วันเสาร์ ที่ 31 พฤษภาคม พ.ศ. 2568
แนวหน้า
  • แนวหน้า
  • หน้าแรก
  • คอลัมน์
    • คอลัมน์วันนี้
    • คอลัมน์ออนไลน์
    • คอลัมน์การเมือง
    • คอลัมน์ลงมือสู้โกง
    • โลกธุรกิจ
    • ผู้หญิง
    • บันเทิง
    • Like สาระ
    • ดูทั้งหมด
  • ข่าวเด่น
  • พระราชสำนัก
  • การเมือง
  • โลกธุรกิจ
  • อาชญากรรม
  • กทม.
  • ในประเทศ
  • เกษตร
  • ต่างประเทศ
  • กีฬา
  • ผู้หญิง
  • บันเทิง
  • ยานยนต์
  • Like สาระ
หน้าแรก / คอลัมน์ / คอลัมน์การเมือง / กวนน้ำให้ใส
กวนน้ำให้ใส

กวนน้ำให้ใส

สารส้ม
วันจันทร์ ที่ 11 เมษายน พ.ศ. 2565, 02.00 น.
บทเรียนกรุงแตก 255 ปี

ดูทั้งหมด

  •  

เดือนเมษายน เป็นเดือนที่มีเหตุการณ์สำคัญในประวัติศาสตร์มากมาย


หนึ่งในนั้น คือ เหตุการณ์กรุงศรีอยุธยาแตก เมื่อปี 2310

ล่าสุด เพจ มูลนิธิอนุรักษ์โบราณสถานในพระราชวังเดิม ได้นำเสนอข้อเขียนที่เรียบเรียงโดย วาทิน ศานติ์ สันติ ได้วิเคราะห์บทเรียนประวัติศาสตร์กรุงศรีอยุธยาแตก เมื่อวันที่ 7 เมษายน พ.ศ.2310

เนื้อหาน่าสนใจที่จะนำไปคิดวิเคราะห์กันต่อ บางตอน ระบุว่า

...เหตุการณ์เสียกรุงศรีอยุธยาเมื่อวันที่ 7 เมษายน พ.ศ. 2310 นั้นคำให้การชาวกรุงเก่า ซึ่งถือเป็นหลักฐานชั้นต้นได้บันทึกเอาไว้ว่า

“พม่าเห็นได้ที ก็ระดมเข้าตีปล้นกรุงศรีอยุธยา ทำลายเข้ามาทางประตูที่พระยาพลเทพนัดหมายไว้ ก็เข้าเมืองได้ทางประตูทิศตะวันออกในเวลากลางคืน เมื่อ ณ วันอังคาร ขึ้น ๙ ค่ำ เดือน ๕ จุลศักราช ๑๑๒๘ (7 เมษายน พ.ศ. 2310) ไล่ฆ่าฟันผู้คนล้มตายลงเปนจำนวนมาก เอาไฟเผาโรงร้านบ้านเรือนภายในพระนครศรีอยุธยาเสียเปนอันมาก ขณะนั้นพระเจ้ากรุงศรีอยุธยาและพระมเหสีพระราชโอรสธิดากับพระราชวงศานุวงศ์ก็หนีกระจัดกระจายกันไป พระเจ้ากรุงศรีอยุธยาเสด็จหนีไปซุ่มซ่อนอยู่ประมาณสิบเอ็ดสิบสองวันก็เสด็จสวรรคต”

ส่วนในพระนิพนธ์ไทยรบพม่า ของสมเด็จฯ กรมพระยาดำรงราชานุภาพ ซึ่งเรียบเรียงขึ้นหลังเหตุเสียกรุงประมาณ 160 ปี ได้เล่าไว้ว่า

“ครั้นถึงวันอังคาร เดือน ๕ ขึ้น ๙ ค่ำ ปีกุน พ.ศ. ๒๓๑๐ เป็นวันเนาสงกรานต์ เพลาบ่าย ๓ โมง พม่าก็จุดไฟสุมรากกำแพงเมืองตรงหัวรอที่ริมป้อมมหาไชย และยิงปืนใหญ่ระดมเข้าไปในพระนคร จากบรรดาค่ายที่รายล้อมทุกๆ ค่าย พอเพลาพลบค่ำ กำแพงเมืองตรงที่เอาไฟสุมทรุดลง เพลาค่ำ ๘ นาฬิกา แม่ทัพพม่าก็ยิงปืนสัญญาณให้เข้าปีนปล้นพระนครพร้อมกันทุกด้าน พม่าเอาบันไดพาดปีนเข้าได้ตรงที่กำแพงทรุดนั้นก่อน พวกไทยที่รักษาหน้าที่เหลือกำลังจะต่อสู้ พม่าก็เข้าพระนครได้ในเวลาค่ำวันนั้นทุกทาง นับเวลาแต่พม่ายกมาตั้งล้อมพระนครได้ปี ๑ กับ ๒ เดือน จึงเสียกรุงศรีอยุธยาแก่พม่าข้าศึก”

พระนิพนธ์ของสมเด็จฯ กรมพระยาดำรงราชานุภาพ ยังได้บรรยายถึงการทำลายล้างกรุงศรีอยุธยาเอาไว้ว่า

“เมื่อพม่าเข้าพระนครได้นั้นเป็นเพลากลางคืน พม่าไปถึงไหนก็เอาไฟจุดเผาเหย้าเรือนของชาวเมืองเข้าไปจนกระทั่งปราสาทราชมนเทียร ไฟไหม้ลุกลามแสงสว่างดังกลางวัน ครั้นพม่าเห็นว่าไม่มีผู้ใดต่อสู้แล้ว ก็เที่ยวเก็บรวบรวมทรัพย์จับผู้คนอลหม่านทั่วไปทั้งพระนคร แต่เพราะเป็นเวลากลางคืนพวกชาวเมืองจึงหนีรอดไปได้มาก พม่าจับได้สัก ๓๐,๐๐๐ ส่วนพระเจ้าเอกทัศ มหาดเล็กพาลงเรือน้อย หนีไปซุ่มซ่อนอยู่ในสุมทุมพุ่มไม้ที่บ้านจิก ริมวัดสังฆาวาส แต่พม่ายังหารู้ไม่ จับได้แต่พระเจ้าอุทุมพรซึ่งทรงผนวชกับเจ้านายโดยมาก ทั้งข้าราชการผู้ใหญ่ผู้น้อยและพระภิกษุสามเณรที่หนีไปไม่พ้น พม่าก็จับเอารวมไปคุมไว้ที่ค่ายโพธิ์สามต้น ส่วนผู้คนพลเมืองที่จับได้ ก็แจกจ่ายกันไปควบคุมไว้ตามค่ายนายทัพนายกองทั้งปวง แล้วพม่าเที่ยวตรวจเก็บบรรดาทรัพย์สมบัติทั้งสิ่งของ ของหลวงของราษฎรตลอดจนเงินทองของเครื่องพุทธบูชาตามพระอารามใหญ่น้อย ไม่เลือกว่าของที่จะหยิบยกได้หรือที่ไม่พึงจะหยิบยกได้ ดังเช่นทองเงินที่แผ่หุ้มพระพุทธรูป มีทองคำที่หุ้มพระศรีสรรเพชญดาญาณเป็นต้น พม่าก็เอาไฟสุมพระพุทธรูปให้ทองละลายเก็บเอามาจนสิ้น เท่านั้นยังไม่พอ พม่ายังจะเอาทรัพย์ซึ่งราษฎรฝังซ่อนไว้ตามวัดวาบ้านเรือนต่อไปอีก เอาราษฎรที่จับไว้ได้ไปชำระซักถาม แล้วล่อลวงให้ส่อกันเอง ใครเป็นโจทก์บอกทรัพย์ของผู้อื่นให้ได้ก็ยอมปล่อยตัวไป ส่วนผู้ที่เป็นเจ้าของทรัพย์ถ้าไม่บอกให้โดยดี พม่าก็เฆี่ยนตีและทำทัณฑกรรมต่างๆ เร่งเอาทรัพย์จนถึงล้มตายก็มี”

อย่างไรก็ดี แม้ว่าบันทึกเหตุการณ์ดังกล่าวจะชวนให้คิดว่า พม่าคือต้นเหตุที่ทำให้กรุงศรีอยุธยาย่อยยับแต่ฝ่ายเดียว แต่ สุจิตต์ วงษ์เทศ กล่าวว่า “อยุธยาที่เห็นเหลือแต่ซากทุกวันนี้ เป็นฝีมือคนพื้นเมืองและไทยจีนกันเองทั้งนั้น แต่มักโยนบาปเหมาให้พม่าพวกเดียว” ก่อนเสริมว่า “ไฟไหม้ใหญ่ในพระนครศรีอยุธยา ก่อนกรุงแตก 3-4 เดือน ไม่ใช่พม่าลอบเผา แต่คนในเมืองลักลอบเผากันเอง เพราะทัพอังวะล้อมกรุงอยู่นอกเมืองเป็นปกติ ยังตีไม่ได้อยุธยา จึงไม่มีส่วนเผาตลาดกลางเมืองอยุธยา” นอกจากนี้ยังมีบันทึกของชาวต่างชาติที่กล่าวถึงการขุดทำลายเมืองเพื่อหาซากสมบัติโดยฝีมือคนพื้นเมืองทั้งไทยและจีนหลังจากที่พม่าได้ยกทัพกลับไปแล้วด้วย

และในส่วนที่มีการกล่าวอ้างว่า พม่าเป็นผู้เผาลอกทองพระศรีสรรเพชญ์ ผศ.ดร.รุ่งโรจน์ ภิรมย์อนุกูล ผู้เสนอว่า เศียรพระพุทธรูปขนาดใหญ่ในพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติพระนคร คือ “เศียรพระศรีสรรเพชญ์” ก็ได้ให้ความเห็นที่ต่างออกไปโดยระบุ หลักฐานที่เอามาอ้างกันนั้นมาจากเอกสารที่เขียนขึ้นในยุคหลังและเมื่อพลิกรายงานการขุดค้นทางโบราณคดีที่ฐานชุกชีพระศรีสรรเพชญ์ ก็ไม่พบร่องรอย “ชั้นดินที่ถูกเผา” แต่อย่างใด (พันธุ์ทิพย์ ธีระเนตร. “เชื่อไหม? พระศรีสรรเพชญ์ ไม่ถูกไฟเผาลอกทอง ตอนกรุงแตก!”มติชนออนไลน์ 23 มี.ค. 2560)

#สาเหตุการเสียกรุงครั้งที่ 2 (พ.ศ.2310)

สมัยอยุธยาตอนปลาย ภายหลังสิ้นพระเจ้าอยู่หัวบรมโกศ ชาวอยุธยาหลงใหลกับความสุขสบายมากเกินไป จนเกิดความประมาท ระบบราชการหย่อนยานบ้านเมืองอ่อนแอไม่สามารถต่อสู้กับข้าศึกภายนอกได้ ในที่สุดก็เสียเอกราช เมื่อวันอังคารเดือนเม.ย. พ.ศ. 2310

สาเหตุของการเสียกรุงครั้งที่ 2 ประกอบด้วย สาเหตุระยะสั้น และสาเหตุระยะยาว

1. สาเหตุระยะยาว การชิงราชย์

- เนื่องมาจากปัญหาการแย่งชิงอำนาจของชนชั้นปกครองปลายกรุงศรีอยุธยา

- ทำให้ขาดผู้มีความรู้ความสามารถในการบริหารและการรบ ผู้แพ้จะถูกฆ่าล้างโคตร เพื่อไม่ให้เป็นเสี้ยนหนาม หรือถูกจองจำ ถูกถอดยศ ยิ่งเกิดการชิงราชย์บ่อยเท่าใด บ้านเมืองก็ยิ่งอ่อนแอมากเท่านั้น

- ทำให้เกิดความแตกสามัคคีในหมู่ข้าราชการ ซึ่งแตกเป็นสองฝ่ายตามแต่เจ้านายตน โดยเฉพาะในสมัยพระเจ้าเอกทัศ กับ พระเจ้าอุทุมพร แม้จะมีข้าศึกประชิดเมือง ข้าราชการก็ไม่สามารถสามัคคีกันได้

- ทำให้เศรษฐกิจตกต่ำ เพราะไพร่พลถูกเกณฑ์ไปรบ ไม่มีเวลาทำมาหากิน พ่อค้าต่างชาติไม่กล้าเข้ามาค้าขาย ทำให้บ้านเมืองขาดเสบียง เมื่อพม่าล้อมจึงเสียกรุงในที่สุด

2. สาเหตุระยะสั้น

1.1 การไร้ความสามารถของพระเจ้าเอกทัศ...

1.2 ฝ่ายไทยตั้งตนอยู่ในความประมาท

- ภายหลังสงครามยุทธหัตถี ของ สมเด็จพระนเรศวรมหาราช ใน พ.ศ. 2135 พม่าก็ไม่เคยมาตีไทยอีกเลย จึงรบไม่เป็น - คนไทยตั้งตนอยู่ในความประมาท หมกมุ่นอยู่ในอบายมุข ขาดความสามัคคี - ขาดการฝึกซ้อมทางการทหาร การใช้อาวุธ เช่นยิงปืนใหญ่ไม่เป็น เมื่อพม่าล้อมกรุง ฝ่ายไทยผสมดินปืนไม่ได้อัตราส่วน ทำให้ยิงพลาดเป้า - ขาดการเตรียมพร้อมในด้านอาวุธยุทโธปกรณ์ ปล่อยปละละเลยไม่เคยซ่อมบำรุง - ขาดการเตรียมเสบียงอาหาร เมื่อพม่าล้อมเมืองทำให้ต้องแบ่งปันอาหารกินเพียงพอกันตาย

1.3 ระบบการเกณฑ์ไพร่พลล้มเหลว

- เนื่องจากมีบัญชีไพร่พลอยู่ตามกรมกองต่างๆ ไม่ได้อยู่ในกรมสุรัสวดีอย่างแต่ก่อน - จำนวนไพร่พลที่แท้จริงไม่ตรงตามบัญชี เจ้ากรมกองต่างๆ มักปิดบังเพื่อประโยชน์ของตนเอง - ประชาชนหนีระบบการเกณฑ์ไพร่พล ประชาชนและขุนนางต่างหนีเอาตัวรอดเมื่อเห็นว่ากรุงจะแตก

1.4 การจัดการปกครองอาณาจักรที่เห็นแก่ความมั่นคงของกษัตริย์จนเกินไป

- เช่น ห้ามขุนนางหัวเมืองและขุนนางชั้นผู้ใหญ่ไปมาหาสู่กันโดยไม่ได้พระบรมราชานุญาต ขุนนางจึงขาดความสามัคคี ขาดความร่วมมือกัน - เจ้าเมืองต่างๆ ตั้งตนเป็นใหญ่ ตั้งตนเป็นอิสระ ไม่ขึ้นตรงต่อกรุงศรีอยุธยา...”

ข้างต้น คือ การรวบรวมบันทึก และบทวิเคราะห์เพิ่มเติม

ปัจจุบัน ทางการไทยพยายามจะปรับวิธีสอนประวัติศาสตร์ให้น่าสนใจขึ้นเห็นว่า แนวทางที่ควรพิจารณา คือ เปลี่ยนจากการให้ท่องจำวันเวลาในประวัติศาสตร์ มาเป็นการวิเคราะห์บนพื้นฐานข้อมูลข้อเท็จจริงและหลักฐานทางประวัติศาสตร์ จะน่าสนใจขึ้น

สารส้ม

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

  •  
  • Breaking News
  • ข่าวยอดนิยม
  • คอลัมน์ฮิต
09:05 น. 'วิรังรอง'ยกย่องแพทย์ไทย! โพสต์ซึ้งถึงเกียรติภูมิแพทยสภา
08:54 น. น้ำใจงาม! ตร.กุดจับช่วยคุณยาย 78 ปั่นจักรยานหาหมอ 14 กม.แถมซื้อของกินให้ถึงบ้าน
08:10 น. 'พุทธิพงษ์'โพสต์ซึ้งถึง'แพทย์ 365 วัน' ชูจรรยาบรรณ-ความทุ่มเท เชื่อคนไทยเข้าใจ
07:56 น. สังคมเสื่อม! พ่อวิปริต จับลูกชายวัย 11 แก้ผ้าถ่ายภาพโป๊เปลือย นำโพสต์ขายกลุ่มลับ
07:50 น. เปิดเคสเด็ก3ขวบป่วยโรคขาดวิตามินซีรุนแรง หมอเผยไม่น่าเชื่อเด็กไทยยังเป็นโรคนี้
ดูทั้งหมด
'แพทยสมาคมฯ'มาแล้ว!!! ออกแถลงการณ์ประกาศจุดยืนสนับสนุนมติแพทยสภา
‘เซเลบผ้าท้องถิ่น’จัดหนัก! ถล่ม‘อิ๊งค์’ไร้กาลเทศะ ไม่รู้ธรรมเนียมปฏิบัติการทูต
ประวัติศาสตร์!เชลซี ทีมแรกกวาดทุกแชมป์ถ้วยยุโรป
ทุบเปรี้ยง!ยก 5 เหตุผล‘ทักษิณ’ไม่หนี หวั่น‘ปิดประตูตาย’
‘แม่ทัพภาคที่ 2’ฮึ่ม! หากเขมรไม่ถอนกำลังออกไปจาก‘ช่องบก’ ทหารไทยไม่ถอยเช่นกัน
ดูทั้งหมด
แวดวงการเงิน : 31 พฤษภาคม 2568
หุ้นเด่น : 11 พฤษภาคม 2568
สงครามการค้าที่ไทยไม่ควรหวั่นไหวตามความบ้าของสหรัฐ
หากภูมิใจไทย ไม่ได้ครองมหาดไทย
บุคคลแนวหน้า : 31 พฤษภาคม 2568
ดูทั้งหมด

เรื่องอื่นๆ ที่น่าสนใจ

น้ำใจงาม! ตร.กุดจับช่วยคุณยาย 78 ปั่นจักรยานหาหมอ 14 กม.แถมซื้อของกินให้ถึงบ้าน

จตช.ยันนอตหลุดทำฮ.ตำรวจตก ยังไม่ใช่ข้อสรุป ต้องรอผลตรวจผู้เชี่ยวชาญ

ชวนชมไลฟ์สดงานเสวนา'Why Nations Fail บทเรียนที่ประเทศไทย ต้องไม่ล้มเหลว'พรุ่งนี้

'เจิมศักดิ์'บอก'ออกอาการแล้ว' หลัง'ทูตรัศม์'โพสต์ป่วยจิตวิปลาส ปลุกหมอล้มรัฐบาลเลือกตั้ง

‘พิสดาร’ระวังเป็น‘ปมด้อย’ แนะพ่อแม่ตั้งชื่อลูกขอให้ยึด‘ประโยชน์สูงสุดของเด็ก’

พปชร.ร่วมปกป้องเกียรติภูมิ-ศักดิ์ศรีแพทยสภา ชื่นชมทำอย่างตรงไปตรงมา

  • Breaking News
  • \'วิรังรอง\'ยกย่องแพทย์ไทย! โพสต์ซึ้งถึงเกียรติภูมิแพทยสภา 'วิรังรอง'ยกย่องแพทย์ไทย! โพสต์ซึ้งถึงเกียรติภูมิแพทยสภา
  • น้ำใจงาม! ตร.กุดจับช่วยคุณยาย 78 ปั่นจักรยานหาหมอ 14 กม.แถมซื้อของกินให้ถึงบ้าน น้ำใจงาม! ตร.กุดจับช่วยคุณยาย 78 ปั่นจักรยานหาหมอ 14 กม.แถมซื้อของกินให้ถึงบ้าน
  • \'พุทธิพงษ์\'โพสต์ซึ้งถึง\'แพทย์ 365 วัน\' ชูจรรยาบรรณ-ความทุ่มเท เชื่อคนไทยเข้าใจ 'พุทธิพงษ์'โพสต์ซึ้งถึง'แพทย์ 365 วัน' ชูจรรยาบรรณ-ความทุ่มเท เชื่อคนไทยเข้าใจ
  • สังคมเสื่อม! พ่อวิปริต จับลูกชายวัย 11 แก้ผ้าถ่ายภาพโป๊เปลือย นำโพสต์ขายกลุ่มลับ สังคมเสื่อม! พ่อวิปริต จับลูกชายวัย 11 แก้ผ้าถ่ายภาพโป๊เปลือย นำโพสต์ขายกลุ่มลับ
  • เปิดเคสเด็ก3ขวบป่วยโรคขาดวิตามินซีรุนแรง หมอเผยไม่น่าเชื่อเด็กไทยยังเป็นโรคนี้ เปิดเคสเด็ก3ขวบป่วยโรคขาดวิตามินซีรุนแรง หมอเผยไม่น่าเชื่อเด็กไทยยังเป็นโรคนี้
ดูทั้งหมด

คอลัมน์ที่เกี่ยวข้อง

อย่าเอาฝันร้าย มาขายเป็นฝันดี  สถานการณ์จริงกาสิโน

อย่าเอาฝันร้าย มาขายเป็นฝันดี สถานการณ์จริงกาสิโน

30 พ.ค. 2568

สำนักงานพระคลังข้างที่  สภาผู้แทนมติเอกฉันท์ 454 ต่อ 0 เสียง

สำนักงานพระคลังข้างที่ สภาผู้แทนมติเอกฉันท์ 454 ต่อ 0 เสียง

29 พ.ค. 2568

ยาเสพติด อาชญากรรมข้ามชาติ  บทเรียนการเอายอดคนตาย เป็นผลงาน

ยาเสพติด อาชญากรรมข้ามชาติ บทเรียนการเอายอดคนตาย เป็นผลงาน

28 พ.ค. 2568

นายกฯ ไร้ฝีมือ  ทุเรียนไทยเจอขวากหนาม

นายกฯ ไร้ฝีมือ ทุเรียนไทยเจอขวากหนาม

27 พ.ค. 2568

จะเปลี่ยนนายกฯ  หรือจะให้ประเทศชาติเน่าคามืออุ๊งอิ๊งค์

จะเปลี่ยนนายกฯ หรือจะให้ประเทศชาติเน่าคามืออุ๊งอิ๊งค์

26 พ.ค. 2568

บทเรียนนักการเมือง  เช็คบิลค่าเสียหายจำนำข้าว

บทเรียนนักการเมือง เช็คบิลค่าเสียหายจำนำข้าว

23 พ.ค. 2568

ธุรกิจกาสิโนที่ไหนจะรับว่ามีการฟอกเงิน

ธุรกิจกาสิโนที่ไหนจะรับว่ามีการฟอกเงิน

22 พ.ค. 2568

อย่าให้ประเทศชาติต้องแบกนายกฯที่ไร้บารมี

อย่าให้ประเทศชาติต้องแบกนายกฯที่ไร้บารมี

21 พ.ค. 2568

Back to Top

ผู้ดูแลเว็บไซต์ www.naewna.com
webmaster นางสาวอัญชะลี ไพรีรัก
ดูแลรับผิดชอบข่าว/ภาพ/โฆษณา/ข้อมูลอื่นที่เกียวข้องกับเว็บไซต์
กรรมการบริษัทฯ, กรรมการผู้มีอำนาจ ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการนำเสนอข่าว/ภาพ/ข้อมูลใดๆในเว็บไซต์ทั้งสิ้น

Social Media

  • หน้าแรก |
  • เกี่ยวกับแนวหน้า |
  • โฆษณากับเรา |
  • ร่วมงานกับเรา |
  • ติดต่อแนวหน้า |
  • นโยบายข้อตกลง
Copyright © 2017 Naewna.com All right reserved