วันอาทิตย์ ที่ 9 พฤศจิกายน พ.ศ. 2568
“ข่าวปลอม-ข่าวลวง (Fake News)” แม้จะไม่ใช่ปัญหาใหม่เพราะมีมาตั้งแต่มนุษย์เริ่มอยู่กันเป็นสังคมและสื่อสารระหว่างกัน แต่ด้วยเทคโนโลยีที่ก้าวหน้า “อินเตอร์เนต-สื่อสังคมออนไลน์” ทำให้ปัญหาดังกล่าวทวีความรุนแรงขึ้นและส่งผลกระทบในหลายด้าน เช่น หากเป็นประเด็นทาง “การเมือง-สังคม” อาจสร้างความเกลียดชังแตกแยกถึงขั้นลงไม้ลงมือทำร้ายร่างกายกันหากเป็นเรื่องของ “เศรษฐกิจ” อาจหมายถึงการถูกหลอกให้ลงทุนจนเสียเงินเสียทองหมดเนื้อหมดตัว
และโดยเฉพาะประเด็น “สุขภาพ” แต่เดิมก็มีปัญหาอยู่แล้ว โดยเฉพาะการโฆษณาชวนเชื่อหลอกขายเครื่องสำอาง ยาและอาหารเสริม อวดอ้างสรรพคุณวิเสษสารพัดอย่าง ยิ่งปัจจุบันที่โลกเผชิญวิกฤต “โควิด-19” ข่าวปลอมก็ยิ่งเพิ่มจำนวนและทวีความซับซ้อนมากขึ้น ตั้งแต่เรื่องของสารพัดวิธีรักษาโควิด ไปจนถึงคำแนะนำไม่ให้ฉีดวัคซีนด้วยเหตุผลต่างๆ นานา ซึ่งเป็นอุปสรรคต่อความพยายามในการควบคุมโรค
“ข่าวลวงในเรื่องโควิดกับวัคซีน เป็นประเด็นใหญ่มากที่ทั่วโลกให้ความสนใจ แล้วการศึกษาวิจัยพบว่าการแพร่กระจายของข่าวลวง-ข่าวปลอมโควิดหรือวัคซีนมันเร็วมาก เร็วกว่าข่าวปกติ 6-7 เท่า ถึงเรียกว่าเป็น Infodemic Information (ข้อมูลข่าวสาร) บวก Pandemic (โรคระบาด) ซึ่งเป็นเรื่องที่คิดว่าวันนี้ทุกคนได้รับผลกระทบทั้งทางตรงและทางอ้อม”
ธนกร ศรีสุขใส ผู้จัดการกองทุนพัฒนาสื่อปลอดภัยและสร้างสรรค์ กล่าวในงานแถลงข่าว (ออนไลน์) โครงการแข่งขันระดมสมองเชิงลึกกลุ่มเยาวรุ่น “FACTkathon: Fact-Collab to Debunk Dis-infodemic หักล้างข้อมูลเท็จ แสวงหาความจริงร่วม”เมื่อช่วงกลางสัปดาห์นี้ โดยเป็นความร่วมมือของหลายหน่วยงาน อาทิ กองทุนพัฒนาสื่อปลอดภัยและสร้างสรรค์ ภาคีโคแฟค (ประเทศไทย) สภาการสื่อมวลชนแห่งชาติ
สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) สถาบันเพื่อการยุติธรรมแห่งประเทศไทย (TIJ) สถาบันเชนท์ฟิวชั่น และ มูลนิธิฟรีดริชเนามัน ประเทศไทย “คุณสมบัติของผู้ร่วมการแข่งขัน”เป็นนิสิต-นักศึกษาคณะที่เกี่ยวข้องกับสื่อสารมวลชน แต่สามารถร่วมกับคณะอื่นๆ ได้ โดยรวมทีมกันไม่เกิน 5 คน และมีอาจารย์ที่ปรึกษา 1 ท่าน ทีมชนะเลิศจะได้รับเงินรางวัล 5 หมื่นบาท รองชนะเลิศอันดับ 13 หมื่นบาท รองชนะเลิศอันดับ 2 2 หมื่นบาท นอกจากนี้ยังมีรางวัล Popular Vote (ยอด Like และ Share) อีก 2 รางวัล รางวัลละ 1 หมื่นบาท
ชวรงค์ ลิมป์ปัทมปาณี ประธานสภาการสื่อมวลชนแห่งชาติ กล่าวว่า กิจกรรม Hackathon ระดมสมองเชิงลึก หักล้างข้อมูลเท็จ-แสวงหาความจริงร่วม เป็นการส่งเสริมให้คนรุ่นใหม่ทำงานร่วมกับผู้เชี่ยวชาญทั้งภาครัฐ องค์กรผู้บริโภค และสื่อมวลชน พัฒนาต้นแบบกลไกการทำงานร่วมกันเพื่อยกระดับสื่อมวลชนและพลเมืองในยุคดิจิทัล ในการรับมือต่อปัญหาข่าวปลอม-ข่าวลวงอย่างชาญฉลาด ซึ่งในสถานการณ์โควิด-19 ข่าวปลอมจะส่งผลกระทบทั้งการรักษา การฉีดวัคซีน ไปจนถึงการฟื้นฟู จึงจำเป็นต้องช่วยกันขจัดข่าวปลอม เพื่อสร้างความเข้าใจที่ถูกต้อง
เช่นเดียวกับ นพ.ไพโรจน์ เสาน่วม ผู้ช่วยผู้จัดการกองทุน สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) ระบุว่า ร้อยละ 95 ของผู้ใช้สื่อออนไลน์จะพบกับปัญหาข่าวปลอม จึงจำเป็นต้องมีกลไกตรวจสอบและตอบโต้ข่าวปลอมให้ข้อมูลที่เกี่ยวข้องอย่างทันท่วงที แต่เหนื่อสิ่งอื่นใด การทำให้แต่ละคนมีทักษะ “คิด-วิเคราะห์-แยกแยะ” และตรวจสอบข่าวปลอม อันเป็นการจัดการตั้งแต่ต้นทางก็เป็นเรื่องสำคัญ
สุนิตย์ เชรษฐา ผู้อำนวยการสถาบันเชนท์ฟิวชั่นและผู้ร่วมก่อตั้งโคแฟค (ประเทศไทย) อธิบายความหมายและความสำคัญของคำว่า “ความจริงร่วม” กล่าวคือ ในสังคมโดยเฉพาะยุคปัจจุบัน แต่ละคนมีความคิดอยู่ฐานความเชื่อที่แตกต่างกันไม่ว่าจะเป็นช่วงวัย พื้นที่ ฐานะดังนั้นแม้จะเป็นเหตุการณ์เดียวกัน แต่คนคนหนึ่งอาจมองอย่างหนึ่งส่วนอีกคนก็อาจมองไปอีกมุมหนึ่ง และเหตุการณ์ที่ไม่สามารถหาความจริงได้ทุกมิติอาจนำไปสู่ความขัดแย้งรุนแรง การที่จะอยู่ร่วมในสังคมเดียวกัน จึงต้องมีความจริงร่วมบางอย่างที่สามารถพูดคุยกันได้
สุภิญญา กลางณรงค์ ผู้ร่วมก่อตั้ง โคแฟค (ประเทศไทย) และอดีตคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) กล่าวถึงขั้นตอนการสมัครและคัดเลือกให้เหลือ 5 ทีมสุดท้าย ว่า เบื้องต้นต้องตอบคำถามหรือเสนอความคิดเห็นใน 5 ข้อ ประกอบด้วย 1.แนวคิดเบื้องต้นเกี่ยวกับนวัตกรรมในการแก้ปัญหาข่าวปลอม-ข่าวลวง 2.แนวทางการแสวงหาความจริงร่วมที่คิดว่าได้ผล 3.แนวทางการส่งเสริมความเป็นพลเมืองดิจิทัลและการรู้เท่าทันสื่อ 4.บทบาทสื่อมวลชนในการแก้ปัญหาข่าวปลอม-ข่าวลวง และ5.ข้อเสนอแนะต่อภาครัฐ ตลอดจนผู้ให้บริการสื่อสังคมออนไลน์ต่างๆ ควรมีส่วนร่วมหรือดำเนินการอย่างไรกับการแก้ปัญหา
“ที่นี่แนวหน้า” ขอประชาสัมพันธ์กิจกรรมนี้ที่น่าสนใจ ซึ่งก็เป็นกิจกรรมที่จัดขึ้นและมีกำหนดการปิดรับสมัครค่อนข้างเร่งด่วน คือผู้สนใจต้องสมัครภายในวันที่ 30 ก.ย. 2564 เท่านั้น และต้องสามารถอยู่ร่วมกิจกรรมได้ตลอด 3 วัน ระหว่างวันที่ 8-10 ต.ค. 2564 หากได้รับการคัดเลือกเข้าสู่รอบ 5 ทีมสุดท้าย ผู้สนใจสามารถสอบถามได้ที่เพจ “Cofact โคแฟค” หรือเพจ “สภาการสื่อมวลชนแห่งชาติ” หรือสมัครได้ตาม QR Code ในภาพประกอบคอลัมน์ประจำสัปดาห์นี้!!!

'อ.เจษฎ์'มาเอง! เปิด7ข้อเคลียร์ความเชื่อผิดๆปมดื่มนมไทย เปิดวาร์ปนมไทยที่เป็นนมโคแท้
'ปราชญ์ สามสี'ฟาด! 'พรรคส้ม' ใช้ 'สองมาตรฐาน' โจมตีกองทัพ แต่ปัดรับผิดคดีในพรรค
ผีตายยาก!เดอ ลิกต์ โขกทดเจ็บบุกแบ่งแต้มไก่
'กัน จอมพลัง' ควงลูกเมียเปิดใจน้ำตาซึม เผยความผิดพลาด เอาเวลาครอบครัวไปช่วยคนอื่น
'กัมพูชา'ขยับแรง! บุกทลาย2รังใหญ่แก๊งสแกมเมอร์ รวบผู้ต้องหากว่า600คนส่วนใหญ่เป็นชาวต่างชาติ

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี