วันอังคาร ที่ 13 พฤษภาคม พ.ศ. 2568
แนวหน้า
  • แนวหน้า
  • หน้าแรก
  • คอลัมน์
    • คอลัมน์วันนี้
    • คอลัมน์ออนไลน์
    • คอลัมน์การเมือง
    • คอลัมน์ลงมือสู้โกง
    • โลกธุรกิจ
    • ผู้หญิง
    • บันเทิง
    • Like สาระ
    • ดูทั้งหมด
  • ข่าวเด่น
  • พระราชสำนัก
  • การเมือง
  • โลกธุรกิจ
  • อาชญากรรม
  • กทม.
  • ในประเทศ
  • เกษตร
  • ต่างประเทศ
  • กีฬา
  • ผู้หญิง
  • บันเทิง
  • ยานยนต์
  • Like สาระ
หน้าแรก / คอลัมน์ / คอลัมน์ /

วันจันทร์ ที่ 20 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2566, 02.00 น.
โควิด-19 กำลังจะจากไป แต่หน้ากากอนามัยและวัคซีนยังมีประโยชน์อยู่

ดูทั้งหมด

  •  

ก็ค่อนข้างจะชัดเจนแล้วนะครับว่าโรคโควิด-19 ซึ่งขณะนี้กระทรวงสาธารณสุขยังถือว่าเป็นโรคระบาดที่ต้องเฝ้าระวัง จะกลายเป็นโรคประจำถิ่นอย่างแน่นอน เพราะจากข้อมูลรายงานที่มีอยู่ในขณะนี้พบว่าจำนวนผู้ป่วยใหม่ในรอบสัปดาห์ก่อนตั้งแต่วันที่ 5-11 กุมภาพันธ์นั้น มีผู้ป่วยเพียง 392 ราย ที่ต้องเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาล และมีผู้เสียชีวิตตลอดทั้งสัปดาห์ทั่วทั้งประเทศเพียง 12 รายเท่านั้น เป็นตัวเลขที่ไม่น่าจะก่อให้เกิดความวิตกกังวลอีกต่อไปแล้ว และยังเป็นการยืนยันว่าการเปิดประเทศให้นักท่องเที่ยวจากทุกประเทศเดินทางเข้ามาได้รวมทั้งจากประเทศสาธารณรัฐประชาชนจีน ที่มีข่าวก่อนหน้านี้ว่าโรคยังมีการระบาดหนักอยู่ ซึ่งเป็นความวิตกเป็นอย่างมากนั้น  ก็ไม่ได้ก่อให้เกิดปัญหาการมีผู้ติดเชื้อและมีอาการที่ต้องเข้ารับการรักษาเพิ่มเติมในโรงพยาบาลมากขึ้นแต่อย่างใดทั้งสิ้น

สภาพเศรษฐกิจของประเทศในขณะนี้กำลังกระเตื้องขึ้นตามลำดับ รายได้จากการท่องเที่ยวซึ่งเป็นรายได้สำคัญของประเทศส่วนหนึ่งกำลังทยอยกลับมา  และคาดว่าหากมีนักท่องเที่ยวเข้ามาในประเทศทั้งปีซึ่งขณะนี้ประมาณการไว้ว่าจะมีไม่น้อยกว่า 28 ล้านรายนั้น หากเหตุการณ์ในประเทศทุกอย่างเป็นปกติ ก็อาจจะมีจำนวนเกินกว่า 30 ล้านคนอย่างแน่นอน ซึ่งจะเป็นส่วนส่งเสริมของรายได้หลักจากสินค้าส่งออกและอื่นๆ ทำให้เศรษฐกิจของประเทศในปีนี้ดีขึ้นอย่างแน่นอน


การเปิดประชุมสภาเพื่อการอภิปรายไม่ไว้วางใจคณะรัฐมนตรีโดยไม่มีการลงมติระหว่างวันที่ 15-16 มีนาคมก็ได้ผ่านไปเรียบร้อยแล้ว และก็ไม่ได้ทำให้เกิดผลกระทบที่จะทำให้มีการยุบสภาเร็วขึ้นแต่อย่างใด ประเด็นที่พรรคการเมืองฝ่ายค้านนำมาอภิปรายกล่าวหาคณะรัฐมนตรีโดยเน้นเป้าไปที่นายกรัฐมนตรีพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา ก็เป็นประเด็นเดิมๆ เกือบทั้งสิ้น ยกเว้นเรื่องกลุ่มจีนสีเทา ที่เข้ามาหาผลประโยชน์ซึ่งอาจจะไม่ถูกต้องตามกฎหมายเท่านั้น แต่ประเด็นทั้งหลายก็ได้รับการชี้แจงด้วยเหตุและผลไปทั้งหมดแล้ว จึงคาดหวังว่าการยุบสภานั้นถ้าจะเกิดขึ้นก็คงจะใกล้เคียงกับเวลาที่ครบวาระของคณะรัฐบาลชุดนี้อย่างแน่นอนจึงคาดได้ว่าการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรชุดใหม่จะเกิดขึ้นในเดือนพฤษภาคมที่จะถึงนี้ ก็คงต้องติดตามดูกันต่อไปว่าพรรคการเมืองพรรคใดจะได้คะแนนเสียงจากประชาชนมากน้อยเท่าไหร่ ซึ่งเชื่อได้ว่าจะไม่มีพรรคไหนได้คะแนนเสียงมากเพียงพอที่จะจัดตั้งรัฐบาลพรรคเดียวได้  โดยคาดกันว่าคณะรัฐบาลชุดหน้าจะมีพรรคที่จะทำงานร่วมกันไม่ต่ำกว่า 3 พรรค รวมทั้งอาจจะเห็นภาพที่พรรคที่เคยเป็นฝ่ายรัฐบาลและพรรคที่เคยเป็นฝ่ายค้าน มาร่วมทำงานด้วยกันก็เป็นได้

ย้อนกลับมาในเรื่องของโรคภัยไข้เจ็บ ก็ค่อนข้างจะแน่นอนว่าโรคโควิด-19 คงจะจบลงในระยะเวลาไม่นานนัก กลายเป็นโรคที่ไม่มีการระบาดรุนแรงอีกต่อไป และหากมีผู้ใดติดเชื้อก็จะไม่มีอาการที่รุนแรงจนน่าวิตก ยกเว้นในกลุ่มเสี่ยงจริงๆ ซึ่งยังอยู่ในกลุ่ม 608 โดยเฉพาะผู้ที่ไม่ได้ฉีดวัคซีน หรือฉีดไม่ครบ 3 โดสเป็นอย่างน้อย ซึ่งยังมีอยู่เป็นจำนวนหนึ่ง

ตัวเลขจากกรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุขในขณะนี้  พบว่าประชาชนชาวไทยได้รับการฉีดวัคซีนครบโดสไปแล้ว ประมาณ 80% ซึ่งถือว่าเป็นตัวเลขที่สูงมากและพอเพียงต่อการทำให้เกิดลักษณะของภูมิต้านทานหมู่ ซึ่งจะทำให้เชื้อไวรัสโคโรนา 2019 สายพันธุ์โอมิครอน ซึ่งยังเป็นเชื้อหลักที่ทำให้เกิดโรคอยู่บ้างในขณะนี้อ่อนแอลงไปเรื่อยๆ  ซึ่งย่อมเป็นเรื่องที่ดีอย่างแน่นอน

อย่างไรก็ตาม ในส่วนของกระทรวงสาธารณสุข  โดยกรมควบคุมโรค และสำนักอนามัยของกรุงเทพฯ ก็ยังมีการรณรงค์ให้ประชาชนโดยเฉพาะผู้ที่เป็นผู้อยู่ในกลุ่มเสี่ยง 608 ที่มีโรคประจำตัว อันได้แก่ผู้ที่อายุเกินกว่า 60 ปี และ/หรือ ผู้ที่เป็นโรคทางเดินหายใจเรื้อรัง โรคเบาหวาน โรคไตวายเรื้อรัง โรคหัวใจและหลอดเลือด โรคหลอดเลือดสมอง โรคมะเร็งและโรคอ้วน ที่ยังไม่ได้รับการฉีดวัคซีนเลย ควรจะต้องเข้ารับการฉีดวัคซีนให้ครบตามจำนวนมาตรฐานคือไม่น้อยกว่า 3 เข็ม เพื่อลดความเสี่ยงต่อการติดเชื้อและมีอาการรุนแรง ซึ่งวัคซีนที่ใช้อยู่ในปัจจุบันคือวัคซีนชนิดเอ็มอาร์เอ็นเอและอาจจะมีวัคซีนชนิดโปรตีนเบสเข้ามาร่วมด้วยนั้น และหลังจากฉีดครบแล้วควรจะมีการฉีดซ้ำทุก 6 เดือนส่วนในผู้ที่มีสุขภาพดีและฉีดวัคซีนครบ 3 เข็มแล้วการฉีดเข็มต่อต่อไปทุก 6 เดือนก็ยังเป็นข้อแนะนำอยู่ เพราะจะทำให้ภูมิต้านทานของโรคนี้ยังคงมีอยู่ในระดับสูงพอเพียงต่อการที่จะป้องกันไม่ให้เกิดอาการรุนแรงเมื่อมีการติดเชื้อได้

เมื่อปลายสัปดาห์ที่ผ่านมา ท่านอธิบดีกรมควบคุมโรคได้มีการแจ้งข่าวว่าประเทศไทยจะได้รับวัคซีนบริจาคจากประเทศเกาหลีซึ่งเป็นตัวแทนผู้ผลิตวัคซีนชนิดเอ็มอาร์เอ็นเอของไฟเซอร์ เป็นวัคซีนสำหรับต่อต้านเชื้อ 2 สายพันธุ์ (Bivalent) คือทั้งสายพันธุ์ดั้งเดิมอู่ฮั่นและสายพันธุ์โอมิครอน เป็นจำนวน 5 แสน โดส และยังจะได้รับวัคซีนบริจาคชนิดไบวาเลนต์ของโมเดอร์นาจากประเทฝฝรั่งเศส อีกจำนวน 1 ล้านโดส โดยวัคซีนทั้ง 2 ลอตดังกล่าวจะนำมาฉีดให้กับกลุ่ม 608 เป็นหลัก ซึ่งคาดว่าจะเริ่มฉีดได้ในต้นเดือนมีนาคมที่จะถึงนี้ และวัคซีนชนิดเอ็มอาร์เอ็นเอของไฟเซอร์ที่รัฐบาลได้สั่งซื้อเข้ามานั้นยังมีจำนวนพอเพียงต่อการที่จะฉีดเป็น Booster ให้กับประชาชนที่ต้องการเข้ารับการฉีดจนถึงปี 2567

นอกจากนี้กระทรวงสาธารณสุขยังได้มีการนำภูมิคุ้มกันสำเร็จรูป ที่เรียกกันย่อๆว่า LAAB มาฉีดให้กับประชาชนกลุ่มเฉพาะ เช่น ผู้ที่มีประวัติแพ้วัคซีนชนิดต่างๆ ผู้ที่เป็นโรคไตเรื้อรังที่อยู่ระหว่างการล้างไต ผู้ที่มีภูมิคุ้มกันต่ำเช่น ผู้ที่เป็นโรค HIV ผู้ที่ได้รับการปลูกถ่ายอวัยวะหรือไขกระดูกที่ได้รับยากดภูมิอยู่ ผู้ป่วยโรคมะเร็งระหว่างการรักษา ซึ่งนับว่าเป็นประโยชน์อย่างยิ่ง และทำให้เห็นว่ากระทรวงสาธารณสุขยังคงเป็นกระทรวงที่สำคัญ และเป็นหลักในการดูแลสุขภาพของประชาชนชาวไทยด้วยความห่วงใยเป็นอย่างยิ่ง

การเข้าถึงเพื่อรับการฉีดวัคซีนโควิด-19 ในขณะนี้นั้น  ในส่วนของกรุงเทพฯ สำนักอนามัยของกรุงเทพมหานคร ได้มีการจัดฉีดวัคซีนตามศูนย์บริการสาธารณสุขต่างๆ  รวมทั้งในโรงพยาบาลทั้งที่สังกัด กระทรวงสาธารณสุขและกรุงเทพมหานคร รวมทั้งโรงพยาบาลเอกชนบางแห่งด้วย ตามที่มีการประกาศเป็นระยะๆ ส่วนในจังหวัดอื่นๆ ทั่วประเทศนั้นสำนักงานสาธารณสุขจังหวัด ซึ่งสังกัดกระทรวงสาธารณสุข  ก็เป็นหน่วยงานสำคัญที่เป็นผู้ประสานจัดการให้มีการฉีดวัคซีนในสถานพยาบาลต่างๆทั่วทั้งจังหวัดอยู่เช่นกัน

ในส่วนของประชาชนทั่วไปที่มีอาการเจ็บป่วย  เช่น ครั่นเนื้อครั่นตัว หรือมีไข้ต่ำๆ ระคายคอ เจ็บในลำคอไอ จาม ปวดศีรษะหรือปวดตามเนื้อตามตัว และคิดว่าอาการน่าจะเข้าได้กับการติดเชื้อไวรัสโรคโควิด-19 นั้น ก็สามารถเข้ารับการตรวจรักษาได้ในโรงพยาบาลตามสิทธิพื้นฐานที่มีอยู่ ไม่ว่าจะเป็นในระบบหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้า ระบบประกันสังคม หรือระบบสวัสดิการรักษาพยาบาลของข้าราชการ ตลอดจนรัฐวิสาหกิจและอื่นๆ ตามที่กำหนดไว้  โดยไม่เสียค่าใช้จ่ายได้เช่นเดิม

ประเทศไทยได้ผ่านวิกฤตของโรคโควิด-19 มาแล้ว ทั้งนี้ ต้องถือว่าเป็นความสำเร็จของคณะรัฐบาลที่มีพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นนายกรัฐมนตรี ในเรื่องของการจัดตั้งหน่วยงานเฉพาะที่มีชื่อว่า ศบค. เป็นผู้รับผิดชอบวางแผนบริหารจัดการดำเนินการ  ทั้งในเรื่องของการป้องกันและการรักษาอย่างดียิ่ง จนประเทศไทยได้รับคำชมจากองค์การอนามัยโลกในเรื่องของประสิทธิภาพและประสิทธิผลของการจัดการ  แน่นอนต้องขอขอบคุณผู้บริหารของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องหลักทั้งหลาย คือกระทรวงสาธารณสุข สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติสำนักงานประกันสังคม กรมบัญชีกลาง กระทรวงการคลัง ตลอดจนคณาจารย์และนักวิชาการจากคณะแพทยศาสตร์หลายแห่ง ที่ได้ช่วยกันในทุกด้านรวมทั้งการให้ความรู้ในเรื่องโรคนี้

ที่สำคัญยิ่งคือการที่ทำให้ประชาชนทุกคนเห็นความสำคัญของการป้องกันตัวเองจากการติดเชื้อโรคระบาดซึ่งถ่ายทอดผ่านทางระบบทางเดินหายใจด้วยการสวมหน้ากากอนามัย ซึ่งถึงแม้ว่าโรคโควิด-19 กำลังจะผ่านพ้นไปแล้ว แต่ประชาชนส่วนใหญ่ในหลายพื้นที่ทั่วประเทศก็ยังคงใส่หน้ากากอนามัยเมื่อออกจากบ้าน ซึ่งถือเป็นเรื่องที่ดี  และหากสามารถจะปฏิบัติต่อไปได้จนเป็นนิสัยโดยเฉพาะหากผู้นั้นป่วยเป็นโรคที่เกี่ยวกับระบบทางเดินลมหายใจทุกชนิด ก็จะเป็นการป้องกันไม่ให้มีการแพร่กระจายของเชื้อโรคไปยังผู้อื่น  ซึ่งนับว่าเป็นสิ่งที่เป็นประโยชน์อย่างยิ่ง และสำหรับประชาชนทั่วไปการที่ต้องออกไปอยู่ในสถานที่ที่มีคนจำนวนมาก  การสวมหน้ากากอนามัยอาจจะช่วยป้องกันตัวเองไม่ให้รับเชื้อที่เกิดขึ้นในระบบทางเดินหายใจของผู้อื่นเข้ามาสู่ตัวเองได้เช่นกัน

ความรักและความสามัคคีของคนในชาติเป็นสิ่งที่สำคัญยิ่งในการที่จะทำให้ประเทศชาติมีความเจริญก้าวหน้าได้  ด้วยความร่วมมือของทุกฝ่ายในทุกกิจกรรมที่จะนำไปสู่ความเจริญดังกล่าว โดยคำนึงถึงประโยชน์ส่วนรวมเป็นหลัก รวมทั้งความเอื้ออาทร การดูแลซึ่งกันและกันด้วยความเมตตา กรุณา โอบอ้อมอารี ย่อมทำให้ประเทศไทยที่เป็นแผ่นดินเกิดและเป็นที่รักของเรานี้ เป็นประเทศที่น่าอยู่อาศัยอย่างที่สุด

นายแพทย์ปิยะ เนตรวิเชียร

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

  •  
  • Breaking News
  • ข่าวยอดนิยม
  • คอลัมน์ฮิต
14:13 น. 'ชัชชาติ' นำทีมทำบุญอุทิศส่วนบุญส่วนกุศล วางดอกไม้ยืนไว้อาลัยผู้เสียชีวิตที่ตึกสตง.
14:11 น. (คลิป) 'อนุทิน' โพสขอบคุณ 'พีระพันธุ์' คุยเพลินจนพยาบาลจับแยก
14:07 น. ‘สุราชุมชน’เฮ! ‘ครม.’ปลดล็อกกฎหมาย เคาะ‘เบียร์สด’ใส่ถัง Keg ขายได้ทั่วประเทศ
14:05 น. 'สรวงศ์'โดดป้อง'สส.ฟลุ๊ค' บอกอาจอัดอั้นหลังครอบครัว'หลีนวรัตน์'ถูกกระแสโถมใส่
14:04 น. กทม.แถลงปิดศูนย์บัญชาการเหตุการณ์จตุจักร สิ้นสุด 4 โมงเย็นวันพรุ่งนี้ ขอบคุณทุกหน่วยงานร่วมมือช่วย
ดูทั้งหมด
ชั้น 14 ส่อวุ่นอีก!!! 'รพ.ราชทัณฑ์'เล็งฟ้องศาลเพิกถอนมติ'แพทยสภา'
'ภูมิใจไทย' แตกหัก 'เพื่อไทย' คดีฮั้ว สว.เป็นเหตุ ส่อคว่ำร่าง พ.ร.บ.งบฯ 69 - ยุบสภา
หยามเกียรติธงชาติไทย! ทนายแจ้งเอาผิด โพสต์เฟสบุ๊คดูหมิ่น'ธงคือผ้าเช็ดเท้า'
เช็คผลที่นี่!!! 'เลือกตั้งเทศบาล'ส่วนใหญ่แชมป์เก่าคว้าชัย
'El Clásico2025' เมื่อเก้าอี้ดนตรีเริ่มบรรเลง
ดูทั้งหมด
กางเกงยีนส์ลีวายในกองทอง
ศึกป่วยทิพย์ใกล้จบ
เรือของคนโง่
หวงแหนปราสาท ‘ตาเมือนธม” รักชาติ สมเหตุสมผล
‘พรรคส้ม’ไปไม่ถึงดวงดาว
ดูทั้งหมด

เรื่องอื่นๆ ที่น่าสนใจ

‘สุราชุมชน’เฮ! ‘ครม.’ปลดล็อกกฎหมาย เคาะ‘เบียร์สด’ใส่ถัง Keg ขายได้ทั่วประเทศ

ย้ำคำเดิม'ทักษิณ'ป่วยจริง 'อิ๊งค์'แจงปมชั้น 14 เริ่มและจบก่อนเป็นนายกฯ

เปิดเกมรุมกินโต๊ะ! ปูดเบื้องลึก‘สส.กฤษฎิ์’ทิ้ง‘ปชน.’ แฉ‘ส้มตะวันออก’ระส่ำ

(คลิป) FCส้มเดือดพลั่ก!! บุกสภาฯ รุมสาป‘สส.กฤษฎิ์’แถลงแยกทาง‘ปชน.’ซบ'กล้าธรรม'

‘พล.ท.ยอดชัย’ร้อง DSI สอบเงินสมัครสว.ส่อผิดปกติ แย้มมีผู้สมัครส่งซิกวันลงคะแนน

'อิ๊งค์'งงข่าว'ยุบสภาฯ' ยัน'พรรคร่วมฯ'แน่นปึ้ก ลั่น!คุมสถานการณ์ได้ไม่เกินมือ

  • Breaking News
  • \'ชัชชาติ\' นำทีมทำบุญอุทิศส่วนบุญส่วนกุศล วางดอกไม้ยืนไว้อาลัยผู้เสียชีวิตที่ตึกสตง. 'ชัชชาติ' นำทีมทำบุญอุทิศส่วนบุญส่วนกุศล วางดอกไม้ยืนไว้อาลัยผู้เสียชีวิตที่ตึกสตง.
  • (คลิป) \'อนุทิน\' โพสขอบคุณ \'พีระพันธุ์\' คุยเพลินจนพยาบาลจับแยก (คลิป) 'อนุทิน' โพสขอบคุณ 'พีระพันธุ์' คุยเพลินจนพยาบาลจับแยก
  • ‘สุราชุมชน’เฮ! ‘ครม.’ปลดล็อกกฎหมาย เคาะ‘เบียร์สด’ใส่ถัง Keg ขายได้ทั่วประเทศ ‘สุราชุมชน’เฮ! ‘ครม.’ปลดล็อกกฎหมาย เคาะ‘เบียร์สด’ใส่ถัง Keg ขายได้ทั่วประเทศ
  • \'สรวงศ์\'โดดป้อง\'สส.ฟลุ๊ค\' บอกอาจอัดอั้นหลังครอบครัว\'หลีนวรัตน์\'ถูกกระแสโถมใส่ 'สรวงศ์'โดดป้อง'สส.ฟลุ๊ค' บอกอาจอัดอั้นหลังครอบครัว'หลีนวรัตน์'ถูกกระแสโถมใส่
  • กทม.แถลงปิดศูนย์บัญชาการเหตุการณ์จตุจักร สิ้นสุด 4 โมงเย็นวันพรุ่งนี้ ขอบคุณทุกหน่วยงานร่วมมือช่วย กทม.แถลงปิดศูนย์บัญชาการเหตุการณ์จตุจักร สิ้นสุด 4 โมงเย็นวันพรุ่งนี้ ขอบคุณทุกหน่วยงานร่วมมือช่วย
ดูทั้งหมด
Back to Top

ผู้ดูแลเว็บไซต์ www.naewna.com
webmaster นางสาวอัญชะลี ไพรีรัก
ดูแลรับผิดชอบข่าว/ภาพ/โฆษณา/ข้อมูลอื่นที่เกียวข้องกับเว็บไซต์
กรรมการบริษัทฯ, กรรมการผู้มีอำนาจ ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการนำเสนอข่าว/ภาพ/ข้อมูลใดๆในเว็บไซต์ทั้งสิ้น

Social Media

  • หน้าแรก |
  • เกี่ยวกับแนวหน้า |
  • โฆษณากับเรา |
  • ร่วมงานกับเรา |
  • ติดต่อแนวหน้า |
  • นโยบายข้อตกลง
Copyright © 2017 Naewna.com All right reserved