มีข้อเท็จจริงประการหนึ่งที่น่าสนใจในสังคมไทยคือ การที่ภูมิปัญญาพื้นบ้านถูกจำกัดวง หรือถูกทำให้สูญสลายไปด้วยข้อบังคับของกฎหมาย
ปัญหาเรื่องนี้เห็นได้ชัดเจนจากกรณีที่กฎหมายห้ามชาวบ้านผลิตสุราพื้นบ้านทั้งๆ ที่การผลิตสุราพื้นบ้านเป็นภูมิปัญญาดั้งเดิมของบรรพบุรุษไทย ซึ่งมีกระจายอยู่ในแต่ละชุมชน แต่ละท้องถิ่นมายาวนานนับร้อยๆ ปี แต่สุดท้ายแล้วภูมิปัญญาของบรรพบุรุษในประเด็นดังกล่าวก็ถูกทำให้สูญหายไป เนื่องจากข้ออ้างว่าเป็นการกระทำที่ผิดกฎหมาย แต่ยิ่งตลกหนักเข้าไปอีกตรงที่กฎหมายของบ้านเมืองในยุคใหม่ดันเปิดโอกาสแบบเฉพาะเจาะจงให้บริษัทเอกชนบางรายเท่านั้นสามารถผลิตสุราจำหน่ายได้
หลายคนอาจจะเคยได้ยินคำว่า อุกะแช่ สาโท เหล้าข้าวโพด เป็นต้น สิ่งเหล่านี้คือภูมิปัญญาพื้นบ้านที่แท้จริง แต่ทว่าปัจจุบันชาวบ้านในแต่ละชุมชนไม่สามารถผลิต อุกะแช่ สาโท เหล้าข้าวโพด ด้วยตนเองได้อีกต่อไป แล้วกลับกลายเป็นว่าชาวบ้านต้องซื้อเหล้าชนิดต่างๆ เท่าเหล้าขาวและเหล้าสี รวมถึงเบียร์จากบริษัทของนายทุนผูกขาด
ถามว่าทำไมรัฐบาลจึงจงใจทำให้การผลิตสุราพื้นบ้านสิ้นสลายหายไปจากแผ่นดินไทยแล้วทำไมรัฐบาลจึงดูเสมือนสนับสนุนให้คนไทยต้องตกอยู่ในสภาพถูกบังคับให้ซื้อเหล้าจากบริษัทของนายทุน ทั้งๆ ที่ชาวบ้านไม่ควรจะต้องถูกมัดมือชก หรือจำกัดทางเลือกในการดื่มเหล้า โดยเฉพาะอย่างยิ่งเหล้าที่ชาวบ้านสามารถผลิตได้เองโดยอาศัยภูมิปัญญาการผลิตเหล้าของบรรพบุรุษ
ว่ากันตามความจริงแล้ว การผลิตสุราพื้นบ้าน หรือหากจะเรียกให้ถูกต้องจริงๆ ก็ต้องเรียกอุ สาโท กะแช่ นั้น เป็นการผลิตที่ชาวบ้านไม่ต้องใช้สารเคมีที่มาจากโรงงานแต่อย่างใดเพราะใช้ส่วนประกอบสำคัญที่มาจากธรรมชาติเช่น ข้าวเหนียว ลูกแป้งที่เป็นหัวเชื้อส่าเหล้า สมุนไพร เครื่องเทศ ซึ่งผิดจากการผลิตสุราในโรงงานอุตสาหกรรมยักษ์ใหญ่
น่าอัศจรรย์ใจมากที่รัฐบาลกำหนดนโยบายผลิตและจำหน่ายสุราเสรีตั้งแต่พ.ศ. 2543 แต่รัฐบาลกลับประกาศว่าการผลิตสุราหรือเหล้าพื้นบ้านเป็นสิ่งผิดกฎหมาย
นับเป็นเรื่องประหลาดเชิงอุบาทว์ที่ทางการโดยเฉพาะรัฐบาลไม่ส่งเสริมให้ประชาชนรักษาภูมิปัญญาดั้งเดิมของชุมชนและท้องถิ่นไว้ แถมยังไม่ให้ความเคารพสิทธิของประชาชนที่มีจารีต ขนบ ประเพณี และภูมิปัญญาท้องถิ่น แต่กลับส่งเสริมให้เกิดการผูกขาดการผลิตสุราโดยนายทุนยักษ์ใหญ่
รัฐบาลทราบดีมาโดยตลอดว่าธุรกิจการผลิตและจำหน่ายเหล้า สุรา และเบียร์ในประเทศไทยคือธุรกิจที่ทำกำไรมหาศาลให้กับนายทุน และรัฐบาลก็ต้องทราบดีด้วยว่าในประเทศไทยนั้นมีการผูกขาดการผลิตสุรา เหล้า เบียร์โดยเอกชน
ข้ออ้างที่รัฐบาลอ้างมาโดยตลอดคือการผลิตเหล้า สุราโดยชุมชนจะส่งผลเสียต่อสุขภาพของประชาชน เนื่องจากประชาชนจะสามารถเข้าถึงเหล้า และสุราได้ง่ายดาย เพราะผลิตได้เอง แต่ก็มีคำถามว่า แล้วเมื่อรัฐบาลปล่อยให้นายทุนเพียงบางรายผูกขาดการผลิตเหล้าและสุรา ก็ทำให้ประชาชนต้องไร้ทางเลือก จึงต้องจำใจซื้อเหล้า สุรา เบียร์ของเอกชนไปดื่ม หรือใช้ในงานพิธีกรรมต่างๆ
การห้ามชาวบ้านผลิตเหล้า สุรา ชุมชนไม่สามารถทำให้ชาวบ้านที่ดื่มเหล้าและสุรายุติการดื่มได้ แต่เท่ากับผลักให้ชาวบ้านต้องไปซื้อเหล้า และสุราจากบริษัทเอกชน จนเคยนำไปสู่ปัญหาขายเหล้าพ่วงเบียร์ซึ่งสาธารณชนได้พบแล้วว่านายทุนยักษ์ใหญ่ใช้การผูกขาดตลาดด้วยการขายเหล้าพ่วงเบียร์และใช้กลยุทธ์การตลาดแบบมอมเมาประชาชนด้วยการขายเบียร์ 3 ขวด 100 บาท
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี