วันอาทิตย์ ที่ 26 ตุลาคม พ.ศ. 2568
ความที่ “ขี้ใหม่หมาหอม” นี่เอง ข่าวสารเกี่ยวกับ“กัญชา-กัญชง” จึงพรั่งพรูออกมาในช่วงสุญญากาศ โดยเฉพาะข่าวสารในเชิงลบที่เกิดแก่เยาวชนลูกหลานอนาคตของชาติ อย่างที่ “สุทิน วรรณบวร” หยิบเอาประสบการณ์ในชีวิตความเป็นเหี่ยวข่าวยาเสพติดมานำเสนอในคอลัมน์ทวนกระแสข่าว ในแนวหน้าออนไลน์(www.naewna.com)
เราเข้าใจดีว่า “รัฐบาลโดยกระทรวงสาธารณสุข”มีเจตนาดีต่อระบบสุขภาพของประชาชนชาวไทย เหมือนที่นานาอารยประเทศได้ดำเนินการโดยเฉพาะในสหรัฐอเมริกา แน่นอนเราเชื่อว่านโยบาย “กัญชา-กัญชงเสรี”จักสามารถสร้างรายได้ให้พี่น้องประชาชนได้อย่างแน่นอน หากสังคมไทยมีความรู้ความเข้าใจต่อ “กัญชา-กัญชงเสรี อย่างที่เกิดขึ้นในสหรัฐ“กัญชา” กลายเป็นสินค้ายอดฮิตที่ภาพรวมอุตสาหกรรมในสหรัฐอเมริกามีมูลค่าสูงถึง 17,500ล้านเหรียญสหรัฐ ในปี 2020 เติบโตขึ้น 46% นี่คือตัวเลขเฉพาะมลรัฐอิลลินอยส์เท่านั้น
“กัญชา” เป็นไม้ล้มลุกฤดูเดียว และมีสารสำคัญที่เชื่อว่าออกฤทธิ์ต่อจิตและประสาท เรียกว่าสาร THC ซึ่งฤทธิ์ของกัญชา เมื่อเสพเข้าสู่ร่างกาย จะแทรกซึมเข้าสู่กระแสเลือดอย่างรวดเร็วภายใน 2-3 นาที และจะออกฤทธิ์ต่อจิตประสาทได้สูงสุดถึง 1 ชั่วโมง อาการทั่วไปจะเซื่องซึมลงช้าๆ
อย่างไรก็ตาม เมื่อเทียบกับผลกระทบของสุราและบุหรี่แล้ว ทั้งสองอย่างถือว่าก่อผลกระทบได้มากกว่าอีกทั้งกัญชา ยังมีประโยชน์ทางการแพทย์ จึงทำให้หลายประเทศพยายามผลักดันให้กัญชาไม่ผิดกฎหมาย แต่ให้อยู่ภายใต้การควบคุม
มีรายงานวิชาการหลายชิ้น ระบุถึงประโยชน์ของกัญชาในทางการแพทย์ ที่ช่วยรักษาโรคและบรรเทาอาการได้หลากหลาย อาทิ ลมชัก บรรเทาหอบหืด หรือปวดหัวไมเกรน นอกจากนี้ กัญชายังถูกนำมาใช้เพื่อรักษาผลข้างเคียงโรคมะเร็ง ป้องกันการคลื่นไส้อาเจียนจากการทำเคมีบำบัด ใช้เป็นสารกระตุ้นความอยากอาหาร กัญชาจะช่วยชะลอน้ำหนักลดในโรคมะเร็ง และโรคเอดส์ ส่วนในประเทศเสรีกัญชา ยังสามารถใช้สูบช่วยผ่อนคลายได้ด้วย
อย่างไรก็ตาม กัญชายังมีฤทธิ์ที่ทำให้ผู้ที่เสพปริมาณมากติดต่อกัน มีความคิดเลื่อนลอยสับสนควบคุมตัวเองไม่ได้ หูแว่ว จนถึงมีอาการประสาทหลอน และมีความเสี่ยงเป็นมะเร็งปอด อีกทั้งมีหลักฐานทางการแพทย์ชี้ว่า การใช้กัญชาระหว่างตั้งครรภ์ จะทำให้เด็กที่คลอดออกมา มีน้ำหนักตัวที่ต่ำกว่าปกติ
เรายืนยันอีกครั้งว่า ไม่ผิดที่รัฐบาลและกระทรวงสาธารณสุขผลักดันเรื่องนี้จนเกิดเป็นผลปฏิบัติจริง แต่ความหลากหลายในความเข้าใจในการศึกษานั้นแตกแปลกแยกกันไป ทำให้เกิดการนำ “กัญชา-กัญชง” มาใช้ผิดวัตถุประสงค์ จนเกิดเหตุที่ไม่คาดคิดในสถานศึกษา จากเรื่องเล่าของจิตแพทย์เด็กท่านหนึ่งซึ่งต้องถือเป็นเหตุร้ายแรงมาก โดยเฉพาะคุณธรรมจริยธรรมของนักเรียน
ดูกรท่านผู้เจริญ !!! อย่างนี้เรียก “ชิงสุกก่อนห่าม”เหมือนที่ “คณะราษฎร 2475” ดำเนินการเปลี่ยนแปลงระบอบการปกครองจาก “สมบูรณาญาสิทธิราชย์” เป็น “ประชาธิปไตย” หรือไม่
พจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ. 2554 ให้ความหมายของคำว่า “ชิงสุกก่อนห่าม” ว่าเป็นการกระทำสิ่งที่ยังไม่สมควรแก่วัยหรือยังไม่ถึงเวลา (มักหมายถึงการลักลอบได้เสียกันก่อนแต่งงาน), ใช้เป็นคำสอนหรือเตือนสติเด็กเยาวชนไทยจนเป็นวัฒนธรรมว่า อย่าชิงสุกก่อนห่าม

เปิดแผน บริการ ระบบขนส่งสาธารณะ วันอาทิตย์ที่ 26 ต.ค.นี้
มีเรื่องเล่าเมื่อ 20 ปีก่อน! 'ดร.ธรณ์' เปิดความทรงจำที่ภูพิงค์ เข้าเฝ้า'พระพันปีหลวง' หลังเหตุสึนามิ
‘อนุทิน’ถึงมาเลเซียแล้ว เตรียมร่วมพิธีเปิดประชุมสุดยอดอาเซียนพรุ่งนี้
'บอดี้สแลม'ยืนถวายอาลัย 'สมเด็จพระพันปีหลวง'ก่อนแสดง (คลิป)
นครบาลเผยเส้นทางเลี่ยง เคลื่อนพระบรมศพ 'สมเด็จพระพันปีหลวง' สู่พระบรมมหาราชวัง

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี