วันเสาร์ ที่ 12 กรกฎาคม พ.ศ. 2568
แนวหน้า
  • แนวหน้า
  • หน้าแรก
  • คอลัมน์
    • คอลัมน์วันนี้
    • คอลัมน์ออนไลน์
    • คอลัมน์การเมือง
    • คอลัมน์ลงมือสู้โกง
    • โลกธุรกิจ
    • ผู้หญิง
    • บันเทิง
    • Like สาระ
    • ดูทั้งหมด
  • ข่าวเด่น
  • พระราชสำนัก
  • การเมือง
  • โลกธุรกิจ
  • อาชญากรรม
  • กทม.
  • ในประเทศ
  • เกษตร
  • ต่างประเทศ
  • กีฬา
  • ผู้หญิง
  • บันเทิง
  • ยานยนต์
  • Like สาระ
หน้าแรก / คอลัมน์ / คอลัมน์การเมือง / นายซื่อตรงรักเมืองไทย
นายซื่อตรงรักเมืองไทย

นายซื่อตรงรักเมืองไทย

นายซื่อตรงรักเมืองไทย
วันพฤหัสบดี ที่ 2 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2566, 02.00 น.
คนกลาง

ดูทั้งหมด

  •  

เตรียมนับถอยหลังเข้าสู่การเลือกตั้งอย่างเต็มรูปแบบเมื่อราชกิจจานุเบกษา ได้มีการประกาศกฎหมายลูก 2 ฉบับ ให้เริ่มมีผลบังคับใช้ ทั้ง พ.ร.ป. เลือกตั้ง และ พ.ร.ป. พรรคการเมือง ซึ่งสาระสำคัญของร่างดังกล่าวคงหนีไม่พ้น ในเรื่องของการจัดแบ่งเขตเลือกตั้งจำนวน 400 เขต เพื่อสรรหา สส.แบบแบ่งเขต 400 คน เพื่อให้สอดรับกับรัฐธรรมนูญ รวมถึงสส. บัญชีรายชื่อ 100 คน โดยใช้รูปแบบกติกาบัตรเลือกตั้ง 2 ใบ

อีกหนึ่งประเด็นสำคัญไม่แพ้กัน นั่นคือบทสรุปของเรื่องสูตรคำนวณ เพราะแต่ละสูตรสร้างความได้เปรียบเสียเปรียบแตกต่างกัน ที่ก่อนหน้านี้เป็นประเด็นและถกเถียงกันมากระหว่างสูตรคำนวณหารด้วย 100 และหาร 500 สูตรการคำนวณแบบใดจะเหมาะกับการเลือกตั้งที่กำลังจะเกิดขึ้นมากกว่ากันหรือเหมาะกับใครมากกว่ากันผู้มีอำนาจเท่านั้นคือผู้กำหนด ถึงกระนั้นข้อถกเถียงนั้นแม้จะไม่ได้คำตอบเท่าไหร่นัก เพราะสุดท้ายแล้วเสียงโหวตกลับไปเป็นไปตามขนาดของพรรค


แต่อย่างไรก็ตามจากราชกิจจานุเบกษา ที่ได้มีการประกาศใช้ ก็ได้ระบุไปในตัวแล้วว่าท้ายที่สุด รูปแบบของสูตรการคำนวณ สส. บัญชีรายชื่อนั้น จะนำคะแนนเสียงเลือกตั้งของพรรคการเมืองทั้งหมดมาหาร 100 เพื่อจัดสรรสัดส่วนของ สส. แบบบัญชีรายชื่อของพรรคการเมืองแต่ละพรรคตามสัดส่วนของคะแนนที่ออกมา

ซึ่งเมื่อกติกานั้นได้ออกมาอย่างเป็นทางการ ประกอบกับระยะเวลาของรัฐบาลในชุดปัจจุบันที่ก้าวเข้าสู่ขั้นนับถอยหลังอย่างเต็มรูปแบบที่จะหมดวาระ แต่หลายฝ่ายก็ยังเชื่อว่าน่าจะมีการยุบสภาก่อนหมดวาระอยู่ดี เพียงแต่จะก่อนหรือหลังอภิปรายเท่านั้น?

แต่จากการที่กฎและกติกาเลือกตั้งที่ออกมาอย่างเป็นทางการแตกต่างจากครั้งที่แล้วและดูจะเข้าทางพรรคการเมืองขนาดใหญ่มากกว่าพรรคการเมืองขนาดย่อมหรือพรรคเกิดใหม่ เกมบนกระดานก่อนการเลือกตั้งจึงเปลี่ยนไปทันที ที่นอกจากพรรคใหญ่อาจถูกมองว่าจะได้เปรียบผ่านกติกานี้แล้ว ยังผลให้อาจตกปลาพรรคเล็กเข้ามาในช่วงท้ายอีกด้วยหรือไม่?

รวมถึงกระแสข่าวที่มาแรงแซงทางโค้ง นั่นคือการที่พลเอกประวิตร แม่ทัพแห่งพรรคพลังประชารัฐ ได้ใช้เวลาเพียงไม่นานในการเจรจาพูดคุยกับแกนนำพรรคสร้างอนาคตไทย เพื่อชักชวนให้เข้ามาร่วมวงกับพรรคพลังประชารัฐ และดูเหมือนว่ามีข่าวว่าผลการเจรจาน่าจะเป็นบวก

จริงๆก็มีกระแสข่าวมาก่อนหน้านี้แล้วว่าบ้านสร้างอนาคตไทยอาจเข้าร่วมกับพรรคพลังประชารัฐ ตัวดร.สมคิด ก็ไม่ขัดข้อง แต่อาจขอวางมือหรือเว้นวรรคให้กับเวทีการเมือง แต่นั่นก็เป็นเพียงข่าวก่อนหน้า

จนล่าสุดเมื่อสองวันก่อน ที่พรรคพลังประชารัฐก็ได้มีการเปิดตัวนายสนธิรัตน์และนายอุตตม ว่าจะกลับเข้ามาพรรคพลังประชารัฐ ขณะที่พลเอกประวิตรยังไม่ระบุชัดว่าดร.สมคิดจะกลับเข้ามาหรือไม่? อย่างไรก็ตามจู่ๆ ก็มีชื่อของพลเอกวิชญ์ กลับเข้ามาพรรคพลังประชารัฐอีกด้วย หากนับย้อนไปกลายเป็นว่าภายหลังมีข่าวบิ๊กตู่ไปอยู่เคียงข้างรวมไทยสร้างชาติบิ๊กป้อมดึงบรรดาศิษย์เก่าพลังประชารัฐที่ออกไปแล้วกลับมาได้เกือบหมดและล้วนแต่เป็นบิ๊กเนมรวมถึงบ้านใหญ่อีกด้วย

อย่างไรก็ตาม ก่อนหน้านี้ที่เคยมีข่าวว่าพรรคสร้างอนาคตไทยจับมือเป็นพันธมิตรกับไทยสร้างไทยของคุณหญิงสุดารัตน์ ก็น่าสนใจไม่น้อยว่าพรรคไทยสร้างไทยจะมาเข้าร่วมหรือไม่กับพลังประชารัฐอีกด้วยหรือไม่ แต่ล่าสุดพรรคไทยสร้างไทยก็ออกมาบอกแล้วว่าไม่น่าจะไปร่วม

เป็นระยะเวลานานกว่า 3 เดือนที่พรรคไทยสร้างไทยและพรรคสร้างอนาคตไทย มีการเดินหน้าเจรจากันมาโดยตลอด ซึ่งมีกระแสข่าวมาในรูปแบบต่างๆ มาไม่น้อยทั้งกระแสข่าวควบรวมพรรคที่สุดท้ายแล้วก็ไม่ได้เกิดขึ้น อาจเพราะปัญหาที่ไม่สามารถเคลียร์กันได้ลงตัว ในบางเรื่องหรือไม่?

ด้วยประสบการณ์ของพรรคการเมืองทั้งสอง ที่แม้ระดับแกนนำจะเปี่ยมไปด้วยประสบการณ์ แต่สำหรับชื่อเสียงของพรรคการเมืองทั้งสองนั้นนับว่ายังใหม่อยู่ ซึ่งถือเป็นโจทย์ยากในการแข่งขันทางการเมือง จึงต้องเลือกระหว่างความเป็นอิสระในการบริหารบ้านตนเองกับความแน่นอนจากการได้ไปอยู่บ้านใหญ่ ซึ่งอาจตัดสินใจยาก แต่ก็ต้องติดตามกันต่อไปว่าไทยสร้างไทยจะยืนหยัดเดินหน้าต่อหรือจะมีใครมาจีบไปอยู่พรรคใหญ่พรรคเดิมหรือพรรคอื่นหรือใหม่?

แม้ก่อนหน้าจะยังไม่มีการประกาศอย่างเป็นทางการ แต่มีการคาดกันว่า นายอุตตม น่าจะเข้ามาช่วยดูยุทธศาสตร์เศรษฐกิจ ส่วนนายสนธิรัตน์ ก็น่าจะได้รับบทบาทในการดูยุทธศาสตร์ทางการเมืองให้กับพรรคพลังประชารัฐ ซึ่งเมื่อทั้งสองท่านได้มีการลงหลักปักฐานกับพรรคพลังประชารัฐ ก็น่าจะได้เห็นบทบาทที่ชัดเจนมากขึ้น เพราะทั้งสองท่านนี้ก็ได้ชื่อว่าเป็นหนึ่งในมือดีทางการเมือง ทั้งในการวางรากฐานยุทธศาสตร์พรรค และมีประสบการณ์ตรงในเรื่องของเศรษฐกิจ เพราะอย่าลืมว่าทั้งสองท่านนี้ก็เคยได้ชื่อว่าเป็นหนึ่งในผู้บุกเบิกบัตรสวัสดิการแห่งรัฐในยุคของรัฐบาล คสช. ไปพร้อมๆ กับ ชื่อ โครงการประชารัฐทั้งหลาย

อย่างไรก็ตาม การเข้าร่วมวงพรรคพลังประชารัฐ ของระดับแกนนำพรรคสร้างอนาคตไทย ทั้งนายอุตตม และนายสนธิรัตน์ เป็นการบ่งบอกว่าพรรคพลังประชารัฐนั้นขยับความพร้อมขึ้นไปอีกหนึ่งระดับ เพราะนอกจากพรรคพลังประชารัฐจะสามารถรักษากลุ่มก๊วน สส. รวมถึงบ้านใหญ่ในพื้นที่ต่างๆ ไว้ในสังกัดพรรคได้แล้ว ในระยะหลังพรรคพลังประชารัฐยังได้กองหนุนเพิ่มเติมอีกจำนวนไม่น้อย ทั้งนายสกลธีอดีตผู้สมัครรับเลือกตั้งผู้ว่าฯ กรุงเทพฯ และอดีตผู้ว่าฯกรุงเทพฯ รวมถึงสัญญาณเกี่ยวกับร้อยเอกธรรมนัสที่เริ่มชัดเจนและแรงมากขึ้นเรื่อยๆ ว่าอาจหวนกลับคืนพรรคพลังประชารัฐในไม่ช้าหรือไม่?

ยังไม่นับรวมถึงอดีตหัวเรือพรรคเศรษฐกิจไทยและอดีตหัวหน้าพรรครวมแผ่นดิน อย่างพลเอกวิชญ์ ที่ในเวลานี้เข้ามารับบทบาทในฐานะที่ปรึกษาหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐซึ่งแม้ว่าเจ้าตัวจะไม่ขอรับตำแหน่งกรรมการบริหารพรรค รวมถึงอาจไม่ลง สส. บัญชีรายชื่อก็ตาม แต่เชื่อว่าเมื่อพรรคพลังประชารัฐได้ขุนพลมือดีอย่างพลเอกวิชญ์ เข้าร่วมสังกัดพรรค ก็น่าจะเป็นผลดีไม่น้อยในดีลการเจรจาระหว่างพรรคพลังประชารัฐและพรรคอื่นๆ

เมื่อลองกางรายชื่อขุนพลในค่ายพรรคพลังประชารัฐดูก็พบว่าขุนพลแต่ละท่านก็ล้วนแล้วแต่มีประสบการณ์บนเวทีการเมืองไม่น้อย และแต่ละท่านก็มีความถนัดที่แตกต่างกันออกไป ซึ่งในความเก่งกาจที่หลากหลายก็น่าจะเป็นผลดีต่อการดำเนินงานภายในไม่น้อย พร้อมทั้งเป็นการตอกย้ำว่า พรรคพลังประชารัฐเอาจริงในการที่จะปั้นพลเอกประวิตรให้เป็นนายกรัฐมนตรีคนที่ 30 ของประเทศไทย

และเอาเข้าจริงในระยะหลังมานี้พลเอกประวิตรเองก็ดูเริ่มที่จะ มีการปรับตัวที่สอดรับกับบทบาทในฐานะนักการเมืองมากขึ้นหรือไม่? อาจเพราะก่อนหน้านี้คนส่วนใหญ่ต่างก็มองว่าพลเอกประวิตร เป็นหนึ่งในผู้ใหญ่ที่เข้าถึงยากและเป็นผู้อยู่เบื้องหลังพลเอกประยุทธ์เท่านั้น แต่เมื่อสถานการณ์พาไป หลังจากนี้จะได้เห็น พลเอกประวิตรลงพื้นที่ต่างๆ ร่วมลงพื้นที่ที่อย่างเป็นทางการกับพรรคพลังประชารัฐที่บ่อยขึ้นเพื่อพบปะกับประชาชนบ่อยขึ้น

ไม่กี่วันที่ผ่านมาก็พบว่าพลเอกประวิตรได้มีการลงพื้นที่ในวันหยุด ณ ตลาด อ.ต.ก. แม้จะเป็นการลงพื้นที่แบบส่วนตัวแต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าผลจากการลงพื้นที่นั้น ย่อมส่งผลถึงภาพลักษณ์และคะแนนเสียงของพลเอกประวิตร โดยเฉพาะเมื่อพลเอกประวิตรมีการปรับท่าทีที่ดูจะลดความเป็นทหารลงมาไม่น้อย และแทนที่ด้วยความเป็นกันเองซึ่งนอกจากได้ความรู้สึกแปลกใหม่ก็น่าจะได้ใจประชาชนในจำนวนที่ไม่น้อยที่ได้พบเห็นด้วย?

แม้จะไม่มีพลเอกประยุทธ์เป็นแม่เหล็กแรงสูงที่ใช้ในการเรียกคะแนนจากประชาชน แต่อย่างไรก็ตามความเคลื่อนไหวของพรรคพลังประชารัฐที่เป็นในทิศทางเชิงบวกมากขึ้น ประกอบกับท่าทีของแม่ทัพที่เปลี่ยนแปลงไปและเอาจริงยิ่งเพิ่มความเป็นไปได้ที่พรรคพลังประชารัฐ อาจกวาดคะแนนเสียงได้มากกว่าที่หลายสำนักคาดคะเนกันไว้หรือไม่? และหากเป็นเช่นนั้นก็จะยิ่งเพิ่มโอกาสที่พรรคพลังประชารัฐ อาจได้เป็นหนึ่งในพรรคร่วมรัฐบาลอีกสมัยก็เป็นได้หรือไม่?

ว่ากันตามตรงแม้พรรคพลังประชารัฐและพรรครวมไทยสร้างชาติ จะต้องลงแข่งขัน ฟาดฟันกันในศึกเลือกตั้งที่กำลังจะเกิดขึ้นในฐานะคู่แข่งทางการเมือง อีกทั้งในระยะหลังกระแสข่าวระหว่างพลเอกประวิตรและพลเอกประยุทธ์เอง ก็ดูจะไม่ใช่ความสัมพันธ์ในเชิงบวกมากนัก แต่แม้ว่าความสนิทสนมของทั้งสองท่านจะลดลงเพียงใด แต่เมื่อหลังจากกระบวนการเลือกตั้งเสร็จสิ้น หลายฝ่ายก็ยังเชื่อว่าทั้งสองท่านจะยังสามารถจับมือและร่วมงานกันได้อย่างไม่มีปัญหา

แต่ก็ต้องขึ้นอยู่กับพรรครวมไทยสร้างชาติด้วยหรือไม่ว่า จะเรียกคะแนนเสียงจากประชาชนมาได้มากน้อยเพียงใด เพราะไม่ว่าพรรครวมไทยสร้างชาติ และพรรคพลังประชารัฐ ก็ยังถูกมองว่าเป็นพรรคอนุรักษ์นิยม ซึ่งน่าจะมีฐานเสียงกลุ่มที่ใกล้เคียงกัน?

จากการที่พรรคพลังประชารัฐเปิดตัวเพลงใหม่ก้าวข้ามความขัดแย้ง ในงานประชุมใหญ่พรรค ซึ่งเมื่อดูผิวเผินก็เปรียบเสมือนการนำพาประเทศก้าวผ่านความขัดแย้งทางความคิด เพื่อที่จะนำพาประเทศก้าวไปสู่ข้างหน้า แต่อีกนัยหนึ่งก็เป็นการปลดล็อก เพื่อเปิดกว้างสำหรับโอกาสในการจับมือกับพันธมิตรต่างขั้วหรือไม่? อย่างในรายของพรรคเพื่อไทยที่ในระยะหลังก็มีกระแสมาพัวพันกับพรรคพลังประชารัฐยุคพลเอกประวิตรมาโดยตลอด

ซึ่งในงานระดมทุนของพรรคพลังประชารัฐ เมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมา พลเอกประวิตรก็ได้มีการกล่าวยืนยันกับทุกคนภายในงานว่า พรรคพลังประชารัฐพร้อมจะสานสัมพันธ์กับทุกฝ่าย พร้อมทั้งเปิดโอกาสให้ทุกฝ่ายนั้นหาทางออกร่วมกัน เพื่อนำพาประเทศก้าวผ่านความขัดแย้ง ซึ่งก็คงเป็นที่ชัดเจนในระดับหนึ่งแล้วหรือไม่ว่า พรรคพลังประชารัฐภายใต้การนำของพลเอกประวิตรไม่ได้ปิดโอกาสที่จะร่วมงานกับใครก็ตาม?

อย่างไรก็ตาม ในเรื่องนี้ก็อาจต้องขึ้นอยู่กับผลงานของพรรคเพื่อไทยด้วย ว่าจะสามารถไปถึงแลนด์สไลด์ตามที่วาดฝันเอาไว้ได้หรือไม่? เพราะในตอนนี้พรรคเพื่อไทยเองก็โดนเขย่าจากอดีตคนคุ้นเคยไม่ใช่น้อย ถึงขั้นออกมากล่าวพาดพิงอดีตพ่อใหญ่บ้านสีแดง ด้วยถ้อยคำที่รุนแรง และการเคลื่อนไหวดังกล่าวก็อาจจะเป็นอุปสรรคต่อเป้าหมายแลนด์สไลด์ของพรรคเพื่อไทยให้ไม่ง่ายอย่างที่คิด และหากพลาดพลั้งหรือเสีย คนที่ได้ประโยชน์อาจกลายเป็นพรรคร่วมชายคาฝ่ายค้านอย่างพรรคก้าวไกลแทน

แม้พลเอกประวิตรจะออกตัวช้ากว่าพลเอกประยุทธ์ แต่ถึงกระนั้นการเดินหมากของพลเอกประวิตรในแต่ละตา ก็ดูเหมือนจะสร้างแรงสั่นสะเทือนทางการเมืองไม่แพ้พลเอกประยุทธ์ ถึงขึ้นรายชื่อที่ว่าจะไปรวมไทยสร้างชาติถึงกับสะดุดไปไม่น้อยหรือไม่? แต่หนึ่งสิ่งที่ดูเหมือนพลเอกประวิตรจะเป็นต่อพลเอกประยุทธ์ ก็คงจะเป็นการรักษาสถานะของคนกลาง ที่พร้อมจับมือกับทุกฝ่าย แม้สถานะเช่นนี้จะดูไม่ต่างจากพรรคภูมิใจไทย แต่สิ่งที่เพิ่มขึ้นมาคือ บารมีและความมือใหม่ใจถึงของพี่ใหญ่คนนี้?

“บุรุษเพศ หากไม่ยอมรับชะตากรรม สามารถต่อสู้ดิ้นรนชีวิต

ก็นับเป็นชายชาติอันเข้มแข็ง วีรบุรุษที่แท้จริง”

โกวเล้ง จาก จับอิดนึ้ง

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

  •  
  • Breaking News
  • ข่าวยอดนิยม
  • คอลัมน์ฮิต
13:42 น. ‘ทักษิณ’เตรียมทอดผ้าป่า‘วัดบ้านไร่’ 19 ก.ค. สร้าง‘หลวงพ่อคูณ’องค์ใหญ่ที่สุดในโลก
13:22 น. ‘อนุสรณ์’แนะ‘ภราดร’ตรวจสอบคนในก่อนโวยวายคนนอกปมคุมเสียงไม่ได้
13:14 น. รัฐบาลเปิดระบบ‘มอก.วอทช์’ ดึง AI ล่าล้างบางของเถื่อน ผ่านทางออนไลน์ 24 ชม.
13:08 น. 'ตะไลชนโคม' สีสันกีฬาพื้นบ้าน-สร้างความสนุกสนาน'งานบุญวันเข้าพรรษา'
12:24 น. ฝนตกหนักถนนลื่น! เก๋งเสียหลักตกถนนสายน่าน-ร้องกวางบาดเจ็บ
ดูทั้งหมด
โปรดเกล้าฯ 'พล.อ.' พ้นจากการปฏิบัติหน้าที่ นายทหารราชองครักษ์พิเศษ
พอที'เพื่อไทย'!! อดีตเด็ก พท.หอบผ้าซบพรรคลุงป้อมพรึ่บ อีสานมาเพียบ! (คลิป)
'หมอวรงค์'บอกหนาวเลย! หลังฟังการไต่สวนคดี'ทักษิณ'ชั้น 14 รพ.ตร. ครั้งที่ 3
ศาลรัฐธรรมนูญ มีมติ 8 ต่อ 1 หญิงหย่าสามีต้องกลับไปใช้นามสกุลเดิม
'ดุ๊ก ภาณุเดช'วอนหยุดบุกรุกบ้านส่วนตัวที่เขาใหญ่ สุดทนคนแห่ถ่ายรูป-เดินชิลเหมือนอยู่คาเฟ่
ดูทั้งหมด
จีนยกระดับปราบ Cyber Scam ฉ้อโกงออนไลน์ให้เป็นวาระแห่งชาติ
ฝนตก-น้ำท่วม-ก่อสร้าง พึงระมัดระวังไฟดูด-ไฟรั่ว
ฮุนเซน-ทักษิณ (แพทองธาร) มิตรหรือศัตรู
บุคคลแนวหน้า วันที่ 12 ก.ค. 2568
ทักษิณยังคงคุยโวเหมือนเดิม
ดูทั้งหมด

เรื่องอื่นๆ ที่น่าสนใจ

‘ทักษิณ’เตรียมทอดผ้าป่า‘วัดบ้านไร่’ 19 ก.ค. สร้าง‘หลวงพ่อคูณ’องค์ใหญ่ที่สุดในโลก

‘พัทลุง’สลด! พบศพผัวเมียรับซื้อน้ำยาง ถูกยิงดับคู่ในบ้าน ตร.คาดทะเลาะกัน

‘ทนายวันชัย’มองเรื่อง‘สีกากอล์ฟ’ เปรียบฆาตกามต่อเนื่อง กระชากหน้ากาก‘คนห่มเหลือง’

ยิปซีพยากรณ์ดวงรายวัน ประจำวันเสาร์ที่ 12 ก.ค.68

สุดทน!‘สุทิน’จี้ผู้รักษากฎหมายต้องขยับ ปล่อยให้‘สทร.’ย่ำยีประเทศไม่ได้อีกแล้ว

‘นักเขียนซีไรต์’ฟาดนักการเมืองขี้ขลาด มุ่งแก้ ม.112 นิรโทษกรรมตัวเอง

  • Breaking News
  • ‘ทักษิณ’เตรียมทอดผ้าป่า‘วัดบ้านไร่’ 19 ก.ค. สร้าง‘หลวงพ่อคูณ’องค์ใหญ่ที่สุดในโลก ‘ทักษิณ’เตรียมทอดผ้าป่า‘วัดบ้านไร่’ 19 ก.ค. สร้าง‘หลวงพ่อคูณ’องค์ใหญ่ที่สุดในโลก
  • ‘อนุสรณ์’แนะ‘ภราดร’ตรวจสอบคนในก่อนโวยวายคนนอกปมคุมเสียงไม่ได้ ‘อนุสรณ์’แนะ‘ภราดร’ตรวจสอบคนในก่อนโวยวายคนนอกปมคุมเสียงไม่ได้
  • รัฐบาลเปิดระบบ‘มอก.วอทช์’ ดึง AI ล่าล้างบางของเถื่อน ผ่านทางออนไลน์ 24 ชม. รัฐบาลเปิดระบบ‘มอก.วอทช์’ ดึง AI ล่าล้างบางของเถื่อน ผ่านทางออนไลน์ 24 ชม.
  • \'ตะไลชนโคม\' สีสันกีฬาพื้นบ้าน-สร้างความสนุกสนาน\'งานบุญวันเข้าพรรษา\' 'ตะไลชนโคม' สีสันกีฬาพื้นบ้าน-สร้างความสนุกสนาน'งานบุญวันเข้าพรรษา'
  • ฝนตกหนักถนนลื่น! เก๋งเสียหลักตกถนนสายน่าน-ร้องกวางบาดเจ็บ ฝนตกหนักถนนลื่น! เก๋งเสียหลักตกถนนสายน่าน-ร้องกวางบาดเจ็บ
ดูทั้งหมด

คอลัมน์ที่เกี่ยวข้อง

ทิ้งไพ่ ทิ้งทวน

ทิ้งไพ่ ทิ้งทวน

11 พ.ค. 2566

นิ่งๆอาจกินเรียบ

นิ่งๆอาจกินเรียบ

4 พ.ค. 2566

ทางเลือกหรือทางรอด?

ทางเลือกหรือทางรอด?

27 เม.ย. 2566

ยังคาดเดาอะไรไม่ได้

ยังคาดเดาอะไรไม่ได้

20 เม.ย. 2566

เปลี่ยนเพื่อไปต่อ

เปลี่ยนเพื่อไปต่อ

13 เม.ย. 2566

ฉากเดิมๆ

ฉากเดิมๆ

6 เม.ย. 2566

ระฆังเริ่มยก

ระฆังเริ่มยก

30 มี.ค. 2566

ล้างไพ่สลายขั้ว

ล้างไพ่สลายขั้ว

23 มี.ค. 2566

Back to Top

ผู้ดูแลเว็บไซต์ www.naewna.com
webmaster นายปรเมษฐ์ ภู่โต
ดูแลรับผิดชอบข่าว/ภาพ/โฆษณา/ข้อมูลอื่นๆที่เกี่ยวข้องกับเว็บไซต์
กรรมการบริษัทฯ, กรรมการผู้มีอำนาจ ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการนำเสนอข่าว/ภาพ/ข้อมูลใดๆในเว็บไซต์ทั้งสิ้น

Social Media

  • หน้าแรก |
  • เกี่ยวกับแนวหน้า |
  • โฆษณากับเรา |
  • ร่วมงานกับเรา |
  • ติดต่อแนวหน้า |
  • นโยบายข้อตกลง
Copyright © 2025 Naewna.com All right reserved