แม้เดือนเมษายน 2564 ที่ผ่านมา อุณหภูมิทางภูมิอากาศของประเทศไทยอาจไม่ร้อนมากนักเนื่องจากมีฝนตกค่อนข้างบ่อยตลอดทั้งเดือน แต่อุณหภูมิทางการเมืองนั้นตรงกันข้าม เนื่องจากสถานการณ์การระบาดของไวรัสโควิด-19 ระลอกที่ 3 และเป็นระลอกที่รุนแรงกว่าครั้งที่ผ่านๆ มา โดยมีผู้ติดเชื้อหลักพันคนต่อวัน และเสียชีวิตหลักสิบคนต่อวัน ในขณะที่เมื่อมองออกไปยังนานาชาติ หลายประเทศที่ในปี 2563 เคยเผชิญสถานการณ์โรคระบาดรุนแรงกว่าไทย ปีนี้วิกฤติค่อยๆ คลี่คลายลงจากอภิมหาโครงการฉีดวัคซีน
ตัวอย่างที่น่าสนใจทั้งสหรัฐอเมริกา อังกฤษ รวมถึงอิสราเอล ที่ระดมฉีดวัคซีนป้องกันไวรัสโควิด-19 ให้กับประชาชนเกินครึ่งประเทศ พบทั้งจำนวนผู้ติดเชื้อ ผู้ป่วย และผู้เสียชีวิตจากโรคร้ายนี้ลดลงอย่างชัดเจน อิสราเอลชิงประกาศชัยชนะก่อนใครเพื่อน ด้วยการอนุญาตให้ประชาชนไม่ต้องใส่หน้ากากปิดปาก-จมูกในสถานที่กลางแจ้ง ขณะที่สหรัฐอเมริกา อนุญาตให้ประชาชนที่ได้รับวัคซีนครบ 2 โดสแล้วไม่ต้องใส่หน้ากากปิดปาก-จมูกในสถานที่กลางแจ้งเช่นกัน ส่วนอังกฤษก็เริ่มให้ผับ บาร์ และร้านอาหารเปิดทำการได้หากเป็นสถานที่กลางแจ้ง
หันกลับมามองประเทศไทย ประชาชนที่ทุกวันนี้ติดตามข่าวสารได้กว้างขวางผ่านสื่อออนไลน์ เมื่อเห็นข่าว ประเทศนั้นประเทศนี้ผู้คนเริ่มกลับมาใช้ชีวิตกันใกล้เคียงปกติมากขึ้น ในขณะที่บ้านเกิดเมืองนอนของตนเองกิจกรรมต่างๆ ยังต้องปิดๆ เปิดๆ เพราะสถานการณ์โรคระบาด ความรู้สึกเปรียบเทียบย่อมเกิดขึ้นเป็นธรรมดา และนั่นก็เป็นแรงกดดันกลับไปหารัฐบาลอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ เพราะทุกครั้งที่ถูกสั่งปิดเพื่อควบคุมโรค สำหรับประชาชนคนหาเช้ากินค่ำหมายถึงการขาดรายได้ และหลายคนอาจถึงขั้นตกงาน
วันที่ 24 เม.ย. 2564 แม้กิจกรรมชุมนุมรวมกลุ่มต่างๆ จะไม่สามารถทำได้เพราะอยู่ในสถานการณ์โรคระบาดรุนแรง แต่ก็มีการจัดเวทีปราศรัยทางออนไลน์ของกลุ่ม “ไทยไม่ทน” วิพากษ์วิจารณ์การทำงานของรัฐบาลภายใต้การนำของนายกรัฐมนตรี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา หนึ่งในนั้นคือ โสภณ พรโชคชัย ประธานกรรมการบริหาร ศูนย์ข้อมูลวิจัยและประเมินค่าอสังหาริมทรัพย์ไทยบจก. เอเจนซี่ ฟอร์ เรียลเอสเตท แอฟแฟร์ส (www.area.co.th) ที่ตั้งข้อสังเกตดังนี้..
“ในขณะที่ประเทศไทยฉีดวัคซีนป้องกันไวรัสโควิด-19 ไปเพียงร้อยละ 0.1 ของประชากร และต้องรอจนถึงสิ้นปี 2564 จึงจะฉีดได้เป็นจำนวนมากพอ ประเทศเพื่อนบ้านร่วมภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (อาเซียน) อย่างอินโดนีเซีย กลับฉีดไปแล้วถึงร้อยละ 2.4 ของประชากร และคาดว่าใช้เวลาเพียงกลางปี 2564 น่าจะฉีดได้อย่างกว้างขวาง ทั้งที่อินโดนีเซียมีประชากรทั้งประเทศมากกว่า 200 ล้านคน”
28 เม.ย. 2564 เว็บไซต์ นสพ.เซาท์ไชน่า มอร์นิ่งโพสต์ (South China Moring Post) หนึ่งในสื่อสำนักงานใหญ่ของเกาะฮ่องกง เสนอรายงานพิเศษ As COVID-19 surges in Thailand, Prayuth faces crisis of confidence stoked by Thaksin, Clubhouse and “fed-up doctors” ว่าด้วยวิกฤติไวรัสโควิด-19 ทำให้รัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ เผชิญวิกฤติความเชื่อมั่นในสายตาประชาชน ไล่ตั้งแต่การเปิดหัวข้อรณรงค์ให้ปลด อนุทิน ชาญวีรกูล ออกจากตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ผ่านเว็บไซต์ Change.org และมีผู้เข้าไปร่วมสนับสนุนกว่า 1 แสนราย ภายในเวลาไม่กี่ชั่วโมง
เช่นเดียวกับเสียงวิพากษ์วิจารณ์เรื่องการจัดหาวัคซีนโควิด-19 ที่ล่าช้า ยังเปิดช่องให้อดีตนายกรัฐมนตรี ทักษิณ ชินวัตร ผู้ถูกกองทัพทำรัฐประหารในปี 2549 ซึ่งขณะนี้เป็นที่รู้จักในนาม “ลุงโทนี” ตามนามแฝงที่ใช้ปราศรัยบนแอปพลิเคชั่นยอดนิยมในปัจจุบันอย่างคลับเฮาส์ “แย่งซีน” ได้เรียกเสียงฮือฮา ด้วยการอ้างว่า ตนสามารถเจรจากับประธานาธิบดีรัสเซีย วลาดีมีร์ ปูติน ในการซื้อวัคซีน “สปุตนิก วี” ที่พัฒนาโดยรัสเซียได้
เติมศักดิ์ เฉลิมพลานุภาพ นักวิชาการรับเชิญ สถาบัน ISEAS-Yusof Ishak ประเทศสิงคโปร์ มองว่า ท่าทีของอดีตนายกฯ ทักษิณ อาจเป็นเพราะกลัวจะถูกสังคมไทยลืม จึงต้องออกมาเคลื่อนไหวอย่างน้อยก็บนโลกออนไลน์ แต่ก็ยอมรับว่าทักษิณนั้นฉลาดมากที่หยิบยกเรื่องการมีเพื่อนฝูงเป็นบุคคลระดับสูงขึ้นมากล่าวอ้างในขณะที่ความเชื่อมั่น พล.อ.ประยุทธ์ ลดลงจากสถานการณ์การระบาดของไวรัสโควิด-19 ระลอกล่าสุด
แต่สุดท้ายแล้ว หอการค้าไทย-สภาหอการค้าแห่งประเทศไทย ออกประกาศ “การดำเนินงานด้านการจัดหาวัคซีนทางเลือก” ที่เป็นบทสรุปของการประชุมร่วมกันระหว่างรัฐบาลกับผู้ประกอบการภาคเอกชน โดยมีนายกรัฐมนตรีเป็นประธาน ในวันที่ 28 เม.ย. 2564 ว่า รัฐบาลได้แสดงความขอบคุณที่หอการค้าไทยและภาคเอกชน ได้เข้ามามีส่วนร่วมเสริมการทำงานของภาครัฐ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเรื่องความพยายามในการจัดหาวัคซีนทางเลือกเพื่อฉีดให้กับพนักงานของตนเอง ซึ่งช่วยแบ่งเบาภาระของภาครัฐ..
“อย่างไรก็ตาม รัฐบาลได้แจ้งว่าปริมาณวัคซีนที่ภาครัฐจัดหามานั้น มีจำนวนที่เพียงพอต่อความต้องการของประชาชนทุกคน พร้อมเร่งดำเนินการในการนำเข้าวัคซีนซึ่งกำลังทยอยเข้ามาเป็นลำดับ ดังนั้น
ภาคเอกชนจึงไม่จำเป็นต้องมีการจัดหามาเพิ่มเติม และจะได้ไม่เป็นภาระในเรื่องค่าใช้จ่าย ซึ่งภาคเอกชนต่างก็ได้รับผลกระทบทางเศรษฐกิจจากสถานการณ์การแพร่ระบาดโควิด-19 อยู่แล้ว”
แม้จะเป็นการเปิดเผยของภาคเอกชนเอง แต่ประกาศข้างต้นก็กลายเป็นคำถามใหม่ขึ้นมา “ประชาชนไม่มีสิทธิ์เลือกเลยหรือว่าจะฉีดวัคซีนยี่ห้อไหน?” และมีเสียงเรียกร้องขอให้รัฐบาลดึงภาคเอกชนเข้าไปช่วยหาวัคซีนทางเลือก เช่น ในวันที่ 29 เม.ย. 2564 พล.ท.พงศกร รอดชมภู อดีตแกนนำพรรคอนาคตใหม่เสนอแนะว่า สามารถให้เอกชนช่วยทำได้โดยรัฐช่วยประสานงาน ขณะที่ ณวัฒน์ อิสรไกรศีล ผู้อำนวยการกองประกวด มิสแกรนด์อินเตอร์เนชั่นแนล ประกาศไม่ขอฉีดวัคซีน “ซิโนแวค” เพราะประสิทธิภาพต่ำสุดในบรรดาวัคซีนโควิด-19 ทุกยี่ห้อ เป็นต้น
อย่างไรก็ตาม ในการแถลงข่าวโดย นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) หรือ ศบค. ช่วงเย็น วันที่ 29 เม.ย. 2564 ช่วงท้ายได้กล่าวถึงแผนการจัดหาวัคซีนโควิด-19 ว่า ในที่ประชุม ศบค. นอกจากกระทรวงสาธารณสุขจะขออนุมัติหลักการจัดหาวัคซีน นอกจากภาครัฐ โดยกรมควบคุมโรค จะทำหน้าที่เจรจากับผู้ผลิตวัคซีนรายต่างๆ แล้ว ยังให้เอกชนจัดหาวัคซีนอื่นๆ เพิ่มเติม
รวมถึงที่ประชุมยังมอบหมายให้ ทศพร ศิริสัมพันธ์ ประธานอนุกรรมการวิเคราะห์และสนับสนุนข้อมูลเศรษฐกิจรายสาขา ทำงานร่วมกับภาคเอกชนทั้ง 4 ด้าน หนึ่งในนั้นคือประสานงานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อลดปัญหาอุปสรรคในกรณีที่ภาคเอกชนจะนำเข้าวัคซีนด้วยตนเองในระยะต่อไป!!!
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี