วันศุกร์ ที่ 7 พฤศจิกายน พ.ศ. 2568
แนวหน้า มั่นคง ตรงไป ตรงมา...
nn งานราชการนั้น คืองานของแผ่นดิน มีผลเกี่ยวเนื่องโดยตรงถึงประโยชน์ของประเทศชาติและประชาชนทุกคน ดังนั้น ข้าราชการผู้ปฏิบัติบริหารงานของแผ่นดิน จึงต้องทำความเข้าใจถึงความสำคัญในหน้าที่และความรับผิดชอบของตนให้ถ่องแท้ แล้วร่วมกันคิดร่วมกันทำด้วยความอุตสาหะ เสียสละ และด้วยความสุจริตจริงใจ โดยถือประโยชน์ที่จะเกิดจากงานเป็นหลักใหญ่ งานของแผ่นดินทุกส่วน จักได้ดำเนินก้าวหน้าไปพร้อมกัน และสำเร็จประโยชน์ที่พึงประสงค์ คือ ยังความเจริญมั่นคงให้เกิดแก่ประเทศชาติและประชาชนได้แท้จริงและยั่งยืนตลอดไป (พระบรมราโชวาท พระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว พระราชทานแก่ข้าราชการพลเรือน เนื่องในวันข้าราชการพลเรือน วันที่ 1 เมษายน 2560)...
nn การอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐมนตรีเป็นรายบุคคลผ่านไปแล้ว 2 วัน ผู้ที่ติดตามฟังและดูการอภิปรายฯ โดยตลอด คงจะตอบตัวเองได้ดีว่าผู้อภิปรายกับผู้ถูกอภิปรายรายใดทำหน้าที่ได้สมศักดิ์ศรี แต่เท่าที่ได้ยินได้ฟังคอการเมืองจำนวนหนึ่งเล่าสู่กันฟังคือ สส. ของกลุ่มก้าวไกลบางคนอภิปรายได้ดี มีเนื้อหาที่น่าเชื่อถือ มีน้ำหนัก แต่ก็ต้องติดตามต่อไปว่าเนื้อหาที่นำมาอภิปรายนั้นเป็นความจริงหรือเป็นสิ่งที่แต่งแต้มขึ้นมา เพราะต้องไม่ลืมข้อเท็จจริงที่ว่า สส. บางคนก็กุเรื่องได้เก่งมาก เรียกได้ว่ายกเมฆมาปั้นแต่งเป็นเรื่องเป็นราวได้อย่างแนบเนียน...
nn เท่าที่ธรรมกรได้ติดตามฟังและชมการอภิปรายในบางช่วงบางตอน ก็ทำให้เห็นได้ชัดๆ ว่ารัฐมนตรีที่ถูกอภิปรายบางรายมีอาการเป๋ ไปไม่ถูก คล้ายเมาหมัด ชี้แจงไม่ชัดเจน บางรายก็อ้างว่าทำดีที่สุดแล้ว บางรายหนักยิ่งกว่าคืออ้างว่าทำดีแล้ว หากคิดว่ามีใครที่ทำดีมากกว่าตน ก็ให้ไปเชิญคนคนนั้นกลับมา คำถามคือจะกลับมาได้อย่างไร เพราะคนคนนั้นติดคดีอาญา แต่ที่หนักหนายิ่งกว่าก็คือ เขาคนนั้นจะกลับมาทำไม กลับมาก็ติดคุก แล้วที่สำคัญคือนายกรัฐมนตรีคนเดิมยังไม่ยอมลงจากตำแหน่ง...
nn คอการเมืองไทยเชื่อตรงกันว่าการอภิปรายไม่ไว้วางใจครั้งนี้ ก็จะจบลงแบบเดิมๆ คือ รัฐบาลอยู่ได้ต่อไป ส่วนฝ่ายค้านก็ได้แสดงวาทะในสภาเป็นเครื่องปลอบใจไปเท่านั้น เพราะไม่เคยมีการอภิปรายไม่ไว้วางใจครั้งใดที่ล้มรัฐบาลได้ แล้วก็อย่าลืมว่ารัฐบาลยังเหลือเวลาของการอยู่ในอำนาจอีกประมาณ 8 เดือน แล้วจากนั้นทุกสิ่งทุกอย่างก็จะจบไปตามวาระของรัฐบาล เมื่อดูเป้าหมายหลักของการอภิปรายฯ ครั้งนี้คือ สส. ฝ่ายค้านต้องการลากนายกรัฐมนตรีลงจากตำแหน่งให้ได้ โดยกล่าวหาว่านายกรัฐมนตรีล้มเหลว ไร้ความสามารถ ขาดวิสัยทัศน์ในการทำหน้าที่บริหารประเทศ แก้ปัญหาวิกฤตเศรษฐกิจของประเทศไม่ได้ นั่นคือข้อกล่าวหาของพรรคการเมืองฝ่ายค้าน แต่สำหรับมุมมองของนายกรัฐมนตรีแล้ว ยังมั่นใจว่าทำหน้าที่ได้ดีที่สุด และดีกว่าอดีตนายกรัฐมนตรีบางคนด้วยซ้ำไป ดังนั้นความหวังของฝ่ายค้านที่ต้องการจะให้นายกรัฐมนตรีถอดใจแล้วลาออกจากตำแหน่งนั้น คงเป็นเรื่องยากมาก เพราะอย่างไรนายกรัฐมนตรีก็ไม่มีวันลาออกจากตำแหน่ง แถมยังหวังอยู่ลึกๆ ว่าจะกลับมาเป็นนายกรัฐมนตรีอีกหนึ่งสมัยด้วยซ้ำไป แต่ทั้งนี้ก็ต้องดูเงื่อนไขระยะเวลาของการดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีครบ 8 ปี ประกอบด้วย...
nn การอภิปรายไม่ไว้วางใจครั้งนี้ ทำให้สังคมไทยได้รับทราบว่าน้องชาย (ขออนุญาตไม่เอ่ยชื่อ) ของอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขทำธุรกิจเกี่ยวกับกัญชง แต่อนุทินบอกว่าตนเองไม่ได้เกี่ยวข้องกับการทำธุรกิจของน้องชาย เพราะต่างคนต่างอยู่ ส่วนจุติ ไกรฤกษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ก็ดูเสมือนว่าเสียคะแนนไปมากเพราะไม่สามารถชี้แจงสิ่งที่ ณัฐชา บุญไชยอินสวัสดิ์ สส.พรรคก้าวไกล อภิปราย เท่านั้นยังไม่พอ สังคมยังเห็นว่าจุติเดินออกจากห้องประชุมสภาหลังจากที่ดูเสมือนชี้แจงเรื่องที่ถูกอภิปรายไม่ได้...
nn รถเมอร์เซเดส-เบนซ์ รุ่น S500 ที่นายทหารยศสูงๆ จำนวนหนึ่งมีไว้ใช้ประดับบารมีได้กลายเป็นรถควบคุมการสั่งการไปแล้ว ตามคำชี้แจงของนายทหารที่เข้าไปชี้แจงเรื่องงบลับ และงบเช่ารถยนต์หรูให้กับนายทหารระดับผู้บริหารกองทัพ เรื่องนี้ทำให้สังคมอยากรู้โดยพลันว่าตกลงแล้วกองทัพมีรถควบคุมการสั่งการกี่ร้อยคัน แล้วใช้เพื่อภารกิจอะไร ควบคุมการสั่งการอะไร ซ้ำซ้อนกับรถประจำตำแหน่งหรือไม่...
nn สำหรับงบฯ ประจำปี 2566 ที่กระทรวงกลาโหมขอไว้คือ 1.97 แสนล้านบาท งบฯก้อนนี้หากกองทัพนำไปจัดซื้ออาวุธยุทโธปกรณ์ที่สำคัญสำหรับป้องกันประเทศจริงๆ ประชาชนที่เห็นแก่ความมั่นคงของประเทศก็ไม่น่าจะคัดค้าน แต่เมื่อมีข่าวหลุดเรื่องรถเบนซ์หรูได้กลายไปเป็นรถควบคุมการสั่งการ จึงทำให้เกิดคำถามถึงความโปร่งใสในกองทัพไทย รวมถึงยังมีคำถามเรื่องค่าตอบแทนเหมาจ่ายแทนค่ารถยนต์ประจำตำแหน่งของนายทหารระดับพันเอก (พิเศษ) เดือนละ 25,400 บาท พลตรี 31,800 บาท ยศตั้งแต่พลโทขึ้นไป 41,000 บาท เรื่องนี้มีคำถามว่าทำไมกองทัพจึงต้องมีงบค่ารถประจำตำแหน่งมากมายมหาศาล แล้วก็มีคำถามว่าทำไมกระทรวงกลาโหมจึงมีการเบิกจ่ายงบเช่นนี้ได้มากกว่ากระทรวงอื่นๆ ทั้งๆ ที่เป็นกระทรวงเหมือนๆ กัน แบบนี้เป็นความไม่เท่าเทียมในระบบราชการไทย ใช่หรือไม่...
nn ในขณะที่การบินไทยยังพยายามจะลุกขึ้นมาสยายปีกแล้วโบยบินให้ได้อีกครั้ง แต่ก็ดูเสมือนว่าความคาดหวังที่จะเห็นการบินไทยกลับมารุ่งเรืองเฟื่องฟูดั่งเมื่อครั้งอดีตอาจจะไม่ง่ายมากนัก เพราะยังไม่มีเงินทุนเข้าไปหนุนส่งการบินไทยให้กลับมาแข็งแกร่ง มีข่าวปรากฏมาโดยตลอดว่าการบินไทยต้องเพิ่มทุนจดทะเบียนเป็น 8 หมื่นล้านบาท จากเดิมที่มีอยู่เพียง 2.18 หมื่นล้านบาท เงินก้อนใหญ่ 8 หมื่นล้านบาท แบ่งเป็นดังนี้ 5.5 หมื่นล้านบาทมาจากการแปลงหนี้เป็นทุน และอีก 2.5 หมื่นล้านบาท มาจากการขายหุ้นเพิ่มทุน ก็ต้องดูกันต่อไปว่าความหวังของการบินไทยจะเป็นจริงหรือไม่ แต่สิ่งหนึ่งที่ถูกจับตามองกันค่อนข้างมากคือการบินไทยในอนาคตจะหลุดพ้นจากอำนาจของกระทรวงคมนาคมได้แท้จริงหรือไม่หรือพูดง่ายๆ ชัดๆ คือจะไม่ต้องเป็นรัฐวิสาหกิจต่อไปหรือไม่ แล้วเรื่องที่ต้องจับตาดูอย่างใกล้ชิดต่อไปคือการขายหุ้นเพิ่มทุนแบบเฉพาะเจาะจงที่จะเกิดขึ้นในอนาคตจะทำให้การบินไทยตกไปอยู่ในมือนายทุนหน้าไหนเป็นการเฉพาะเจาะจงหรือไม่ เรื่องนี้ให้จับตาดูการทำงานของผู้บริหารแผนฟื้นฟูการบินไทยให้ดี ว่าจะดำเนินการอย่างโปร่งใส หรือจะเอื้อผลประโยชน์ให้ใครเป็นพิเศษหรือไม่...nn
ธรรมกร

บุกจับคาเตียง! ‘สาวไทย-หนุ่มไนจีเรีย’ แก๊งโรแมนซ์สแกม หลอกเงินเหยื่อสูญกว่า 114 ล้านบาท
'ธรรมนัส'สั่งเข้ม! 'กรมชลประทาน' ประสานงานรองรับมวลน้ำ 'คัลแมกี'
ปิดฉากอาชีพการเมืองกว่า40ปี! 'แนนซี เพโลซี'อดีตปธ.สภาผู้แทนฯหญิงคนแรกมะกันประกาศวางมือ
'อัจฉริยะ' นั่งประท้วงหน้า สตช. ลั่น 10 พ.ย. ถ้า ผบ.ตร.ไม่ดำเนินการจะมาอีกรอบ เตือน'อนุทิน'คัดกรองตำรวจใกล้ตัว
'ธรรมนัส'ลั่น พรรคกล้าธรรม พร้อมสู้ศึกเลือกตั้ง ปัดตอบปมนายกฯชิงยุบสภาก่อน

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี