ไวรัสสายพันธุ์ใหม่ที่เป็นเชื้อสายวงศ์ตระกูลดั้งเดิมคือไวรัสโคบ้ากำลังเป็นข่าวดังสนั่นลั่นโลก ที่สร้างความหวาดผวาให้แก่ประชาคมโลกและประชาชนวงการต่างๆ ทั่วโลก ทั้งๆ ที่คนเกือบทั้งโลกไม่เคยรู้จักไวรัสตัวนี้เลย
และประเทศที่เป็นต้นหลักในการขับเคลื่อนกระแสข่าวนี้ก็คือประเทศอิสราเอลและประเทศอังกฤษ
สำหรับอิสราเอลนั้นเป็นประเทศเล็กๆ มีประชากรไม่มาก ไม่อยู่ในภูมิภาคของการแพร่ระบาดและไม่มีการแพร่ระบาด ส่วนอังกฤษก็เป็นเกาะอยู่ไกลโพ้น ไม่อยู่ในภูมิภาคของการแพร่ระบาดและแทบไม่มีการแพร่ระบาดด้วย แต่ไฉนเล่าสองประเทศนี้จึงเป็นหัวเรือใหญ่ในการขับเคลื่อนกระแสไวรัสแอฟริกาในครั้งนี้?
จะเข้าใจเรื่องนี้ได้ดีถ้าหากได้ทราบความจริงว่าประเทศที่เป็นเจ้าของวัคซวยรายใหญ่และรายสำคัญของโลกก็คืออิสราเอลและอังกฤษ เพียงแต่ไปมอบสิทธิ์หรือไปตั้งเครือข่ายการผลิตในประเทศต่างๆ จนทำให้คนทั้งหลายลืมไปว่าสองประเทศนี้นี่แหละคือประเทศที่ได้รับผลประโยชน์จากการค้าวัคซวยมากที่สุด
และตลอดเวลานับแต่โคบ้าระบาด ก็สองประเทศนี้นี่แหละที่เป็นหัวเรี่ยวหัวแรงและขับเคลื่อนเกี่ยวกับกระแสข่าวมหันตภัยบันลือโลกของโคบ้า กระทั่งอยู่เบื้องหลังการตั้งรูปแบบการกระจายวัคซวยและรูปแบบการรายงานสถิติว่าประเทศใดติดเชื้อโคบ้าเท่าใด ตายเท่าใด จนทำให้ตื่นตกใจกลัวกันทั้งโลก
ครั้นความจริงปรากฏว่าวัคซวยที่ว่ากันนั้นไม่สามารถป้องกันการติดเชื้อโคบ้าได้เลย บรรดาประเทศที่ส่งเสริมและบังคับขับไสให้ประชาชนฉีดวัคซวยมากที่สุดก็ปรากฏว่ายังมีการติดเชื้อโคบ้ากันจ้าละหวั่น ไม่ว่าจะฉีดวัคซวยกันกี่เข็มก็ตาม และไม่ว่าจะฉีดไขว้กันแบบไหนก็ตาม
ประเทศที่มีคนป่วยและคนตายมากที่สุดก็คือประเทศที่ฉีดวัคซวยมากที่สุด
ในขณะเดียวกัน การเสนอความจริงที่ไม่สอดคล้องกับกระแสข่าวหลักได้ถูกปิดกั้นสารพัด ไม่ว่าโดยการบล็อก การลบข้อความที่มีการเสนอความจริงอีกด้านหนึ่ง จึงทำให้ทั่วโลกทั้งโลกได้รับความจริงด้านเดียวและไหลกันไปตามกระแส
ในที่สุดก็เกิดการบังคับขับไสอย่างรุนแรงในทุกวิถีทางเพื่อให้คนทั้งหลายไปฉีดวัคซวยกัน เช่น ห้ามเดินทางบ้าง ห้ามโดยสารรถราม้าช้างบ้าง ห้ามเข้าไปในสถานที่ต่างๆ บ้าง ห้ามติดต่อที่นั่นที่นี่บ้าง ห้ามไปกินข้าวกินปลาที่นั่นที่นี่บ้าง รวมความก็คือกำหนดมาตรการบังคับให้คนทั้งหลายต้องไปฉีดวัคซวยกัน
บรรดาหมออำมหิตทั้งหลายที่อยู่ในเครือข่ายพวกขายยาก็ช่วยกันโหมประโคมให้เป็นไปในทางเดียวกันโดยไม่รับผิดชอบในผลที่เกิดขึ้น คือป้องกันการแพร่ระบาดไม่ได้ แม้กระทั่งฉีดวัคซวยแล้วล้มหายตายจากพิกลพิการเป็นจำนวนมากก็ปกปิดข่าวบิดเบือนว่าตายหรือป่วยเจ็บพิการด้วยเรื่องอย่างอื่น กระทั่งเบี้ยวไม่ยอมชดใช้ค่าสินไหมทดแทนใดๆ
ประเทศที่ประสบความสำเร็จในการรับมือกับโคบ้าเขาไม่ได้เห่อบ้าเรื่องวัคซวย แต่เขาเน้นวิธีกำกับดูแลให้ทุกคนปลอดภัย ไม่ต่างกับการดูแลความปลอดภัยในการติดไข้หวัดใหญ่นั่นเอง และเมื่อใครป่วยแล้วก็เร่งใช้ยารักษาให้ไวที่สุด ผลปรากฏว่าสามารถรักษาให้หายได้โดยเร็วที่สุด ไม่ต่างกับการรักษาไข้หวัดใหญ่
ดังนั้นประเทศที่เขารอดปลอดภัยก็คือประเทศที่ไม่ได้หลงบ้าตามกระแสโคบ้าและวัคซวย แต่กลับปกปิดข่าวสารไม่ให้โลกรู้ความจริง ใครขืนนำเรื่องเหล่านั้นมาเปิดเผยก็จะถูกปิดกั้นสารพัดวิธี
สำหรับประเทศไทยยังโชคดีที่มียาสมุนไพรสารพัดชนิดและผู้คนก็ระมัดระวังตัวมากขึ้น ดังนั้นถึงแม้จะถูกปั่นกระแสสักเท่าใด คนไทยส่วนใหญ่ก็ยังปลอดภัย แม้กระทั่งมีการสร้างสถานการณ์หลายสถานการณ์เพื่อให้เกิดการแพร่ระบาดอย่างแพร่หลาย แต่ในที่สุดก็สามารถจำกัดให้อยู่ในแวดวงที่ควบคุมได้ตลอดมา
แต่ต้องแลกมาด้วยความเสียหายย่อยยับทั้งทางเศรษฐกิจ การเงิน การคลัง จนกระทั่งก่อเกิดเป็นวิกฤตอย่างใหญ่หลวงในบ้านเมืองขณะนี้ โดยเฉพาะการฉวยโอกาสทำมาหากินกับโคบ้าอย่างเป็นล่ำเป็นสันชนิดไม่เกรงฟ้าไม่กลัวดิน เพราะลำพองในอำนาจว่ามีอำนาจเสียอย่างใครจะทำอะไรกูได้
วันนี้ไวรัสแอฟริกามาอีกแล้วและกำลังปั่นกระแสกันเป็นการใหญ่ ดังนั้นเพื่อประโยชน์แห่งชาติและประชาชน จึงควรทำความเข้าใจเรื่องไวรัสแอฟริกากันเสียหน่อยในประการที่สำคัญดังนี้
ประการแรก ไวรัสแอฟริกานี้ก็ไม่ใช่ของใหม่ แต่เป็นเชื้อสายเทือกเถาเหล่ากอของโคบ้านั่นเอง ดังนั้นโครงสร้างของไวรัสนี้จึงยังเป็นโครงสร้างของไวรัสเชื้อผสมระหว่างไวรัสซาร์สที่ติดง่ายระบาดไว และไวรัสเอดส์ที่กลายพันธุ์ไปทุกทอด และทุกทอดที่กลายพันธุ์ก็จะอ่อนแอลง
โดยผลของการกลายพันธุ์เช่นว่านั้นจึงไม่มีวัคซวยใดที่จะป้องกันมันได้
ไวรัสแอฟริกาเป็นไวรัสกลายพันธุ์จากโคบ้าอย่างน้อยเกินทอดที่ 10 แล้ว ดังนั้นแม้ยังมีโครงสร้างของไวรัสแบบโคบ้าคือเป็นส่วนผสมของไวรัสซาร์สและไวรัสเอดส์ แต่โดยผลของการกลายพันธุ์เกิน 10 ทอดมาแล้ว ไวรัสนี้จึงอ่อนแอกว่าโคบ้าในระยะเริ่มแรกมากมายหลายเท่า ถึงขนาดนั่งกินน้ำร้อนจิบน้ำชาก็อาจจะหายได้ เป็นแต่ระบาดไวตามคุณสมบัติดั้งเดิม
ประการที่สอง โครงสร้างของไวรัสแอฟริกาที่เปลี่ยนแปลงไป คือ ส่วนที่เป็นหนามหรือโครงสร้างภายนอก ซึ่งต้องเข้าใจว่าโครงสร้างของโรคระบาดนี้มี 3 ส่วน ถ้าเทียบกับไข่เป็ดก็คือไข่แดงซึ่งเป็นตัวเชื้อผสมส่วนหนึ่ง ส่วนที่เป็นไข่ขาวซึ่งเป็นส่วนน้ำเลี้ยงและอาหารหล่อเลี้ยงส่วนหนึ่ง และส่วนที่เป็นเปลือกผิวคือส่วนที่เป็นหนามที่เชื่อมจากส่วนที่เป็นเปลือกไข่ขาว
โครงสร้างส่วนภายนอกนี้จะเปลี่ยนแปลงเรื่อยไปเป็นทอดๆ เช่นจะมีลักษณะเป็นหนามน้อยบ้าง มากบ้าง ลักษณะของหนามมีปุ่มบ้าง แหลมบ้าง หรือไม่แหลมบ้าง รวมทั้งมีเยื่อเชื่อมต่อระหว่างหนามเป็นเส้นเดียวบ้าง สองเส้นบ้าง สามเส้นบ้าง
ดังนั้นที่เรียกว่ากลายพันธุ์จึงเป็นส่วนที่เป็นหนามภายนอก ในขณะที่ตัวน้ำเลี้ยงคงเดิม และส่วนที่เป็นตัวเชื้อคือส่วนที่เป็นไข่แดงนั้นก็มีความอ่อนแอลงตามลักษณะพันธุกรรมที่มีการกลายพันธุ์ทำนองเดียวกับไวรัสเอดส์
ประการที่สาม การติดง่ายระบาดไวเป็นคุณสมบัติของเชื้อไวรัสซาร์ส และมีตัวปฏิบัติการคือส่วนที่เป็นหนาม ยิ่งเป็นหนามแหลมและมีเส้นโยงใยน้อยก็จะติดง่ายระบาดไว แต่ถ้าเป็นหนามไม่แหลมหรือมีเส้นโยงใยมาก การระบาดก็จะช้าลงหรือระบาดยากขึ้น
โดยเฉพาะส่วนที่เป็นหนามและเส้นโยงใยเหล่านี้ก็มีความอ่อนแอลงโดยลำดับ ดังนั้นเมื่อถูกความร้อนบ้าง หรือถูกสารอื่นบ้าง ไม่ว่าจะเป็นสารของฟ้าทะลายโจร หรือสารที่เป็นกรดที่เกิดจากผลไม้ก็ดี ไม่ใช่ผลไม้ก็ดี หรือเผชิญหน้ากับจุลินทรีย์ที่กินพวกไวรัสก็ดีก็จะถูกทำลายได้อย่างรวดเร็ว
และโดยลักษณะหนามนั้นจะทำให้การปลิวในอากาศมีลักษณะแตกต่างกัน คือถ้าเป็นหนามแหลมเล็กมากเท่าใดก็ยิ่งปลิวได้ง่ายได้ไว แต่ถ้าหนามเล็กมากเกินไปก็บูดบิดทำให้เกาะไม่ติดเนื้อเยื่อในโพรงจมูกและลำคอ
ไวรัสแอฟริกาเป็นผลจากการกลายพันธุ์เกินทอดที่ 10 ไปแล้ว ตัวเชื้อก็อ่อนแอลงตามธรรมชาติ และที่สำคัญมีการค้นพบส่วนที่เป็นหนามภายนอกว่าแม้มีปลายเล็กแหลมติดง่ายระบาดไวก็จริงแต่กลับเกาะเจาะเข้าไปในเนื้อเยื่อยากกว่าโคบ้าที่กำลังระบาดอยู่ในประเทศไทยและประเทศอื่นๆ
ดังนั้นด้วยประการเหล่านี้ก็ชี้ชัดว่าไวรัสแอฟริกาแท้จริงไม่ได้ร้ายแรงไปกว่าไวรัสที่ระบาดอยู่ในประเทศไทยในขณะนี้ บรรดาหยูกยาที่เคยใช้รักษาหายก็สามารถใช้รักษาไวรัสแอฟริกาให้หายได้อย่างดีมากกว่าเก่า
ยกเว้นยาฟาวิพิราเวียร์ซึ่งใช้ไม่ได้ผลเพราะเป็นยารักษาไข้หวัดนก ซึ่งประเทศผู้ผลิตยานี้ทั้งสามประเทศคือ ญี่ปุ่น อินเดีย และเยอรมนี ไม่ให้ใช้ยานี้เพราะไม่สามารถใช้รักษาได้และบัดนี้สหรัฐก็ไม่ให้ใช้เช่นเดียวกันแต่ประเทศไทยได้สั่งซื้อยานี้ถึง 430 ล้านเม็ด ราคาเม็ดละราว 70 บาท โดยที่รักษาโรคไม่ได้ แล้วจะว่ากันอย่างไร!
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี