สนามเลือกตั้งชิงเก้าอี้ “เจ้าพ่อเสาชิงช้า – ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร” ศึกนี้ถ้าเป็นการเมืองยุคก่อนน่าจับตามองไม่น้อย เพราะเป็นสนามที่วัดพลังของพรรคการเมืองใหญ่ไม่กี่พรรคโดยแท้ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง พรรคการเมืองอย่าง “พรรคเพื่อไทย”ตั้งแต่ในสีเสื้อ “ไทยรักไทย” มาแล้ว อันที่จริงก็ไม่ใช่เรื่องแปลกอะไรนัก หากมองการกำเนิดทางการเมืองของนายใหญ่แดนไกล เจ้าของพรรคเพื่อไทยตัวจริงก็มีกำเนิดมาจากพรรคการเมืองดั้งเดิมเจ้าของพื้นที่เลือกตั้งกรุงเทพมหานคร อย่าง “พรรคพลังธรรม”ของมหา 5 ขัน – พลตรีจำลอง ศรีเมือง อดีตนักเรียนนายร้อยจปร.รุ่น 7 ยังเติร์ก – เลขาธิการนายกรัฐมนตรี (พลเอกเปรม ติณสูลานนท์) ผู้สร้างปรากฏการณ์และประวัติศาสตร์ทางการเมืองหน้าใหม่ขึ้นมา

สนามเลือกตั้งกรุงเทพมหานครนั้นถือเป็นเสาหลักของพรรคการเมืองที่ถูกจัดให้เป็นสถาบันการเมืองอย่าง “พรรคประชาธิปัตย์” มาอย่างยาวนานไม่ว่าจะในยุคสมัยไหน อย่างในการเลือกตั้งสส.ปี 2512 จอมพลถนอมกิตติขจร นั่งแป้นหัวหน้าพรรคการเมืองสืบทอดวิชามาจากพรรคมนังคศิลา จัดตั้งพรรคสหประชาไทย มี พลอากาศเอกทวี จุลละทรัพย์ เป็นเลขาธิการพรรคก็ไม่ได้สส.สักที่นั่งเดียวในพระนคร ขณะที่พรรคปชป.ภายใต้การนำของหม่อมราชวงศ์ เสนีย์ ปราโมช คว้าเก้าอี้สส.พระนครไปหมดทั้ง 39 ตัว และเป็นเช่นนั้นเรื่อยมาจนกระทั่งเลือกตั้ง 22 เมษายนปี 2522 หลังเกิดโศกนาฏกรรม 6 ตุลาคม 2519 เกิดการรัฐประหาร เกิดรัฐบาลหอยของนายธานินทร์กรัยวิเชียร นำไปสู่การร่างรัฐธรรมนูญที่มีศาสตราจารย์พิเศษจิตติ ติงศภัทิย์ องคมนตรี เป็นประธานคณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ มีนายมีชัย ฤชุพันธุ์ เป็นเลขานุการมีการเขียนรัฐธรรมนูญคล้ายฉบับปัจจุบันที่สมาชิกคณะรัฐประหารมีอำนาจในการแต่งตั้งสมาชิกวุฒิสภาจำนวน 225 คนเ ป็นฐานที่มั่นทางการเมือง เพื่อสืบทอดอำนาจให้แก่สมาชิกคณะรัฐประหารอย่างพลเอกเกรียงศักดิ์ ชมะนันทน์

นายสมัคร สุนทรเวช ตัดสินใจทิ้งพรรคการเมืองที่ให้กำเนิดทางการเมืองอย่าง “พรรคประชาธิปัตย์”ออกมาตั้ง “พรรคประชากรไทย” สามารถโค่นแชมป์เก่าปชป.ในสนามกทม.ได้อย่างราบคาบ จนเหลือเก้าอี้ให้พันเอกถนัด คอมันตร์ อดีตเสนาบดียุคเผด็จการสฤษดิ์ ธนะรัชต์และหัวหน้าพรรคปชป.ในขณะนั้นเพียงตัวเดียวเท่านั้น ในการเลือกตั้งปี 2526 พรรคประชาธิปัตย์เริ่มมีค่านิยมขาขึ้นกวาดเก้าอี้สส.กทม.สู้กับพรรคประชากรไทยของสมัคร สุนทรเวช ได้อย่างสูสี สมน้ำสมเนื้อ และพัฒนาคุณภาพและปริมาณขึ้นเรื่อยๆ จนถึงการเลือกตั้งเดือนมีนาคม 2535 พรรคพลังธรรมของพลตรีจำลองยืนเคียงข้างมวลชนในการต่อต้านนโยบายบางเรื่องของพลเอกเปรม ได้แรงศรัทธาจากประชาชนจนสามารถชนะเลือกตั้งสนามกรุงเทพฯได้ แม้กระทั่งสนามเลือกตั้งศึกเสาชิงช้า ก็ได้เป็นผู้ว่าฯ กทม.ชนะผู้สมัครพรรคประชาธิปัตย์อย่างถล่มทลาย

มาวันนี้ลูปการเลือกตั้งของปชป.มีทีท่าดีขึ้น คะแนนนิยมในการสำรวจความคิดเห็นประชาชนอยู่ในเกณฑ์ที่ดี มีผู้สมัครสายเลือดใหม่ที่มีคุณภาพทั้งความรู้ความสามารถให้คนกทม.ได้คัดสรร มารอลุ้นกันว่าลูปเลือกตั้ง ปชป.จะตกในลูปใดกับการเลือกตั้งชิงเก้าอี้ “เจ้าพ่อเสาชิงช้า-ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร”