“บุคคลแนวหน้า” ใน “นสพ.แนวหน้า สื่อ อุดมการณ์ มั่นคง ตรงไป ตรงมา www.naewna.com” ฉบับนี้ “ไม้หน้าสาม ย่อโลกทัศน์ที่กว้างให้แคบ ขยายโลกทัศน์ที่แคบให้กว้าง ทำความจริงให้ปรากฏ ให้สังคมไทยทันเล่ห์นักการเมืองชังชาติติ่งสัมภเวสีอย่างเท่าเทียม”...
nn วิบากกรรมทางการเมืองของ “ลุงตู่และหมู่คณะ” ในญัตติเปิดอภิปรายทั่วไปเพื่อลงมติไม่ไว้วางใจรัฐมนตรีเป็นรายบุคคล (พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม และรัฐมนตรีอื่นๆ อีกห10 ราย) สิ้นสุดด้วยคะแนนความไว้วางใจอย่างท่วมท้น สูงต่ำตามกันไป แต่กลับสอบไม่ผ่านในสายตาประชาชนคนไทยทั้งในและนอกประเทศที่มาลงมติคู่ขนานกับการพิจารณาในสภาผู้แทนราษฎร ตาม “โครงการเสียงประชาชน”ที่ประกอบไปด้วยนักวิชาการจาก 4 มหาวิทยาลัย องค์กรภาคประชาชน 30 ปีพฤษภาประชาธรรม”ร่วมด้วยสถานีโทรทัศน์ดิจิทัล 4 สถานี เพื่อให้ประชาชนที่ติดตามและรับฟังการอภิปรายกล่าวหาและคำชี้แจงข้อกล่าวหาของรัฐมนตรีที่ถูกอภิปรายทุกคนได้แสดงความคิดเห็นทางการเมือง ปรากฏว่ามีประชาชนสนใจร่วมโครงการ 524,806 ราย จากประเทศไทย 511,807 ราย, จากต่างประเทศ อาทิ สหรัฐอเมริกา 897 ราย, สิงคโปร์ 817 ราย, ญี่ปุ่น 653 ราย นัยสำคัญนับจากนี้คือ “พรรคพลังประชารัฐ” โดยเฉพาะ “พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา แคนดิเดตนายกรัฐมนตรีในการเลือกตั้งครั้งใหม่ในปีหน้า และพลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ”จะต้องเร่งดำเนินการแก้ไขปัญหาให้ประชาชนในทุกพื้นที่อย่างมีประสิทธิภาพและเห็นผลสัมฤทธิ์โดยเร็วและยั่งยืน...
nn ศึกครั้งนี้สร้างรอยร้าวภายในพรรครัฐบาล อาทิ พรรคแกนนำอย่าง “พรรคพลังประชารัฐ” ที่น้องรักอย่าง “บิ๊กป๊อก-พลเอกอนุพงษ์ เผ่าจินดา” รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย กับ “เสี่ยเฮ้ง-สุชาติ ชมกลิ่น” รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน คนใกล้ชิดระดับ “เด็กในคาถา” เจอ สส. “กลุ่มปากน้ำ” วางยาลงมติไม่ไว้วางใจแทบยกยวง งานนี้“บิ๊กป้อม-พลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ” หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐจะมามาดเต่าต้วมเตี้ยมผมไม่รู้ไม่ทราบคงไม่ได้แล้ว...
nn ญัตติขอเปิดอภิปรายทั่วไปเพื่อลงมติไม่ไว้วางใจรัฐมนตรีเป็นรายบุคคลครั้งนี้แม้ในเชิงยุทธศาสตร์ถือว่าประสบความสำเร็จในระดับหนึ่งคือ “เปิดแผลใหญ่ให้รัฐบาล ลดกระแสนิยมในการเลือกตั้งที่จะมีขึ้นในปี 2566” โดยวัดจากการลงมติของประชาชนทั่วทุกภูมิภาคที่ไม่ให้ความไว้วางใจรัฐมนตรีที่ถูกอภิปรายครั้งนี้ให้ปฏิบัติหน้าที่ต่อ แต่ด้วยความเป็น “สิงห์สนามซ้อม” เน้นใส่ไคล้ด้วยข้อมูลและเอกสารเท็จทำให้ “ประชาชนเห็นสันดานตัวตลกบนหลังคารถ” มากขึ้น ... จากการสำรวจความคิดเห็นประชาชนของ “สำนักวิจัยซูเปอร์โพล” ที่ทำการสำรวจข้อมูลจำนวน 2,175 ตัวอย่าง พบศึกใหญ่นี้แค่เกมที่เสียดสีกันทางการเมืองและจาบจ้วงสถาบัน หวังทำลายศรัทธาของสังคมไทย ชิงหาเสียงก่อนการเลือกตั้ง ข้อมูลไม่เกิดประโยชน์ ... เห็นชัดว่าการเมือง “ระบอบประชาธิปไตยไทยถูกแทรกแซงจากกลุ่มอำนาจ, กลุ่มผลประโยชน์ และคนต่างประเทศ” จนทำให้ในสายตากลุ่มตัวอย่างนี้รัฐมนตรีที่ถูกอภิปรายทั้ง 11 คนมีความเหมาะสมในการปฏิบัติหน้าที่บริหารราชการแผ่นดินกับ “ลุงตู่” ต่อไปได้ด้วยคะแนนเกินกว่าร้อยละ 50 ทุกคน โดย “ลุงตู่-พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา” ได้คะแนนความไว้วางใจถึงร้อยละ 61.1 ทีเดียว อย่างไรก็ดี เกมการเมืองของฝ่ายค้านนี้กลับทำให้คุณลักษณะของ “นายกรัฐมนตรี” ที่ประชาชนจากกลุ่มตัวอย่างนี้กว่าร้อยละ 51.9 จนถึงร้อยละ 55.8 ต้องการชายสูงวัย มีประสบการณ์ ซื่อสัตย์ไม่โกงบ้านโกงเมืองเด็ดขาด เคยผ่านการเป็นผู้นำสูงสุดในแต่ละอาชีพ ปกป้องสถาบันหลักของชาติ ประสบความสำเร็จในหน้าที่จนทั่วโลกให้การยอมรับ...
nn ส่วนคนรุ่นใหม่อายุน้อยมีฐานะมีชาติตระกูลแกนนำ ตั้งใจพัฒนาประเทศกลายเป็นเหตุผลท้ายๆ ในการเลือกผู้บริหารประเทศคนใหม่ … สิ้นกระแสเปิดประเด็นประจานรัฐบาลชิงหาเสียงด้วยความพ่ายแพ้หมอบราบคาบแก้ว“สัมภเวสีแดนไกล-โทนี่ วู้ดซัม” สำรอกเขย่าสังคมไทยสยดสยองอีกครั้งเคาะกะลาให้คนเสื้อแดงดีใจประกาศกลับประเทศไทยปีหน้า เดินสายเยี่ยมแฟนคลับทุกอำเภอทุกภูมิภาคทุกจังหวัด กลางงานวันเกิดในวัย 73 ปี...
nn เหมือนจะท้าทายคำอภิปรายตอบโต้ข้อกล่าวหาของ “นายแพทย์ ชลน่าน ศรีแก้ว” ผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร “ท่านคงชื่นชมคนที่เคยทำงานมาก่อนว่าดีกว่าผม ไม่เป็นไร ก็เอากลับมาให้ได้ก็แล้วกัน” การประกาศจะกลับเมื่อนั่นเมื่อนี่ไม่เคยเห็นหัวสักครั้ง เคยประกาศให้มวลชนคนเสื้อแดงออกมาชุมนุมแสดงพลังไล่ “รัฐบาลมาร์คทาสแมว” แล้วถ้ามีเสียงปืนดังขึ้นนัดแรก “สัมภเวสีเร่ร่อนตัวนี้” จะมายืนแถวหน้านำม็อบด้วยตนเอง... ที่สุด !! คนเสื้อแดงถูกหลอกเสียสนิท เพราะเสียงปืนแตกนัดแรกจนนัดสุดท้ายจนเงียบสงบมาตั้งแต่เดือนพฤษภาคม 2553 คนเสื้อแดงทั้งหลายได้เห็น “ทักษิณ ชินวัตร” ที่จะกลับมาหาพวกท่านปีหน้าโผล่มาอย่างที่ประกาศหรือไม่ เคยไต่ถามความสูญเสียเจ็บปวดของพวกท่านทั้งทาง “คลับเฮ้าส์ช่อง แคร์คิดเปลี่ยนไทย” ทางแฟนเพจเฟซบุ๊คบ้างหรือไม่...
nn ทิ้งท้าย คนเสื้อแดงทั้งหลายยังจำได้ไหมกับประโยคนี้ที่แกนนำคนเสื้อแดงได้ประกาศข่มขู่อำนาจรัฐว่า “คนเสื้อแดงขี้ตกใจ ถ้ายิงตูม คนเสื้อแดงจะวิ่งเข้าเกษร พารากอน วิ่งเข้าโรงแรม แนวโน้มการตกใจมีหลายประการ บางคนตกใจ วิ่งหากระเป๋าแบรนด์เนม บางคนตกใจ ชอบวิ่งไปหาเครื่องประดับ ทอง เพชร บางคนตกใจชอบขับรถเข้าไปในห้าง บางคนตกใจจุดไฟก็มี สรุปเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นครั้งนั้นใครรับผิดชอบช่วยเหลือความตกใจของพวกท่านครอบครัวพวกท่านบ้าง!?!?! นอกจากเสียงสำรอกสำรากตอแหลให้ดูดีเท่านั้น...nn
ไม้หน้าสาม
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี