แม้ไม่ใช่ครั้งแรกที่กลับมาเมืองไทย แต่ก็เป็นข่าวฮือฮา สำหรับอดีตพระยันตระ
ปรากฏภาพพระสงฆ์ห่มเหลือง คนนุ่งขาวห่มขาวกราบอย่างกับว่า นายวินัย ละอองสุวรรณ หรือ “อดีตพระยันตระ” ยังเป็นพระสงฆ์อยู่
แถมเจ้าตัวยังเรียกตัวเองว่า อาตมา
และยังมีกิจกรรมคล้ายสงฆ์
1. อดีตพระยันตระ เปิดเผยว่า รู้สึกคิดถึงแผ่นดินเกิด คิดถึงญาติโยม โดยเฉพาะลูกศิษย์เก่าๆ ที่แยกย้ายไปอยู่ตามวัด หรือ สำนักต่างๆหลากหลายพื้นที่ ซึ่งหลังจากมีเรื่องมีราวตามหน้าสื่อต่างๆ อาตมาเองได้ไปอยู่ต่างประเทศตั้งแต่ปี 2535 ทั้งนี้ทุกเรื่องราวเป็นสิ่งที่สมมุติขึ้นทั้งนั้น
ส่วนประเด็นที่สื่อมวลชนนำเสนอว่า พระภิกษุสงฆ์ไหว้อดีตพระอาจารย์ยันตระเป็นเรื่องไม่สมควรนั้น อดีตพระยันตระยอมรับว่า เป็นเรื่องธรรมดาที่จะมีคนที่เข้าใจและไม่เข้าใจ เพราะในโลกนี้จะให้ใครเข้าใจเราทั้งหมดก็ไม่ได้ ให้เราดีขนาดไหน คนที่ไม่เข้าใจ จะมองว่าเราไม่ดีอยู่นั่นเอง ก็เลยไม่ทุกข์กับเรื่องนี้ อยู่แบบสบายๆไปดีกว่า
“อาตมาจะพำนักอยู่ที่จังหวัดสระแก้วอีก 2 คืนก่อนจะเดินทางไปที่จังหวัดปทุมธานี และจะเดินทางกลับต่างประเทศในวันที่ 27 ตุลาคมนี้ ไฟลท์บินตอน 7 โมงเช้า”
2. ลูกศิษย์ลูกหาบางส่วน ยืนยันว่า ข่าวด้านลบเกี่ยวกับยันตระไม่เป็นความจริง ยังคงศรัทธาท่านอยู่เสมอ แต่ก็อยากให้สื่อนำเสนออย่างตรงไปตรงมา
3. จะว่าไปแล้ว กรณียันตระ ก็คล้ายกับอดีตพระระดับซูเปอร์สตาร์หลายๆ กรณี
ไม่ว่าจะเป็น ธัมมชโย เณรคำ ฯลฯ
คือ ยังมีคนศรัทธาอยู่
ยันตระวางฟอร์มดี พูดจาไพเราะอ่อนหวานคมเข้ม เน้นสอนเรื่องวิปัสสนา สมาธิ
เคยมีงานเทศนาที่สนามหลวง ผู้คนไปร่วมเนืองแน่น
ในอดีต ยันตระต้องอธิกรณ์ว่าเสพเมถุน ปาราชิกถูกตรวจสอบหลายกรรม เช่น กรณีขณะเดินทางไปเทศนาที่ทวีปยุโรป ระหว่างลงเรือเดินสมุทรจากสวีเดนไปฟินแลนด์ ได้มีเพศสัมพันธ์กับสีกาบนดาดฟ้าเรือ, กรณีจับต้องกายสตรีด้วยความกำหนัดที่กุฏิริมน้ำ วัดป่าสุญญตาราม ประเทศออสเตรเลีย, กรณีเข้าไปหาผู้หญิงในรถตู้ ที่ประเทศออสเตรีย, กรณีนางจันทิมา มายะรังสี มีความสัมพันธ์ลึกซึ้ง ถึงขนาดมีลูกด้วยกัน ฯลฯ
กรณียันตระ ยุคนั้นมหาเถรสมาคม ประธานในขณะนั้น คือ สมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราชฯ ทรงเอาจริงเอาจังกับการแก้ปัญหาในคณะสงฆ์ มติมหาเถรสมาคมพิจารณาอธิกรณ์ให้พ้นจากความเป็นพระภิกษุ แต่นายวินัยไม่ยอมรับมติสงฆ์ดังกล่าว เปลี่ยนสีจีวรเป็นสีเขียว ถูกสื่อขนานนามว่า จิ้งเขียว, สมี เป็นต้น แถมมีพฤติกรรมจาบจ้วงสมเด็จพระสังฆราช ก่อนจะหลบหนีออกนอกประเทศ ไปอยู่สหรัฐอเมริกา อ้างลี้ภัยทางการเมือง
ก่อนหน้านี้กลับมาไทยหลายรอบ เพราะคดีอาญาหมดอายุความ
4. ล่าสุด การที่ยังมีพฤติกรรมคล้ายสงฆ์ ถึงขนาดมีพระสงฆ์ไปกราบไหว้ น่าสนใจว่าทางคณะสงฆ์จะดำเนินการอย่างไร?
อย่าลืมว่า อดีตพระยันตระขาดจากความเป็นพระเพราะเสพเมถุน ทำให้ต้องปาราชิก
ยังไงก็เป็นพระไม่ได้
การที่มีพระสงฆ์ไปกราบไหว้ ย่อมไม่เหมาะสมอย่างยิ่ง
สารส้ม
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี