วันจันทร์ ที่ 15 ธันวาคม พ.ศ. 2568
แนวหน้า
  • แนวหน้า
  • หน้าแรก
  • คอลัมน์
    • คอลัมน์วันนี้
    • คอลัมน์ออนไลน์
    • คอลัมน์การเมือง
    • คอลัมน์ลงมือสู้โกง
    • โลกธุรกิจ
    • ผู้หญิง
    • บันเทิง
    • Like สาระ
    • ดูทั้งหมด
  • ข่าวเด่น
  • พระราชสำนัก
  • การเมือง
  • โลกธุรกิจ
  • อาชญากรรม
  • กทม.
  • ในประเทศ
  • เกษตร
  • ต่างประเทศ
  • กีฬา
  • ผู้หญิง
  • บันเทิง
  • ยานยนต์
  • Like สาระ
หน้าแรก / คอลัมน์ / คอลัมน์ /

วันจันทร์ ที่ 13 มีนาคม พ.ศ. 2566, 02.00 น.
ฝุ่น PM2.5 เป็นภยันตรายต่อสุขภาพอย่างยิ่ง

ดูทั้งหมด

  •  

คงเป็นเรื่องที่ไม่ต้องวิตกกังวลอะไรอีกต่อไปแล้วสำหรับโรคโควิด-19 ซึ่งเป็นภัยคุกคามของประชาชนทั่วทั้งโลกมาเป็นระยะเวลาประมาณ 3 ปี รวมทั้งในประเทศไทยของเราเองด้วย ที่ทำให้มีผู้เจ็บป่วยที่ต้องเข้ารับการรักษามากกว่า 4.7 ล้านราย และเสียชีวิตไปรวมทั้งสิ้นประมาณ 3.4 หมื่นราย  เพราะเมื่อดูตัวเลขของผู้ติดเชื้อที่ต้องเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลในช่วง 1 สัปดาห์ระหว่างวันที่ 28 กุมภาพันธ์ถึงวันที่ 6 มีนาคมมีเพียงแค่ 147 ราย เท่ากับมีผู้ป่วยทั้งประเทศวันละแค่ 21 ราย และมีผู้เสียชีวิตรวมทั้งสิ้นแค่ 7 รายหรือคิดเฉลี่ยเท่ากับ 1 รายต่อวันเท่านั้นเอง

ถึงแม้สถานการณ์จะดีขึ้นอย่างมากมายจนไม่น่ามีปัญหาอีกแล้ว แต่ก็พบว่าประชาชนชาวไทยจำนวนไม่น้อยยังป้องกันตัวเองด้วยการสวมหน้ากากอนามัยไปในสถานที่ต่างๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในจุดที่มีผู้คนจำนวนมากจะพบว่า คนไทยเกือบทั้ง 100% ยังคงใส่หน้ากากอนามัยอย่างมิดชิดซึ่งเป็นเรื่องที่น่ายินดี


ในเรื่องของการฉีดวัคซีนนั้น หน่วยงานสาธารณสุขของภาครัฐยังคงมีข้อแนะนำให้ประชาชนที่เป็นกลุ่มเสี่ยงเข้ารับการฉีดวัคซีนซึ่งน่าจะเป็นเข็มกระตุ้นเข็มที่ 3 หรือ 4 หรือ 5 แล้ว เพื่อป้องกันอาการรุนแรงในกรณีที่ได้รับเชื้อไวรัสที่ยังคงเป็นสายพันธุ์โอมิครอนเข้าไปจะได้ไม่มีปัญหา ในส่วนของประชาชนทั่วไปที่มีสุขภาพดีนั้นยังไม่มีข้อสรุปที่ชัดเจน  แต่เพื่อป้องกันตัวเอง ควรจะได้รับการฉีดอย่างน้อยปีละ 1 เข็มไปก่อน

ภัยที่ทำให้เกิดผลกระทบต่อสุขภาพของคนทั่วไปนั้นมาจากได้หลายสาเหตุ ไม่ว่าจะเป็นจากโรคติดเชื้อทั้งหลาย ไม่ว่าจะเป็นไวรัสหรือแบคทีเรีย การบาดเจ็บที่เกิดจากอุบัติเหตุทุกชนิด ซึ่งในประเทศไทยนั้นเกิดจากอุบัติเหตุทางจราจรสูงมากและที่สำคัญไม่น้อยก็คือ ภัยที่เกิดจากสิ่งแวดล้อมเป็นพิษ ซึ่งในประการหลังนี้ประเทศไทยกำลังผจญกับสิ่งที่ก่อให้เกิดภยันตรายต่อสุขภาพอย่างมากคือจากฝุ่นละอองทางอากาศที่เรียกว่า PM2.5 ซึ่งหากมีปริมาณสูงที่ระดับหนึ่ง ก็จะก่อให้เกิดพิษร้ายต่อร่างกายได้ ทำให้เกิดโรคต่างๆ ติดตามมาอย่างมากมาย

จึงขอนำเรื่องของ PM2.5 มาเล่าสู่กันฟังอีกครั้งหนึ่ง ว่ามันคือฝุ่นขนาดเล็กมากๆ เล็กกว่าเส้นผมของมนุษย์ จนขนจมูกของมนุษย์ซึ่งมีหน้าที่กรองฝุ่นขนาดเล็กไม่สามารถจะกรองฝุ่นนี้ไว้ได้ ทำให้ฝุ่นนี้เข้าสู่ระบบทางเดินหายใจของคนเรา ไปสู่ปอดและเข้าสู่กระแสเลือดได้ และฝุ่นที่ว่านี้ยังมีขนาดเล็กกว่ารูขุมขนจึงทำให้ผ่านผิวหนังเข้าสู่ร่างกายได้เช่นเดียวกัน ฝุ่นตัวนี้จะเป็นตัวพาสารโลหะหนักต่างๆ เช่นปรอท แคดเมียม และสารก่อมะเร็งเข้าสู่ร่างกายได้ด้วย จึงนับว่าเป็นฝุ่นที่เป็นอันตราย หรือมีภยันตรายต่อสุขภาพเป็นอย่างมาก

ผู้ที่ได้รับฝุ่นนี้ในปริมาณสูงและต่อเนื่องเป็นระยะเวลายาวนานจะเกิดผลเสียอย่างยิ่ง โดยเริ่มต้นอาจจะมีอาการเพียงแค่ไอจามหรือคล้ายกับภูมิแพ้ ผู้ที่เป็นโรคภูมิแพ้อยู่แล้วจะมีอาการมากขึ้น  ทำให้เกิดโรคทางเดินหายใจเรื้อรัง รวมทั้งอาจทำให้เกิดโรคหลอดเลือดและหัวใจเรื้อรัง โรคปอดเรื้อรัง และที่ร้ายแรงที่สุดคือเป็นมะเร็งของปอดได้ด้วย

ปริมาณของฝุ่นจะมีอันตรายมากน้อยแค่ไหนได้มีการจัดระดับไว้ โดยกรมควบคุมมลพิษของประเทศไทยได้จัดระดับดัชนีคุณภาพอากาศ ที่เรียกว่า Air Quality Index (AQI) เป็น 5 ระดับ วัดจากปริมาณของฝุ่นเป็นไมโครกรัมต่อ 1 ลูกบาศก์เมตร

ระดับที่ 1 AQI  0-25 แทนด้วยสีฟ้าแสดงว่าคุณภาพอากาศดีมาก

ระดับที่ 2 AQI  26-50 แทนด้วยสีเขียว แสดงว่าคุณภาพอากาศดี ทำกิจกรรมกลางแจ้งได้ทุกอย่าง

ระดับที่ 3 AQI  51-100 แทนด้วยสีเหลือง แสดงว่าคุณภาพอากาศปานกลาง อาจมีผลกระทบต่อระบบทางเดินหายใจ อาจเคืองตาไม่ควรทำกิจกรรมกลางแจ้ง

ระดับที่ 4 AQI  101-200 แทนด้วยสีส้ม แสดงว่าคุณภาพอากาศไม่ดี มีผลกระทบต่อสุขภาพ โดยเฉพาะกับผู้ป่วยและผู้มีร่างกายอ่อนแอ อาจปวดศีรษะ แน่นหน้าอก หัวใจเต้นไม่ปกติ คลื่นไส้ อ่อนเพลียได้ด้วย หากมีอาการดังกล่าว ควรไป พบแพทย์

ระดับที่ 5 AQI มากกว่า 201 แทนด้วยสีแดง อากาศเลว มีผลกระทบต่อสุขภาพอย่างแน่นอน  ต้องหลีกเลี่ยงการอยู่ในพื้นที่แจ้ง และต้องใช้อุปกรณ์ป้องกันตัวเองรวมทั้งหากมีอาการดังที่กล่าวไว้แล้วต้องไปพบแพทย์

โดยสรุปนั้นระดับที่ 4 และ 5 หรือที่แทนด้วยสีส้มและสีแดง ซึ่งเป็นระดับที่มีปริมาณฝุ่นมากกว่า 50 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร เป็นระดับที่ส่งผลกระทบต่อสุขภาพชัดเจน

ในช่วงปลายสัปดาห์ที่ผ่านมานั้นองค์กรการแพทย์หลายองค์กร ประกอบด้วย ราชวิทยาลัยอายุรแพทย์แห่งประเทศไทย สมาคมแพทย์โรคหัวใจแห่งประเทศไทยฯ สมาคมอุรเวชแห่งประเทศไทยฯ สมาคมประสาทวิทยาแห่งประเทศไทย สมาคมโรคไตแห่งประเทศไทยและสมาคมพิษวิทยาคลินิก ได้ออกประกาศร่วมกันเรื่องการปฏิบัติตัวของประชาชนในช่วงวิกฤตฝุ่น PM2.5 โดยมีเนื้อหาดังนี้

เป็นที่ทราบและตระหนักกันดีถึงพิษภัยต่อสุขภาพจากฝุ่น PM2.5 ทั้งผลเฉียบพลันและผลเรื้อรัง ไม่เฉพาะผลต่อระบบการหายใจที่เป็นช่องทางนำฝุ่นเข้าสู่ร่างกายเท่านั้น มีผลต่อการเกิดโรคระบบต่างๆ เช่น ระบบหลอดเลือดและหัวใจระบบประสาท หลอดเลือดสมอง และโรคไต ประชาชนกลุ่มเสี่ยงที่จะได้รับอันตรายได้มากคือ เด็ก หญิงตั้งครรภ์ ผู้สูงอายุและผู้ที่มีโรคเรื้อรัง (โรคปอด หัวใจ สมองและไต) ในขณะที่ทุกภาคส่วนกำลังระดมสมองแก้ปัญหาทั้งในระยะสั้นและระยะยาว ประชาชนควรดูแลสุขภาพของตัวเองในช่วงที่มีฝุ่นมีปริมาณสูงดังนี้

1.หมั่นตรวจสอบคุณภาพอากาศจากแหล่งข้อมูลของรัฐและเอกชนอย่างสม่ำเสมอหรือใช้เครื่องวัดปริมาณฝุ่นแบบพกพาเพื่อวางแผนกิจวัตรประจําวันให้เหมาะสมและให้หลีกเลี่ยงการสัมผัสฝุ่น PM2.5 โดยการจัดให้มีพื้นที่ปลอดภัย

2.เมื่อค่า PM2.5 ในขณะนั้น (ค่ารายชั่วโมง)ขึ้นสูงเกินเกณฑ์คือ

ก.สูงกว่า 50 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร กลุ่มเสี่ยงควรงดทำกิจกรรมกลางแจ้ง บุคคลทั่วไปควรลดและปรับเวลาทำกิจกรรมกลางแจ้ง โดยใส่หน้ากากอนามัยตลอดเวลา

ข.สูงกว่า 100 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตรทุกคนควรงดทำกิจกรรมกลางแจ้ง ยกเว้นผู้ที่ต้องทำหน้าที่บริการสาธารณะกลางแจ้งให้ใส่หน้ากาก N95 ตลอดเวลา

ค.สูงกว่า 150 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร  ทุกคนควรอยู่ในตัวอาคารซึ่งติดตั้งระบบระบายและฟอกอากาศที่มีประสิทธิภาพเพียงพอ ยกเว้นผู้ที่ต้องทำหน้าที่บริการสาธารณะกลางแจ้งให้ใส่หน้ากาก N95 ตลอดเวลา และจำกัดช่วงเวลาปฏิบัติงานไม่ให้เกินครั้งละ 60 นาที

3.ขณะที่มีปริมาณฝุ่นภายนอกขึ้นสูง ภายในตัวอาคารจัดให้มีระบบระบายและฟอกอากาศที่มีประสิทธิภาพเพียงพอ

4.การออกกำลังกายสม่ำเสมอจะช่วยให้ร่างกายแข็งแรง ลดโอกาสเจ็บป่วย แต่ขณะที่ปริมาณฝุ่นขึ้นสูงควรหลีกเลี่ยงหรือชะลอการออกกำลังกายกลางแจ้ง ตามระดับเตือนภัยในข้อ 2 หรือออกกำลังกายในร่มที่มีระบบระบายและฟอกอากาศที่มีประสิทธิภาพเพียงพอ

5.ดื่มน้ำสะอาดให้เพียงพอ จะช่วยเร่งการขับฝุ่น PM2.5 ที่เล็ดลอดเข้ากระแสเลือดออกไปทางไตในรูปของปัสสาวะได้มากขึ้น

6.การอยู่ในบริเวณที่มีต้นไม้สีใบเขียวจะช่วยการดูดซับฝุ่นในอากาศได้เพิ่มมากขึ้น

ซึ่งคำแนะนำดังกล่าวทั้งหมดเป็นประโยชน์ต่อประชาชนทุกคนเป็นอย่างมาก

ตลอดช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมานั้นพบว่าค่า AQI ของกรุงเทพฯจะอยู่ที่ระดับสีแดงและสีส้มเกือบจะตลอดสัปดาห์ ส่วนจังหวัดในภาคเหนือจะอยู่ในระดับสีแดงเป็นส่วนใหญ่ ซึ่งถือว่าเป็นระดับที่ก่อให้เกิดผลเสียต่อสุขภาพอย่างแน่นอน และมีข้อสังเกตว่าค่า AQI จะขึ้นสูงมากในช่วงบ่ายถึงเย็น ซึ่งน่าจะเกิดจากการสะสมของฝุ่นละออง PM2.5 ที่เกิดจากฝุ่นควันจากยานพาหนะ ไฟป่า เผาขยะและโรงงานอุตสาหกรรมเป็นหลัก โดยพบว่ามีผู้ที่เจ็บป่วยด้วยโรคระบบทางเดินหายใจเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลเพิ่มขึ้นเป็นอย่างมาก

ปัญหาเรื่องฝุ่น PM2.5 คงจะอยู่คู่กับประเทศไทยไปอีกเป็นระยะเวลานาน เพราะการแก้ไขที่ต้นเหตุเป็นเรื่องค่อนข้างจะยาก ถึงแม้ว่ารัฐบาลจะได้มีความพยายามอย่างมาก ไม่ว่าจะเรื่องของการควบคุมป้องกันไม่ให้เกิดไฟป่าซึ่งเกิดจากการเผาของประชาชนในบางพื้นที่ หรือแม้แต่เรื่องของความพยายามที่จะส่งเสริมอุตสาหกรรมรถยนต์ไฟฟ้าให้มากยิ่งขึ้นเพื่อลดมลภาวะฝุ่นละอองดังกล่าวในระยะยาวก็ตาม

ภยันตรายต่อสุขภาพของประชาชนจะยังคงเกิดขึ้นต่อไปจากฝุ่น PM2.5 ก็ได้แต่หวังว่าการเลือกตั้งครั้งนี้จะทำให้ได้รัฐบาล ที่มีความตั้งใจในการจัดการเรื่องฝุ่นดังกล่าว โดยอาจจะต้องดำเนินการให้เป็นวาระแห่งชาติ เพื่อให้เกิดผลสัมฤทธิ์ที่ดีอย่างแท้จริง ก็จะเป็นคุณประโยชน์มหาศาลแก่ชาวไทยทุกคน

นายแพทย์ปิยะ เนตรวิเชียร

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

  •  
  • Breaking News
  • ข่าวยอดนิยม
  • คอลัมน์ฮิต
11:17 น. ‘ผบก.ตม.4’ลงพื้นที่‘ด่านช่องเม็ก’ สกัด‘รถน้ำมัน’ทะลักออกด่าน ตามคำสั่ง‘มทภ.2’
11:04 น. ในหลวง-พระราชินี ทรงรับผู้บาดเจ็บ-ผู้เสียชีวิต จากเหตุชายแดน ไว้ในพระบรมราชานุเคราะห์
10:55 น. มาลี แถลงโต้ ยันเขมรไม่ได้กักตัวคนไทย โอดถูกเครื่องบิน F-16 ระดมทิ้งระเบิด
10:51 น. สรุปเหรียญ กีฬาซีเกมส์ครั้งที่ 33 ไทยยังคงนำเป็นจ้าวเหรียญทอง
09:54 น. โคราชจับตา! เฝ้าระวัง'ทหารรับจ้างรัสเซีย'ลอบเข้าพื้นที่ เอี่ยวแผนก่อเหตุจุดยุทธศาสตร์
ดูทั้งหมด
มาแล้ว! กรมอุตุฯคาดหมายอากาศ 7 วันข้างหน้า ตั้งแต่ 12-18 ธ.ค.68
หนาวมาแน่! มวลอากาศเย็นระลอกใหม่จ่อถล่มอีสาน เหนือ-ใต้รับมือฝนตก-คลื่นสูง
(คลิป) สีหศักดิ์ย้ำ! กัมพูชา มีทางเลือกแค่ 2 ทาง
เขมรหน้าแหกคาบ้าน! โพสต์ชวน'ลาว-เมียนมา-มาเลย์'มาสู้ไทย แต่เจอคอมเมนต์สวนกลับหงายเงิบ
ในหลวง พระราชินี พระราชทานพระบรมราชวโรกาสให้ นายกฯ-นายกสภาจุฬาฯ นำ คณะผู้บริหารเฝ้าฯ
ดูทั้งหมด
ขณะที่มีศึกนอก อย่าให้ศึกในทำร้ายประเทศ
‘ธนาธร-พิธา’กับสงครามเขมร
การสร้างสังคมไทยให้เป็นประชาธิปไตย โดยผ่านการปฏิรูประบบและกระบวนการกฎหมาย 5 อวสาน
จบเมื่อไร?
ตอบโต้ป้องกันตนเอง อย่างได้สัดส่วน ไม่ใช่มัดมือ-มัดเท้าตัวเองแบบโง่ๆ
ดูทั้งหมด

เรื่องอื่นๆ ที่น่าสนใจ

‘ผบก.ตม.4’ลงพื้นที่‘ด่านช่องเม็ก’ สกัด‘รถน้ำมัน’ทะลักออกด่าน ตามคำสั่ง‘มทภ.2’

สรุปเหรียญ กีฬาซีเกมส์ครั้งที่ 33 ไทยยังคงนำเป็นจ้าวเหรียญทอง

ยิปซีพยากรณ์ดวงรายวัน ประจำวัน​จันทร์ที่ 15 ธันวาคม 2568

ชูวิทย์ เหลืออดฟาด ธนาธร เด็กเสียนิสัย วาดฝันขอได้เกิน 250 ส.ส.

เกลือเป็นหนอนหรือไม่? รถบรรทุกน้ำมันจ่อคิวยาวเหยียด'ด่านช่องเม็ก' หลังมีคำสั่ง'งดส่งออก'

'มทภ.2'ออกคำสั่ง คุมเข้ม'ด่านช่องเม็ก' งดส่งออกน้ำมัน-ยุทธภัณฑ์ มีผลเที่ยงคืน 14 ธ.ค.

  • Breaking News
  • ‘ผบก.ตม.4’ลงพื้นที่‘ด่านช่องเม็ก’ สกัด‘รถน้ำมัน’ทะลักออกด่าน ตามคำสั่ง‘มทภ.2’ ‘ผบก.ตม.4’ลงพื้นที่‘ด่านช่องเม็ก’ สกัด‘รถน้ำมัน’ทะลักออกด่าน ตามคำสั่ง‘มทภ.2’
  • ในหลวง-พระราชินี ทรงรับผู้บาดเจ็บ-ผู้เสียชีวิต จากเหตุชายแดน ไว้ในพระบรมราชานุเคราะห์ ในหลวง-พระราชินี ทรงรับผู้บาดเจ็บ-ผู้เสียชีวิต จากเหตุชายแดน ไว้ในพระบรมราชานุเคราะห์
  • มาลี แถลงโต้ ยันเขมรไม่ได้กักตัวคนไทย โอดถูกเครื่องบิน F-16 ระดมทิ้งระเบิด มาลี แถลงโต้ ยันเขมรไม่ได้กักตัวคนไทย โอดถูกเครื่องบิน F-16 ระดมทิ้งระเบิด
  • สรุปเหรียญ กีฬาซีเกมส์ครั้งที่ 33 ไทยยังคงนำเป็นจ้าวเหรียญทอง สรุปเหรียญ กีฬาซีเกมส์ครั้งที่ 33 ไทยยังคงนำเป็นจ้าวเหรียญทอง
  • โคราชจับตา! เฝ้าระวัง\'ทหารรับจ้างรัสเซีย\'ลอบเข้าพื้นที่ เอี่ยวแผนก่อเหตุจุดยุทธศาสตร์ โคราชจับตา! เฝ้าระวัง'ทหารรับจ้างรัสเซีย'ลอบเข้าพื้นที่ เอี่ยวแผนก่อเหตุจุดยุทธศาสตร์
ดูทั้งหมด
Back to Top

ผู้ดูแลเว็บไซต์ www.naewna.com
webmaster นายปรเมษฐ์ ภู่โต
ดูแลรับผิดชอบข่าว/ภาพ/โฆษณา/ข้อมูลอื่นๆที่เกี่ยวข้องกับเว็บไซต์
กรรมการบริษัทฯ, กรรมการผู้มีอำนาจ ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการนำเสนอข่าว/ภาพ/ข้อมูลใดๆในเว็บไซต์ทั้งสิ้น

Social Media

  • หน้าแรก |
  • เกี่ยวกับแนวหน้า |
  • โฆษณากับเรา |
  • ร่วมงานกับเรา |
  • ติดต่อแนวหน้า |
  • นโยบายข้อตกลง
Copyright © 2025 Naewna.com All right reserved