กรรมอีกวาระหนึ่งของนายธาริต เพ็งดิษฐ์ อดีตอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ
เมื่อวานนี้ นายธาริตอ้างเหตุป่วยเป็นโรคเส้นเลือดในสมองอุดตันเฉียบพลัน ขอศาลเลื่อนอ่านฎีกาคดีปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ กลั่นแกล้งผู้อื่นให้รับโทษอาญา กรณีไปกลั่นแกล้งเล่นงานนายสุเทพและนายอภิสิทธิ์
1. เมื่อวานนี้ ศาลอาญา รัชดา นัดอ่านคำพิพากษาศาลฎีกาคดีปฏิบัติหน้าที่มิชอบ
โจทก์ คือ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อดีตนายกรัฐมนตรี,นายสุเทพ เทือกสุบรรณ อดีตรองนายกรัฐมนตรีและอดีตผู้อำนวยการศูนย์อำนวยการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉิน หรือ ศอฉ.
จำเลย คือ นายธาริต เพ็งดิษฐ์ อดีตอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ, พ.ต.ท.วรรณพงษ์ คชรักษ์ อดีตหัวหน้าชุดสอบสวนคดีการเสียชีวิตของประชาชน และเจ้าหน้าที่รัฐจากเหตุรุนแรงทางการเมืองปี 2553, พ.ต.ต.ยุทธนา แพรดำ และ ร.ต.อ.ปิยะ รักสกุล ในฐานะพนักงานสอบสวน เป็นจำเลยที่ 1-4
ในความผิดฐานเป็นร่วมกันเจ้าพนักงานปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบหรือโดยทุจริต และเป็นเจ้าพนักงานสอบสวนกระทำการโดยมีเจตนากลั่นแกล้งให้ผู้อื่นได้รับโทษอาญา ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 157, 200
สืบเนื่องจากช่วงเดือนก.ค. 2552-13 ธ.ค. 2555 จำเลยทั้ง4 คน ในฐานะพนักงานสอบสวนกรมสอบสวนคดีพิเศษ ได้สอบสวนและตั้งข้อหากับโจทก์ทั้งสอง ฐานสั่งฆ่าประชาชน ซึ่งเป็นการบิดเบือนข้อเท็จจริง และเจตนากลั่นแกล้งโจทก์ให้ต้องรับโทษ จากการที่ ศอฉ.ออกคำสั่งให้ใช้กำลังเจ้าหน้าที่กระชับพื้นที่การชุมนุมกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) เมื่อปี 2553 ที่ชุมนุมขับไล่นายอภิสิทธิ์ ให้ออกจากตำแหน่งนายกฯ
จำเลยทั้ง 4 คน ให้การปฏิเสธ และต่อสู้คดี
2. คดีนี้ ศาลชั้นต้นพิพากษา ยกฟ้องจำเลยทั้งสี่คน
แต่ศาลอุทธรณ์ ชี้ว่า จำเลยกระทำผิดจริง จึงพิพากษากลับ ให้จำคุกจำเลยทั้งสี่ คนละ 3 ปี ลดโทษให้ 1 ใน 3 คงจำคุกจำเลยคนละ 2 ปี โดยไม่รอลงอาญา
จำเลยทั้ง 4 คน ได้ยื่นฎีกา
ก่อนหน้านี้ ศาลนัดอ่านฎีกาคดีเมื่อวันที่ 16 ธ.ค. 2564 เเต่มีการเลื่อนนัดอ่านคำพิพากษา เนื่องจากจำเลยที่ 1 ย้ายภูมิลำเนาไปอยู่ที่ อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา ทำให้ส่งหมายไม่ได้ และได้นัดฟังคำพิพากษาศาลฎีกาวานนี้ (10 ก.พ. 2565)
นายสวัสดิ์ เจริญผล ทนายความนายสุเทพ เปิดเผยว่า ศาลนัดอ่านคำพิพากษาศาลฎีกาเป็นครั้งที่ 2 ในวันนี้ ปรากฏว่าทนายความของ นายธาริต จำเลยที่ 1 ยื่นคำร้องต่อศาลพร้อมใบรับรองแพทย์ของโรงพยาบาลพญาไท 2 ว่า นายธาริต เป็นลม เกิดอาการชักเกร็งหมดสตินาน 5 นาที พอรู้สึกตัวแขนและขาอ่อนแรง ขณะนี้นอนรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลพญาไท 2 ศาลจึงอนุญาตให้เลื่อนไปนัดฟังคำพิพากษาศาลฎีกาอีกครั้งในวันที่ 21 เม.ย.นี้
3. อันที่จริง กรรมของนายธาริตมิได้มีเพียงเท่านี้
ก่อนหน้านี้ นายธาริตต้องเข้าคุก เพราะไปหมิ่นประมาท หวังเล่นงานนายสุเทพ
3 เม.ย. 2560 นายธาริตถูกลงโทษไล่ออกจากราชการ ถูกเรียกคืนเครื่องราชอิสริยาภรณ์ เนื่องจากต้องคำพิพากษาถึงที่สุดให้จำคุกคดีความผิดฐานหมิ่นประมาทและคดีความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ราชการรวม 2 คดี และถูกลงโทษไล่ออกและปลดออก เพราะกระทำผิดวินัยตามกฎหมายว่าด้วยระเบียบข้าราชการพลเรือนหรือตามกฎหมายอื่น โดยคำสั่งอันถึงที่สุด
นอกจากนี้ นายธาริต ถูก ป.ป.ช. ชี้มูลความผิดฐานร่ำรวยผิดปกติ 346 ล้านบาท และ ป.ป.ช.ชี้มูลความผิดกรณีจงใจยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินอันเป็นเท็จ ขณะดำรงตำแหน่งอธิบดีดีเอสไอและศาลมีคำสั่งให้ทรัพย์สินที่เพิ่มขึ้นผิดปกติของ นายธาริต และนางวรรษมล จำนวน 49 รายการ รวมมูลค่า 341,797,811.58 บาท พร้อมดอกผลของทรัพย์สินดังกล่าวตกเป็นของแผ่นดิน
นายธาริตดิ้นสู้เฮือกสุดท้าย ร้องศาลอุทธรณ์ให้ส่งศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยว่ากฎหมาย ป.ป.ช.มิชอบด้วยรัฐธรรมนูญ ปรากฏว่า เมื่อวันที่ 2 ก.พ. ศาลรัฐธรรมนูญมีมติเป็นเอกฉันท์ วินิจฉัย ว่า พ.ร.ป ว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2542 มาตรา 81 วรรคสองที่บัญญัติว่า ในคดีที่ร้องขอให้ทรัพย์สินตกเป็นของแผ่นดินให้ผู้ถูกกล่าวหามีภาระการพิสูจน์ที่ต้องแสดงให้ศาลเห็นว่าทรัพย์สินดังกล่าวไม่ได้เกิดจากการร่ำรวยผิดปกติไม่ขัดหรือแย้งต่อรัฐธรรมนูญ มาตรา 25 มาตรา 26 และมาตรา 27 วรรคหนึ่งและวรรคสาม
ก่อนหน้านี้ ทรัพย์สินที่ร่ำรวยผิดปกติบางส่วน ได้มีการโอน ยักย้าย แปรสภาพหรือซุกซ่อนทรัพย์สิน ทำให้ไม่สามารถติดตามทรัพย์สินได้ คงเหลือทรัพย์สินที่นายธาริต ได้มาโดยร่ำรวยผิดปกติที่คณะกรรมการ ป.ป.ช.มีคำสั่งอายัดไว้เป็นการชั่วคราว จำนวน 90,260,687 บาท
ทรัพย์สินที่ได้มาโดยร่ำรวยผิดปกติในส่วนที่เหลือ จำนวน 256,391,901 บาท ป.ป.ช.ร้องขอให้บังคับคดีเอาแก่ทรัพย์สินอื่นของนายธาริตและนางวรรษมล
รายการทรัพย์สินอื่นๆ ที่ตรวจสอบพบในชั้น ป.ป.ช. อาทิ
เงินฝากในบัญชีเงินฝากธนาคารพาณิชย์ ในชื่อ นายธาริต 4 บัญชีรวมเป็นเงิน 1,254,673 บาท
เงินฝากในบัญชีเงินฝากธนาคารพาณิชย์ ในชื่อ นางวรรษมล 4 บัญชี รวมเป็นเงิน 236,827 บาท
เงินฝากในบัญชีเงินฝากธนาคาร ในชื่อ นายปิยฤกษ์ อรรถกานต์รัตน์4 บัญชี รวมเป็นเงิน 2,010,350 บาท
ที่ดินโฉนด หลายแปลง ในชื่อ นายธาริต - นางวรรษมล -นายสนชัย ศรีทองกุล - นายปิยฤกษ์ อรรถกานต์รัตน์ ที่ปทุมธานี นครราชสีมา (ปากช่อง)
บ้านคอนกรีตเสริมเหล็ก 2 ชั้น เลขที่ 444 และสิ่งปลูกสร้างไม่มีเลขที่จำนวน 5 หลัง ในชื่อ “ฟิออเร่ ปาร์ค” ตำบลหนองน้ำแดงอำเภอปากช่อง จังหวัดนครราชสีมา ปลูกสร้างบนที่ดิน โฉนดกรรมสิทธิ์ในชื่อนางวรรษมล
รถยนต์ยี่ห้อ MERCEDES BENZ รุ่น E 250 -TOYOTA รุ่น ALPHARD กรรมสิทธิ์ในชื่อนางวรรษมล ฯลฯ ก่อนหน้านั้น 3 เม.ย. 2560 นายธาริตถูกลงโทษไล่ออกจากราชการ
กรรม คือ ผลจากการกระทำของตนทั้งสิ้น
สารส้ม
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี