แนวหน้า มั่นคง ตรงไป ตรงมา...
nn คนอื่นจะว่าอย่างไรก็ช่างเขา จะว่าเมืองไทยล้าสมัย ว่าเมืองไทยเชย ว่าเมืองไทยไม่มีสิ่งที่สมัยใหม่ แต่เราอยู่พอมี พอกิน และขอให้ทุกคนมีความปรารถนาที่จะให้เมืองไทย พออยู่พอกิน มีความสงบ และทำงานตั้งจิตอธิษฐานตั้งปณิธานในทางนี้ที่จะให้เมืองไทยอยู่แบบพออยู่พอกิน ไม่ใช่ว่าจะรุ่งเรืองอย่างยอดแต่ว่ามีความพออยู่พอกิน มีความสงบ เปรียบเทียบกับประเทศอื่นๆ ถ้าเรารักษาความพออยู่พอกินนี้ได้ เราก็จะยอดยิ่งยวดได้…(ความตอนหนึ่งจากพระราชดำรัส พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศรมหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร เนื่องในวโรกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา พระราชทานเมื่อวันที่ 4 ธันวาคม 2517)...
nnขอเปิดประเด็นวันนี้ด้วยเรื่องการพยายามพัฒนาวัคซีนป้องกันโควิด-19 ของจีนกับรัสเซีย เพราะเห็นแล้วชื่นชมรัฐบาลของทั้งสองประเทศมาก แน่นอนว่าทั้งสองประเทศมีระบบการปกครองแบบเผด็จการ ซึ่งหลายคนอ้างว่าต่างจากไทย แต่ต้องยอมรับผลการทำงานเพื่อปราบโควิด-19 ในประเทศทั้งสองว่าดีเยี่ยม ดีกว่าประเทศที่ได้ชื่อว่าปกครองด้วยระบอบเสรีนิยมหลายประเทศในยุโรปตะวันตก แม้กระทั่งสหรัฐอเมริกา ...
nn ธรรมกร ได้อ่านข่าว CNN เรื่อง China and Russia want to vaccinate the developing world before the West. It’s brought them closer than ever. (จีนและรัสเซียต้องการให้วัคซีนช่วยพัฒนาโลกก่อนประเทศตะวันตก ส่งผลให้ทั้งสองประเทศมีความแน่นแฟ้นกันมากยิ่งขึ้น) ขอเล่าให้ฟังถึงเนื้อหาของข่าวโดยย่อ ๆ คือ วัคซีนสปุตนิก 5 ของรัสเซียจำนวนหลายร้อยล้านโดส (hundreds ofmillions of doses) ถูกส่งไปยังนานาประเทศทั่วโลกกว่า 60 ประเทศ โดยติดฉลากว่า Made in China...
nn ขอบอกว่าแค่เห็นประเด็นข่าวนี้แล้วรู้สึกชื่นชมรัฐบาลจีนและรัสเซียมาก (ชื่นชมเฉพาะประเด็นการร่วมมือด้านวัคซีนนะครับ) เพราะอย่างน้อยที่สุดประเทศที่ถูกผู้คนมากมายรังเกียจ เหยียดหยามว่าเป็นเผด็จการ แต่มีความสามารถช่วยเหลือผู้คนในประเทศกำลังพัฒนาและด้อยพัฒนาได้ดีกว่าประเทศที่ยกตัวว่าเป็นมหาอำนาจ เป็นประเทศที่พัฒนาแล้ว เพราะประเทศเหล่านั้นมีความเห็นแก่ตัวสูงมากจนน่ารังเกียจ เนื่องจากเก็บวัคซีนป้องกันโควิด-19 ไว้ในประเทศของตน โดยไม่คิดเผื่อแผ่ให้แก่ชาวโลกที่กำลังเดือดร้อน มิหนำซ้ำผู้คนในประเทศที่อ้างว่าเป็นประชาธิปไตย มีเสรีภาพสูง กลับไม่ดูแลตัวเอง และไม่ดูแลสังคม จนเป็นเหตุให้ผู้คนจำนวนหลายแสนคนในประเทศที่หลงภูมิใจกับเสรีภาพต้องตายเพราะโรคโควิด-19...
nn พูดถึงโควิด-19 ในประเทศอื่นแล้ว ก็ขอกลับมาพูดเรื่องคนบ้าห้าร้อยจำพวกในประเทศไทยที่พล่ามเพ้อเรื่องวัคซีนป้องกันโควิด-19 ไปต่างๆ นานา ราวกับผีเจาะปาก คนพรรค์อย่างว่านั้นพูดพล่ามไปเรื่อยทั้งๆ ที่ไม่มีความรู้ด้านการแพทย์ จนก่อให้เกิดความตื่นตระหนกในฝูงชนบางกลุ่มบางจำพวก (โดยเฉพาะคนจำพวกไร้สติ สิ้นปัญญา แต่นับว่าโชคดีที่สังคมไทยยังมีคนมีสติ มีปัญญาอีกมาก ซึ่งมิได้สนใจข่าวลือ ข่าวลวง ข่าวเท็จ) ดังนั้น จึงพบเห็นเป็นประจำว่ามีข่าวลือเรื่องวัคซีนป้องกันโควิด-19 ในทางลบทางร้ายออกมาทุกๆ นาที จนทำให้คนเบาปัญญาอยู่ไม่เป็นสุข เพราะวันๆ ดีแต่นั่งจ้องข่าวลือ ข่าวเท็จจาก social media ตลอดเวลา แต่บางคนก็บ้าบอ บอกว่าจะไม่ยอมฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 เพราะกลัวตาย แต่ครั้นเมื่อมีผู้ถามกลับไปยังคนบ้าเหล่านั้นว่า ตกลงที่กลัวตายนั้น คุณได้ฉีดวัคซีนแล้วหรือ คำตอบคือยัง จึงถามกลับไปว่าแล้วจะกลัวตาย เพราะวัคซีนไปทำไม ทั้งๆ ที่ยังไม่ได้ฉีดแม้แต่เข็มเดียว เอาไว้ค่อยกลัวตาย หลังจากได้ฉีดแล้ว จะดีกว่าไหม จะรีบกลัวตายไปก่อนเพื่ออะไร ไม่เข้าใจเลย(ฮา ฮา ฮา)...
nn มีแฟนคอลัมน์บุคคลแนวหน้าที่เป็นคอข่าวตัวยงถามธรรมกร ว่า ทุกวันนี้เชื่อถือข่าวที่นำเสนอโดยสำนักข่าวกระแสหลักได้หรือไม่ เพราะจับได้เสมอๆ ว่าสำนักข่าวกระแสหลักบางสำนัก นำเสนอข่าวผิดพลาดคลาดเคลื่อนเป็นประจำ ธรรมกรเลยถามกลับว่า สำนักข่าวไหนครับ คำตอบคือ ไทยพีบีเอส ล่าสุดก็นำเสนอข่าวเรื่องประสิทธิภาพของวัคซีนโควิด-19 ผิดพลาด...
nn เมื่อถูกสาธารณชนแสดงความไม่ไว้วางใจในการทำงานของสถานีโทรทัศน์ไทยพีบีเอส แทนที่ผู้บริหารระดับสูงของสถานีจะออกมาแสดงความรับผิดชอบ แต่กลับกลายเป็นผู้ประกาศข่าวของสถานีออกมาแสดงความรับผิดชอบ โดยบอกว่าผู้ประกาศข่าวขอรับผิดชอบด้วยการหยุดทำหน้าที่หน้าจอชั่วคราว 2 สัปดาห์ เมื่อผู้ประกาศซึ่งเป็นคนในกระบวนการผลิตข่าวในขั้นตอนสุดท้ายออกมารับผิดชอบ ก็ทำให้มีคำถามต่อไปว่า ผู้บริหารไทยพีบีเอสจะไม่รับผิดชอบอะไรเลยหรือและมีคำถามอีกว่าทุกวันนี้ผู้บริหารไทยพีบีเอสรับผิดชอบอะไรบ้าง...
nn การทำข่าวมีกระบวนการมีขั้นตอนมีสายการบังคับบัญชา ข่าวที่นำเสนอไม่ได้มาจากการทำงานเพียงลำพังของผู้ประกาศ เพราะต้องผ่านผู้อำนวยการฝ่ายข่าว (news director) บรรณาธิการควบคุมข่าว (assignment editor) บรรณาธิการข่าวโต๊ะข่าว (news editor) และผู้ควบคุมการผลิตข่าว (news producer) คำถามจากสาธารณชนที่ถามย้ำคือ ผู้บริหารฝ่ายข่าวของไทยพีบีเอสจะไม่แสดงความรับผิดชอบอะไรบ้างเลยหรือ อย่าลืมว่าผู้อำนวยการสถานีไทยพีบีเอสเคยเป็นอาจารย์สอนในคณะนิเทศศาสตร์ และรองผู้อำนวยการคนหนึ่งก็เป็นอดีตคณบดีคณะนิเทศศาสตร์ มหาวิทยาลัยเอกชนเก่าแก่แห่งหนึ่ง ส่วนรองผู้อำนวยการอีกคนหนึ่งก็เคยเป็นคนทำงานระดับบริหารงานของสถานีวิทยุจุฬาฯ มาก่อน ด้านกรรมการบริหารหลายรายก็เป็นคนทำข่าวมาก่อน ทำไมปล่อยให้เกิดความผิดพลาดได้บ่อยมาก...nn การปล่อยให้ผู้ประกาศข่าวออกมารับผิดชอบเพียงลำพัง คือการแสดงออกให้เห็นได้ชัดเจนว่าผู้บริหารระดับสูงของไทยพีบีเอสเอาตัวรอดอย่างน่าขยะแขยง สาธารณชนตั้งคำถามไปยังผู้บริหารไทยพีบีเอสว่า มีจิตสำนึกเรื่องความรับผิดชอบบ้างไหม หรือว่ารับเป็นแต่ชอบ ส่วนผิดไม่เคยรับ...
nn มีเสียงจากสาธารณชนวิพากษ์ว่า ในปีๆ หนึ่ง ไทยพีบีเอส ได้เงินมาโดยไม่ต้องดิ้นรนขวนขวายจำนวน 2 พันล้านบาท ไทยพีบีเอสตั้งมา 10 ปีเศษ ใช้เงินไปกว่า 2 หมื่นล้านบาทคำถามคือถ้าเอาเงินจำนวนนี้ไปสร้างสาธารณูปโภคพื้นฐานที่จำเป็นให้สังคม หรือนำไปสร้างโรงพยาบาลหรือสร้างมหาวิทยาลัย สังคมไทยจะได้ประโยชน์มากกว่าหลายเท่า หลายคนบอกตรงกันว่า ประเทศไทยไม่จำเป็นต้องมีไทยพีบีเอส เพราะมีไปก็ไม่ได้ทำให้สังคมไทยดีกว่าเดิม และถึงไม่มีไทยพีบีเอส คนไทยก็มีข่าวสารให้เสพได้ตามปกติ เพราะฉะนั้น นำเงิน 2 พันล้านบาทต่อปี ไปทำสาธารณประโยชน์ให้สังคมไทยดีกว่า...
nnตบท้ายวันนี้ มีเสียงแนะนำมาจากผู้รู้ว่า รัฐบาลไม่ควรตัดงบของกระทรวงคมนาคม 300,000 ล้านบาท ขณะนี้ประเทศไทยเจอ COVIC-19 อย่างหนัก เจอผลกระทบจากโควิด-19 ทำให้เศรษฐกิจแทบจะหยุดเพราะฉะนั้นการที่มีการก่อสร้างถนนหนทาง infrastructure ต่างๆเป็นสิ่งที่ดีที่สุดแล้วครับ อเมริกาต้องลงทุน 2.4 ล้านล้านเหรียญสหรัฐ เพื่อทำ infrastructure Project...nn
ธรรมกร
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี