รถดับเพลิง มีไว้ดับไฟ
แต่การจัดซื้อรถดับเพลิงที่ส่อทุจริต บ่อยครั้งกลับส่งผลกรรมเสมือนจุดไฟเผาไหม้ตัวเอง เป็นเหตุทำให้ผู้เกี่ยวข้องถูกดำเนินคดีฐานทุจริตประพฤติมิชอบมานักต่อนัก
1. รถดับเพลิง อบต.ราชาเทวะ
เมื่อวันที่ 16 ก.ค. 2564 นายนิวัติไชย เกษมมงคล รองเลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ช. ในฐานะโฆษกสำนักงาน ป.ป.ช. เปิดเผยผลการประชุมของคณะกรรมการ ป.ป.ช.
กรณีเรื่องกล่าวหานายทรงชัย นกขมิ้น ตำแหน่งนายกองค์การบริหารส่วนตำบลราชาเทวะ อำเภอบางพลี จังหวัดสมุทรปราการ กับพวกรวม 14 ราย กรณีจัดซื้อรถยนต์ดับเพลิงกู้ภัย จำนวน 1 คัน ในราคา 33,920,000 บาท ขององค์การบริหารส่วนตำบลราชาเทวะ เมื่อปี พ.ศ. 2555
นายนิวัติไชย กล่าวว่า จากการไต่สวนข้อเท็จจริงฟังได้ว่า ในปี พ.ศ. 2555 องค์การบริหารส่วนตำบลราชาเทวะ โดยนายทรงชัย นกขมิ้น นายก อบต.ราชาเทวะได้ดำเนินการจัดซื้อรถยนต์ดับเพลิงกู้ภัยแบบกระเช้าหอน้ำพร้อมบันไดด้วยระบบอิเล็กทรอนิกส์ ราคากลาง 33,950,000 บาท โดยได้แต่งตั้งคณะกรรมการกำหนดคุณลักษณะ ประกอบด้วย นายสุนทร อ่อนแก้ว นิติกรและพวก
โดยคณะกรรมการกำหนดคุณลักษณะ ได้พิจารณากำหนดรายละเอียดของเครื่องสูบน้ำให้เป็น “เครื่องสูบน้ำแบบแรงเหวี่ยงหนีศูนย์ ต้องเป็นผลิตภัณฑ์ภายในประเทศที่ได้รับการรับรองจากสำนักงานมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม (มอก.) หรือได้รับการจดทะเบียนผลิตภัณฑ์กับสำนักงานมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม โดยมีเอกสารมาแสดงในวันยื่นซอง และมีเอกสารการแต่งตั้งเป็นตัวแทนจำหน่ายเครื่องสูบน้ำจากบริษัทผู้ผลิตที่มีอำนาจเต็ม ใช้เอกสารการแต่งตั้งตัวแทนจำหน่ายฉบับจริง เพื่อให้ได้สินค้าที่มีคุณภาพเพื่อประโยชน์สูงสุดต่อทางราชการมาแสดงในวันยื่นซองเสนอราคา
ในขณะนั้น “เครื่องสูบน้ำแบบแรงเหวี่ยงหนีศูนย์” ยังไม่มีประกาศกำหนดมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม แต่มีผู้ได้รับการจดทะเบียนไว้ที่สำนักงานมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม กระทรวงอุตสาหกรรมแล้ว จำนวน 6 ราย และมีเพียง 2 รายเท่านั้น ที่มีคุณสมบัติตรงตามประกาศของ อบต.ราชาเทวะ คือ บริษัท โชคสมบูรณ์ อิควิปเมนท์ จำกัด และบริษัท พนัสรุ่งเจริญ จำกัด และมีสิทธิเข้าเสนอราคาได้
บริษัท พนัสรุ่งเจริญ จำกัด เป็นบริษัทของพี่ชายนายคำนวณ เลาไพบูลย์กิจเจริญ กรรมการผู้จัดการบริษัท โชคสมบูรณ์ อิควิปเมนท์ จำกัด
ดังนั้น การกำหนดคุณลักษณะเครื่องสูบน้ำแบบแรงเหวี่ยงหนีศูนย์ของคณะกรรมการกำหนดคุณลักษณะเฉพาะ ดังกล่าว จึงเป็นการมุ่งหมายมิให้มีการแข่งขันราคาอย่างเป็นธรรม และมีลักษณะกีดกันผู้ผลิตรายอื่นๆ ที่มีคุณสมบัติตรงตามประกาศ แต่ไม่ได้จดทะเบียนผลิตภัณฑ์เครื่องสูบน้ำแบบแรงเหวี่ยงหนีศูนย์ไว้กับสำนักงานมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม
ปรากฏว่า มีผู้มาซื้อซองเอกสารประมูล 8 ราย แต่มีผู้มายื่นซองเอกสารการประมูล 5 ราย โดยมีผู้ผ่านการคัดเลือกให้เข้าเสนอราคา 3 ราย บางรายได้ใช้หนังสือแต่งตั้งตัวแทนจำหน่ายอุปกรณ์ปรับแรงดันสูงอัตราการไหลสูง (Regulator) เป็นเอกสารปลอมมาแสดงต่อคณะกรรมการดำเนินการประมูลในวันยื่นซอง
รวมทั้งผู้เสนอราคาทั้ง 3 ราย มิได้มีการทดลองและสาธิตอุปกรณ์ดังกล่าวในวันยื่นซอง ไม่เป็นไปตามเอกสารประมูลซื้อ และรายละเอียดคุณลักษณะเฉพาะ แต่คณะกรรมการฯ ไม่ได้ตรวจสอบรายละเอียด กลับพิจารณาให้ผู้เสนอราคาทั้ง 3 ราย เป็นผู้มีคุณสมบัติครบถ้วน ทั้งที่ผู้ยื่นเอกสารการประมูลทั้ง 3 รายขาดคุณสมบัติ
นอกจากนี้ โฆษก ป.ป.ช.ยังระบุว่า ปรากฏหลักฐานว่าทั้งสามบริษัทที่เสนอราคา มีความสัมพันธ์เกี่ยวข้องกัน
โดยบริษัท เจริญสุขถาวร จำกัด มีที่ตั้งอยู่ภายในรั้วเดียวกับบริษัท โชคสมบูรณ์ อิควิปเมนท์ จำกัด และตั้งขึ้นมาเพื่อเอื้อประโยชน์ในทางธุรกิจของบริษัท โชคสมบูรณ์ อิควิปเมนท์ จำกัด
สำหรับบริษัท วี พี ไฟร์ อิควิปเมนท์ จำกัด นั้น ได้รับการว่าจ้างจากบริษัท โชคสมบูรณ์ อิควิปเมนท์ จำกัด ให้ยื่นซองเอกสารการประมูล โดยมีนางฐิดาพรรณ์ พัฒน์วีรภรกุล อดีตภรรยาของนายคำนวณ เลาไพบูลย์กิจเจริญ เจ้าของบริษัทโชคสมบูรณ์ อิควิปเมนท์ จำกัด เป็นผู้ดำเนินการ ให้ธนาคารออกหนังสือค้ำประกัน (หลักประกันซอง) ให้แก่บริษัท เจริญสุขถาวร จำกัด และบริษัท วี พี ไฟร์อิควิปเมนท์ จำกัด เพื่อใช้เป็นเอกสารประกอบในการยื่นเอกสารประมูลจัดซื้อรถยนต์ดับเพลิงฯ ในโครงการดังกล่าว
คณะกรรมการ ป.ป.ช. มีมติ ชี้มูลความผิดนายทรงชัย นกขมิ้น ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 151 และมาตรา 157 ความผิดตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2542 แก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2554 มาตรา 123/1 ประกอบพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2561
มาตรา 192 พระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดเกี่ยวกับการเสนอราคาต่อหน่วยงานของรัฐ พ.ศ. 2542 มาตรา 10 มาตรา 11 และมาตรา 12 และมีมูลความผิดฐานจงใจทอดทิ้งหรือละเลยไม่ปฏิบัติการตามอำนาจและหน้าที่อันจะเป็นเหตุให้เสียหายแก่ราชการอย่างร้ายแรง หรือปฏิบัติการไม่ชอบด้วยหน้าที่หรือประพฤติตนฝ่าฝืนต่อความสงบเรียบร้อย ตามพระราชบัญญัติสภาตำบลและองค์การบริหารส่วนตำบล พ.ศ. 2537 และที่แก้ไขเพิ่มเติม มาตรา 90/1
นอกจากนี้ ยังชี้มูลความผิดเจ้าหน้าที่ผู้เกี่ยวข้องด้วย ทั้งอาญาและวินัยร้ายแรง
อีกทั้งยังได้ชี้มูลความผิดทางอาญาบริษัทเอกชนด้วย
หลังจากนี้ ให้ส่งรายงาน สำนวนการไต่สวน เอกสารหลักฐาน สำเนาอิเล็กทรอนิกส์ และคำวินิจฉัยไปยังอัยการสูงสุด เพื่อดำเนินคดีอาญาต่อไป
ขณะนี้ ผู้ถูกชี้มูลความผิดทุกคน ยังถือเป็นผู้บริสุทธิ์ เพราะยังไม่ถูกศาลพิพากษาความผิด ยังมีสิทธิ์ต่อสู้คดี เพื่อพิสูจน์ความสุจริตของตนเองตามกระบวนการยุติธรรมต่อไป
2. ทุจริตรถและเรือดับเพลิง กทม. มูลค่า 6,687 ล้านบาท
ถ้ายังจำกันได้ คดีทุจริตรถดับเพลิง กทม.นั้น ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง พิพากษาชี้ขาด คดีถึงที่สุดไปแล้ว ว่ามีการทุจริตโกงกินจริงๆ
ศาลฎีกา พิพากษาจำคุก นายประชา มาลีนนท์ 12 ปี และพล.ต.ต.อธิลักษณ์ 10 ปี
ให้ยกฟ้อง นายโภคิน นายวัฒนา และนายอภิรักษ์
ปรากฏว่า ทั้งนายประชา และ พล.ต.ต.อธิลักษณ์ หลบหนีโทษจำคุก
ประเด็นในคำพิพากษาชี้ชัดถึงกระบวนการทุจริตว่า เป็นการกระทำที่ไม่ให้โอกาสผู้อื่นเข้าทำการเสนอราคาอย่างเป็นธรรม จนเป็นเหตุให้บริษัท STEYR ได้เข้าร่วมในโครงการจัดซื้อรถดับเพลิง โดยหลีกเลี่ยงการแข่งขันราคาอย่างเป็นธรรม จนเป็นเหตุให้เกิดความเสียหายแก่ราชการ และเป็นการละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริตเพื่อแสวงหาประโยชน์ ที่ไม่ควรได้ตามกฎหมาย ให้กับ บริษัท STEYR
ราคารถและเรือดับเพลิง เมื่อเทียบเคียงกับที่กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) กระทรวงมหาดไทย ได้เคยจัดซื้อสินค้าที่มีวัตถุประสงค์ใช้งานอย่างเดียวกัน โดยมีผู้ผลิตในประเทศ พบว่า ราคารถและเรือดับเพลิงที่กทม.ดำเนินโครงการนี้ ด้วยวิธีพิเศษ ราคาสูงกว่า เช่น
รถดับเพลิงมีบันไดสูง 18 เมตร จำนวน 9 คัน กทม.ซื้อในราคาแพงกว่าคิดเป็นเงิน 154 ล้านบาท
รถดับเพลิงที่บรรทุกน้ำ จำนวน 144 คัน กทม.ซื้อแพงกว่า 2,225 ล้านบาท
รถส่องสว่าง 4 คัน กทม.ซื้อแพงกว่า 71 ล้านบาท
รถบรรทุกเคมีดับเพลิง จำนวน 7 คัน กทม.ซื้อแพงกว่า 396 ล้านบาท
เรือดับเพลิงซึ่งบริษัทสไตเออร์ไม่ได้ผลิต แต่ได้ว่าจ้างบริษัทอื่นในยุโรปผลิตและประกอบขาย จำนวน 30 ลำ กทม.ซื้อแพงกว่า 334 ล้านบาท
นอกจากนี้ เมื่อเปรียบเทียบราคาสินค้าที่เสนอผ่านเอกชนสเปนมาไทย ซึ่งเป็นสินค้าคุณภาพเช่นเดียวกันมีเงื่อนไขปลอดการชำระ 24 เดือน แต่มีราคาต่ำกว่า 2,090 ล้านบาท
เมื่อพยาน ซึ่งเป็นผู้เชี่ยวชาญ ได้เปรียบเทียบราคาตามมาตรฐาน พบว่า เมื่อมีการพิจารณาราคาโดยรวมทั้งหมดแล้ว บริษัท STEYR ได้ผลประโยชน์ 2,192 ล้านบาท (หรือคิดเป็น 48.77 เปอร์เซ็นต์)
ทั้งหมด ปรากฏในคำพิพากษาศาลฎีกา
จนบัดนี้ ผลกรรมทุจริตรถดับเพลิงยังเผาไหม้ให้คนทุจริตต้องหลบหนีอยู่ต่อไป
สารส้ม
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี