วันพุธ ที่ 10 ธันวาคม พ.ศ. 2568
.jpg)
“สำนักงานตำรวจแห่งชาติ” (สตช.) เป็นองค์กรที่สำคัญของประเทศไทย “ตำรวจ” มีหน้าที่บำบัดทุกข์บำรุงสุขให้ประชาชนจะปล่อยปละละเลยไม่ได้ “ตำรวจ” ต้องทำงานทุก 24 ชั่วโมง โดยเฉพาะหน่วยงานที่ตั้งขึ้นมาเพื่อปฏิบัติหน้าที่ตามสายงานที่ได้กำหนดขึ้นมาใหม่ให้มีความคล่องตัวในระเบียบแบบแผนของหน่วยงานนั้นๆ โดยเฉพาะคดีที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจที่เกิดขึ้นทั้งในประเทศไทยและประเทศต่างๆ ที่มีชาวต่างชาติเข้ามาก่อคดีในประเทศไทย ตำรวจไทยต้องทำการศึกษาข้อกฎหมายให้กระจ่างแจ้งสามารถพิจารณาได้ว่าผู้ต้องหาที่กระทำความผิดในคดีต่างๆ ประเทศไทยสามารถดำเนินคดีได้หรือต้องส่งตัวผู้ต้องหากลับไปดำเนินคดียังประเทศของเขา โดยมี“ตำรวจ” ของกองบังคับการกองการต่างประเทศจะต้องเป็นผู้ดำเนินการกับประเทศต่างๆที่ประชาชนของเขาเข้ามาก่อคดีในประเทศไทย ซึ่งตำรวจกองบังคับการกองการต่างประเทศ พร้อมที่จะรับมือเนื่องจากตำรวจไทยมีตำรวจที่เชี่ยวชาญภาษาต่างประเทศจำนวนมากสามารถรับมือได้...
ขณะนี้ตำรวจไทยมีศักยภาพเกี่ยวกับภาษาต่างประเทศพอสมควรไม่น้อยหน้าประเทศต่างๆ ในกองบังคับการต่างประเทศจะมีตำรวจหญิงและตำรวจชายที่เรียนจบในด้านกฎหมายและเดินทางไปศึกษาต่อด้านกฎหมายเป็นจำนวนมาก เมื่อกลับมาแล้วสอบเข้ามาเป็นตำรวจ “กองการต่างประเทศ” ทำให้ตำรวจไทยมีความเชี่ยวชาญภาษาต่างประเทศที่เกี่ยวข้องกับกฎหมายพอสมควร... สำนักงานตำรวจแห่งชาติควรสนับสนุนนักเรียนไทยที่เรียนจบมาจากต่างแดนเข้ามาเป็นตำรวจให้เพิ่มมากขึ้นเพื่อต้อนรับการเปิดประเทศหลังจากสถานการณ์โควิด-19 คลี่คลายจะทำให้ประเทศไทยสามารถรับมือกับบรรดามิจฉาชีพชาวต่างชาติที่เข้ามาก่อคดีในประเทศไทยได้ทันที โดยไม่ต้องพึ่งล่ามให้เสียเงินอีก ที่สำคัญคดีที่เกิดขึ้นในประเทศไทยควรยึด“กฎหมาย” ของประเทศไทยเป็นหลักชาวต่างชาติที่เดินทางเข้ามาเพื่อก่ออาชญากรรมในประเทศไทยจะได้เกิดความเกรงกลัวกฎหมายไทย ชาวต่างชาติจะได้ไม่กล้าเข้ามาก่อคดีในประเทศไทยและจะทำให้คดีต่างๆ ลดน้อยลง...สวัสดีครับ...
เกลือสมุทร

‘จุรินทร์’ชี้‘จุดอ่อน’ร่างแก้รธน.ฉบับใหม่ ปล่อยมาตรฐานจริยธรรม‘รมต.’หายวับไปกับตา
'สิริพงศ์'เผยฟื้นฟูหาดใหญ่ คืบหน้ากว่า70% รัฐบาลสั่งรับมือใต้ฝนหนัก 11–16 ธ.ค.นี้
‘เพื่อไทย’รุมถล่มสูตรส้ม‘20 หยิบ 1’ทำแก้รธน.บิดเบี้ยว ดาหน้าเชียร์ฟื้น‘151 ส.ส.ร.’
‘เท้ง’ขอรัฐบาลตั้งธงให้ชัดคำว่า‘จบ’คือตรงไหน ใช้กำลังตอบโต้เขมร ต้องไม่ตกอยู่ในฐานะผู้รุกราน
‘นฤมล’สั่งปิดสถานศึกษาชายแดนเพิ่มเป็น 1,168 แห่ง เปิดโรงเรียน 102 แห่งเป็นศูนย์พักพิง

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี