วันอังคาร ที่ 11 พฤศจิกายน พ.ศ. 2568
มหากาพย์คดีโกงสหกรณ์คลองจั่น ยังไม่จบ
เมื่อวันที่ 17 ม.ค.ที่ผ่านมา ศาลอาญาอ่านคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ คดีนายศุภชัย ศรีศุภอักษร อดีตประธานฯ กับพวกโกงสหกรณ์ยูเนี่ยนคลองจั่นฯ ความผิดฐานร่วมกัน ฉ้อโกงประชาชน, ร่วมกันลักทรัพย์นายจ้าง, ร่วมกันปลอมเอกสารสิทธิและใช้เอกสารสิทธิปลอม
1. คดีนี้ ศาลชั้นต้น เคยพิพากษายกฟ้อง โดยวินิจฉัยว่าเป็นการฟ้องซ้ำ
เมื่อวันที่ 30 มิ.ย. 2564 ศาลอาญา (ชั้นต้น) พิพากษา คดี อ.3339/2559 ความผิดฐาน ฉ้อโกงประชาชน ร่วมกันลักทรัพย์นายจ้าง, ร่วมกันปลอมเอกสารสิทธิและใช้เอกสารสิทธิปลอม และ คดี อ.3056/2560 ความผิดฐานลักทรัพย์นายจ้าง
มูลเหตุการกระทำผิด ช่วงระหว่างเดือน ม.ค. 2551-ธ.ค.2555 พวกจำเลยร่วมกันหลอกลวงผู้อื่นหรือประชาชน ด้วยการแสดงข้อความอันเป็นเท็จ หรือปกปิดข้อความจริง ซึ่งควรบอกให้ แจ้งแก่ประชาชน ด้วยวิธีการต่างๆ เป็นขั้นตอน ในลักษณะแบ่งหน้าที่กันทำ และร่วมรู้เห็นการกระทำผิดต่างๆ ร่วมกัน โดยเจตนาทุจริต เพื่อแสวงหาประโยชน์ ที่มิควรได้โดยชอบด้วยกฎหมาย สำหรับตนเองและผู้อื่น
ร่วมกันจัดทำสัญญากู้ยืมเงิน ระหว่าง สหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนคลองจั่น จำกัด (ผู้ให้กู้) กับ สมาชิกสมทบ (ผู้กู้) ซึ่งเป็นนิติบุคคล หรือคณะบุคคลที่ไม่ได้ถือหุ้นในสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนคลองจั่น จำกัด จำนวน 28 ราย รวมเป็นเงินตามสัญญากู้ยืมเงิน จำนวนทั้งสิ้น 11,858,440,000 บาท โดยไม่มีการกู้ยืมเงินกันจริง และร่วมกันทำการบันทึกรายการทางการเงินอันเป็นเท็จ ในการบันทึกรายการรับชำระหนี้เงินกู้ยืมเงินและดอกเบี้ยรับจากลูกหนี้เงินกู้ยืมพิเศษ สมาชิกสมทบ โดยไม่มีการรับชำระหนี้เงินกู้ยืมและดอกเบี้ยรับจากลูกหนี้เงินกู้ยืมพิเศษสมาชิก สมทบจริง และบันทึกจ่ายเงินให้แก่ลูกหนี้เงินกู้ยืมพิเศษ โดยไม่มีการจ่ายเงินที่กู้ยืมออกจากสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยน คลองจั่น จำกัด จริง
ทั้งยังร่วมกันจัดทำใบสำคัญรับชำระเงินลูกหนี้ทดรองจ่ายให้แก่นายศุภชัย จำเลยที่ 1 อันเป็นเท็จ และร่วมกันจัดทำใบสำคัญจ่ายเงินจำเลยที่ 1 อันเป็นเท็จ ร่วมกันทำการบันทึกรายการเกี่ยวกับการจ่ายเงินสดให้ลูกหนี้เงินกู้ยืมพิเศษ ทั้งที่ไม่มีการกู้ยืมเงินและการจ่ายเงินจริง
โดยการทำสัญญากู้ยืมเงินเท็จดังกล่าวข้างต้น เพื่อปกปิดการทุจริต หรือการเบิกจ่ายเงินทดรองจ่ายที่ไม่ถูกต้องตามข้อบังคับ ระเบียบของสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนคลองจั่น จำกัด หรือนำมาปรับโครงสร้างหนี้ และเพื่อตกแต่งบัญชีของสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนคลองจั่น จำกัด ให้ปรากฏเป็นเท็จว่า สหกรณ์เครดิตยูเนี่ยน คลองจั่น จำกัด มีผลการประกอบกิจการที่มีผลกำไรสุทธิ โดยทำให้ปรากฏในงบการเงินและงบดุลของสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนคลองจั่น จำกัด โดยนำงบกำไรสุทธิไปแสดงในรายงานประจำปี พ.ศ.2552-พ.ศ.2555 ทั้งที่ความจริงแล้ว การดำเนินการของสหกรณ์เครดิตฯ มีผลประกอบการขาดทุนจำนวนมากตลอดมา
ฝ่ายจำเลยปฏิเสธ
ศาลชั้นต้น พิพากษายกฟ้อง ระบุว่าเป็นการฟ้องซ้ำ
ต่อมา อัยการยื่นอุทธรณ์
2. คดีนี้ ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้ วินิจฉัยว่าไม่เป็นฟ้องซ้ำ
พิพากษาว่า มีความผิด ลงโทษจำคุกรวม 765 ปี !!!
สรุปว่า
ในส่วนของนายศุภชัย (จำเลยที่ 1) ผิดฐานปลอมเอกสารสิทธิและใช้เอกสารสิทธิปลอม ให้ลงโทษฐานร่วมกันใช้เอกสารสิทธิปลอม กระทงละ 2 ปี จำนวน 22 กระทง เป็นจำคุก 44 ปี
ฐานร่วมกันลักทรัพย์นายจ้าง จำคุกนายศุภชัย กระทงละ 1 ปี จำนวน 721 กระทง เป็นจำคุก 721 ปี
เมื่อรวมโทษทุกกระทงแล้ว คงจำคุก มีกำหนด 20 ปี ตามกฎหมายอาญา 91 (2) ให้นับโทษของจำเลยที่ 1 (นายศุภชัย) ต่อจากโทษในคดีอาญาหมายเลขแดงที่ 706/2559 ของศาลชั้นต้น และให้จำเลยที่ 1 คืนเงินจำนวน 10,812,663,995.29 บาท แก่โจทก์ร่วม
ในส่วนของจำเลยคนอื่นๆ จำเลยที่ 3 และจำเลยที่ 11 มีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 265 (เดิม), 268 ประกอบประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 83, 265 (เดิม) ส่วนจำเลยที่ 7 มีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 335 (7 ) (11) วรรคสอง (เดิม) ประกอบประมวลกฎหมายอาญามาตรา 83 เป็นความผิดหลายกรรมต่างกัน ให้ลงโทษทุกกรรมเป็นกระทงความผิดไปตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 91
3. น่าสนใจว่า คดีโกงสหกรณ์คลองจั่น ยังมีแตกแขนงออกไปอีกมากมายหลายคดี
บางคดี มีคำพิพากษาศาลฎีกา คดีถึงที่สุดแล้วว่า นายศุภชัยมีความผิด ต้องติดคุก
ปัจจุบัน นายศุภชัยก็ยังติดคุกอยู่ในเรือนจำ
คดีหมายเลขดำที่ อ.1739/2558 ศาลอาญาพิพากษาจำคุก 32 ปีฐานสั่งการให้เจ้าหน้าที่การเงินทำการเบิกจ่ายเงินของสหกรณ์ฯหลายครั้ง เป็นเงินจำนวน 22,132,000 บาท เข้าบัญชีของนายศุภชัยหรือบุคคลที่ 3 โดยทุจริตคดีดังกล่าวนายศุภชัยรับสารภาพ ศาลเมตตาลดโทษเหลือโทษจำคุก 16 ปี
ชั้นอุทธรณ์ ศาลมีคำพิพากษาเมื่อวันที่ 14 กันยายน 2560แก้เป็นว่าจำคุก 7 ปี
ศาลฎีกาพิพากษา ยืนตามศาลอุทธรณ์ ให้จำคุกจำเลย 7 ปี คดีถึงที่สุดแล้ว
อย่างไรก็ตาม ยังมีคดีอาญาฐานฟอกเงินอีกมากมาย ที่ ปปง.และพนักงานสอบสวนตรวจสอบเส้นทางการเงิน พบว่ามีการยักย้ายถ่ายโอนเงิน แปลงสภาพไปที่เครือข่ายต่างๆ มากมาย อาทิ เครือข่ายธรรมกาย
บางคดี มีอดีตพระธัมมชโยตกเป็นผู้ต้องหา หนีหมายจับอยู่จนถึงวันนี้
บางคดี เกี่ยวโยงถึงมูลนิธิ, นายทุนใหญ่ของวัด, พระสงฆ์ ฯลฯ
นอกจากนี้ ปปง.ได้ดำเนินคดีแพ่งเพื่อตามยึดทรัพย์กลับคืนมาเป็นของแผ่นดินหรือคืนสหกรณ์ ซึ่งเกือบทุกคดี ศาลตัดสินแล้วให้ทรัพย์ตกเป็นของแผ่นดินหรือคืนกลับแก่สหกรณ์ บางคดีถึงที่สุดแล้วด้วย
แม้แต่มูลนิธิของธรรมกาย ที่มีทรัพย์สินและเงินหมุนเวียนนับหมื่นล้านบาท ก็ถูกดีเอสไอส่งคดีต่ออัยการเพื่อพิจารณายื่นศาลแพ่งให้ยุบมูลนิธิมหารัตนอุบาสิกาจันทร์ขนนกยูงฯ และให้ทรัพย์สินตกเป็นของแผ่นดิน เนื่องจากกระทำผิดกฎหมาย ปรากฏว่าดีเอสไอได้ส่งคำร้องไปที่อัยการภาค 1 แล้ว แต่ไม่มีรายงานความคืบหน้าจนถึงปัจจุบัน
ส่วนคดีฟอกเงินของเจ้าสัวธรรมกาย ก็ปรากฏว่า อัยการสั่งไม่ฟ้อง
เข้าอีหรอบเดียวกับคดีตู้ห่าวเผาสวนงู
โดยไม่ปรากฏคำแถลงชี้แจงรายละเอียดข้อครหาสงสัยใดๆ แก่สังคมเลย
สารส้ม

ส่องภาพเบื้องหลังชุดแต่งงานไทยประยุกต์บ่าวสาวป้ายแดง 'ใหม่ ดาวิกา-เต๋อ ฉันทวิชช์'จากแบรนด์ 'วนัช กูตูร์'
ครม.ตั้ง‘พ.ต.อ.วทัญญู’อดีตตำรวจอารักขา‘นายกฯ’เพื่อไทย นั่ง‘รอง ผอ.สำนักงาน ป.ย.ป.’
'นายกฯ'บอกจะร้องไห้ หลังผู้ป่วยโรคไตมาขอบคุณ นโยบายฟอกไตฟรี
ไทย สมายล์ บัส ส่งมอบรถ EV Bus สานฝันให้ 'หมอนทองวิทยา'
ปชช.หลั่งไหลถวายบังคมพระบรมศพ'พระพันปีหลวง' ชาวกำแพงเพชรนั่งรถตู้มารอคิวตั้งแต่ตี5

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี