การรัฐประหารในพม่าผ่านไปร่วมสองเดือนแล้ว การปั่นกระแสเกี่ยวกับสถานการณ์พม่าที่ครอบคลุมบรรยากาศประเทศไทยและสากลที่ครึกโครมสนั่นสะเทือนโลกในระยะต้นได้เพลาเบาบางลงจนเห็นได้ชัด
และทำให้ปัญหาแท้จริงของพม่าปรากฏชัดขึ้นโดยลำดับ และที่สำคัญ ความพยายามที่โหมสถานการณ์ให้กลายเป็นสงครามกลางเมืองในพม่าแล้วเป็นไฟสงครามลามเข้าประเทศไทยและก่อเกิดศึกใหญ่ขึ้นในภูมิภาคอินโด-แปซิฟิก ได้ล้มเหลวลง
ทำให้การส่งกองกำลังต่างชาติภายใต้ข้ออ้างว่าเป็นมติของสหประชาชาติเพื่อยึดครองพม่าล้มเหลวลงอย่างไม่เป็นท่า และก่อเกิดสภาพที่คนพม่าต้องแก้ไขปัญหาของคนพม่าด้วยกันเองเริ่มเดินหน้าไป
ในสภาพและสถานการณ์เช่นนี้จึงสมควรสรุปสถานการณ์ในภาพรวมให้เป็นที่ยุติชัดเจนสักครั้งหนึ่ง ซึ่งอาจสรุปได้ดังนี้
ประการแรก การสร้างกระแสว่าการรัฐประหารพม่าเป็นปัญหาประชาธิปไตยและสิทธิมนุษยชนถูกทำลายลง ความจริงที่ว่าปัญหาความขัดแย้งในพม่าแท้จริงนั้นเป็นปัญหาการต่อสู้เพื่อเอกราชอธิปไตยของชาติ กับการล่าอาณานิคมโดยขบวนนักล่าอาณานิคมปรากฏชัดเจนขึ้นในโลกแม้กระทั่งชาวพม่าส่วนใหญ่
ประการที่สอง การปั่นและเชื่อมกระแสต่อต้านรัฐบาลในไทยกับพม่าล้มเหลวลง การใช้สัญลักษณ์ชูสามนิ้ว การใช้สื่อของนักล่าอาณานิคมและการโหมกระแสละเมิดสิทธิมนุษยชนและประชาธิปไตยถูกกระชากหน้ากากว่าแท้จริงแล้วเป็นการเชื่อมสถานการณ์เพื่อเปิดโอกาสให้นักล่าอาณานิคมเข้ายึดครองพม่าและไทย ผ่านกระบวนการการก่อม็อบ ก่อจลาจล และสงครามกลางเมือง ซึ่งความเข้าใจนี้ทั้งในพม่าและในประเทศไทยแจ่มแจ้งชัดเจนยิ่งขึ้น เพราะล้วนเรียกหาให้ต่างชาติส่งกำลังเข้ามายึดบ้านเกิดเมืองนอนของตนเองเหมือนกัน
ประการที่สาม แผนการยึดดินแดนพม่าเพื่อตั้งฐานให้แก่การจัดตั้งรัฐบาลหุ่นที่เป็นหุ่นเชิดของต่างชาติ โดยใช้กำลังทางทหารถูกทำลายลง โดยรัสเซีย จีน และอิหร่าน ได้จัดการซ้อมรบขนาดใหญ่นอกน่านน้ำพม่าในมหาสมุทรอินเดีย เป็นการส่งสัญญาณปรามและป้องกันไม่ให้นักล่าอาณานิคมส่งกำลังเข้ารุกรานหรือยึดพม่าจากทางมหาสมุทรอินเดีย จึงทำให้แผนการใช้กำลังทหารตั้งฐานให้กับรัฐบาลหุ่นทั้งที่ได้ประกาศไปแล้วล้มเหลวลง
ประการที่สี่ การปั่นกระแสและปั่นหัวให้ชนกลุ่มน้อยต่างๆ ในพม่าลุกฮือขึ้นทำสงครามกลางเมืองกับพม่าล้มเหลวลง มีเพียง 2-3 แคว้นเท่านั้นที่ตั้งท่าเออออห่อหมกไปกับประเทศนักล่าอาณานิคม แต่ในที่สุดก็เทียบกับกำลังแสนยานุภาพของรัฐบาลพม่าไม่ได้
รัฐบาลพม่ามีแสนยานุภาพกำลังพลถึง 400,000 คน มีเรือดำน้ำที่เป็นทางการ 8 ลำ มีเครื่องบินรบที่ทันสมัยจากรัสเซียร่วม 100 ลำ มีรถถังและขีปนาวุธจำนวนมาก ในขณะที่ชนกลุ่มน้อยทั้ง 3 แคว้นรวมกันมีกำลังระดับ 60,000 คน และมีแค่อาวุธประจำกาย ทั้งรัฐบาลพม่าก็ใช้ท่าทีปรองดอง ดังนั้นกระแสนี้จึงปั่นไม่ขึ้น
และเมื่อกระแสนี้ปั่นไม่ขึ้นก็ทำให้การสร้างสถานการณ์เพื่อให้ไฟสงครามการเมืองจากพม่าลามเข้าไทยก็ล้มเหลวไปด้วย
ประการที่ห้า แผนการยืมมือสหประชาชาติให้ช่วยขบวนการต่อต้านพม่าล้มเหลวลง นั่นคือญัตติที่ให้คณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติลงโทษพม่าได้ถูกวีโต้โดยรัสเซียและจีน ทำให้ญัตติดังกล่าวตกไป ดังนั้นคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติจึงไม่สามารถออกมติใดๆ ได้ ครั้นจะนำเรื่องเข้าสมัชชาใหญ่สหประชาชาติ เสียงสนับสนุนของทั้งสหรัฐและอังกฤษก็ไม่สามารถสู้กับคะแนนเสียงสนับสนุนรัสเซียและจีนได้ ดังนั้นจึงไม่สามารถมีมติที่ประชุมใหญ่ของสหประชาชาติได้
จึงมีแต่ขบวนการนอกกฎหมายที่แอบอ้างสหประชาชาติบังหน้ากล่าวหารัฐบาลพม่า ซึ่งก็ไม่มีคุณค่าอะไรในความเป็นจริง
ประการที่หก เมื่อการแทรกแซงและการล่าจากภายนอกล้มเหลวลง จึงทำให้ขบวนการต่อต้านในพม่าต้องเรียกร้องโดยตรงให้สหรัฐส่งกำลังทหารเข้าไปยึดพม่า แต่ในที่สุดประธานาธิบดีไบเดนก็ได้ออกข้อแถลงว่าสหรัฐจะไม่ส่งทหารเข้าไปในพม่าเพราะไม่คุ้มกับค่าใช้จ่าย
เป็นผลให้ประเทศอินเดียซึ่งเป็นภาคีกลุ่มควอดและเตรียมจะเข้าซ้อมรบในมหาสมุทรอินเดียถือโอกาสพลิกกลับหันไปจับมือกับรัสเซียและทำข้อตกลงซื้ออาวุธยุทโธปกรณ์ทันสมัยจากรัสเซีย
เมื่อหวังพึ่งภายนอกประเทศไม่ได้จึงเหลือแต่ปัญหาความขัดแย้งภายในประเทศระหว่างรัฐบาลพม่ากับขบวนการต่อต้าน ดังนั้นแม้จะปลุกปั่นปลุกกระแสให้ใช้ความรุนแรงหรือยกระดับเป็นสงครามกลางเมืองก็ไม่มีวันจะสำเร็จ
เพราะพม่ามีลักษณะพิเศษต่างจากชาติอื่นคือมีชนเผ่าหลายเผ่า การใช้กำลังหยุดยั้งสถานการณ์ในพื้นที่หนึ่ง เมื่อใช้กองกำลังของรัฐจากพื้นที่อื่นจึงสามารถจัดการได้อย่างเฉียบขาดรวดเร็ว และค่อยๆ ทำให้สถานการณ์เบาบางลง
นี่คือสภาพการณ์และสถานการณ์โดยรวมในพม่าในปัจจุบันนี้
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี