• ขอพูดถึงหลักคิด ในการใช้ชีวิต อย่างมีคุณค่า และความหมาย
ที่เรา มนุษย์สามารถสร้าง ฝึกฝนและพัฒนาขึ้นมาได้ด้วยตนเอง
• เริ่มด้วยคำสำคัญ “ไม่ชอบ”
คำว่า “ไม่ชอบ” มีอิทธิพลใหญ่หลวง ในการคิดและตัดสินใจของเยาวชน :
ความจริงคืออะไร? ในเรื่อง “ชอบ-ไม่ชอบ”
นักวิชาการ ครูบาอาจารย์ และผู้คนโดยทั่วไป ไม่ได้ให้ความสำคัญ ในเรื่องนี้ของคน คิดเอาเองว่า “มันเป็นเรื่องธรรมดา” ที่คนเรา จะชอบหรือไม่ชอบ โดยไม่ได้ตั้งคำถาม หรือ ข้อสังเกตว่า “เรื่องนี้เกิดขึ้นได้อย่างไร” ในสังคมทั่วไป มีความเข้าใจ ไม่ตรง และไม่ครบถ้วน ในเรื่องนี้ ซึ่งเป็น “ความเป็นจริงของชีวิต มนุษย์คนหนึ่ง”
ผมพยายามศึกษา ค้นคว้าจากหลายแหล่ง ก็ยังไม่ได้คำตอบชัดเจน
จึงขอนำเสนอบางประเด็น มาให้ “คิดและพิจารณากัน”
๑.เป็นการพูดข้ามขั้นตอน “ชอบหรือไม่ชอบฯ” เพราะอะไร? โดยจะ “พูดถึงสิ่งที่ทำ : หลังจาก มีสิ่งที่รักที่ชอบแล้วโดยมีการนำเสนอถึงคุณค่าของเรื่องนี้ ว่า “การทำในสิ่งที่รัก และรักในสิ่งที่ทำ คือ จุดสูงสุดในการผลักดัน”
๒.เป็นการนำเสนอหลักการ และวิธีการที่จะไปสู่“สิ่งที่ชอบ” เช่น การวางแผนชีวิต ด้วย Design Thinking อาจเป็นเครื่องมือช่วยคุณได้ ให้ค้นหาตัวเองเจอ แพสชั่น คืออะไร อนาคตจะไปในเส้นทางไหน? หนังสือ Designing Your Life เชื่อว่า ชีวิตและแผนการที่ดี ไม่ได้มีเพียงรูปแบบเดียว ทุกคนสามารถเลือกได้ว่า “จะก้าวไปข้างหน้าด้วยเส้นทางแบบไหน?” ยิ่งมีแผนการมากเท่าไร คุณอาจเจอสิ่งที่ชอบเร็วมากขึ้นเท่านั้น
(เคน นครินทร์ The Secret Sauce EP.97)
• ปู่สุข : ได้ “สมมุติฐาน ขั้นต้น” ว่า “มีหลายปัจจัย ที่เกี่ยวข้องเชื่อมโยง” ใน “เรื่องนี้” คือ
การชอบ ไม่ชอบ : เกิดขึ้นได้อย่างไร? ในชีวิตจริง
๑. สภาพของสังคม ความคิดของผู้คน ในสังคมที่เราอยู่
๒. สภาพการณ์ คุณวุฒิและประสบการณ์ ของแต่ละคน โดยเฉพาะ “ในช่วงของการพัฒนา จากเด็กไปสู่ผู้ใหญ่”
๓. “เวลา ระยะผ่าน” จากการเริ่มต้น “ท่ามกลาง และบั้นปลาย”
๔. “การทำอย่างอิสระตามใจ” “การถูกบังคับให้ทำ” หรือ “ความจำเป็นต้องทำ” ในเรื่องหนึ่ง
๕. การทดสอบ ทดลองทำ อย่างมีแผน ขั้นตอนในการปฏิบัติ และการสรุปผล
ข้อที่สำคัญ และสังคมไทยขาด คือ
“การแนะนำที่ถูกต้อง ถูกทาง จากผู้ใหญ่ที่มีความรู้
และประสบการณ์ตรง”
• เรื่องนี้ “ไม่ชอบ-ชอบ” เป็นเรื่องใหม่ และเข้าใจยาก
จึงขอนำเสนอ “รูปธรรม” ในชีวิตจริง ตอนเป็นเด็ก
๑.เราจะตัดสิน “การชอบ ไม่ชอบ” จากพฤติกรรม ตอนยังเป็นเด็ก
๒.ขาดวุฒิภาวะ ประสบการณ์ ขาดความรู้ ความเข้าใจ และการตัดสินใจที่มีเหตุผล ถูกต้อง ขาดทางเลือก (ยังมีน้อย)
๓.สภาวะโดยรวม ไม่พร้อม ไม่พอ ที่จะ “คิดและตัดสินใจได้ถูก” การขาดการแนะนำที่ดีและถูกต้อง จาก“พ่อแม่ ครู พระ” และการตัดสินใจของเด็กที่ขาดข้อมูลและเหตุผล
๔.ถูกตัดสิน โดย “ทัศนะของ พ่อแม่ ครู พระ” โดยเฉพาะ “คะแนนสอบ” และสภาพแวดล้อม ที่ไม่มี “ตัวช่วย”เช่น แรงกดดัน ความจำเป็นต้องทำ
๕.ไม่มีการทดสอบ ทดลอง ในชีวิตจริง ในช่วงนั้น
• อีกมุมหนึ่ง มีตัวอย่างของตัวเอง และคนบางส่วน
๑.เมื่อมารู้ทีหลัง ว่า “มีประโยชน์ต่อสุขภาพ”
(๑) ตอนเด็ก ไม่ชอบ “มะเขือเทศ” ด้วยเหตุผลเชยๆ เพราะ “มองเห็นความเละ” แต่เมื่อเป็นผู้ใหญ่รู้ว่า “มีประโยชน์ต่อสุขภาพ” จึงพยายามกิน แล้วเริ่มรู้สึกอร่อย
(๒) อีกเรื่องหนึ่ง ในช่วงไปทำงานเป็นนายช่างโครงการสร้างทาง ที่จังหวัดทางภาคเหนือเริ่มรู้สึกว่า “มีปัญหาสุขภาพ” เมื่อไปตรวจรักษากับ “หมอใหญ่ พลตรี นายแพทย์สฤษดิ์วงศ์ วงศ์ถ้วยทอง จึงรู้ว่าเป็น “ภูมิแพ้” และแพ้สาร ร่วม ๒๐ อย่าง รักษามาหลายเดือน ไม่ดีขึ้น แต่มาสังเกตว่า “หลังจากการออกกำลังกาย ทุกวันอย่างต่อเนื่อง” มีอาการดีขึ้น และ “ภูมิแพ้”
ก็ลาจากไป จึงรู้จัก “สุขภาพและชีวิตของตัวเองดีขึ้น” รู้ว่า “ตัวเราสามารถฝึกฝน และพัฒนาร่างกายให้สมบูรณ์แข็งแรงได้”
๒.การเกิดขึ้นของ “นักอุดมคติ ๑”
ตอนเรียนวัยเด็ก มุ่งหน้าเอาแต่เรียน แต่เมื่อมาเรียน เตรียมอุดม จุฬาฯ มีกิจกรรมหลากหลาย ก็เริ่มทำ และทำมากขึ้น
เริ่มมีความสนใจ ในเรื่องของผู้อื่น ส่วนรวม จนมาเป็น
อุดมคติของตน
เมื่อได้เข้าร่วมกิจกรรมใหญ่ทางสังคมการเมือง คือ เหตุการณ์ ๑๔ ตุลา ๒๕๑๖ ผ่านอุปสรรคใหญ่ที่สุดครั้งหนึ่ง ที่
“ผู้นำนักสู้ของประชาชน” จะได้เจอมา ทั้งที่เพียงเริ่มต้นทำ ด้วยความบริสุทธิ์ จริงใจ หวังให้เกิดสิ่งที่สังคมไทยขาดไป
ให้กลับคืนมา คือ “รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย” ที่ถูก “รัฐประหาร” โดย จอมพลถนอม ประภาส ณรงค์“เมื่อ ๑๗ พฤศจิกายน ๒๕๑๔” จึงร่วมกับเพื่อนมิตรและผู้รักชาติรักประชาธิปไตย ก่อตั้ง “กลุ่มเรียกร้องรัฐธรรมนูญ” ขึ้น
๓.ตัวอย่างของ “ผู้นำระดับสูงของรัฐ ๑”
บางคน เรียนเก่ง จึงเลือกคณะแพทย์ แต่กลับไม่ได้ มีความสนใจจริง แต่เมื่อเปลี่ยนไปเรียน “ด้านบริหาร” กลับไปได้ดี มีบทบาทสูงในสังคม ได้เป็น ถึงนายกรัฐมนตรีคนหนึ่งของประเทศ
๔.ความจำเป็น ต้องดิ้นรน ขวนขวาย ทุ่มเทเอาจริง
บางคนมาทำอาชีพ “ขายประกัน” เพราะมีความจำเป็นต้องสร้างตัว ให้ทันเพื่อน เพราะในช่วงเรียนอยู่มหาวิทยาลัยแห่งหนึ่ง อยู่ในช่วงของเหตุการณ์ ๖ ตุลา ๒๕๑๙ และได้เดินทางไปร่วมสู้รบต่อในชนบท และออกมาหลังปี ๒๕๒๒
ทำมาหลายปี ได้พัฒนาตนเอง : ศึกษา อบรมทักษะต่างๆ การเข้าพบลูกค้าเป็นว่าเล่นตอนนี้ ได้รับรางวัลระดับชาติ
มากมายฯ สามารถสร้างเนื้อตัวและครอบครัวได้
๕.ผู้นำหลายคน รวมทั้งคนธรรมดาสามัญชน มีปัญหาสุขภาพ ในช่วงวัยทำงาน ด้วยทำงานหนักไม่มีเวลา หรือไม่ได้ใส่ใจ
ในการรักษาสุขภาพมากพอ แต่หลังจากเกษียณ กลับหันมาให้ความสำคัญต่อสุขภาพ อย่างจริงจัง และทำต่อเนื่องตอนนี้
อายุ ๗๐ กว่าแล้ว สุขภาพและร่างกายยังแข็งแรง มากกว่าเดิม
ท้ายสุด : ขอสรุปสั้นๆ ที่เป็นหัวใจ
มนุษย์ เป็นสัตว์ประเสริฐ อยู่ที่ “ความสามารถฝึกและพัฒนาตนเองได้” หากมีความตั้งใจ เอาจริง : ศึกษาด้วย สติปัญญา ความจริง และสรุปบทเรียน
ฉะนั้น หากมีการสอน ให้ “เด็ก” เรียนรู้ ฝึกฝน พัฒนา“ความชอบ” ของตนได้แท้จริง“ลูกหลานของเรา” จะสามารถเดินไปในทางที่ถูก ได้ดี ได้เร็ว ในชีวิต
@ เรื่องนี้สำคัญ ที่มนุษย์ และชาวไทย ควรจะต้องใส่ใจ เอาจริงจัง ในการศึกษาให้มากขึ้น
ให้รู้จริง และเข้าใจอย่างแท้จริง ถึง “การสร้างความชอบ” ได้อย่างถูกต้อง ตั้งแต่ยังเด็ก ซึ่งจะนำมาต่อการเป็นผู้ใหญ่ ที่มีความรักความชอบที่ดีถูกต้องจากการสร้างและฝึกด้วยตนเอง
: ขอฝากเรื่องนี้ ให้ “เพื่อนมิตรที่สนใจในการพัฒนาชีวิต” นำไปคิดเติมต่อ ให้เต็มด้วย
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี