วันเสาร์ ที่ 12 กรกฎาคม พ.ศ. 2568
แนวหน้า
  • แนวหน้า
  • หน้าแรก
  • คอลัมน์
    • คอลัมน์วันนี้
    • คอลัมน์ออนไลน์
    • คอลัมน์การเมือง
    • คอลัมน์ลงมือสู้โกง
    • โลกธุรกิจ
    • ผู้หญิง
    • บันเทิง
    • Like สาระ
    • ดูทั้งหมด
  • ข่าวเด่น
  • พระราชสำนัก
  • การเมือง
  • โลกธุรกิจ
  • อาชญากรรม
  • กทม.
  • ในประเทศ
  • เกษตร
  • ต่างประเทศ
  • กีฬา
  • ผู้หญิง
  • บันเทิง
  • ยานยนต์
  • Like สาระ
หน้าแรก / คอลัมน์ / คอลัมน์การเมือง / นายซื่อตรงรักเมืองไทย
นายซื่อตรงรักเมืองไทย

นายซื่อตรงรักเมืองไทย

นายซื่อตรงรักเมืองไทย
วันพฤหัสบดี ที่ 14 กรกฎาคม พ.ศ. 2565, 02.00 น.
ศึกซักฟอก วัดใจพรรคร่วม

ดูทั้งหมด

  •  

ภายหลังเทศกาลหยุดยาวในสัปดาห์นี้ ก็จะเข้าสู่สัปดาห์การอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐมนตรีเป็นรายบุคคล อาจถือว่าเป็นรอบสุดท้ายก่อนการเลือกตั้งไม่ว่าจะเกิดปีนี้หรือต้นปีหน้า ซึ่งคาดว่าฝ่ายค้านน่าจะเตรียมหมัดเด็ดในการอภิปรายแบบทิ้งทวน เทของหมดหน้าตักอย่างแน่นอน โดยเฉพาะเรื่องทุจริตจากกระทรวงต่างๆ แต่ไฮไลท์สำคัญน่าจะพุ่งไปที่ผู้นำรัฐบาลอย่างพล.อ.ประยุทธ์ ที่น่าจะต้องรับศึกหนักจากข้อกล่าวหาของฝ่ายค้าน ถึงความสามารถและศักยภาพในการบริหารประเทศจากวิกฤตต่างๆ ตั้งแต่การบริหารสถานการณ์โควิด-19 จนถึงเรื่องของเศรษฐกิจที่ตกต่ำตลอดรัฐบาลทั้งปัญหาของแพงและเงินเฟ้อซึ่งกระทบต่อความเป็นอยู่ของประชาชนอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ แต่ตอนนี้ไม่ว่าฝ่ายค้านจะมีหมัดเด็ดประเด็นดีในการอภิปรายหรือไม่? แต่การเมืองในพรรคร่วมเองอาจเป็นตัวเสริมพลังให้ฝ่ายค้านในการอภิปรายครั้งนี้แบบ
ไม่ต้องพึ่งงูเห่าใดๆ?

ประเด็นที่พลเอกประยุทธ์น่าจะถูกอภิปราย จึงน่าจะเป็นการขมวดศักยภาพในการบริหารตลอดสี่ปี


ปัญหาหลักตลอดการบริหารงานสี่ปีของรัฐบาลชุดนี้คือ การบริหารจัดการวิกฤตการแพร่ระบาดของโควิด-19 ตั้งแต่ปี 2562 จนถึงปัจจุบัน แม้จะบอกว่าภาวะการแพร่ระบาดโควิดจะเกิดขึ้นทั่วโลกไม่ใช่แค่ประเทศไทยยากที่จะควบคุม แต่ประเด็นที่รัฐบาลถูกเพ่งเล็งมาตลอดก็คือ การบริหารเศรษฐกิจและความคุ้มค่าของงบประมาณที่ใช้ในการบริหารเศรษฐกิจหลังโควิด ตลอดจนนโยบายการปิดประเทศยาวนานที่แม้จะถูกมองว่าสามารถควบคุมการแพร่ระบาดของโลกได้ในปีแรก จนกระทั่งได้รับการจัดอันดับเป็นอันดับที่ 5 ประเทศที่มีความเข้มแข็งด้านความมั่นคงทางสุขภาพ จาก 195 ประเทศทั่วโลก แต่ในระยะต่อมากลับกลายเป็นจุดดำสำคัญที่ทำให้เศรษฐกิจหยุดชะงักโดยเฉพาะภาคการท่องเที่ยวที่กลายเป็นฐานรายได้หลักของประเทศไทยมาตลอดสิบปีที่ผ่านมา ซึ่งตอนนี้แม้เปิดประเทศให้นักท่องเที่ยวกลับมาแล้ว แต่ก็ยังถือว่าห่างไกลจากสถานะก่อนปิดประเทศที่น่าจะเป็นจุดอ่อนสำคัญให้ถูกนำมาตีแผ่แบบละเอียดในมุมต่างๆ ในการอภิปรายครั้งสุดท้ายครั้งนี้ หรือไม่?

อย่างไรก็ดีมาตรการที่ผ่อนคลายลงก็ยังไม่สามารถทำให้สถานการณ์ทางเศรษฐกิจกลับมาสู่สภาวะปกติได้ เนื่องจากมีวิกฤตใหม่ที่เข้ามาแทนที่ คือ ความขัดแย้งระหว่างรัสเซีย – ยูเครน ที่ลากยาวมากว่า 130 วัน ได้ส่งผลกระทบไปเป็นวงกว้างนอกพื้นที่การสู้รบได้แผ่ขยายไปยังทั่วโลก โดยเฉพาะผลกระทบจากราคาพลังงาน และวิกฤตอาหารที่พุ่งสูงขึ้นย้อนแย้งกับค่าครองชีพในปัจจุบัน ซึ่งกระทบต่อวิถีชีวิตของผู้คน และกำลังเป็นปัจจัยสำคัญส่งผลย้อนกลับไปยังเสถียรภาพของกลุ่มพันธมิตรยุโรป ทั้งในส่วนของสมาชิกประเทศอียู และนาโต

ส่วนที่สำคัญของผู้นำจากประเทศที่ไม่เกี่ยวกับคู่สงครามถูกมองว่าคือ การบริหารสถานการณ์เศรษฐกิจเพราะตั้งแต่ช่วงแรกของการโจมตีกลุ่มพันธมิตรยุโรป ต่างใช้มาตรการในการคว่ำบาตรต่อรัสเซียทั้งทางการทูตและเศรษฐกิจ รวมถึงสนับสนุนให้ยูเครนต่อต้านการโจมตีของรัสเซีย

การลงทุนเม็ดเงินในการทำสงคราม และการร่วมออกมาตรการกดดันรัสเซีย ทั้งการจำกัดการนำเข้าสินค้า พลังงาน และการตัดรัสเซียออกจากระบบเงินทุนของโลก ซึ่งขณะนั้นมีประเทศต่างๆ ทั่วโลกร่วมแสดงจุดยืน ที่วันนั้นเราถูกมองว่าไม่มีความชัดเจนในเรื่องนี้ แต่ตอนนี้ผลกำลังย้อนกลับไปที่เหล่าประเทศพันธมิตรยุโรปที่ในตอนนี้กลืนไม่เข้าคายไม่ออกจากผลกระทบดังกล่าว ที่ส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจในประเทศ และกระทบความนิยมของประชาชนในที่สุด เริ่มชัดเจนขึ้นจากผลการเลือกตั้งในหลายประเทศ อาทิ

การเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร หรือสภาล่างในฝรั่งเศส พรรคของ ปธน.มาครง ได้สูญเสียเสียงข้างมากในสภาไปให้พรรคฝ่ายซ้ายจัดของฝรั่งเศสได้แก่พรรคสังคมนิยม และพรรคคอมมิวนิสต์ โดยเป็นผลจากความไม่พอใจของประชาชนต่อการบริหารปัญหาข้าวของและพลังงานที่แพงขึ้น ซึ่งการสูญเสียเสียงข้างมากในครั้งนี้ อาจเป็นผลให้การดำเนินนโยบายในระยะต่อไปอาจดำเนินไปได้ด้วยความยากลำบาก เนื่องจากต้องพึ่งเสียงจากพรรคฝ่ายค้านที่ได้เสียงข้างมากในสภาในการผ่านกฎหมายสำคัญ และก็อาจนำมาซึ่งการปรับท่าทีของฝรั่งเศสต่อการสนับสนุนงบประมาณการทหารแก่ยูเครนด้วย เช่นเดียวกับอังกฤษการประกาศลาออกจากตำแหน่งของนายกฯอังกฤษหลังจากไม่สามารถต้านทานแรงกดดันจากทั้งภายในและนอกสภาได้ ทำให้เกิดแรงสะเทือนในการเมืองยุโรปและอาจรวมไปถึงการปรับท่าทีการสนับสนุนยูเครนด้วยเช่นกันหรือไม่? เรื่องนี้ก็ต้องยอมรับว่าการยืนระยะห่างของไทยในตอนนั้นของพลเอกประยุทธ์ทำให้ยังไม่ส่งผลลบเท่าไรต่อไทยเมื่อเทียบกับประเทศที่ประกาศตัวชัด

วิกฤตพลังงาน สู่ค่าครองชีพที่สูงขึ้นปัญหาที่เคยซุกไว้ใต้พรมของหลายประเทศก็เปิดเผยจนประชาชนหลายประเทศเริ่มทนไม่ได้ จากวิกฤตโควิด-19 จนถึงวิกฤตสงครามรัสเซีย-ยูเครน กรณีของประเทศศรีลังกาเป็นภาพชัดเจน จากเรื่อง เงินทุนสำรองระหว่างประเทศลดลง หนี้สินสู่วิกฤตความเชื่อมั่นในระบบเศรษฐกิจ จนเกือบเข้าขั้นล่มสลาย สุดท้ายนำมาสู่การเดินขบวนของประชาชน ขับไล่นายกฯ และประธานาธิบดีให้ออกจากตำแหน่ง มีการบุกเข้าทำเนียบประธานาธิบดี เผาทำลายบ้านพัก จนนายกฯและปธน. ต้องยอมลาออกในที่สุด กำลังสะท้อนว่าทุกวิกฤตของโลกอาจส่งผลต่อประเทศอื่นๆ ไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง

ขณะที่ประเทศไทย วิกฤตพลังงานกระทบโดยตรงต่อการใช้ชีวิตของประชาชนก็จริง จากค่าขนส่งที่เพิ่มสูงขึ้นอันเป็นต้นทุนของทุกสิ่งในระบบเศรษฐกิจ เมื่อราคาน้ำมันสูงขึ้นนอกจากส่งผลโดยตรงต่อค่าขนส่ง ยังส่องต่อไปยังราคาสินค้า กระทบต่อไปจนถึงค่าครองชีพที่ไม่ว่าจะอย่างไรก็พยุงไว้ได้ยาก ต่อไปคือเงินเฟ้อ คำถามตอนนี้ของประชาชนต่อผู้นำรัฐบาลก็คือกองทุนน้ำมันที่ถูกจัดเก็บจากการเติมในทุกๆ ลิตรที่ผ่านมา เมื่อถึงวันที่ราคาน้ำมันขึ้นเช่นนี้ เม็ดเงินดังกล่าวได้ทำหน้าที่แทรกแซงราคาและโอบอุ้มค่าใช้จ่ายของประชาชนมากน้อยขนาดไหน? และข้อมูลที่ออกมาเป็นความจริงแค่ไหน เพราะสภาพเศรษฐกิจของไทยในขณะนี้ที่รัฐบาลกำลังเดินหน้าเปิดการท่องเที่ยว เพื่อฟื้นตัวสภาพเศรษฐกิจจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 ซึ่งหากทำดีอาจจะส่งผลดีต่อการเลือกตั้งที่ใกล้เข้ามานี้ของพลเอกประยุทธ์ แต่แผนดังกล่าวคงจะชะงักงันลงหากวิกฤตพลังงานเข้ามาเป็นตัวแทรกในการกดดันรัฐบาล

อย่างไรก็ตาม แม้หลายคนจะหงุดหงิดกับราคาน้ำมันที่เพิ่มสูงขึ้น แต่หากเปรียบเทียบราคาในขณะนี้ต่อราคาขายปลีกในอาเซียน ไทยเองก็ยังคงอยู่ในอันดับที่ดี กล่าวคือไทยมีราคาน้ำมัน (บาทต่อลิตร) ถูกเป็นอันดับที่ 3 รองจากมาเลเซีย และบรูไน แต่อย่างไรก็ตามก็ปฏิเสธไม่ได้ว่ากระทบภาคเศรษฐกิจทั้งการผลิตและการบริการอย่างมากซึ่งทางการเมืองแล้วย่อมส่งผลไม่ดีแน่ต่อรัฐบาล แต่ที่น่าแปลกคือฝ่ายค้านเลือกที่จะไม่อภิปรายรัฐมนตรีพลังงาน

หากจะมองว่าการเลือกตั้งอยู่อีกไม่ไกลนัก ช่วงเวลานี้คือช่วงของการเตรียมกำลัง เตรียมตัวให้พร้อม และการเริ่มสร้างฐานมวลชนให้พร้อมสู่สนามเลือกตั้ง ซึ่งฝ่ายรัฐบาลที่ผ่านๆ มา ก็มักจะได้แต้มต่อด้วยการออกนโยบายเพื่อกระตุ้นความนิยมก่อนเข้าสู่สนามเลือกตั้ง แต่ต้องยอมรับว่าตลอดสามปีโควิดรัฐบาลใช้โควตากับงบประมาณเหล่านี้ไปเกือบหมดแล้ว ของที่หมดไปแล้วจึงยากที่จะหาเสียง อีกส่วนหนึ่งคือการขยับเดินหน้าลงพื้นที่ของ ครม. ตามที่ประกาศว่าจะมีครม.สัญจร แต่ห้วงเวลานี้น่าจะต้องมีกำหนดการมาแล้วว่าจะไปจังหวัดใด แต่กลับไม่มีแม้แต่กระแสข่าว หรือประเด็นนี้ที่บางคนมองว่าเกิดอะไรขึ้นกับพรรคร่วมรัฐบาล ครม. เองก็ไม่ได้มีความพร้อมจะลงพื้นที่ร่วมกันหรือไม่ ทั้งพรรคหลักก็ประเด็นหนึ่งที่เคยได้กล่าวไปแล้ว แต่พรรคอื่นก็มีความสำคัญไม่น้อยโดยเฉพาะช่วงนี้ที่จะมีการอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐมนตรีเป็นรายบุคคล ในช่วงวันที่ 19-22 ก.ค. นี้ ซึ่งที่ต้องจับตาดูคือการลงคะแนน

โดยเฉพาะในกลุ่มของพรรคเศรษฐกิจไทย ของ ร.อ.ธรรมนัส ว่าจะยังคงลงคะแนนให้กับนายกฯ และฝ่ายรัฐบาลหรือไม่?

ด้วยกระแสความไม่ลงรอยที่ผ่านมาของ ร.อ.ธรรมนัส และ พล.อ.ประยุทธ์ ก็ทำให้หวั่นใจไม่น้อยว่าในการอภิปรายไม่ไว้วางใจในครั้งนี้จะเป็นจุดแตกหักหรือไม่? ขณะที่ ร.อ.ธรรมนัสพึ่งพ่ายแพ้ในการเลือกตั้งซ่อมลำปางเขต 4 ที่ พรรคเสรีรวมไทยชนะอย่างขาดลอย ก็ทำให้ ร.อ.ธรรมนัส ถึงกับต้องประกาศผ่านทางเฟซบุ๊คว่าต้องยอมรับและปรับตัวให้เข้ากับความต้องการของประชาชน และล่าสุดเมื่อวันอังคารที่ผ่านมาได้มีการลาออกจากวิปรัฐบาล แต่ก็ยังไม่ได้พูดตรงๆ ว่าจะเป็นฝ่ายค้าน บอกเพียงจะรอฟังคำการอภิปรายก่อนซึ่งหลายฝ่ายก็อาจจะแทงหวย โหวตรมต.บางคนไม่โหวตรมต.บางคนหรือไม่?

อย่างไรก็อาจจะมองว่ายากที่ พรรคเศรษฐกิจไทยจะหันหลังให้รัฐบาลเสียทีเดียวเพราะคู่แข่งสำคัญในการเลือกตั้งในเขตคู่ขนานส่วนใหญ่ คือพรรคเพื่อไทย โดยเฉพาะที่เพื่อไทยประกาศแลนสไลด์ในครั้งหน้าโดยเฉพาะในพื้นที่ภาค
อีสานและภาคเหนือ พรรคเศรษฐกิจไทยจึงอาจตกที่นั่งเดียวกับภูมิใจไทยที่ต้องหากลเม็ดต้านแลนด์สไลด์ จึงจะได้แต้ม ซึ่งก็ต้องติดตามว่าความสัมพันธ์ระหว่างพรรคเศรษฐกิจไทยและพรรคพลังประชารัฐ จะเป็นอย่างไรต่อไป

ในการเลือกตั้งครั้งหน้าในพื้นที่ภาคอีสานและภาคเหนือพรรคเพื่อไทยถูกมองว่ามีแนวโน้มจะได้รับความนิยม
สูงขึ้น ประกอบกับบัตรเลือกตั้งแบบสองใบที่เหมือนจะเป็นใจไปหมด แม้จะเสียไปบ้างจากการลงมติให้คิดคะแนนแบบหาร 500 ก็ตามก็ยังได้เปรียบในแง่ของความนิยมอยู่ดี จึงน่าจะมีความได้เปรียบที่จะช่วงชิงแต้มสส.เพิ่มมากขึ้นในสองภาคนี้ ขณะที่พรรคพลังประชารัฐเองยังมีโครงสร้างเป็นพรรคหลักที่มีพรรคฐานที่เกี่ยวเนื่องอยู่บางพรรค จึงยังไม่ชัดเจนในการกำหนดผู้สมัครโดยเฉพาะในพื้นที่ภาคอีสานและภาคเหนือ ความจำเป็นในการเชื่อมต่อพรรคอย่างพรรคเศรษกิจไทยหรืออีกบางพรรค หรือแม้กระทั่งพรรคภูมิใจไทยเองจึงยังคงมีอยู่ การพึ่งพิงแบบนี้จึงอาจกลับกลายเป็นผลในการพยุงคะแนนรัฐบาลในสภาให้อยู่รอดต่อไป การอภิปรายครั้งนี้จึงอาจได้เห็นความสั่นคลอนในรัฐบาลจากความขัดแย้งมากขึ้นแต่ก็เชื่อว่าน่าจะยังมีสายสัมพันธ์บางอย่างที่ยังต้องเชื่อมต่อกันไปก่อน

“ไม่ว่าเป็นวิกาลเหน็บหนาวยาวนานปานใด ต้องมีเวลาฟ้าสางสว่าง”

จาก มังกรเมรัย โกวเล้ง

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

  •  
  • Breaking News
  • ข่าวยอดนิยม
  • คอลัมน์ฮิต
13:42 น. ‘ทักษิณ’เตรียมทอดผ้าป่า‘วัดบ้านไร่’ 19 ก.ค. สร้าง‘หลวงพ่อคูณ’องค์ใหญ่ที่สุดในโลก
13:22 น. ‘อนุสรณ์’แนะ‘ภราดร’ตรวจสอบคนในก่อนโวยวายคนนอกปมคุมเสียงไม่ได้
13:14 น. รัฐบาลเปิดระบบ‘มอก.วอทช์’ ดึง AI ล่าล้างบางของเถื่อน ผ่านทางออนไลน์ 24 ชม.
13:08 น. 'ตะไลชนโคม' สีสันกีฬาพื้นบ้าน-สร้างความสนุกสนาน'งานบุญวันเข้าพรรษา'
12:24 น. ฝนตกหนักถนนลื่น! เก๋งเสียหลักตกถนนสายน่าน-ร้องกวางบาดเจ็บ
ดูทั้งหมด
โปรดเกล้าฯ 'พล.อ.' พ้นจากการปฏิบัติหน้าที่ นายทหารราชองครักษ์พิเศษ
พอที'เพื่อไทย'!! อดีตเด็ก พท.หอบผ้าซบพรรคลุงป้อมพรึ่บ อีสานมาเพียบ! (คลิป)
'หมอวรงค์'บอกหนาวเลย! หลังฟังการไต่สวนคดี'ทักษิณ'ชั้น 14 รพ.ตร. ครั้งที่ 3
ศาลรัฐธรรมนูญ มีมติ 8 ต่อ 1 หญิงหย่าสามีต้องกลับไปใช้นามสกุลเดิม
'ดุ๊ก ภาณุเดช'วอนหยุดบุกรุกบ้านส่วนตัวที่เขาใหญ่ สุดทนคนแห่ถ่ายรูป-เดินชิลเหมือนอยู่คาเฟ่
ดูทั้งหมด
จีนยกระดับปราบ Cyber Scam ฉ้อโกงออนไลน์ให้เป็นวาระแห่งชาติ
ฝนตก-น้ำท่วม-ก่อสร้าง พึงระมัดระวังไฟดูด-ไฟรั่ว
ฮุนเซน-ทักษิณ (แพทองธาร) มิตรหรือศัตรู
บุคคลแนวหน้า วันที่ 12 ก.ค. 2568
ทักษิณยังคงคุยโวเหมือนเดิม
ดูทั้งหมด

เรื่องอื่นๆ ที่น่าสนใจ

‘ทักษิณ’เตรียมทอดผ้าป่า‘วัดบ้านไร่’ 19 ก.ค. สร้าง‘หลวงพ่อคูณ’องค์ใหญ่ที่สุดในโลก

‘พัทลุง’สลด! พบศพผัวเมียรับซื้อน้ำยาง ถูกยิงดับคู่ในบ้าน ตร.คาดทะเลาะกัน

‘ทนายวันชัย’มองเรื่อง‘สีกากอล์ฟ’ เปรียบฆาตกามต่อเนื่อง กระชากหน้ากาก‘คนห่มเหลือง’

ยิปซีพยากรณ์ดวงรายวัน ประจำวันเสาร์ที่ 12 ก.ค.68

สุดทน!‘สุทิน’จี้ผู้รักษากฎหมายต้องขยับ ปล่อยให้‘สทร.’ย่ำยีประเทศไม่ได้อีกแล้ว

‘นักเขียนซีไรต์’ฟาดนักการเมืองขี้ขลาด มุ่งแก้ ม.112 นิรโทษกรรมตัวเอง

  • Breaking News
  • ‘ทักษิณ’เตรียมทอดผ้าป่า‘วัดบ้านไร่’ 19 ก.ค. สร้าง‘หลวงพ่อคูณ’องค์ใหญ่ที่สุดในโลก ‘ทักษิณ’เตรียมทอดผ้าป่า‘วัดบ้านไร่’ 19 ก.ค. สร้าง‘หลวงพ่อคูณ’องค์ใหญ่ที่สุดในโลก
  • ‘อนุสรณ์’แนะ‘ภราดร’ตรวจสอบคนในก่อนโวยวายคนนอกปมคุมเสียงไม่ได้ ‘อนุสรณ์’แนะ‘ภราดร’ตรวจสอบคนในก่อนโวยวายคนนอกปมคุมเสียงไม่ได้
  • รัฐบาลเปิดระบบ‘มอก.วอทช์’ ดึง AI ล่าล้างบางของเถื่อน ผ่านทางออนไลน์ 24 ชม. รัฐบาลเปิดระบบ‘มอก.วอทช์’ ดึง AI ล่าล้างบางของเถื่อน ผ่านทางออนไลน์ 24 ชม.
  • \'ตะไลชนโคม\' สีสันกีฬาพื้นบ้าน-สร้างความสนุกสนาน\'งานบุญวันเข้าพรรษา\' 'ตะไลชนโคม' สีสันกีฬาพื้นบ้าน-สร้างความสนุกสนาน'งานบุญวันเข้าพรรษา'
  • ฝนตกหนักถนนลื่น! เก๋งเสียหลักตกถนนสายน่าน-ร้องกวางบาดเจ็บ ฝนตกหนักถนนลื่น! เก๋งเสียหลักตกถนนสายน่าน-ร้องกวางบาดเจ็บ
ดูทั้งหมด

คอลัมน์ที่เกี่ยวข้อง

ทิ้งไพ่ ทิ้งทวน

ทิ้งไพ่ ทิ้งทวน

11 พ.ค. 2566

นิ่งๆอาจกินเรียบ

นิ่งๆอาจกินเรียบ

4 พ.ค. 2566

ทางเลือกหรือทางรอด?

ทางเลือกหรือทางรอด?

27 เม.ย. 2566

ยังคาดเดาอะไรไม่ได้

ยังคาดเดาอะไรไม่ได้

20 เม.ย. 2566

เปลี่ยนเพื่อไปต่อ

เปลี่ยนเพื่อไปต่อ

13 เม.ย. 2566

ฉากเดิมๆ

ฉากเดิมๆ

6 เม.ย. 2566

ระฆังเริ่มยก

ระฆังเริ่มยก

30 มี.ค. 2566

ล้างไพ่สลายขั้ว

ล้างไพ่สลายขั้ว

23 มี.ค. 2566

Back to Top

ผู้ดูแลเว็บไซต์ www.naewna.com
webmaster นายปรเมษฐ์ ภู่โต
ดูแลรับผิดชอบข่าว/ภาพ/โฆษณา/ข้อมูลอื่นๆที่เกี่ยวข้องกับเว็บไซต์
กรรมการบริษัทฯ, กรรมการผู้มีอำนาจ ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการนำเสนอข่าว/ภาพ/ข้อมูลใดๆในเว็บไซต์ทั้งสิ้น

Social Media

  • หน้าแรก |
  • เกี่ยวกับแนวหน้า |
  • โฆษณากับเรา |
  • ร่วมงานกับเรา |
  • ติดต่อแนวหน้า |
  • นโยบายข้อตกลง
Copyright © 2025 Naewna.com All right reserved