หนึ่งอาทิตย์จากนี้พี่น้องชาวไทยจะได้ร่วมกันเป็นเจ้าภาพ เป็นเจ้าบ้านร่วมกับรัฐบาลจัดการประชุมเอเปกครั้งใหญ่ที่มีแขกระดับ VVIP และเจ้าหน้าที่ชั้นผู้ใหญ่ได้รับเชิญมาร่วมงานนับพันคน ดังที่ทราบกันทั่วไปแล้วว่า ระหว่างวันที่ 18-19 พฤศจิกายน 2565 ประเทศไทยได้เป็นเจ้าภาพการประชุมความร่วมมือทางเศรษฐกิจเอเชีย-แปซิฟิก หรือ Asia-Pacific Economic Cooperation=APEC
เอเปกเป็นการประชุมพบปะหารือกันถึงความร่วมมือทางด้านเศรษฐกิจในบรรดาสมาชิก 21 เขตเศรษฐกิจ ได้แก่ ออสเตรเลีย แคนาดา ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ จีน ฮ่องกง นิวซีแลนด์ สหรัฐอเมริกา บรูไน อินโดนีเซีย มาเลเซีย สิงคโปร์ ฟิลิปปินส์ ไทย จีนไทเป ชิลี เม็กซิโก ปาปัวนิวกินี เปรู รัสเซีย และเวียดนาม ที่มาพบปะหารือกันเรื่องเศรษฐกิจ
ซึ่งนับว่าการประชุมเอเปก ที่ประเทศไทยเป็นเจ้าภาพ เป็นการประชุมใหญ่ที่สุดในรอบสามปี เพราะก่อนหน้านี้ทั่วโลกประสบปัญหาวิกฤตโควิด-19 ไม่สามารถประชุมร่วมกันต่อหน้าได้ สามปีที่ผ่านมาเอเปกจัดประชุมได้โดยใช้การสื่อสารทางไกลเท่านั้นและในการประชุมครั้งใหญ่ที่สุดในรอบสามปีนี้พูดกันในกรอบเศรษฐกิจ การค้าขายกันเท่านั้นไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ ในประเด็นการเมือง
ดังนั้นพี่น้องชาวไทยที่ยังมีความแตกต่าง แตกแยกทางความคิดกันอยู่บ้างในทางการเมืองขอให้ลบเรื่องการเมืองออกจากสมองชั่วคราว วางเรื่องการเมืองความขัดแย้งไว้ข้างหลัง แล้วหันหน้ามาร่วมมือกับรัฐบาลในการจัดประชุมระดับโลก เพื่อฟื้นฟูเศรษฐกิจที่ถดถอยตกต่ำลงไปในห้วงเวลาสองสามปีที่ผ่านมาอันเนื่องจากวิกฤตโควิด-19 และซ้ำเติมด้วยวิกฤตสงครามรัสเซีย-ยูเครน คนไทยจึงจำเป็นต้องร่วมมือกับรัฐบาล ช่วยให้การประชุมเอเปก ครั้งนี้ให้ผ่านไปได้ด้วยดีและราบรื่น
สำหรับท่านที่ยังฝันร้าย ยังถูกหลอนด้วยภาพการประชุมอาเซียนซัมมิตพัทยาเมื่อปี 2552 ให้ลบความคิดนั้นออกจากสมองได้ เพราะกาลเวลาและสถานการณ์แตกต่างกัน สิบสามปีที่ผ่านมาสังคมไทยได้พัฒนาวุฒิภาวะขึ้นมามาก สถานะของรัฐบาลและสังคมไทยก็พัฒนาขึ้นมามากกว่าทศวรรษแห่งความมืดมน โดยเฉพาะอย่างยิ่งข้าราชการพลเรือน ตำรวจ ทหาร ส่วนใหญ่ได้สลัดตัวหลุดพ้นจากการครอบงำของนักธุรกิจการเมืองทุนสามานย์มานานพอ ที่จะร่วมมือกับพี่น้องชาวไทยและรัฐบาลช่วยกันเป็นเจ้าภาพงานใหญ่ให้ผ่านไปได้ด้วยดี
การเป็นเจ้าภาพจัดประชุมเอเปกครั้งที่ 29 ฝ่ายรัฐบาลอันประกอบด้วยกระทรวงการต่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ และหน่วยงานมั่นคงได้วางแผนเตรียมการไว้อย่างดี ด้านการรักษาความปลอดภัย สภาความมั่นคงแห่งชาติ ตำรวจ ทหาร ได้เตรียมการอำนวยความสะดวก และรักษาความปลอดภัยแก่แขกมาร่วมงานตามมาตรฐานสากล ที่มาร่วมประชุมตั้งแต่สนามบินถึงที่พัก และ ในรัศมี 1 กม. ถึงสถานที่ประชุมก็มีมาตรการรักษาความปลอดภัยไว้ถึงสามชั้นตลอดถึงการอำนวยความสะดวกและรักษาความปลอดภัยในศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ ซึ่งปรับปรุงขึ้นมาใหม่ทั้งหมดเพื่อใช้เป็นที่ประชุมครั้งนี้
กระทรวงการต่างประเทศ ซึ่งเป็นแม่งาน มีหน้าที่ประสานงานติดต่อเชื้อเชิญผู้นำประเทศสมาชิก และเจ้าหน้าที่ระดับสูงของเขตเศรษฐกิจมาร่วมประชุม และ ได้รับการยืนยันแล้วว่า มาร่วมประชุมครบทั้ง 21 เขตเศรษฐกิจ ผู้นำสูงสุด เช่น ประธานาธิบดี สี จิ้นผิง แห่งสาธารณรัฐประชาชนจีน และ 18 ผู้นำสูงสุดของเขตเศรษฐกิจที่เป็นสมาชิกยืนยันเป็นทางการว่าจะมาร่วมประชุมเอเปก ที่ประเทศไทยเป็นเจ้าภาพ
ส่วนผู้นำสูงสุดบางท่าน ไม่สามารถเดินทางมาร่วมประชุมเอเปกที่ประเทศไทยเป็นเจ้าภาพได้อาทิ ประธานาธิบดีโจ ไบเดน เป็นเพราะมีปัญหาสุขภาพ และติดภารกิจครอบครัวเนื่องจากหลานสาวแต่งงานในทำเนียบขาววันที่ 19 พ.ย. อย่างไรก็ตาม วอชิงตันส่งรองประธานาธิบดีนางกมลา แฮร์ริส ซึ่งทำหน้าที่เสมือนเป็นผู้นำตัวจริงโดยพฤตินัยมาประชุมแทน
ด้านประธานาธิบดี วลาดีมีร์ ปูติน แห่งรัสเซีย มีแนวโน้มสูงว่าจะมาร่วมประชุม แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นขึ้นอยู่กับสถานการณ์สงครามในบ้านเมือง เป็นเหตุให้ต้องลุ้นกันจนนาทีสุดท้ายว่า ประธานาธิบดีปูติน ปรากฏตัวในกรุงเทพฯหรือไม่ ทางด้านแม็กซิโกกำลังมีความรุนแรงภายในประเทศ และมาเลเซียประเทศเพื่อนบ้านก็กำลังมีการเลือกตั้งทั่วไป ผู้นำรัฐบาลจึงไม่อาจมาร่วมประชุมได้ แต่อย่างไรก็ตามผู้นำที่มาร่วมประชุมไม่ได้ก็ส่งเจ้าหน้าที่ระดับสูงมาประชุมแทน
จึงนับได้ว่า 17-18 พ.ย. ประเทศไทยเป็นเจ้าภาพประชุมเอเปกใหญ่ที่สุดในรอบสามปี และ ที่พิเศษสุดของการประชุมครั้งนี้ ประเทศไทยได้มีโอกาสต้อนรับแขกพิเศษจากสามประเทศที่มาสังเกตการณ์ อาทิ เจ้าชายโมฮัมมัด บิน ซัลมาน มกุฎราชกุมารแห่งราชอาณาจักร ซาอุดีอาระเบีย
นำคณะเจ้าหน้าที่ชั้นผู้ใหญ่มาเยือนประเทศไทยหลายร้อยคน ประธานาธิบดี เอ็มมานูเอล มาครงแห่งฝรั่งเศสมาร่วมงานในฐานะแขกรับเชิญ และสมเด็จอัครมหาเสนาบดีเดโช ฮุนเซน นายกรัฐมนตรีกัมพูชาก็มาร่วมประชุมในฐานะประธานหมุนเวียนอาเซียน
กระทรวงพาณิชย์ ซึ่งรับผิดชอบประสานงาน และเตรียมการในการเจรจาเรื่องการค้าเสรีก็มีความพร้อมเต็มร้อย นางอรมน ทรัพย์ทวีธรรม อธิบดีกรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ กล่าวว่า ในการเป็นเจ้าภาพจัดประชุมระดับรัฐมนตรีและระดับผู้นำเขตเศรษฐกิจเอเปก ระหว่างวันที่ 17-19 พ.ย. ประเด็นเศรษฐกิจสำคัญที่ไทยจะผลักดัน คือ การนำเสนอแผนงานการขับเคลื่อนเอเปกสู่การจัดทำเขตการค้าเสรีเอเชีย-แปซิฟิก (Free Trade Area of the Asia-Pacific: FTAAP) เพื่อให้ที่ประชุมเห็นชอบแผนงานระยะ 4 ปี ระหว่างปี 2566-2569 และเป็นหนึ่งในแถลงการณ์ที่จะประกาศในการประชุมครั้งนี้
สำหรับรายละเอียดแผนงาน FTAAP ประกอบไปด้วย การรวบรวมประเด็นที่สมาชิกเอเปกมีความสนใจร่วมกันทั้งด้านการค้าดั้งเดิมการค้าใหม่ และการฟื้นฟูเศรษฐกิจหลังจากเกิดวิกฤตผ่านกลไกการแลกเปลี่ยนข้อมูล และแนวปฏิบัติที่ดีระหว่างสมาชิกเอเปก เพื่อเตรียมความพร้อมต่อการจัดทำ FTAAP และมุ่งสู่เป้าหมายผลลัพธ์สำคัญของ FTAAP เช่น การขยายการค้าการลงทุนภายในภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิก, การลดอุปสรรคการค้าการลงทุนที่ไม่จำเป็น, การเพิ่มศักยภาพการแข่งขันของสมาชิกเอเปก และการลดช่องว่างการพัฒนาทางเศรษฐกิจการค้าระหว่างกัน
“สิ่งที่เกิดขึ้นตอนนี้ การเอา 21 เขตเศรษฐกิจที่หลากหลายมาอยู่จุดนี้ได้เป็นจุดตั้งต้นที่ดี เพราะแนวคิดการทำ FTAAP เกิดมากว่า 10 ปีแล้ว ถ้า 21 เขตเศรษฐกิจเห็นว่าเป็นประโยชน์ก็จะคุยกันอย่างจริงจัง โดยเริ่มจากการทำตามแผนงาน 4 ปี และในระหว่างที่ดำเนินการสามารถปรับปรุงแก้ไขกิจกรรมได้ตลอดเวลา หากมีประเด็นสำคัญที่เห็นควรที่จะต้องเพิ่มเข้าไป และเมื่อครบ 4 ปีแล้วสมาชิกก็จะมาตกลงกันว่าจะไปต่อไปยังไง จะไปสู่ FTAAP แบบไหน เพื่อให้การทำ FTAAP สามารถตอบสนองต่อสถานการณ์เศรษฐกิจโลก ทั้งด้านการค้า การลงทุน นวัตกรรม การเข้าสู่ยุคดิจิทัล และการเติบโตทางเศรษฐกิจที่มีความเข้มแข็ง สมดุล ยั่งยืน และครอบคลุม”นางอรมนกล่าว
สรุปว่า ทางฝ่ายรัฐบาลนำโดย พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา คณะรัฐมนตรีและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเตรียมพร้อมเป็นเจ้าภาพจัดประชุมเอเปก ครั้งที่ 29 ได้สมบูรณ์แล้วสมกับที่ APEC กำหนดว่า เจ้าภาพประชุมแต่ละปีถูกเรียกว่า APEC’s Host Economy of the Year ที่เหลือเป็นหน้าที่ของพี่น้องไทยทั้งหลายที่จะได้ร่วมมือ ร่วมแรง ร่วมใจกันผลักดันให้การประชุมระดับโลกดียิ่งๆ ขึ้นไป เพื่อชื่อเสียงเกียรติภูมิของชาติและปวงชนชาวไทยทั้งมวล
สุทิน วรรณบวร
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี