ในยามใกล้สถานการณ์การเลือกตั้งที่พรรคการเมืองต่างๆ กำลังสร้างความนิยมและหาคะแนนเสียงกันทุกรูปแบบก็ปรากฏว่ารัฐบาลได้เพิ่มค่าตอบแทนให้แก่เจ้าหน้าที่ของรัฐต่อเนื่องมาถึงสามประเภทแล้ว โดยมิได้ฟังเสียงทัดทานหรือคัดค้านของประชาชนแม้แต่น้อย
เจ้าหน้าที่ของรัฐทั้งสามประเภทนี้มีจำนวนรวมกันร่วมแสนคน มีลักษณะการทำงานใกล้ชิดกับประชาชน ซึ่งแน่นอนว่าอาจมีการหวังผลต่อการช่วยหาเสียงเลือกตั้งหรือกระทำการอย่างใดอย่างหนึ่งในการเลือกตั้งซึ่งย่อมไม่เป็นธรรมต่อพรรคการเมืองอื่นแม้กระทั่งประชาชน
2-3 สัปดาห์ก่อนนี้ก็มีการเพิ่มค่าตอบแทนให้แก่เจ้าหน้าที่ของรัฐมาแล้วสองประเภท คือเจ้าหน้าที่ อสม. ในสังกัดกระทรวงสาธารณสุข และเจ้าหน้าที่ของรัฐประเภท อบต. ซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่ขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นทั่วประเทศ และต้องอาศัยงบประมาณของรัฐไปจุนเจือใช้จ่าย
ซึ่งพรรคการเมืองอื่นและเจ้าหน้าที่ของรัฐอื่น ตลอดจนประชาชนจำนวนมากพากันทักท้วงและคัดค้าน
การทักท้วงคัดค้านก็มีสองประการคือ
ประการแรก เป็นการทักท้วงคัดค้านว่ารัฐบาลกำลังจะหมดวาระอยู่ในอีกไม่กี่วันแล้ว ไม่สมควรจะทำเรื่องผูกพันรายจ่ายแผ่นดินซึ่งเป็นภาระที่ต้องจัดเก็บภาษีจากประชาชน เพราะเงินที่จะนำไปเพิ่มค่าทดแทนนั้นไม่ใช่เงินบริจาคของใคร แต่ต้องจัดเก็บมาจากภาษีอากรต่างๆ ที่เรียกเก็บจากประชาชน เมื่อเพิ่มรายจ่ายก็ต้องหารายได้เพิ่มขึ้นเป็นธรรมดา
ประการที่สอง เป็นการทักท้วงคัดค้านว่าเป็นการใช้เงินงบประมาณของแผ่นดินไปซื้อเสียงล่วงหน้า เพราะการไปให้ค่าตอบแทนแก่เจ้าหน้าที่ของรัฐก็เป็นการสร้างบุญคุณทางใจให้แก่เจ้าหน้าที่ของรัฐ หลักฐานที่ปรากฏชัดๆ ก็คือมีพรรคการเมืองที่เกี่ยวข้องถึง 3 พรรค แย่งกันโฆษณาประชาสัมพันธ์ว่าที่เพิ่มค่าตอบแทนนั้นเป็นผลงานของตน พูดง่ายๆ ก็คือแย่งความนิยมกันนั่นเอง
ล่าสุดก็มีการเพิ่มค่าตอบแทนให้แก่กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ทั่วประเทศ รวมทั้งสารวัตรกำนันด้วย ซึ่งก็มีลักษณะแบบเดียวกันเพราะผู้ได้รับการเพิ่มค่าตอบแทนดังกล่าวนั้นอยู่ใกล้ชิดกับประชาชนในทุกพื้นที่ของประเทศไทย และคราวนี้ไม่มีพรรคการเมืองไหนมาแข่งแย่งเป็นผลงาน
ก็เพราะรู้กันอยู่ว่างานนี้เป็นฝีไม้ลายมือของกระทรวงมหาดไทย ซึ่งเป็นเจ้าสังกัดของกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน และสารวัตรกำนันทั่วประเทศ
การเพิ่มค่าตอบแทนดังกล่าวไม่ได้มีแผนงานไว้ล่วงหน้า และมิได้มีการตั้งงบประมาณไว้ล่วงหน้าในปีงบประมาณ 2566 ซึ่งเป็นปีงบประมาณปัจจุบันนี้ ทั้งๆ ที่รายจ่ายแผ่นดินอันมีลักษณะประจำนั้นเป็นภาระผูกพันยาวนาน ต้องมีการคิดอ่านวางแผนล่วงหน้า โดยคำนึงถึงความสัมพันธ์กับการหารายได้แผ่นดิน ซึ่งจะมีกรมบัญชีกลาง สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง และสำนักงบประมาณร่วมกันดูแลรับผิดชอบ
คือดูแลรับผิดชอบให้การเพิ่มขึ้นของรายจ่ายแผ่นดินต้องสอดคล้องกับการจัดหารายได้ของแผ่นดินด้วย ต้องคำนึงถึงความสอดคล้องกับอัตราค่าครองชีพโดยทั่วไป และต้องคำนึงถึงความเป็นธรรมแก่เจ้าหน้าที่ของรัฐทุกภาคส่วน
เนื่องจากเรื่องค่าตอบแทนนั้นจะเลือกปฏิบัติไม่ได้ เพราะเมื่อเพิ่มค่าตอบแทนขึ้นแล้วก็จะมีผลกระทบต่อดัชนีผู้บริโภค และราคาข้าวของในประเทศที่จะเพิ่มสูงขึ้น แaละจะทำให้เจ้าหน้าที่ของรัฐและข้าราชการทั่วประเทศจำนวนมากกว่าคือมีจำนวนกว่า 3 ล้านคน ไม่ได้รับความเป็นธรรมเพราะไม่ได้รับการเพิ่มค่าตอบแทน แต่ต้องรับภาระภาษีเพิ่มขึ้น และต้องแบกรับรายจ่ายและค่าครองชีพสูงขึ้น
เหตุที่ต้องคำนึงถึงความเป็นธรรมในลักษณะนั้นก็เพราะว่าถ้าไปเพิ่มค่าตอบแทนให้กับเจ้าหน้าที่ของรัฐบางส่วนบางประเภทและเกิดความไม่เป็นธรรมแก่เจ้าหน้าที่ของรัฐอื่นๆ ก็จะเกิดการเรียกร้องให้มีการเพิ่มค่าตอบแทนกระทบกันไปเป็นระลอกคลื่น เจ้าหน้าที่ของรัฐตามกรม กอง กระทรวง และหน่วยงานต่างๆก็จะเรียกร้องให้เพิ่มค่าตอบแทนบ้าง แล้วจะเอาเงินที่ไหนไปจ่าย ก็จะเกิดความวุ่นวายขึ้นในบ้านเมือง
การที่มาเพิ่มค่าตอบแทนกันกลางฤดูกาลแต่ไม่มีเงินค่าตอบแทนจ่ายกันจริงๆ พูดง่ายๆ ก็คือเอาตัวเลขลมๆ ไปชื่นอกชื่นใจพลางๆ ก่อน ในขณะที่ต้องมีรายจ่ายเพิ่มขึ้น เพราะแค่มีข่าวการเพิ่มค่าตอบแทน ราคาสินค้าต่างๆ ก็จะเพิ่มขึ้นรอก่อนแล้ว
รายจ่ายเพิ่มขึ้นแล้ว แต่รายได้ค่าตอบแทนนั้นยังไม่ได้ เพราะต้องไปตั้งเป็นงบประมาณรายจ่ายแผ่นดินในปีงบประมาณ 2567 ซึ่งยังไม่รู้ว่าจะสามารถจัดสรรรายได้แผ่นดินมาเป็นค่าตอบแทนดังกล่าวได้หรือไม่ และถ้าไม่ได้ก็จะต้องตัดรายจ่ายส่วนไหนออกไป
โดยวิธีปฏิบัติแบบนี้ก็จะต้องตัดรายจ่ายประเภทเพื่อการพัฒนาประเทศออกไป ซึ่งย่อมกระทบต่อการพัฒนาประเทศชาติให้มีความเจริญก้าวหน้า ซึ่งเรื่องเหล่านี้เป็นสาเหตุสำคัญที่ทำให้การพัฒนาประเทศไทยขลุกขลักล่าช้าจนเกือบจะตกโหล่ประเทศอาเซียนด้วยกันไปแล้ว
ดังนั้นเจ้าหน้าที่ของรัฐทั้งสามประเภทที่จะได้รับค่าตอบแทนเพิ่มขึ้นนั้น ก็ขอให้รู้ทั่วกันว่าเป็นการได้รับลมไปก่อน ส่วนเงินนั้นยังไม่มี และถ้าแผ่นดินมีรายได้พอเพียง ค่าตอบแทนที่เพิ่มนี้ก็จะได้รับในปีงบประมาณ 2567
สำหรับเจ้าหน้าที่ของรัฐและข้าราชการหน่วยอื่นๆ ที่ไม่ได้รับค่าตอบแทนเพิ่ม แต่จะต้องแบกรับรายจ่ายค่าครองชีพที่สูงขึ้น รวมทั้งประชาชนไทยทั่วประเทศที่จะต้องรับภาระรายจ่ายเพิ่มขึ้นจากการกระทำช่วงก่อนหน้าเลือกตั้ง ก็จงรู้โดยทั่วกันเถิดว่านี่เป็นผลจากการกระทำของผู้มีอำนาจในปัจจุบันนี้
แล้วจะเอาเข้ามาสร้างปัญหาต่อก่อปัญหาใหม่ต่อไปหรือไม่ ก็สุดแต่ใจพระคุณท่านเถิด
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี