ในชีวิตของคนเรานั้น การมีสุขภาพที่ดีถือเป็นสิ่งที่มีความสำคัญมากที่สุด และบางครั้งสิ่งที่หลายคนมองว่าสำคัญมากที่สุดในชีวิต คือเงินทองที่มีอยู่ก็ไม่สามารถจะซื้อสุขภาพให้กลับคืนดีเหมือนเช่นเดิมได้ การส่งเสริมสุขภาพและการป้องกันโรคจึงเป็นสิ่งที่มีความสำคัญอย่างยิ่ง ที่ทุกคนควรจะตระหนักและทำให้เป็นเรื่องจริง
เมื่อมีปัญหาสุขภาพเกิดขึ้น คือ มีการเจ็บป่วยหากมีอาการเพียงเล็กน้อย ไม่รุนแรงคนบางส่วนอาจจะยังพยายามรักษาตัวเอง ด้วยการใช้ยาประจำบ้านหรือไปปรึกษาเภสัชกรตามร้านขายยาที่มีอยู่เป็นจำนวนมากทั่วประเทศ ซึ่งปัจจุบันนี้กำหนดให้ในเวลาที่เปิดทำการนั้นจะต้องมีเภสัชกรอยู่ประจำ เพื่อจะจ่ายยาให้กับผู้เจ็บไข้ได้ป่วยที่ไปขอรับการปรึกษาได้ แต่หากการเจ็บป่วยนั้นมีอาการรุนแรงก็คงเรียกไม่พ้นที่จะต้องไปขอรับการรักษาในโรงพยาบาล
ประเทศไทยได้รับการยอมรับว่าเป็นประเทศที่มีระบบบริการสาธารณสุขที่มีความสมบูรณ์ครบถ้วน และการเข้าสู่การรักษาพยาบาลนั้นเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นได้ง่าย โดยประชาชนมีความคาดหวังว่าจะได้รับการดูแลรักษาพยาบาลตามสิทธิ์พื้นฐานที่มีอยู่อย่างดี ด้วยการรักษาที่เป็นมาตรฐาน และคำนึงถึงความปลอดภัยของผู้ป่วยหรือผู้รับบริการเสมอ
ด้วยเหตุนี้จึงทำให้ภาครัฐต้องจัดให้มีองค์กรที่ดูแลเรื่องของมาตรฐานคุณภาพของโรงพยาบาลขึ้นในประเทศไทย การจัดตั้งสถาบันรับรองคุณภาพสถานพยาบาลจึงเกิดขึ้นโดยเป็นผลเริ่มต้นจากงานวิจัยของสถาบันวิจัยระบบสาธารณสุข (สวรส.) อันนำมาซึ่งการจัดตั้งหน่วยงานในกำกับของสวรส.ที่มีชื่อว่าสถาบันพัฒนาและรับรองคุณภาพโรงพยาบาล (พรพ.) เมื่อปี 2542 โดยดำรงสถานะดังกล่าวเป็นระยะเวลา 10 ปี จนกระทั่งในปี 2552 จึงมีการปรับหน่วยงานมาเป็น องค์กรมหาชน ภายใต้ชื่อ สถาบันรับรองคุณภาพสถานพยาบาล (สรพ.) ตามพระราชกฤษฎีกาจัดตั้ง พ.ศ. 2552 ซึ่งมีการแก้ไขเพิ่มเติมในปี 2562 โดยให้สรพ. ทำหน้าที่กำหนดมาตรฐานและการรับรองคุณภาพในการให้บริการของสถานพยาบาล เพื่อเป็นหลักประกันให้กับประชาชนได้รับการบริการด้านสาธารณสุขที่มีคุณภาพมาตรฐานและทำหน้าที่ประสานความร่วมมือกับภาคส่วนต่างๆ ที่เกี่ยวข้องเพื่อยกระดับมาตรฐานและคุณภาพในการให้บริการของสถานพยาบาลเพื่อให้ประชาชนได้รับบริการด้านสาธารณสุขที่ดีและมีคุณภาพ
ในขณะนี้ประเทศไทยมีโรงพยาบาลสังกัดกระทรวงสาธารณสุข ระดับตั้งแต่โรงพยาบาลชุมชนขึ้นมาจนถึงโรงพยาบาลระดับศูนย์ โรงพยาบาล
มหาวิทยาลัย และโรงพยาบาลสังกัดภาครัฐอื่นๆ รวมทั้งสิ้นกว่า 1,106 แห่ง และโรงพยาบาลเอกชนจำนวน 421 แห่ง ซึ่งเกือบจะทุกแห่งได้มีกระบวนการพัฒนาคุณภาพ ในหลายรูปแบบ เช่นระบบ ISO ระบบ HA ระบบ TQA ระบบ JCI และอื่นๆ แต่ระบบที่โรงพยาบาลในประเทศไทยใช้ในการพัฒนาและรับรองคุณภาพมากที่สุดคือ HA (Hospital Accreditation) ที่ดำเนินการโดยสรพ.
ในส่วนของการพัฒนาตามแนวทาง HA นั้น โรงพยาบาลภาครัฐที่ผ่านการรับรองขั้นสูงสุดหรือที่เรียกว่าขั้นที่ 3 นั้นมีอยู่เป็นจำนวน 826 โรงหรือประมาณ 74.68 เปอร์เซ็นต์ ส่วนที่เหลือนั้นกำลังพัฒนาในระดันขั้นอื่นๆ ส่วนโรงพยาบาลของภาคเอกชน ผ่านการรับรองขั้นที่ 3 แล้ว 157 โรง ซึ่งน้อยกว่า 40 เปอร์เซ็นต์ โดยบางส่วนจะพัฒนาในระบบอื่น
โรงพยาบาลที่จะพัฒนาคุณภาพ HA นั้น ต้องดำเนินการพัฒนาตามลำดับขั้น โดยเริ่มตั้งแต่ขั้นที่ 1 ไปสู่ขั้นที่ 2 และขั้นที่ 3 โดยบันไดขั้นที่ 1 เป็นพื้นฐานของการพัฒนา เริ่มต้นจากการสำรวจตัวเอง และป้องกันความเสี่ยงที่อาจจะเกิดขึ้น มีการทบทวนปัญหาเพื่อแก้ไข ป้องกันและปฏิบัติตามแนวทางป้องกัน ให้ครอบคลุมทุกเรื่องที่เคยเกิดขึ้น ในบันไดขั้นที่ 2 นั้นโรงพยาบาลจะต้องมีการประกันและพัฒนาคุณภาพ มีการวิเคราะห์เป้าหมายกระบวนการ มีการพัฒนาคุณภาพที่สอดคล้องกับเป้าหมาย ครอบคลุมกระบวนการสำคัญทั้งหมด ส่วนขั้นที่ 3 ซึ่งเป็นขั้นสูงสุดนั้นโรงพยาบาลจะต้องมีวัฒนธรรมคุณภาพ โดยมีการประเมินตนเอง ตามมาตรฐาน HA มีการพัฒนาอย่างเชื่อมโยงและต่อเนื่อง เป็นองค์กรแห่งการเรียนรู้ มีผลลัพธ์ในดำเนินการที่ดีขึ้นและปฏิบัติตามมาตรฐานได้ครบถ้วน
มาตรฐานคุณภาพ ที่ถูกนำมาใช้เป็นเกณฑ์ในการรับรองโรงพยาบาล ในขั้นที่ 3 นั้นประกอบไปด้วย เรื่องสำคัญต่างๆ ดังนี้
1.ภาพรวมของการบริหารองค์กร ประกอบไปด้วย การนำคือการที่ผู้นำระดับสูงชี้นำและทำให้องค์กรประสบความสำเร็จผ่านการกำหนดวิสัยทัศน์ พันธกิจ ค่านิยม มีการสื่อสารที่ได้ผล และการสร้างสิ่งแวดล้อมเพื่อความสำเร็จ มีการกำกับดูแลองค์กรและทำประโยชน์ให้สังคม มีการจัดทำกลยุทธ์เพื่อนำไปสู่ความสำเร็จ การจัดการด้านสารสนเทศรับทราบความต้องการของผู้ป่วย การรักษาสิทธิผู้ป่วย มีการวัดวิเคราะห์ตลอดจนการจัดการด้านบุคลากรอย่างเหมาะสม ทั้งเรื่องปริมาณงาน สุขภาพ ความปลอดภัยเพื่อสร้างความผูกพัน มีรูปแบบและกระบวนการจัดการบริการสุขภาพที่ดี
2.ระบบงานสำคัญของโรงพยาบาล ได้แก่การบริหารงานคุณภาพ ระบบบริหารความเสี่ยงและความปลอดภัย การกำกับดูแลด้านวิชาชีพ สิ่งแวดล้อมในการดูแลผู้ป่วย เครื่องมือและระบบสาธารณูปโภค การป้องกันและควบคุมการติดเชื้อ ระบบเวชระเบียน ระบบการจัดการด้านยา การตรวจทดสอบเพื่อการวินิจฉัยโรค การเฝ้าระวังโรคและภัยสุขภาพ และการทำงานกับชุมชน
3.กระบวนการดูแลผู้ป่วย ซึ่งประกอบไปด้วยการเข้าถึงและเข้ารับบริการ การประเมินผู้ป่วย การวางแผนเพื่อการรักษา และจำหน่าย การดูแลผู้ป่วยที่ครอบคลุมทั้งผู้ป่วยทั่วไป การให้บริการที่มีความเสี่ยงสูงและการดูแลเฉพาะด้าน การให้ข้อมูลและการเสริมพลังแก่ผู้ป่วยและครอบครัว และท้ายที่สุดคือ การดูแลต่อเนื่อง
4.ผลลัพธ์ องค์กรต้องแสดงให้เห็นผลการดำเนินงานที่ดีและมีการปรับปรุงในประเด็นสำคัญได้แก่ ผลลัพธ์ด้านการดูแลสุขภาพและทางคลินิก การสร้างเสริมสุขภาพ การมุ่งเน้นผู้ป่วยและผู้รับผลงาน ผลด้านบุคลากร ผลด้านการนำและการกำกับดูแลด้านประสิทธิผลของกระบวนการ และผลด้านการเงิน
ซึ่งในทุกประเด็นที่กล่าวมานั้นมีมาตรฐานที่กำหนดไว้อย่างชัดเจนรวมทั้งแนวทางปฏิบัติเพื่อให้เป็นไปตามมาตรฐาน ซึ่งสามารถจะติดตามตรวจสอบได้ จากตัวชี้วัดที่ได้ถูกกำหนดไว้ และได้แสดงให้เห็นถึงการนำผลของตัวชี้วัด มาใช้ในการดำเนินการให้เกิดการพัฒนาคุณภาพอย่างต่อเนื่อง
จะเห็นว่าการที่โรงพยาบาลไม่ว่าจะอยู่ในสังกัดใด จะได้รับการยอมรับว่าเป็นโรงพยาบาลคุณภาพนั้นจะต้องมีการดำเนินการพัฒนาในทุกเรื่องที่เกี่ยวข้องกับการบริหารจัดการโรงพยาบาลในทุกภาคส่วนให้เป็นไปตามมาตรฐานที่ถูกกำหนดไว้ ก่อนที่จะเข้าสู่กระบวนการเพื่อขอรับรองคุณภาพของโรงพยาบาล โดยจะต้องมีการจัดทำเอกสารต่างๆ ให้ครบถ้วนตามที่กำหนดไว้ และหลังจากที่สรพ.ได้ตรวจสอบเอกสารโดยนักวิชาการที่เกี่ยวข้องว่ามีการดำเนินการครบถ้วนตามมาตรฐานที่กำหนดไว้แล้ว ก็จะมีการนัดหมายเพื่อให้ผู้เยี่ยมสำรวจเพื่อการรับรองคุณภาพโรงพยาบาลเข้าเยี่ยมสำรวจการดำเนินการที่เกิดขึ้นและผลลัพธ์ทั้งหมดว่าผ่านเกณฑ์ของการรับรองได้หรือไม่ โดยจะสรุปผลการสำรวจส่งไปยังคณะอนุกรรมการที่ปรึกษากระบวนการรับรองคุณภาพสถานพยาบาล ที่แต่งตั้งโดยคณะกรรมการบริหาร สถาบันรับรองคุณภาพสถานพยาบาล และเมื่อได้รับการพิจารณาว่าผ่านการรับรองได้ ก็จะมีการประกาศผลอย่างเป็นทางการ โดยในทุกๆ ปีจะมีโรงพยาบาลที่ได้รับการรับรองใหม่หรือรับรองต่อเนื่อง เข้ารับประกาศนียบัตรรับรองในการประชุม National Forum ที่จัดโดยสรพ.ซึ่งในปีนี้จัดเป็นการประชุมครั้งที่ 23 และได้กำหนดชื่อของงานไว้ว่า Synergy for Safety and Welll-being หรือแปลเป็นไทยว่า การผนึกกำลังเพื่อความปลอดภัยและสุขภาพที่ดี โดยงานจะมีขึ้นระหว่างวันที่ 14-17 มีนาคม 2566 นี้ที่ศูนย์ประชุมอิมแพค อารีน่า เมืองทองธานี คาดว่าจะมีบุคลากรทางการแพทย์และสาธารณสุขเข้าร่วมประชุมไม่น้อยกว่า 5,000 คน
ขอให้เชื่อมั่นว่า โรงพยาบาลที่ได้รับการรับรองคุณภาพตามมาตรฐาน HA ซึ่งเป็นมาตรฐานที่ได้รับการยอมรับโดยองค์กรสากลที่มีชื่อว่า Isqua ซึ่งเป็นองค์กรที่เป็นผู้รับรองระบบมาตรฐานคุณภาพของโรงพยาบาลเกือบจะทุกระบบทั่วทั้งโลกนี้ จะเป็นโรงพยาบาลที่ผู้เข้ารับบริการมั่นใจได้ในเรื่องของผลลัพธ์ตามมาตรฐานการรักษา ซึ่งเน้นเรื่องความปลอดภัยของผู้ป่วย และการมีสุขภาพที่ดีเป็นเรื่องที่สำคัญที่สุด
นายแพทย์ปิยะ เนตรวิเชียร
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี