วันจันทร์ ที่ 8 ธันวาคม พ.ศ. 2568
นี่เป็นตัวอย่างกรณีศึกษานักการเมืองไทย เล่นการเมืองเพื่อพรรคพวกตัวเอง
1. นายวรวัจน์ เอื้ออภิญญกุล คณะกรรมการยุทธศาสตร์และทิศทางการเมืองพรรคเพื่อไทย และว่าที่ผู้สมัครสส.แพร่พรรคเพื่อไทย ได้กล่าวถึงสถานการณ์น้ำท่วม โดยกล่าวหาว่า รัฐบาลช่วยชาวบ้านน้อยมาก ตลอด 8 ปีที่ผ่านมา รัฐบาลพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ และรมว.กลาโหม ไม่ได้ให้ความสนใจในเรื่องปัญหาน้ำท่วมของประชาชนเลย
นายจักรพงษ์ แสงมณี นายทะเบียนและคณะทำงานด้านเศรษฐกิจพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า สิ่งที่อยากเสนอรัฐบาลนี้ คือ ให้ท่านกลับไปดูโครงการเมื่อปี 2555 พรรคเพื่อไทยเคยออก พ.ร.ก.บริหารจัดการน้ำ 3.5 แสนล้านบาท เพื่อบริหารจัดการน้ำทั้งประเทศอย่างเป็นระบบ โดยจะกำหนดได้เลยว่าน้ำจะไปอยู่ตรงไหน จะไปพักได้ที่ไหน เพราะเรามองว่า การใช้งบประมาณในแต่ละปีแต่ไม่เป็นระบบไม่สามารถจัดการระบบน้ำได้อย่างเป็นรูปธรรม
“หากรัฐบาลนี้ไม่สามารถคิดแผนการบริหารจัดการน้ำได้เอง ก็สามารถไปดูนโยบาย หรือข้อเสนอที่พรรคเพื่อไทยเคยเสนอไปได้ เพราะสมัยน.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกฯ เราได้ทำแผนเอาไว้หมดแล้ว ซึ่งแผนนี้ควรเสร็จตั้งแต่ปี 2560 แล้ว และถ้าเสร็จตามกำหนดเดิมวันนี้เราจะมีแผนบริหารจัดการน้ำที่เป็นระบบ เพราะหากมองความสูญเสียที่เกิดขึ้นในแต่ละปีทั้งจากภัยน้ำท่วม และภัยแล้งแล้วมีมูลค่ามหาศาล เมื่อเทียบกับ 3.5 แสนล้านบาทที่ได้ระบบการบริหารจัดการน้ำที่ครอบคลุมทั้งประเทศ เพราะหากจัดการได้อย่างไม่ครอบคลุมก็เกิดเหตุการณ์” นายจักรพงษ์ กล่าว
2. หากเปิดหูเปิดตาเปิดใจ จะเห็นความช่วยเหลือของภาครัฐ และโครงการน้ำที่คืบหน้าจำนวนมาก
ดังที่ได้เคยอัปเดตในคอลัมน์นี้ไปแล้ว ไม่ขอสาธยายซ้ำ
ทั้งในภาคเหนือเอง ที่เชียงใหม่ หรือที่ภาคใต้ นครศรีธรรมราช รวมไปถึงภาคอีสานหลายจังหวัด ฯลฯ
มันไม่ได้เป็นดังที่นายวรวัจน์กล่าวเลยแม้แต่น้อย
สถานการณ์ภาพรวมน้ำของไทย ดีกว่าในอดีตมากมาย
3. ส่วนที่คณะทำงานด้านเศรษฐกิจพรรคเพื่อไทยหลับหูหลับตาสรรเสริญการจัดการน้ำและแผนการจัดการน้ำยุครัฐบาลยิ่งลักษณ์นั้น ไม่ใช่ “อวยฉับหาย” แต่เป็น “อวยความฉิบหาย”
เหลือเชื่อ!!!!
คนไทยยังไม่ลืมความเสียหายย่อยยับในคราวน้ำท่วม “เอาไม่อยู่” และโครงการน้ำผลาญชาติ ว่ามีการจัดการที่ไร้ประสิทธิภาพ และมีปัญหาความไม่โปร่งใสอย่างไรบ้าง
ยังจำได้ว่า หลังน้ำท่วมใหญ่ ปี 2554 ยิ่งลักษณ์เอาไม่อยู่ ช่วงปี 2555-2556 รัฐบาลทักษิณคิด เพื่อไทยทำ ได้ฉวยโอกาสเร่งรีบออก พ.ร.ก.กู้เงิน 3.5 แสนล้านบาท โดยนำโครงการน้ำประเภทร้อยพ่อพันแม่เอามามัดรวมกันเป็นกลุ่มๆ เรียกว่า “โมดูล”
แล้วให้เอกชนเข้ามายื่นข้อเสนอ ยื่นราคารับเหมาออกแบบก่อสร้าง
ไม่มีราคากลางตามกฎหมายปกติ เพียงแต่ตั้งกรอบงบเอาไว้
ถูกครหา วิพากษ์วิจารณ์อย่างรุนแรงในขณะนั้น
อดีตนายกฯ ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ หนีคดีโกงหลายคดี เดินสายไปล็อบบี้ถึงที่ทำการของเค-วอเตอร์ ในเกาหลีใต้
จากนั้น ผลปรากฏว่า กลุ่มเค-วอเตอร์ คว้าชิ้นปลามันไปครองแบบนอนมาตามคาด 2 โมดูล มูลค่าโครงการสูงที่สุด ได้แก่ โครงการทางผันน้ำ กรอบวงเงิน 153,000 ล้านบาท
ที่เหลือเป็นกลุ่มอิตาเลียนไทย นำโดยเสี่ยเปรมชัย 5 โมดูล
รวม เค-วอเตอร์ กับ ITD ได้โครงการมูลค่าเกือบ 290,000 ล้านบาท
ป.ป.ช.ขณะนั้น ถึงขนาดส่งรายงาน “ข้อเสนอแนะเพื่อป้องกันการทุจริตและความเสียหายของทางราชการ ในการดำเนินการโครงการระบบบริหารจัดการทรัพยากรน้ำอย่างยั่งยืนและระบบแก้ไขปัญหาอุทกภัยของประเทศไทย” ต่อรัฐบาลยิ่งลักษณ์ โดยชี้ว่า โครงการมีการใช้งบประมาณจำนวนมาก และมีจุดเสี่ยงทุจริตหลายจุด มีลักษณะเร่งรีบ รวบรัด ขอยกเว้นระเบียบว่าด้วยการพัสดุ
โครงการขนาดใหญ่ ยังไม่เคยมีการศึกษาความคุ้มค่าและผลกระทบสิ่งแวดล้อมใดๆ มาก่อนเลย ต่อให้เซ็นสัญญาจ้างเอกชน ก็ยากจะสำเร็จตามคำคุยโม้
นับเป็นบุญของประเทศชาติ ที่ศาลปกครองชี้ว่า การดำเนินการไม่ครบถ้วน ไม่ถูกต้อง เพราะไม่ได้รับฟังความเห็นของประชาชนตามรัฐธรรมนูญ โครงการจึงสะดุด รอดปากเหยี่ยวปากกามาได้ โดยไม่ต้องจ่ายเงินให้เอกชนที่คัดเลือกชงกันมา
ปัจจุบัน ยังมีคดีทุจริตประพฤติมิชอบเกี่ยวกับการประมูลโครงการน้ำ คาอยู่ที่ ป.ป.ช.
แม้ว่ากรณีออก พ.ร.ก.ขอกู้เงิน 3.5 แสนล้านบาท ป.ป.ช.จะยกคำร้องไปแล้ว แต่กรณีการกู้เงินเมื่อพ้นกำหนดระยะเวลาตามที่กฎหมายกำหนด และกรณีฮั้วประมูล หรือเอื้อประโยชน์แก่เอกชนบางราย ในการดำเนินโครงการ ยังอยู่ในชั้นไต่สวนของ ป.ป.ช.
ถึงวันนี้ ยังรอวันสรุปเรื่อง และพิจารณาชี้มูลความผิดของผู้เกี่ยวข้องกับโครงการน้ำผลาญชาติในยุครัฐบาลยิ่งลักษณ์ ชินวัตร
ช่างเหลือเชื่อ ถึงขนาดนี้ ยังมีลูกสมุนหยิบโครงการน้ำผลาญชาติขึ้นมา “อวยความฉิบหาย”
สารส้ม

รมว.กต.สาธารณรัฐกัวเตมาลา วางพวงมาลาถวายราชสักการะพระบรมศพ สมเด็จพระพันปีหลวง
ในหลวง พระราชินี เสด็จฯไปทรงบำเพ็ญพระราชกุศลอุทิศถวาย พระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว และ พระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว
นาย ก. รับแล้ว นำ ไซยาไนด์ ให้ 'นัทปง' จ่อใช้เครื่องจับเท็จ หลังบางคนให้การไม่ตรง
ปวดหัวข้างเดียว เป็น ไมเกรน หรือ คอเสื่อม แยกให้ออกก่อนกินยาฟรีมาเป็นปี
พ่อรักลูก เสียงของทหารแนวหน้า ฝากข้อความถึงลูก

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี