการยังชีพให้แก่ผู้มีรายได้น้อยของกองทุนผู้สูงอายุเนื่องจากจำนวนผู้สูงอายุที่เข้าข่ายได้รับการช่วยเหลือมีจำนวนเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้กองทุนผู้สูงอายุที่มีแหล่งเงินหลักมาจากภาษีสุราและยาสูบไม่เพียงพอ
นับเป็นโอกาสที่รัฐจะได้กลับมาทบทวนนโยบายและกลไกในการจ่ายเบี้ยยังชีพให้ผู้สูงอายุเสียใหม่ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการจัดสรรงบประมาณจากเงินงบประมาณแผ่นดินโดยตรงว่าจะมีความเหมาะสมมากกว่าการผูกเงินผู้สูงอายุไว้กับสินค้ายาสูบและสุราเท่านั้นหรือไม่ เพราะเราต้องรณรงค์ให้มีการลดการบริโภคสุราและยาสูบให้น้อยลงที่สุด นั่นหมายถึงรายได้ภาษีที่ต้องน้อยลงไปตามสัดส่วนหรือไม่เพิ่มขึ้นมากกว่าที่มีอยู่สวนทางกับจำนวนผู้สูงอายุที่เพิ่มขึ้นตามสังคมสูงวัย
รายงานสถานการณ์ผู้สูงอายุไทย พ.ศ. 2562 ได้มีข้อเสนอแนะหนึ่งต่อคณะรัฐมนตรีว่า ควรทบทวนและคำนึงภาระทางด้านงบประมาณอย่างจริงจังต่อการจัดสวัสดิการสังคมสำหรับผู้สูงอายุ เช่น การให้เบี้ยยังชีพผู้สูงอายุที่แม้ว่าจะบรรเทาภาระทางการเงินให้แก่ผู้สูงอายุเฉพาะหน้าได้ แต่มีความท้าทายด้านงบประมาณและวิธีการนำเงินที่ได้รับไปสร้างประโยชน์ต่อยอดในระยะยาว นอกจากนี้ ยังสนับสนุนให้มีการกระจายความรับผิดชอบในการจัดสวัสดิการผ่านการให้ภาคส่วนต่างๆ ที่มีศักยภาพ เข้ามามีส่วนร่วมมากขึ้น ซึ่งการเสนอกฎหมายว่าด้วยกองทุนบำเหน็จบำนาญแห่งชาติที่เพิ่งผ่านความเห็นชอบของคณะรัฐมนตรีนั้นก็เป็นหนึ่งในแนวทางที่ดีจะช่วยให้ภาคเอกชนเข้ามามีส่วนร่วมในการออมเพื่อการชราภาพ
แต่ในขณะเดียวกันสภาผู้แทนราษฎรเองกลับดูเหมือนจะเดินตรงกันข้ามโดยเสนอแก้ไขพ.ร.บ.ผู้สูงอายุ พ.ศ. 2546 และให้เปลี่ยนชื่อเสียใหม่เป็น พ.ร.บ.ผู้สูงอายุและบำนาญขั้นพื้นฐานแห่งชาติ พ.ศ.2546 เพื่อจัดตั้งระบบบำนาญถ้วนหน้าให้กับผู้สูงอายุ โดยตั้งหลักเกณฑ์ว่าบำนาญต้องไม่ต่ำไปกว่าเส้นระดับรายได้ความยากจนและมีการเพิ่มอัตราการเก็บภาษีจากสุราและยาสูบจากปัจจุบันไม่เกินร้อยละ 2 เป็นไม่ต่ำกว่าร้อยละ 5เรียกได้ว่าเปิดช่องให้รัฐรีดภาษีเท่าไหร่ก็ได้ไม่มีอัตราเพดาน รวมถึงยังเปิดให้เก็บภาษีเพิ่มจากสินค้าอื่นๆ เช่น น้ำมัน รถยนต์ หรือแม้กระทั่งลอตเตอรี่ รวมถึงการแบ่งรายได้จากจัดเก็บภาษีนิติบุคคลและบุคคลด้วย แต่หากจะต้องอาศัยรายได้จากแหล่งต่างๆ มากมายขนาดนี้แล้ว จะยังเป็นสิ่งที่เหมาะสมหรือไม่ที่จะเก็บภาษีในลักษณะ earmark tax อยู่ ทำไมถึงไม่ใช้เงินในงบประมาณ จะได้โปร่งใสและมีประสิทธิภาพในการบริหารเงิน เพื่อรักษาวินัยทางการคลังของรัฐด้วย
ซึ่งเรื่องนี้รัฐบาลควรมีความชัดเจนเพื่อไม่ให้กระทบต่อเสถียรภาพทางการคลัง ในยามที่รายได้ทุกบาททุกสตางค์สำคัญต่อการฟื้นฟูเศรษฐกิจช่วงโควิดเช่นตอนนี้

'อ.เจษฎ์'มาเอง! เปิด7ข้อเคลียร์ความเชื่อผิดๆปมดื่มนมไทย เปิดวาร์ปนมไทยที่เป็นนมโคแท้
'ปราชญ์ สามสี'ฟาด! 'พรรคส้ม' ใช้ 'สองมาตรฐาน' โจมตีกองทัพ แต่ปัดรับผิดคดีในพรรค
ผีตายยาก!เดอ ลิกต์ โขกทดเจ็บบุกแบ่งแต้มไก่
'กัน จอมพลัง' ควงลูกเมียเปิดใจน้ำตาซึม เผยความผิดพลาด เอาเวลาครอบครัวไปช่วยคนอื่น
'กัมพูชา'ขยับแรง! บุกทลาย2รังใหญ่แก๊งสแกมเมอร์ รวบผู้ต้องหากว่า600คนส่วนใหญ่เป็นชาวต่างชาติ

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี