วันอาทิตย์ ที่ 11 พฤษภาคม พ.ศ. 2568
แนวหน้า
  • แนวหน้า
  • หน้าแรก
  • คอลัมน์
    • คอลัมน์วันนี้
    • คอลัมน์ออนไลน์
    • คอลัมน์การเมือง
    • คอลัมน์ลงมือสู้โกง
    • โลกธุรกิจ
    • ผู้หญิง
    • บันเทิง
    • Like สาระ
    • ดูทั้งหมด
  • ข่าวเด่น
  • พระราชสำนัก
  • การเมือง
  • โลกธุรกิจ
  • อาชญากรรม
  • กทม.
  • ในประเทศ
  • เกษตร
  • ต่างประเทศ
  • กีฬา
  • ผู้หญิง
  • บันเทิง
  • ยานยนต์
  • Like สาระ
หน้าแรก / คอลัมน์ / คอลัมน์การเมือง / นายซื่อตรงรักเมืองไทย
นายซื่อตรงรักเมืองไทย

นายซื่อตรงรักเมืองไทย

นายซื่อตรงรักเมืองไทย
วันพฤหัสบดี ที่ 9 มีนาคม พ.ศ. 2566, 02.00 น.
ยังไม่สิ้นสุด

ดูทั้งหมด

  •  

อีกเพียงไม่กี่สัปดาห์หลังจากนี้ วาระรัฐบาลของพลเอกประยุทธ์ ก็จะถึงคราวสิ้นสุดลง ซึ่งแน่นอนว่าด้วยระยะเวลาของรัฐบาลที่เหลือไม่มากนั้น สิ่งที่ทุกคนจับตาก็คือ วันเป่านกหวีดยุบสภาฯ และการย้ายพรรคของตลาดสส.รอบสุดท้าย ที่ต้องบอกว่าตอนนี้ ชื่อที่เห็นๆ กันอยู่ ยังไม่จบและน่าจะมีเวลาอีกไม่เกินสัปดาห์หลังจากนี้ที่จะต้องตัดสินใจกันแล้ว หรือบางคนรอแค่การเปิดตัว แต่สิ่งที่รอบนี้อาจจะเกิดขึ้นต่างจากครั้งก่อนๆ คือการที่ประกาศว่าย้ายไปแล้ว อาจจะย้ายกลับหรือย้ายใหม่หรือไม่?

เมื่อการแข่งขันนั้นสูงขึ้น ตามจำนวนพรรคการเมืองที่มากขึ้น ประกอบกับสถานการณ์โดยรวมที่ยากจะคาดเดาเหตุการณ์ในอนาคต การกระจายตัวของกลุ่มก๊วน ก็อาจเป็นหนึ่งในทางออกที่ดีไม่น้อย อุปมาดั่งการหว่านพืช หากเมล็ดพันธุ์ไม่สามารถเจริญเติบโตหรืองอกงามในดินในพื้นที่หนึ่งได้ อย่างน้อยก็ยังมีพื้นที่ภาคส่วนอื่นให้ลุ้นหรือไม่?


อย่างในกรณีการแยกตัวระหว่างสายเลือด ที่แม้จะนามสกุลเดียวกัน แต่ขอแยกย้ายไปในบ่อปลาที่แตกต่าง เช่น พล.ต.อ อัศวิน ขวัญเมือง อดีตผู้ว่าราชการกรุงเทพฯ ที่เคยตบเท้าเพื่อเข้าไปช่วยงาน พลเอกประยุทธ์ ที่สังกัดพรรครวมไทยสร้างชาติ แต่กระนั้นแล้วลูกชายหัวแก้วหัวแหวนอย่าง ร.ต.อ.พงศกร ขวัญเมือง กลับเปิดตัวลงสมัคร สส. กรุงเทพฯ ในสีเสื้อสีฟ้าของพรรคประชาธิปัตย์ ซึ่งสุดท้ายแล้วก็ไม่รู้ว่าพล.ต.อ.อัศวิน จะยังอยู่ช่วยพลเอกประยุทธ์หรือไม่?

รวมถึงการแยกทางกันของสองคุณปลื้ม ระหว่างนายอิทธิพลและนายสนธยา ที่ฝ่ายนายอิทธิพลไม่ได้โยกย้ายสังกัดไปอยู่กับพรรคเพื่อไทยตามนายสนธยา แต่กลับขออยู่สู้เคียงบ่าเคียงไหล่พลเอกประยุทธ์ ร่วมกันกับนายสุชาติ ซึ่งก็น่าจะทำให้สมรภูมิชลบุรีน่าจะถึงจุดเดือดขั้นสุดก็เป็นได้หรือไม่? แต่ก็ไม่มีใครรู้อีกเช่นกันว่าเมื่อถึงวันเคาะระฆังจริงจะมีการย้ายไปรวมพี่น้องหรือไม่เพราะต้องเข้าใจว่านายอิทธิพล ยังคงกินตำแหน่งรัฐมนตรีในรัฐบาลพลเอกประยุทธ์อยู่หากตัดสินใจอะไรในตอนนี้อาจมีผลต่อเก้าอี้รัฐมนตรีได้

ยังไม่นับรวมถึงกลุ่มก๊วนบ้านใหญ่ต่างๆ ที่รอบนี้พบการแตกออกและแต่ละคนก็เลือกเดินทางตามเส้นทางของตนเอง อย่างในรายของกลุ่มสามมิตร ที่ก่อนหน้านี้นายอนุชา นาคาศัย ชัยนาท หนึ่งในบิ๊กแนมแห่งกลุ่มสามมิตรที่ได้โยกย้าย
สังกัดไปยังพรรครวมไทยสร้างชาติมาสักระยะเวลาหนึ่งแล้ว สวนทางกับนายสมศักดิ์ เทพสุทิน และนายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ
ที่ยังคงสังกัดพรรคพลังประชารัฐอยู่แต่ก็ยังมีข่าวว่าอาจจะย้ายไปเพื่อไทยหรือไม่ หรือสุดท้ายอาจพลิกไปรวมไทยสร้างชาติกันแน่?

ล่าสุดนี้การให้สัมภาษณ์ของนายสมศักดิ์ ก็ได้ทำให้ประชาชนต่างจับตามองอีกครั้งว่า สามมิตรจะก้าวทิศทางใดต่อไปกันแน่ เมื่อคำให้สัมภาษณ์ของนายสมศักดิ์ ว่าด้วยเรื่องของสังกัดพรรค ดูจะไม่หนักแน่นเหมือนเก่า พร้อมทั้งมีการโยนให้สหายอย่างนายสุริยะ เป็นผู้ดำเนินการว่าจะยังคงสังกัดพรรคพลังประชารัฐตามเดิมหรือไม่ หลายคนจึงอาจมองว่าเป็นการดึงเวลาหรือการเจรจาแต่ละโต๊ะยังไม่ลงตัว ความเป็นจริงก็คือ ยังไม่ถึงเวลาสุดท้าย

อย่างไรก็ตามความเคลื่อนไหวของกลุ่มสามมิตรก็เป็นอะไรที่น่าสนใจและน่าติดตามอยู่ไม่น้อย เพราะอย่าลืมว่า นายสมศักดิ์ ไม่เคยเป็นฝ่ายค้านในขณะที่เป็น สส. จึงน่าสนใจว่าในท้ายที่สุดแล้วมือแม่นอย่างนายสมศักดิ์และสหายจะแทงหวยเลขอะไรกันแน่? และหากท้ายที่สุดเมื่อเงื่อนไขเรื่องเวลาบีบให้ต้องตัดสินใจแล้วจะมีการตัดสินใจในรูปแบบใดกันแน่ จะย้ายสังกัด จะยังสังกัดเดิม หรือจะกระจายตัว?

เชื่อว่าตลาด สส. เองตอนนี้ก็น่าจะต้องพิจารณาต้นสังกัดว่าจะมีโอกาสมากน้อยเพียงใด จะพาตนเองให้ไปถึงปลายทางที่ได้วาดฝันเอาไว้ได้หรือไม่? และเมื่อหากพรรคต้นสังกัดไม่สามารถพาตนเองไปถึงเส้นชัยได้ ก็อาจมีการโยกย้ายสังกัดเกิดขึ้น และหลังจากที่พึ่งมีประเด็นบางอย่างกับบางพรรคการเมืองตอนนี้ทำให้ที่ย้ายแล้วก็อาจมีย้ายอีก ก่อนที่วันขีดเส้นตายจะมาถึงหรือไม่? เชื่อว่าสถานการณ์ปัจจุบันของแต่ละสังกัดพรรคการเมืองจะเป็นหนึ่งในปัจจัยสำคัญที่ส่งผลต่อการก้าวเดินของตลาดสส.ที่ถึงวันนี้ ก็อาจจะยังไม่จบ

หากจะพูดถึงหนึ่งในพรรคที่มีโอกาสเข้าร่วมเป็นพรรครัฐบาลมากที่สุด หนึ่งในพรรคที่ถูกมองไว้คือ พรรคภูมิใจไทยที่สามารถบริหารจัดการกับปัจจัยรอบตัวได้เป็นอย่างดีทั้งการบริหารจัดการภายในของพรรคที่ดูจะมีการขยับอยู่ตลอด ควบคู่กับการขยายขนาดของพรรคให้ใหญ่ขึ้น จากจำนวนสมาชิกพรรคที่พรรคภูมิใจไทยได้อ้าแขนรับ สส. เข้าสังกัดพรรคล่วงหน้าก่อนพรรคการเมืองอื่นๆ จึงทำให้ดูเหมือนว่าพรรคภูมิใจไทยดูจะมีความพร้อมเหนือพรรคการเมืองอื่นๆ ในรอบนี้

และนอกเหนือจากเรื่องของขนาดพรรคแล้ว อีกหนึ่งในเรื่องที่พรรคภูมิใจไทยถือว่าได้เปรียบพรรคการเมืองอื่นๆ คงหนีไม่พ้นเรื่องของนโยบายที่น่าจะทำให้พรรคภูมิใจไทยสามารถแทรกซึมลงไปในหัวใจประชาชนได้ไม่ยากนัก ที่นอกจากเรื่องลดหนี้แล้ว ยังมีเรื่องของกัญชา ที่ได้ต่อยอดไปสู่การออกนโยบายต่างๆ เพื่อใช้ในการหาเสียง และดูเหมือนนโยบายที่ออกมาของพรรคภูมิใจไทยเอง ก็ดูจะมีความพยายามในการบุกเบิกตลาดฐานคะแนนเสียงใหม่ๆ ในรอบนี้

ด้วยความพร้อมที่มากกว่าครั้งไหนๆ พรรคภูมิใจไทยจึงรุกเข้ามาในพื้นที่ปราบเซียนอย่างเมืองหลวง

ป้ายหาเสียงของพรรคภูมิใจไทยในพื้นที่กรุงเทพฯ ที่มากขึ้นเป็นอีกหนึ่งสัญญาณที่บ่งบอกว่าพรรคภูมิใจไทยคงจะเอาจริงเอาจังกับการต่อสู้สังเวียนกรุงเทพฯ ในศึกครั้งนี้ มากกว่ารอบก่อนๆ ที่ถูกมองว่าเป็นพรรคภูมิภาค โดยเฉพาะเมื่อพรรคภูมิใจไทยได้การนำเสนอนโยบาย “ภูมิใจกรุงเทพฯ 24/7” ซึ่งเป็นนโยบายที่ว่าด้วยเรื่องของการดูแลคนกรุงเทพฯ ตลอด24 ชั่วโมง ตลอด 7 วัน ของหนึ่งสัปดาห์

ส่วนเนื้อหาของนโยบายนั้นจะเป็นอย่างไรลองไปหาคำตอบกันดู เพราะเชื่อว่านโยบายดังกล่าวก็น่าจะถูกใจคนกรุงเทพฯ อยู่ไม่น้อย อีกทั้งภาพลักษณ์ของพรรคภูมิใจไทย ที่สามารถผลักดันนโยบายต่างๆ ให้เป็นจริงได้ สอดคล้องกับคำว่า พูดแล้วทำ ที่พรรคภูมิใจไทยพยายามชูมาโดยตลอด ก็อาจทำให้พรรคภูมิใจไทยดูจะมีลุ้น ที่จะกวาดคะแนนเสียงในพื้นที่ต่างๆ ไม่มากก็น้อย

แต่ที่มากไปกว่านั้นก็คือรอบนี้ พรรคภูมิใจไทยได้อ้าแขนรับอดีตสส.กทม จากหลายพรรคเข้ามาเพื่อเป็นขุนพล แบบจริงจังในพื้นที่กทม.รอบนี้

แต่ก็คงไม่ง่าย เพราะแม้พรรคภูมิใจไทยจะมีการเตรียมความพร้อมสำหรับศึกการเลือกตั้งใหญ่มาเนิ่นนานเพียงใด แต่ก็ไม่ได้มีการเตรียมความพร้อม เพื่อรองรับกับอุปสรรคที่เกิดขึ้นหรือไม่? และใครจะไปเชื่อ ว่าเมื่อ เวลาการบริหารของรัฐบาลในชุดปัจจุบันกำลังจะเข้าสู่ช่วงสุดท้าย ปัญหาต่างๆ ก็เกิดขึ้นแบบพอดิบพอดี

ไม่นานมานี้ ประธานสภาฯ ได้ส่งคำร้องจาก สส.ฝ่ายค้านกว่า 54 คน ไปยังศาลรัฐธรรมนูญ ปมนายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีกระทรวงคมนาคม ถูกยื่นคำร้องจากกรณีที่ยังถือหุ้นส่วนและยังเป็นเจ้าของ หจก. บุรีเจริญคอนสตรัคชั่น ทำให้สามารถยังเข้าไปเกี่ยวข้องกับการบริหารจัดการหุ้นหรือกิจการได้หรือไม่? ศาลจึงรับคำร้องปมดังกล่าว พร้อมทั้งมีคำสั่งให้นายศักดิ์สยาม ต้องหยุดปฏิบัติหน้าที่ในฐานะ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม จนกว่าศาลรัฐธรรมนูญจะวินิจฉัย

ซึ่งแม้จะเป็นช่วงสุดท้าย ปลายสมัยการบริหารงานของรัฐบาลพลเอกประยุทธ์ แต่ก็ต้องยอมรับว่าเมื่อปัญหาดังกล่าวนั้น ส่งผลต่อขุนพลในระดับสูงของพรรค ก็ย่อมเลี่ยงไม่ได้หรือที่จะสร้างความเสียหายโดยตรงต่อพรรคภูมิใจไทยหรือไม่? โดยเฉพาะในแง่ของความเชื่อมั่น ทั้งความเชื่อมั่นในสายตาประชาชน แต่ที่สำคัญคือความเชื่อมั่นของ สส. ที่มีต่อพรรคภูมิใจไทยด้วยหรือไม่? ซึ่งรวมถึงสส.ที่พึ่งย้ายเข้ามาและสส.ที่กำลังเตรียมย้ายในช่วงยุบสภา

ประกอบกับเมื่อนายชูวิทย์ ซึ่งถูกสื่อและประชาชนยกว่าเป็นหนึ่งในคนจริงแห่งทศวรรษ ที่ได้ออกมาเผยแพร่ข่าวข้อมูลต่างๆ ก็ยิ่งทำให้สถานการณ์โดยรวมของพรรคภูมิใจไทยนั้นถูกกดดันเพิ่มมากขึ้น แม้ในความเป็นจริงข้อมูลที่นายชูวิทย์ออกมากล่าวพาดพิงพรรคภูมิใจไทย จะมีบางส่วนที่ไม่ได้เป็นข้อมูลใหม่ ทั้งเรื่องรถไฟฟ้าสายสีส้ม กัญชา เขากระโดง แต่ไม่ว่าข้อเท็จจริงของข้อมูลจะเป็นเช่นไร แต่เมื่อข้อมูลเหล่านั้น มีนายชูวิทย์เป็นผู้เผยแพร่ ก็เลี่ยงไม่ได้ที่จะส่งผลกระทบตามมาหรือไม่?

คำถามที่หลายคนต่างตั้งข้อสงสัยคงหนีไม่พ้นการที่นายชูวิทย์ เข้ามามีบทบาทในการโจมตีพรรคภูมิใจไทยในตอนนี้
จึงถูกตั้งคำถามว่าเป็นการหวังผลถึงการเลือกตั้งที่กำลังจะเกิดขึ้นหรือไม่? ซึ่งในเรื่องนี้เอง นายชูวิทย์เอง แม้ไม่ได้ออกมา
บอกตรงๆ ถึงประเด็นว่าหวังผลถึงการเลือกตั้งหรือไม่ แต่ก็บอกว่าอยากให้คนได้รับข้อมูลเพื่อตัดสินใจเอง และก็บอกในทำนองว่าในความจริงก็แค่วิจารณ์พรรคภูมิใจไทยเพียงเท่านั้น แต่ไม่ได้บอก ไม่ได้ชี้เป้า และไม่ได้เชียร์พรรคการเมืองฝ่ายใด

อย่างไรก็ตาม ก็น่าสนใจไม่น้อยว่าหลังจากนี้นายชูวิทย์จะเปิดกรุคลังข้อมูลเพื่อโจมตีพรรคการเมืองใดต่อไปอีกหรือไม่? และหากมี ใครเล่าจะเป็นรายต่อไป? และก็น่าคิดว่าเส้นทางการเมืองของนายชูวิทย์ในอนาคตจะมีรูปแบบการเดินเป็นเช่นไรต่อไปกันแน่ คงต้องรอติดตาม

แต่แม้นายชูวิทย์จะออกมากล่าวว่าไม่ได้เชียร์พรรคการเมืองใด แต่ก็ไม่อาจปฏิเสธได้ว่า การออกมาเคลื่อนไหวโจมตีพรรคภูมิใจไทยในคราวนี้ ก็มีพรรคการเมืองบางพรรคได้รับผลพลอยได้ไปด้วยหรือไม่? ยิ่งในรายของพรรคเพื่อไทยที่เป็นหนึ่งในคู่แข่งทางตรงของพรรคภูมิใจไทยในพื้นที่ภูธร โดยเฉพาะในแถบภาคอีสานฐานที่มั่นที่มั่นคงของพรรคเพื่อไทย ซึ่งหากพรรคภูมิใจไทยเกิดเพลี่ยงพล้ำ ก็อาจส่งผลให้พรรคเพื่อไทยสามารถบรรลุเป้าหมายได้อย่างไม่ยากเย็นนัก

และว่ากันตามตรงในสายตาของพรรคเพื่อไทยก็คงมองพรรคภูมิใจไทยเป็นคู่แข่งอันดับหนึ่ง ทั้งที่การแข่งขันที่ทับซ้อนกันเป็นส่วนใหญ่ ทั้งการย้ายบ้านของสส. และทั้งมีการหาเสียงที่ทั้งสองฝ่าย ดูจะดุดันและกระแทกกระทั้นกันไปมา ซึ่งล่าสุดนี้
เองพรรคเพื่อไทยก็ได้มีการลงพื้นที่ไปยังจังหวัดบุรีรัมย์ บ้านใหญ่ของพรรคภูมิใจไทย พร้อมทั้งอ้อนขอคะแนนเสียงจากชาวบุรีรัมย์ ให้เลือกพรรคเพื่อไทยยกจังหวัด ทั้งยังฟาดใส่พรรคภูมิใจไทย ด้วยการโจมตีเรื่องกัญชา พร้อมทั้งได้มีการประกาศแข่งขันกับพรรคภูมิใจไทย ด้วยนโยบายปลอดยาเสพติดอีกด้วย ซึ่งสำหรับพรรคเพื่อไทยก็อาจจะถูกมองว่าน่าจะได้ประโยชน์อย่างมากจากเหตุการณ์นี้หรือไม่?

แต่ก็น่าสนใจไม่น้อยว่าในอนาคตอันใกล้นี้หากแพทองธารจำเป็นต้องยุติการหาเสียงเป็นการชั่วคราว เพื่อไปให้กำเนิดทายาท ก็น่าสนใจว่าจะมีใครขึ้นมาแทนหรือไม่? จะเป็นนายเศรษฐา หรือไม่ก็คงต้องรอชมกันต่อไป แต่ล่าสุดแม้เพื่อไทยจะไม่ได้ถูกนายชูวิทย์โจมตีแบบรายของพรรคภูมิใจไทยแต่พลันที่เปิดตัวนายเศรษฐา ก็ได้รับการเปิดประเด็น ของนายเศรษฐาจากนายจตุพรศิษย์เก่าเพื่อไทย แม้ว่าจะยังไม่มีการเผยว่าเป็นเรื่องอะไรแต่ก็หลุดออกมาว่าน่าจะเป็นเรื่องเกี่ยวกับอสังหา หรือไม่?รวมถึงพูดถือชื่อ ของขงเบ้ง ว่าน่าจะเป็นผู้ไขปริศนานี้

อย่างไรก็ตาม ดูเหมือนพรรคภูมิใจไทยที่ในตอนแรกจะมีความพร้อมมากที่สุดกำลังเผชิญกับสถานการณ์ที่กดดัน แต่อย่างไรเสียหากพรรคภูมิใจไทยต้องการที่จะพิสูจน์ตนเองเพื่อก้าวไปเป็นพรรคการเมืองขนาดใหญ่ ก็จำเป็นที่จะต้องฝ่าแบบทดสอบสุดหินเหล่านี้ไปให้ได้ แต่ก็น่าสนใจว่าเมื่อพรรคภูมิใจไทยถูกโจมตีจนเป็นเหตุให้กระทบต่อความเชื่อมั่นของพรรค ก็น่าสนใจว่าจะมี สส. จากสังกัดพรรคภูมิใจไทย ตัดสินใจย้ายสังกัดก่อนวันเส้นตายหรือไม่? รวมถึงในรายที่เตรียมจะย้ายมาเพิ่ม

เพราะอย่างที่ได้กล่าวไว้ว่า สถานการณ์ปัจจุบันของพรรคการเมือง มีส่วนโดยตรงต่อการตัดสินใจเลือกสังกัดของบรรดา สส. หากสังกัดใดอยู่ในสถานการณ์ที่ดี พรรคการเมืองนั้นก็ย่อมเป็นที่หมายปองอย่างแน่นอน เพราะ จนถึงวันนี้ตลาดสส. ก็ยังคงดำเนินไม่จบสิ้น

“ขอเพียงแต่มีความหวัง ย่อมมีโอกาส”

โกวเล้ง จาก ราชายุทธจักร

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

  •  
  • Breaking News
  • ข่าวยอดนิยม
  • คอลัมน์ฮิต
09:44 น. รัฐบาลยันคุม‘โควิด’อยู่ ย้ำเคร่งครัด 5 มาตรการป้องกัน สกัดแพร่เชื้อ
09:37 น. ‘อนุสรณ์’ชี้ปม‘แพทยสภา’ไม่กระทบรัฐบาล ดักคออย่าฉวยโอกาสปลุกม็อบ
09:28 น. เมียนมาทิ้งบอมบ์! ถล่มโรงงานแร่คาเรนนี ทัพกะเหรี่ยงรุกกลับตีค่ายทหารยับ
09:21 น. เปิดปูม‘วิทยา กันส์แทคติกส์’ ปรมาจารย์อาวุธปืน ผู้เซฟชีวิต‘ครู’ชายแดนใต้
09:00 น. ‘นายกฯ’เตรียมบิน‘ฮานอย’ ยกระดับความสัมพันธ์‘ไทย-เวียดนาม’สู่หุ้นส่วนเชิงยุทธศาสตร์
ดูทั้งหมด
หยามเกียรติธงชาติไทย! ทนายแจ้งเอาผิด โพสต์เฟสบุ๊คดูหมิ่น'ธงคือผ้าเช็ดเท้า'
(คลิป) 'ฐปณีย์' เละคาบ้าน! ด้อยค่าคนไม่เห็นด้วย 'เมียจ่าปืน' ออกโรงตอกกลับไม่ใช่ IO
ชั้น 14 ส่อวุ่นอีก!!! 'รพ.ราชทัณฑ์'เล็งฟ้องศาลเพิกถอนมติ'แพทยสภา'
'สมชาย'เคลียร์ชัดๆ ไขกระจ่าง'วิษณุ'ไปศาลอาญาทำไม?
‘มาเลเซีย’อ่วม! สงคราม‘อินเดีย-ปากีสถาน’กระทบจัดหา‘ข้าว’
ดูทั้งหมด
สังคมที่ ‘ชิงชัง’ ทักษิณ ชินวัตร? แต่ละคนจะช่วยชาติได้อย่างไร
แต่ละคนจะช่วยชาติได้อย่างไร
ยกเลิกมาตรา 370 ภารกิจรัฐบุรุษ(ตอน40) หลังอินเดียประกาศอิสรภาพ
บุคคลแนวหน้า : 11 พฤษภาคม 2568
บ่อนกาสิโน-แพทองธาร ชินวัตร : ภาพลักษณ์ไทย
ดูทั้งหมด

เรื่องอื่นๆ ที่น่าสนใจ

เมียนมาทิ้งบอมบ์! ถล่มโรงงานแร่คาเรนนี ทัพกะเหรี่ยงรุกกลับตีค่ายทหารยับ

ขนลุกซู่! หญิงสาวกลับบ้านกลางดึก เจอคนนั่งเศร้าอยู่บนศาลริมทาง เชื่อเป็นวิญญาณ

'ภูมิใจไทย' แตกหัก 'เพื่อไทย' คดีฮั้ว สว.เป็นเหตุ ส่อคว่ำร่าง พ.ร.บ.งบฯ 69 - ยุบสภา

อุทาหรณ์ทำงานกับเครื่องจักร ยาย73ปีพลาดท่า สายพานเครื่องสีข้าวดูดร่างดับ

‘ตม.อุบลราชธานี’ซีลเข้มพื้นที่ ร่วมหน่วยปราบยาเสพติด แถลงจับยาบ้าเกือบ 2 แสนเม็ด

ยิปซี 12 นักษัตร พยากรณ์ : ระหว่างวันที่ 11-17 พฤษภาคม พ.ศ. 2568

  • Breaking News
  • รัฐบาลยันคุม‘โควิด’อยู่ ย้ำเคร่งครัด 5 มาตรการป้องกัน สกัดแพร่เชื้อ รัฐบาลยันคุม‘โควิด’อยู่ ย้ำเคร่งครัด 5 มาตรการป้องกัน สกัดแพร่เชื้อ
  • ‘อนุสรณ์’ชี้ปม‘แพทยสภา’ไม่กระทบรัฐบาล ดักคออย่าฉวยโอกาสปลุกม็อบ ‘อนุสรณ์’ชี้ปม‘แพทยสภา’ไม่กระทบรัฐบาล ดักคออย่าฉวยโอกาสปลุกม็อบ
  • เมียนมาทิ้งบอมบ์! ถล่มโรงงานแร่คาเรนนี ทัพกะเหรี่ยงรุกกลับตีค่ายทหารยับ เมียนมาทิ้งบอมบ์! ถล่มโรงงานแร่คาเรนนี ทัพกะเหรี่ยงรุกกลับตีค่ายทหารยับ
  • เปิดปูม‘วิทยา กันส์แทคติกส์’ ปรมาจารย์อาวุธปืน ผู้เซฟชีวิต‘ครู’ชายแดนใต้ เปิดปูม‘วิทยา กันส์แทคติกส์’ ปรมาจารย์อาวุธปืน ผู้เซฟชีวิต‘ครู’ชายแดนใต้
  • ‘นายกฯ’เตรียมบิน‘ฮานอย’ ยกระดับความสัมพันธ์‘ไทย-เวียดนาม’สู่หุ้นส่วนเชิงยุทธศาสตร์ ‘นายกฯ’เตรียมบิน‘ฮานอย’ ยกระดับความสัมพันธ์‘ไทย-เวียดนาม’สู่หุ้นส่วนเชิงยุทธศาสตร์
ดูทั้งหมด

คอลัมน์ที่เกี่ยวข้อง

ทิ้งไพ่ ทิ้งทวน

ทิ้งไพ่ ทิ้งทวน

11 พ.ค. 2566

นิ่งๆอาจกินเรียบ

นิ่งๆอาจกินเรียบ

4 พ.ค. 2566

ทางเลือกหรือทางรอด?

ทางเลือกหรือทางรอด?

27 เม.ย. 2566

ยังคาดเดาอะไรไม่ได้

ยังคาดเดาอะไรไม่ได้

20 เม.ย. 2566

เปลี่ยนเพื่อไปต่อ

เปลี่ยนเพื่อไปต่อ

13 เม.ย. 2566

ฉากเดิมๆ

ฉากเดิมๆ

6 เม.ย. 2566

ระฆังเริ่มยก

ระฆังเริ่มยก

30 มี.ค. 2566

ล้างไพ่สลายขั้ว

ล้างไพ่สลายขั้ว

23 มี.ค. 2566

Back to Top

ผู้ดูแลเว็บไซต์ www.naewna.com
webmaster นางสาวอัญชะลี ไพรีรัก
ดูแลรับผิดชอบข่าว/ภาพ/โฆษณา/ข้อมูลอื่นที่เกียวข้องกับเว็บไซต์
กรรมการบริษัทฯ, กรรมการผู้มีอำนาจ ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการนำเสนอข่าว/ภาพ/ข้อมูลใดๆในเว็บไซต์ทั้งสิ้น

Social Media

  • หน้าแรก |
  • เกี่ยวกับแนวหน้า |
  • โฆษณากับเรา |
  • ร่วมงานกับเรา |
  • ติดต่อแนวหน้า |
  • นโยบายข้อตกลง
Copyright © 2017 Naewna.com All right reserved