เมื่อวานนี้ นายกฯ ลุงตู่ ประกาศข่าวดีของเกษตรกร
1. พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี โพสต์ข้อความแจ้งข่าวดีกับเกษตรกร ระบุว่า
“...ผมมีความห่วงใยพี่น้องเกษตรกรทุกคน ที่ประสบปัญหาในการประกอบอาชีพ รวมทั้งการแพร่ระบาดโควิดและน้ำท่วม-น้ำแล้งจึงได้มอบหมายให้กระทรวงการคลังและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เร่งหางบประมาณมาให้พี่น้องเกษตรกรในโครงการต่างๆ เช่น โครงการประกันรายได้ข้าว โครงการสินเชื่อชะลอการขายข้าว โครงการสนับสนุนค่าบริหารจัดการข้าวเพื่อช่วยเหลือเรื่องต้นทุนการผลิตข้าว โครงการประกันรายได้ยางพารา โครงการประกันรายได้ปาล์มน้ำมัน ฯลฯ
วันนี้ ผมขอแจ้งให้ทราบว่ารัฐบาลสามารถจัดสรรเงินให้ความช่วยเหลือพี่น้องเกษตรกรได้เพิ่มเติมอีก 155,000 ล้านบาท โดยจะเสนอให้ที่ประชุม ครม.อนุมัติในวันอังคารหน้า (30 พ.ย.64) จากนั้น ก็จะมีการเบิกจ่ายผ่านธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.)ถึงบัญชีพี่น้องเกษตรกรโดยตรง...”
2. เงินช่วยเหลือเกษตรกร 155,000 ล้านบาทนี้ คาดว่า หลักๆ น่าจะเป็นงบอุดหนุนโครงการประกันรายได้
รัฐบาลปัจจุบันดำเนินนโยบายประกันรายได้สินค้าเกษตร 5 ชนิด ได้แก่ ข้าว ปาล์มน้ำมัน มันสำปะหลัง ยางพารา และข้าวโพดเลี้ยงสัตว์
ที่ผ่านมา พบว่า รัฐบาลลุงตู่เห็นชอบงบประมาณอุดหนุนโครงการประกันรายได้ จ่ายส่วนต่างราคาสินค้าเกษตร 5 ชนิด รวมยอด 276,193 ล้านบาท
ประกอบด้วย
ส่วนต่างราคาข้าว จ่ายชาวนา 190,311 ล้านบาท
ส่วนต่างราคายางพารา จ่ายชาวสวนยางพารา 37,821 ล้านบาท
ส่วนต่างราคาปาล์มน้ำมัน จ่ายชาวสวนปาล์ม 22,186 ล้านบาท
ส่วนต่างราคามันสำปะหลัง จ่ายชาวไร่มันสำปะหลัง 20,372 ล้านบาท
ส่วนต่างราคาข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ จ่ายชาวไร่ข้าวโพด 5,503ล้านบาท
มีเกษตรกรที่ได้รับประโยชน์แล้วกว่า 8 ล้านครัวเรือน
3. เมื่อเร็วๆนี้ นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฎ์ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ยืนยันว่า โครงการประกันรายได้ในปีที่สาม เดินหน้าต่อ
ระบุว่า สำหรับข้าว รัฐบาลเตรียมเงินไว้ 150,000 ล้านบาท มันสำปะหลังเตรียมไว้ 7,100 ล้านบาท ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ เตรียมเงินไว้ 1,900 ล้านบาท ปาล์มน้ำมัน 8,000 ล้านบาท และยางพารา 10,000 ล้านบาท รวม 178,000 ล้านบาท
“ผมเรียนว่าประกันรายได้เกษตรกร ทำมา 2 ปี ปี 3 ก็จะเดินหน้าต่อไป
ขณะนี้พืชเกษตรบางตัวจากทั้งหมด 5 ตัวในโครงการ ประกอบด้วยข้าว มันสำปะหลัง ยางพารา ปาล์ม ข้าวโพด หลายตัวไม่ต้องจ่ายเงินส่วนต่าง เพราะราคาดี สูงกว่ารายได้ที่ประกัน เพราะฉะนั้น การพูดในทำนองว่าพืชเกษตรตกทุกตัวนั้นไม่จริง จึงขอเรียนขีดเส้นใต้ไว้ว่าหลายตัวมีราคาดี เช่น
ขณะนี้ยางก้อนถ้วย ที่ประกันรายได้ที่ 23 บาท แต่ได้ขึ้นมา24-26 บาทแล้ว ขึ้นมานานแล้วไม่ได้ขึ้นเมื่อวาน ซึ่งเป็นสิ่งยืนยันว่ายางก้อนถ้วยราคาดีมาก ได้ประโยชน์ทั้งชาวสวนยางภาคใต้ เหนือ อีสาน ระยอง
ส่วนปาล์ม ราคาล่าสุด กก. 8.30 – 9.10 บาท เราประกันรายได้ที่ 4 บาท มันเลยราคาประกันรายได้ไป 2 เท่ากว่าแล้ว ทำให้ไม่ต้องจ่ายส่วนต่าง
สำหรับมันสำปะหลัง ณ เชื้อแป้ง 25% เป็นอย่างน้อย ราคาวันนี้ 2.55-2.75 บาท ประกันรายได้ที่ 2.50 บาท อันนี้ก็เป็นอีกตัวที่ยืนยันว่าราคาดี
ตัวที่ 4 ข้าวโพด ก็ราคาเกินรายได้ประกัน ซึ่งประกันรายได้ที่8.50 บาท วันนี้ กก.ละ 9.60 บาท เพราะฉะนั้นสูงทุกตัว ยกเว้นข้าว...
...สำหรับเรื่องข้าวนั้น จากที่มีหลายคนฟังต่อๆ กันมาจนเข้าใจว่าช่วงนี้ราคาข้าวตกที่สุด หรือต่ำสุดในรอบ 10 ปีนั้น ไม่เป็นความจริง เพราะเคยมีก่อนหน้านี้ที่ราคาตกกว่าราคาปัจจุบันหลายช่วง ผมยืนยันว่าราคาข้าวเปลือกยุคนี้ไม่ได้ต่ำที่สุดในรอบ 10 ปี แต่ราคาดีหรือยังนั้นก็อยู่ในภาวะที่ผมก็อยากให้สูงกว่านี้ แต่ราคาในช่วงเวลานี้กระเตื้องขึ้นมาแล้ว อย่างข้าวเปลือกเจ้า ความชื้น 15% ราคา 7,600-8,000 บาท ข้าวหอมมะลิ ความชื้น 15% ราคา 10,300-10,500 บาท แน่นอนว่าเราอยากให้สูงกว่านี้ ขณะที่ปีก่อนไปถึง 15,000-16,000 บาท เกินรายได้ที่ประกันไว้ แต่ชาวบ้านก็บ่นอีกว่าราคาสูงเกินทำให้ไม่ได้เงินส่วนต่าง ผมก็เห็นใจและเข้าใจ แต่อย่างน้อยที่สุดเราก็จะทำทั้ง 2 เรื่อง คือ ทำอย่างไรดึงราคาให้ดีที่สุด และถ้าราคาต่ำกว่ารายได้ประกันก็จะจ่ายเงินส่วนต่าง ซึ่งอยากย้ำว่าเราก็จะได้เดินหน้าต่อประกันรายได้ต่อไป เพราะสามารถช่วยเกษตรกรได้เฉลี่ย 8 ล้านครอบครัว...” รมว.พาณิชย์กล่าว
4. จำนวนเงินอุดหนุนสำหรับจ่ายส่วนต่างในโครงการประกันรายได้เกษตรในสินค้าเกษตรแต่ละชนิด จะมาก-น้อย ขึ้นอยู่กับว่า ราคาสินค้าเกษตรชนิดนั้นๆ ต่ำกว่าระดับราคาตั้งไว้เป็นหลักประกันแค่ไหน
ถ้าราคาตลาดตกต่ำมากๆ เงินที่จ่ายส่วนต่าง ก็จะสูง
ถ้าราคาตลาดสูงกว่าราคาประกัน ก็ไม่ต้องจ่ายเงินส่วนต่าง เช่น ปาล์มน้ำมันในบางรอบ เป็นต้น
เสียดายที่ประเทศไทยได้รับผลกระทบหนักจากโควิด-19 ทำให้มีภาระต้องแก้ปัญหาฟื้นฟูด้านต่างๆ จำนวนมหาศาลเป็นประวัติการณ์ และยังมีผลกระทบของเศรษฐกิจโลก กระทบต่อการค้าขาย ส่งผลต่อสภาวะเศรษฐกิจภายในประเทศ แต่ก็ยังประคับประคองมาได้
5. พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นนายกฯ ในบัญชีนายกฯของพรรคพลังประชารัฐ แต่เมื่อได้รับเลือกเป็นนายกฯ จัดตั้งรัฐบาลผสม ได้ตัดสินใจเลือกนโยบายประกันรายได้เพื่อช่วยเหลือเกษตร ตามแนวทางนโยบายพรรคประชาธิปัตย์
ต้องชื่นชมความใจกว้างของผู้นำรัฐบาล ที่ให้ความสำคัญกับนโยบายพรรคร่วมรัฐบาล ให้เกียรติพรรคร่วมรัฐบาล ไม่ได้คิดเอาแต่ผลประโยชน์ทางการเมืองเฉพาะกลุ่มเฉพาะพรรคพวกตนเอง
ประการสำคัญที่สุด ต้องชื่นชมที่เลือกแนวทางนี้ เพราะไม่ทำลายระบบ และไม่เปิดช่องให้เกิดการโกงกินเหมือนนโยบายล้างผลาญของรัฐบาลชุดที่แล้ว
สารส้ม
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี