วันพุธ ที่ 29 ตุลาคม พ.ศ. 2568
เมื่อกลางสัปดาห์ที่ผ่านมา “ลุงป้อม – พลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ” พี่ใหญ่ 3 ป. และหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐพรรคการเมืองแกนนำรัฐบาลและฐานกำลังที่มั่นของ “ลุงตู่ทหารแก่ – พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา” ได้เปิดเผยกรอบแนวคิดกำหนดนโยบายและแผนงานโครงการ เพื่อจัดทำเป็นยุทธศาสตร์ของพรรคพลังประชารัฐเตรียมพร้อมในการหาเสียงเลือกตั้งที่คาดว่าน่าจะเกิดขึ้นในราวกลางปี 2565 คำประกาศดังกล่าวต้องสบถแรงๆว่า “อุกอาจ” ยิ่งนักโดยเฉพาะ “ยุทธศาสตร์พรรคในหัวข้อ เศรษฐกิจพัฒนา ประชามีสุข ธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมยั่งยืน ประเทศชาติมั่นคง” ... เศรษฐกิจพัฒนาอย่างไรนั่นคือ เน้นการลดรายจ่าย เพิ่มรายได้ ขยายโอกาส ผุดโครงการบัตรเครดิตเกษตรประชารัฐวงเงินครัวเรือนละ 50,000 บาท ส่งเสริมนวัตกรรมและเทคโนโลยี ผุด “โครงการประชารัฐระดับตำบล ตั้งกองทุนตำบลละ 20 ล้านบาท” ที่ภายหลังกลับมาบอกว่า ยังเป็นแค่ข้อเสนอแนวคิดเท่านั้น
จะอย่างไรก็ดีต้องถามนักการเมืองที่ปรารภแนวคิดนี้ก่อนว่าทราบหรือไม่ ประเทศไทยมี 76 จังหวัดกับ 1 เขตปกครองพิเศษนั้น พบว่า 76 จังหวัดมี 9,652 ตำบล
เขตปกครองพิเศษกรุงเทพมหานคร มี 180 แขวง เบ็ดเสร็จงบประมาณที่ต้องใช้ในโครงการประชารัฐตำบลต้องใช้เงินราว 196,600 ล้านบาท หากอยากได้ก็ให้ไปกากบาทเลือก แล้วจะหางบประมาณมาจากไหน
ก่อนหน้านี้พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา ทำการรัฐประหารรัฐบาลพลเรือนที่มาจากการเลือกตั้ง ด้วยเหตุทุจริตคอร์รัปชั่นมากมาย เสนอกฎหมายเพื่อครอบครัวและพวกพ้อง โดยเฉพาะทุจริตโครงการรับจำนำข้าว และสัญญาค้าข้าวแบบจีทูจีที่แปรเปลี่ยนเป็นจีทูเจี๊ยะ ที่สร้างความเสียหาย 7-8 แสนล้านบาท ทำให้ต้องการเข้ามาปราบปรามทุจริตคอร์รัปชั่น ปฏิรูปการเมือง ยุติความขัดแย้งและสร้างความปรองดองในชาติ
จากวันนั้นจนถึงวันนี้ 7 ปีเศษ ของพลเอกประยุทธ์ มี ขรก. และนักการเมืองหลายคนถูกดำเนินคดี
วันนั้นนโยบาย, แผนโครงการ และยุทธศาสตร์ของพรรคการเมืองที่นำมาใช้ในการหาเสียงเลือกตั้ง ที่ถูกเรียกขานว่า “ประชานิยม” กำลังจะถูกนำมาหลอกลวงปล้นประชาชนอีกครั้ง หลังการเมืองเมื่อ 20 ปีผ่าน “ทักษิณ ชินวัตร”
ตั้ง “พรรคไทยรักไทย”ก็ผลักดันนโยบายประชานิยมเสนอต่อสังคมไทย
“ประชานิยม” นิยามว่าเป็นอุดมการณ์หรือเป็น ปรัชญา การเมืองหรือวาทกรรมประดิษฐ์ประเภทหนึ่ง แนวคิดทางสังคมการเมืองซึ่งเปรียบเทียบ “ประชาชน” กับ “อภิชน” พจนานุกรมเคมบริดจ์นิยามว่าเป็น “แนวคิดและกิจกรรมทางการเมืองอันมีเจตนาเพื่อเป็นตัวแทนของความต้องการและความปรารถนาทั่วไปของประชาชน เป็นวาทกรรมการเมืองซึ่งดึงดูดใจประชากรส่วนใหญ่ โดยไม่คำนึงถึงค่านิยมสุรุ่ยสุร่าย” อย่างไรก็ตาม มีการอธิบายว่าประชานิยมนั้นค้ำจุนรัฐบาลอำนาจนิยม อันเกิดจากกระบวนการปลุกระดมทางการเมืองซึ่งผู้นำจะปราศรัยแก่มวลชนโดยปราศจากการประนีประนอมของพรรคหรือสถาบันใดๆ ว่ากันจริงๆ ก็หมายถึงการออกนโยบายมาเอาใจประชาชนให้ประชาชนได้ในสิทธิพิเศษมากๆ แลกกับความนิยมในรูปแบบของประชาธิปไตยแบบไทยๆ คือ
การกากบาทลงคะแนนเสียงเลือกตั้ง
ที่ผ่านมาสังคมไทยเกิดความแตกแยก เศรษฐกิจไทยย่อยยับเพราะ “ประชานิยม” มาเท่าไหร่แล้ว จนต้องร่างบทบัญญัติในพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง 2560 ห้ามไม่ให้พรรคการเมืองออกนโยบาย “ประชานิยม” ทั้งให้กกต.มีอำนาจสั่งปรับพรรคการเมือง 500,000 บาท
หากเสนอนโยบายไม่แจงวงเงิน ที่มาของเงิน และความคุ้มค่าของนโยบาย ให้ปรับรายวันวันละ 10,000 บาท
หยุดเถิด “นักการเมืองผู้เปรื่องปราชญ์ ความฉลาดความโกงช่างโปร่งใส คุณไม่เคยลำบากจนยากไร้ แต่ปากคุณเอาใจคนยากจน”
หยุดเถิดเลย ... หยุดปล้นประเทศชาติ หยุดทุจริตเชิงนโยบาย สร้างหนี้สาธารณะเถอะ!!

ปิดเกม‘รับ-แลก-ลวง’ รวบ 3 ผู้ต้องหาโกงสิทธิ์ หลอกแลกเงินสด‘คนละครึ่งพลัส’
'เวียดนาม'อ่วม! น้ำท่วมหนักคร่าชีวิตแล้ว 9 ราย สูญหาย 5 ราย
ปรีวิว-ฟันธง!หงส์ขอกู้ฟอร์มดวลโจทย์เก่าพาเลซ
ปรีวิว-ฟันธง!ปืนปรับทัพเปิดรังดวลนกนางนวล
‘อย.’แจงยิบเคส‘หงส์ไทย’ ปนเปื้อนเฉพาะรุ่นที่ตรวจพบ ส่วนรุ่นอื่นๆยังขาย-ใช้ได้ตามปกติ

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี