นายปรัก สุคน รัฐมนตรีต่างประเทศกัมพูชาในฐานะทูตพิเศษประธานอาเซียนนำคณะเดินทางไปเยือนสหภาพเมียนมาห้าวันตั้งแต่ 29 มิ.ย.ถึง 3 ก.ค. 2565
การเยือนเมียนมาเป็นครั้งที่สองทูตพิเศษประธานอาเซียน มีภารกิจสำคัญในการกล่อมรัฐบาลทหารเมียนมาให้รวม นางออง ซาน ซู จี ที่ถูกขังอยู่ในเรือนจำเข้ามามีส่วนร่วมคนสำคัญในกระบวนการปรองดองแห่งชาติ
นอกจากนั้น ทูตพิเศษอาเซียน ยังขอร้องให้คณะผู้บริหารแห่งรัฐ (State Administration =SAC) หรือ รัฐบาลทหารเมียนมา นำนางออง ซาน ซู จี ออกจากที่คุมขังในเรือนจำกลับมากักตัวในบ้านพักส่วนตัวของเธอเหมือนเดิม
“ในฐานะทูตพิเศษของประธานอาเซียน ผมใคร่สะท้อนเสียงของสมาชิกสมาคมอาเซียนทั้งมวล ในการเรียกร้อง ขอให้คณะผู้บริหารแห่งรัฐ (SAC) สหภาพเมียนมาได้ปฏิบัติด้วยความรักแก่นางออง ซาน ซู จี และอำนวยความสะดวกให้เธอได้กลับมาอยู่ในบ้านพักที่เธอเคยถูกกักบริเวณเหมือนเดิม” ส่วนหนึ่งของเนื้อความในจดหมายที่ทูตพิเศษอาเซียน เขียนถึง นางวันนา หม่อง ลวิน รัฐมนตรีต่างประเทศของสหภาพเมียนมาซึ่งมีข้อความเพิ่มเติมว่า...
“ให้SACโปรดพิจารณาถึงสุขภาพที่เปราะบางตามวัยของเธอ ซึ่งควรมีความเป็นอยู่ที่ดี รวมทั้งพิจารณาถึงหลักนิติธรรมที่ต้องปฏิบัติตามหลักการแห่งกฎหมาย”
จดหมายที่ทูตพิเศษประธานอาเซียนเขียนถึง วันนา หม่อง ลวิน เขียนต่อไปว่า...
“สมาชิกอาเซียนทั้งมวลขอเรียกร้องอย่างแข็งขันให้ผู้บริหารแห่งรัฐสหภาพเมียนมา#ได้เริ่มดำเนินกระบวนการปรองดองแห่งชาติโดยมิล่าช้า หาข้อยุติทางการเมืองอย่างสันติวิธี ไม่ว่ากระบวนการปรองดองแห่งชาติจะมีความซับซ้อนอย่างไร จำเป็นต้องให้ผู้ที่มีส่วนได้ส่วนเสียทางการเมืองทุกภาคส่วนเข้ามีส่วนร่วมในกระบวนการปรองดองแห่งชาติ..”
จดหมายของทูตพิเศษประธานอาเซียน ขีดเส้นใต้ว่า
“ผมไม่แปลกใจที่มีเสียงเรียกร้องดังก้องออกไปเกินขอบเขตของอาเซียน เสียงของชาวเมียนมาและเสียงจากประชาคมนานาชาติต่างมีความเห็นตรงกันว่า #นางออง ซาน ซู จีเป็นผู้ที่มีบทบาทสำคัญที่ทำให้ประเทศของท่านกลับมาเป็นปกติ และ มีความปรองดองแห่งชาติโดยสันติวิธี..”
นายปรัก สุคน เขียนจดหมาย ถึงรัฐมนตรีกระทรวงการต่างประเทศสหภาพเมียนมา สองวันก่อนนำคณะทำงานชุดใหญ่จากสำนักงานเลขาฯอาเซียน รวมทั้งนายเอกภาพพันธ์วงษ์ รองเลขาฯอาเซียนด้านสังคม-วัฒนธรรมตลอดถึงเจ้าหน้าที่ระดับสูงของรัฐบาลกัมพูชาในฐานะประธานหมุนเวียนอาเซียนเยือนเมียนมา เพื่อติดตามความคืบหน้าในความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมแก่เมียนมาของอาเซียน
เป็นที่น่าสังเกตว่า จดหมายของทูตพิเศษประธานอาเซียนถึงรัฐมนตรีต่างประเทศเมียนมา เน้นข้อเรียกร้องอย่างแข็งขันให้รัฐบาลทหารเมียนมาเร่งรีบดำเนินการกระบวนการปรองดองแห่งชาติ และ ขีดเส้นใต้ให้รวมนางออง ซาน ซู จี เข้ามีส่วนร่วมในการเจรจา
รัฐบาลทหารเมียนมา กับ กลุ่มชาติพันธ์ุต่างๆ ที่ต่อสู้กับรัฐบาลกลางเมียนมามากว่า 60 ปี ได้เปิดการเจรจาเพื่อสันติภาพและแสวงหาข้อยุติทางการเมืองด้วยกันตั้งแต่ต้นเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา
และได้ออกแถลงการณ์ร่วมกันว่า “กำลังปรึกษาหารือเพื่อแสวงหาแนวทางการเมืองร่วมกันว่า การเลือกตั้งที่จะมีขึ้นในเดือนสิงหาคม 2566 สหภาพเมียนมาจะเปลี่ยนเป็นสหภาพเมียนมาแบบประชาธิปไตยหลายพรรค หรือสหภาพเมียนมาจะเปลี่ยนเป็นสหพันธรัฐประชาธิปไตย”
การเจรจาระหว่าง รัฐบาลทหารเมียนมากับ กลุ่มชาติพันธ์ุหลากหลาย ไม่มีผู้แทนจากรัฐบาลสามัคคีแห่งชาติ(National Unity Government=NUG)ซึ่งเป็นรัฐบาลเงาเมียนมาและ กองกำลังพิทักษ์ประชาชน (PeopleDefense Force=PDF) ของฝ่ายนางออง ซาน ซู จี ร่วมเจรจาด้วย เนื่องจากรัฐบาลทหารเมียนมาขึ้นบัญชีเอ็นยูจีและพีดีเอฟ เป็นผู้ก่อการร้ายที่ได้รับการสนับสนุนจากตะวันตกโดยเฉพาะสหรัฐอเมริกา
ส่วน นางออง ซาน ซู จี อยู่ระหว่างถูกดำเนินคดีถึง 11 ข้อหา ทั้งคดีมโนสาเร่ และคดีร้ายแรงสมคบกันรับสินบน ทุจริตคอร์รัปชั่น และ คดีละเมิดกฎหมายความมั่นคงของชาติเปิดเผย(ขาย)ความลับทางราชการให้ต่างชาติ ซึ่งศาลพิเศษในกรุงเนปิดอว์ได้ตัดสินไปแล้วสองคดีให้เธอจำคุก 11 ปี
ตั้งแต่ถูกยึดอำนาจจนกระทั่งศาลตัดสินจำคุก 11 ปี นางออง ซาน ซู จี ยังอาศัยอยู่ในบ้านพักส่วนตัวห้อมล้อมด้วยสมุนบริวารเหมือนตอนที่ยังเป็นรัฐบาลทุกประการ
แต่จู่ๆ เมื่อวันที่ 23 มิ.ย.ที่ผ่านมานางออง ซาน ซู จี ถูกย้ายไปขังเดี่ยวในเรือนจำพิเศษกรุงเนปิดอว์ (แหล่งข่าวเปิดเผยว่าเป็นเรือนรับรองในเรือนจำ)ซึ่งสร้างความวิตกกังวลแก่ผู้สนับสนุนชาวเมียนมาตลอดถึงประชาคมนานาชาติ องค์กรสิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติเรียกร้องให้ปล่อยตัวเธอทันทีโดยไม่มีเงื่อนไข
ประเทศตะวันตกโดยเฉพาะสหรัฐอเมริกา ที่ไม่พอใจนางออง ซาน ซู จี เมื่อครั้งที่เธอยังเป็นรัฐบาล เพราะพวกเขากล่าวหาว่าเธอเห็นด้วยกับทหารในการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์โรฮีนจาและเป็นฟางชิ้นสุดท้ายเมื่อเธอไปให้การในศาลอาญาระหว่างประเทศหรือ ไอซีซี ปกป้องทหารเมียนมาในคดีฆ่าล้างเผ่าพันธุ์โรฮีนจา
แต่พอทหารยึดอำนาจ เมื่อวันที่ 1 ก.พ. 2564 ตะวันตกและอเมริกา หันกลับมายกย่องเธอเป็นวีรสตรีประชาธิปไตยและ เรียกร้องให้ปล่อยเธออย่างไม่มีเงื่อนไข พร้อมทั้งคืนความเป็นรัฐบาลประชาธิปไตยให้นางออง ซาน ซู จี
ภารกิจของทูตพิเศษประธานอาเซียนและคณะจึงเป็นภารกิจที่ยากลำบาก แต่ก็อาจประสบความสำเร็จได้ เพราะเสียงของประธานอาเซียนที่เป็นกัมพูชานั้น มักมีเสียงจากปักกิ่งสะท้อนกังวานอยู่เบื้องหลังและอาจเป็นเสียงดังที่เนปิดอว์ต้องรับฟังก็เป็นไปได้
สุทิน วรรณบวร
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี