วันอังคาร ที่ 13 พฤษภาคม พ.ศ. 2568
แนวหน้า
  • แนวหน้า
  • หน้าแรก
  • คอลัมน์
    • คอลัมน์วันนี้
    • คอลัมน์ออนไลน์
    • คอลัมน์การเมือง
    • คอลัมน์ลงมือสู้โกง
    • โลกธุรกิจ
    • ผู้หญิง
    • บันเทิง
    • Like สาระ
    • ดูทั้งหมด
  • ข่าวเด่น
  • พระราชสำนัก
  • การเมือง
  • โลกธุรกิจ
  • อาชญากรรม
  • กทม.
  • ในประเทศ
  • เกษตร
  • ต่างประเทศ
  • กีฬา
  • ผู้หญิง
  • บันเทิง
  • ยานยนต์
  • Like สาระ
หน้าแรก / คอลัมน์ / คอลัมน์ /

วันจันทร์ ที่ 20 มีนาคม พ.ศ. 2566, 02.00 น.
สุขภาพของประชาชนกับความห่วงใยของภาครัฐ

ดูทั้งหมด

  •  

ยังคงลดลงอย่างต่อเนื่องสำหรับจำนวนของผู้ติดเชื้อโควิด-19 ที่มีอาการจนกระทั่งต้องเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาล โดยข้อมูลจากกระทรวงสาธารณสุขระบุว่า ในรอบระหว่างวันที่ 5-11 มีนาคมนั้น มีจำนวนทั้งประเทศเพียง 122 ราย และมีผู้เสียชีวิตเพียงแค่ 6 ราย ซึ่งทำให้น่าจะมั่นใจได้แล้วว่าโรคโควิด-19ที่เคยระบาดอย่างรุนแรงในช่วง 3 ปีที่ผ่านมานั้น ไม่ใช่เป็นเรื่องที่น่ากลัวอีกต่อไปแล้ว แต่ถึงอย่างไรก็ตาม ท่านปลัดกระทรวงสาธารณสุขก็ยังคงมีความห่วงใยและออกมาเตือนไว้ล่วงหน้าว่าโรคนี้อาจจะกลับมาระบาดได้อีกครั้งในช่วงสงกรานต์ซึ่งเป็นช่วงที่ประชาชนชาวไทยจะออกมาร่วมฉลองประเพณีนี้กันอย่างมากมาย จึงเป็นเรื่องที่ต้องเฝ้าระวังต่อไป

สถานการณ์การระบาดของโรคโควิด-19ทั่วทั้งโลกก็ผ่อนคลายลงไปเกือบหมดแล้ว หลังจากที่โรคนี้ได้ทำให้มีผู้ป่วยที่มีอาการและเข้าสู่กระบวนการรักษามากกว่า 682 ล้านราย และมีผู้เสียชีวิตไปทั้งหมดมากกว่า 6.8 ล้านรายโดยทุกประเทศทั่วโลกก็ผ่อนคลายมาตรการต่างๆ ทั้งหมดแล้ว ตลอดจนมีการเปิดประเทศให้เดินทางไปมาหาสู่กันได้เกือบเป็นปกติ 100 เปอร์เซ็นต์


ตลอดช่วงระยะเวลา 3 ปีที่ผ่านมานั้นรัฐบาลได้ใช้เงินจำนวนมาก ซึ่งส่วนหนึ่งเงินเป็นเงินกู้จากต่างประเทศ เพื่อมาใช้ในการจัดการและแก้ปัญหาเรื่องการระบาดของโรคโควิด-19 จนโรคนี้ได้สงบลง โดยประเทศไทยเรานั้นได้รับการชมเชยจากองค์การอนามัยโลกว่ามีการจัดการในเรื่องของโรคโควิด-19 อย่างครบวงจรและมีประสิทธิภาพมาก เป็นตัวอย่างที่น่าชื่นชมเป็นอย่างยิ่ง

ต้องขอบอกว่า ระบบบริการสุขภาพของประเทศไทยนั้นถือว่าเป็นระบบที่ดีมากที่สุดระบบหนึ่ง เป็นระบบที่ครอบคลุมประชากรในทุกภาคส่วน และในทุกระดับฐานะทางเศรษฐกิจ จากการที่มีระบบ 3 ระบบที่บริหารจัดการและมีการเชื่อมต่อถึงกันได้ คือ ระบบหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้า หรือที่เรียกกันว่า 30 บาทครอบคลุมประชากรประมาณ 47 ล้านคน ระบบประกันสังคม รับผิดชอบผู้ใช้แรงงานที่อยู่ในระบบนี้ไม่น้อยกว่า 12 ล้านคนและยังขยายบางส่วนไปครอบคลุมประชาชนในสิทธิ์อื่นด้วย และระบบสวัสดิการรักษาพยาบาลข้าราชการซึ่งรวมทั้งญาติสายตรงด้วย ดูแลประชากรประมาณ6 ล้านคน ประชากรส่วนที่เหลืออยู่ในระบบของรัฐวิสาหกิจซึ่งปัจจุบันก็ได้มาอยู่ในส่วนของระบบหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้าเกือบทั้งหมดแล้ว

ทั้ง 3 ระบบนั้นมีทั้งจุดอ่อนและจุดแข็งในเรื่องของการบริหารจัดการ ในระยะเริ่มต้นอยู่บ้าง  แต่ปัจจุบันนี้ต้องถือว่าเป็นระบบที่ดี และยังมีการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง โดยมุ่งเน้นในเรื่องของการส่งเสริมสุขภาพและป้องกันโรคมากขึ้น ซึ่งนับเป็นเรื่องที่ดีอย่างยิ่ง

ในส่วนของระบบประกันสังคม ในช่วง 3-4 ปีที่ผ่านมานี้ได้มีการพัฒนา ในเรื่องการส่งเสริมสุขภาพและป้องกันโรคให้กับผู้ที่อยู่ในระบบนี้ โดยมีการจัดโปรแกรมการตรวจเช็คสุขภาพตามช่วงอายุต่างๆ เริ่มตั้งแต่อายุ 15 ปีขึ้นไปจนถึงอายุเกินกว่า 60 ปี ครอบคลุมการตรวจที่มีความจำเป็นและช่วยในการวินิจฉัยโรคพื้นฐานซึ่งเป็นโรคที่อาจจะป้องกันได้ เช่น การตรวจเอกซเรย์ปอด ซึ่งอาจจะช่วยค้นหาวัณโรคปอดในระยะแรกได้ หรือการเจาะตรวจเลือดเพื่อหาระดับของน้ำตาล หรือไขมันเพื่อค้นหาโรคเบาหวานหรือไขมันในเลือดสูงซึ่งอาจจะนำไปสู่โรคอื่นๆ  และในช่วง 2 ปีหลังนี้ยังมีการรณรงค์ให้ผู้มีอายุมากกว่า 50 ปีทุกราย เข้ารับการฉีดวัคซีนไข้หวัดใหญ่โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย ซึ่งทำให้ลดความเสี่ยงของผู้สูงอายุต่อการมีภาวะแทรกซ้อนจากโรคนี้

นอกจากนี้สำนักงานประกันสังคมยังได้เพิ่มสิทธิการเข้าถึงการรักษาของผู้ที่อยู่ในระบบนี้เพื่อให้ได้รับการดูแลรักษาโรคต่างๆ เร็วขึ้นซึ่งประกอบไปด้วยการทำหัตถการรักษาโรคหลอดเลือดหัวใจ การผ่าตัดรักษาโรคนิ่วในท่อน้ำดี การผ่าตัดรักษามะเร็งเต้านม การผ่าตัดรักษาก้อนเนื้อของมดลูก และการรักษาผู้ป่วยโรคหลอดเลือดสมอง โดยได้มีการเริ่มนำร่องในโรงพยาบาลประมาณ 40 โรง มีข้อกำหนดให้ทุกโรงพยาบาลที่นำร่องนี้ ต้องให้การรักษาด้วยวิธีการผ่าตัดในระยะเวลาไม่เกิน 15 วันหลังจากผู้ป่วยได้รับการวินิจฉัย ซึ่งจะช่วยการลุกลามและอาการรุนแรงของโรคต่างๆและทำให้การพยากรณ์โรคดีขึ้น

ในส่วนของสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ มีเรื่องที่น่ายินดีว่า เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมานั้น คณะกรรมการหรือที่เรียกกันว่าบอร์ดของสำนักงานนี้ ที่มีรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขเป็นประธาน ได้มีการพิจารณาและเห็นชอบในหลักการที่จะให้มีการดำเนินการในส่วนของการส่งเสริมสุขภาพและป้องกันโรคเพิ่มเติมอีก 5 รายการ ดังนี้

เรื่องแรกคือการตรวจสุขภาพของช่องปาก และบริการขัดและทำความสะอาดฟันสำหรับกลุ่มอายุ 25 - 59 ปีและกลุ่มอายุ 60 ปีขึ้นไป  โดยตั้งเป้ากลุ่มเป้าหมายผู้มารับบริการใน 6 เดือนแรก ประมาณ 4.7 ล้านคน

เรื่องที่ 2 เป็นเรื่องบริการชุดตรวจหาการติดเชื้อ HIV หรือที่รู้จักกันว่าโรคเอดส์ด้วยตนเอง เพื่อให้ประชาชนเข้าถึงการตรวจการติดเชื้อดังกล่าว ซึ่งหากพบความผิดปกติก็จะเข้าสู่กระบวนการได้รักษาเร็วขึ้น ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการจัดหาชุดตรวจซึ่งผ่านการรับรองจากกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ โดยมีกลุ่มเป้าหมายที่จะได้รับการตรวจคัดกรองเพิ่มขึ้นประมาณ 240,000 ราย รวมกับกลุ่มเป้าหมายเดิมซึ่งมีอยู่ประมาณ 660,000 ราย

เรื่องที่ 3 คือบริการตรวจคัดกรองโรคหัวใจพิการแต่กำเนิดชนิดรุนแรงในทารกแรกเกิดด้วยเครื่องวัดออกซิเจนปลายนิ้ว  มีกลุ่มเป้าหมาย 2.7 แสนราย โดยปัจจุบันนี้มีทารกแรกเกิดร้อยละ 50 ได้รับการตรวจด้วยเครื่องนี้อยู่แล้ว ซึ่งมีกลุ่มที่ยังไม่ได้ตรวจประมาณ 136,000 ราย การคัดกรองดังกล่าวจะมีประโยชน์อย่างยิ่ง ทำให้เด็กที่มีภาวะหัวใจพิการได้รับการรักษาตั้งแต่ระยะต้นๆ ซึ่งจะทำให้มีโอกาสรอดชีวิตสูงกว่า

เรื่องที่ 4 คือบริการตรวจคัดกรองไวรัสตับอักเสบบีและซี ในประชาชนทั่วไปที่เกิดก่อนพ.ศ. 2535 เป็นการตรวจ 1 ครั้งตลอดชีวิต มีกลุ่มเป้าหมาย 20-30 ล้านคน ในระยะ 6 เดือนแรกนี้ตั้งเป้าตรวจให้ได้ 1 ล้านคนโดย

เรื่องสุดท้ายคือการปรับแผนการจัดหายาและเวชภัณฑ์ตามโครงการพิเศษปี 2566 คือการบริการวัคซีน HPV เพื่อป้องกันมะเร็งปากมดลูกในเด็กนักเรียนหญิงชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 เนื่องจากมีวัคซีนไม่เพียงพอ จึงต้องจัดซื้อเพิ่มเติมอีก เพื่อให้โครงการนี้บรรลุเป้าหมาย

การปรับตัวและพัฒนาอย่างต่อเนื่องของระบบบริการสุขภาพของประเทศไทยจึงเป็นเรื่องที่น่าชื่นชมเป็นอย่างยิ่ง โดยระบบนี้เน้นการเข้าถึงของประชาชนในการได้รับบริการซึ่งถือเป็นเรื่องสำคัญ รวมทั้งเรื่องของการสร้างความเท่าเทียมในการได้รับสิทธิในการเข้าใช้บริการต่างๆ

แน่นอนว่าการดูแลสุขภาพของประชาชนซึ่งถือว่าเป็นภาระหน้าที่ที่สำคัญของรัฐบาลนั้น จะต้องพัฒนาให้ดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง เพราะเรื่องสุขภาพถือเป็นเรื่องที่สำคัญที่สุดในชีวิตของผู้คน แต่การที่จะประสบความสำเร็จนั้นก็จำเป็นต้องมีการใช้งบประมาณที่สอดคล้องกับโครงการต่างๆ ที่วางแผนไว้ ในส่วนของระบบประกันสังคมเงินที่ใช้ในการบริหารจัดการมาจาก 3 ภาคส่วนคือ จากผู้ใช้แรงงานส่วนหนึ่ง จากนายจ้างส่วนหนึ่งและจากรัฐบาลส่วนหนึ่ง ซึ่งในระยะยาวอาจจะไม่เป็นปัญหามากนัก

ในส่วนของระบบสวัสดิการรักษาพยาบาลของข้าราชการนั้นเป็นการใช้งบประมาณแผ่นดินทั้งหมด แต่เนื่องจากจำนวนของข้าราชการและญาติสายตรงในระบบมีไม่มากนัก จึงไม่เป็นปัญหาในเชิงงบประมาณ

ส่วนที่น่าเป็นห่วงแต่เป็นส่วนสำคัญที่จะต้องทำให้ดีขึ้น เพราะดูแลสุขภาพของประชาชนมากกว่าระบบอื่นใดเป็นจำนวนถึง 47 ล้านคน ซึ่งใช้เงินจากงบประมาณแผ่นดินทั้งหมดเช่นกัน จึงเป็นเงินจำนวนมากมหาศาล และในระยะยาวอาจจะเกิดผลกระทบได้ เป็นเรื่องดี ที่สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติได้เน้นความสำคัญของเรื่องการส่งเสริมสุขภาพและป้องกันโรคเพิ่มมากขึ้น เพราะหากประสบความสำเร็จ จะเป็นการประหยัดงบประมาณที่เป็นค่าใช้จ่ายในการรักษาพยาบาลได้อย่างมาก ซึ่งถือว่าเป็นเรื่องที่ถูกต้องเป็นอย่างยิ่ง

สำหรับเรื่องสุขภาพนั้น การสร้างย่อมดีกว่าการซ่อม

นายแพทย์ปิยะ เนตรวิเชียร

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

  •  
  • Breaking News
  • ข่าวยอดนิยม
  • คอลัมน์ฮิต
14:13 น. 'ชัชชาติ' นำทีมทำบุญอุทิศส่วนบุญส่วนกุศล วางดอกไม้ยืนไว้อาลัยผู้เสียชีวิตที่ตึกสตง.
14:11 น. (คลิป) 'อนุทิน' โพสขอบคุณ 'พีระพันธุ์' คุยเพลินจนพยาบาลจับแยก
14:07 น. ‘สุราชุมชน’เฮ! ‘ครม.’ปลดล็อกกฎหมาย เคาะ‘เบียร์สด’ใส่ถัง Keg ขายได้ทั่วประเทศ
14:05 น. 'สรวงศ์'โดดป้อง'สส.ฟลุ๊ค' บอกอาจอัดอั้นหลังครอบครัว'หลีนวรัตน์'ถูกกระแสโถมใส่
14:04 น. กทม.แถลงปิดศูนย์บัญชาการเหตุการณ์จตุจักร สิ้นสุด 4 โมงเย็นวันพรุ่งนี้ ขอบคุณทุกหน่วยงานร่วมมือช่วย
ดูทั้งหมด
ชั้น 14 ส่อวุ่นอีก!!! 'รพ.ราชทัณฑ์'เล็งฟ้องศาลเพิกถอนมติ'แพทยสภา'
'ภูมิใจไทย' แตกหัก 'เพื่อไทย' คดีฮั้ว สว.เป็นเหตุ ส่อคว่ำร่าง พ.ร.บ.งบฯ 69 - ยุบสภา
หยามเกียรติธงชาติไทย! ทนายแจ้งเอาผิด โพสต์เฟสบุ๊คดูหมิ่น'ธงคือผ้าเช็ดเท้า'
เช็คผลที่นี่!!! 'เลือกตั้งเทศบาล'ส่วนใหญ่แชมป์เก่าคว้าชัย
'El Clásico2025' เมื่อเก้าอี้ดนตรีเริ่มบรรเลง
ดูทั้งหมด
กางเกงยีนส์ลีวายในกองทอง
ศึกป่วยทิพย์ใกล้จบ
เรือของคนโง่
หวงแหนปราสาท ‘ตาเมือนธม” รักชาติ สมเหตุสมผล
‘พรรคส้ม’ไปไม่ถึงดวงดาว
ดูทั้งหมด

เรื่องอื่นๆ ที่น่าสนใจ

‘สุราชุมชน’เฮ! ‘ครม.’ปลดล็อกกฎหมาย เคาะ‘เบียร์สด’ใส่ถัง Keg ขายได้ทั่วประเทศ

ย้ำคำเดิม'ทักษิณ'ป่วยจริง 'อิ๊งค์'แจงปมชั้น 14 เริ่มและจบก่อนเป็นนายกฯ

เปิดเกมรุมกินโต๊ะ! ปูดเบื้องลึก‘สส.กฤษฎิ์’ทิ้ง‘ปชน.’ แฉ‘ส้มตะวันออก’ระส่ำ

(คลิป) FCส้มเดือดพลั่ก!! บุกสภาฯ รุมสาป‘สส.กฤษฎิ์’แถลงแยกทาง‘ปชน.’ซบ'กล้าธรรม'

‘พล.ท.ยอดชัย’ร้อง DSI สอบเงินสมัครสว.ส่อผิดปกติ แย้มมีผู้สมัครส่งซิกวันลงคะแนน

'อิ๊งค์'งงข่าว'ยุบสภาฯ' ยัน'พรรคร่วมฯ'แน่นปึ้ก ลั่น!คุมสถานการณ์ได้ไม่เกินมือ

  • Breaking News
  • \'ชัชชาติ\' นำทีมทำบุญอุทิศส่วนบุญส่วนกุศล วางดอกไม้ยืนไว้อาลัยผู้เสียชีวิตที่ตึกสตง. 'ชัชชาติ' นำทีมทำบุญอุทิศส่วนบุญส่วนกุศล วางดอกไม้ยืนไว้อาลัยผู้เสียชีวิตที่ตึกสตง.
  • (คลิป) \'อนุทิน\' โพสขอบคุณ \'พีระพันธุ์\' คุยเพลินจนพยาบาลจับแยก (คลิป) 'อนุทิน' โพสขอบคุณ 'พีระพันธุ์' คุยเพลินจนพยาบาลจับแยก
  • ‘สุราชุมชน’เฮ! ‘ครม.’ปลดล็อกกฎหมาย เคาะ‘เบียร์สด’ใส่ถัง Keg ขายได้ทั่วประเทศ ‘สุราชุมชน’เฮ! ‘ครม.’ปลดล็อกกฎหมาย เคาะ‘เบียร์สด’ใส่ถัง Keg ขายได้ทั่วประเทศ
  • \'สรวงศ์\'โดดป้อง\'สส.ฟลุ๊ค\' บอกอาจอัดอั้นหลังครอบครัว\'หลีนวรัตน์\'ถูกกระแสโถมใส่ 'สรวงศ์'โดดป้อง'สส.ฟลุ๊ค' บอกอาจอัดอั้นหลังครอบครัว'หลีนวรัตน์'ถูกกระแสโถมใส่
  • กทม.แถลงปิดศูนย์บัญชาการเหตุการณ์จตุจักร สิ้นสุด 4 โมงเย็นวันพรุ่งนี้ ขอบคุณทุกหน่วยงานร่วมมือช่วย กทม.แถลงปิดศูนย์บัญชาการเหตุการณ์จตุจักร สิ้นสุด 4 โมงเย็นวันพรุ่งนี้ ขอบคุณทุกหน่วยงานร่วมมือช่วย
ดูทั้งหมด
Back to Top

ผู้ดูแลเว็บไซต์ www.naewna.com
webmaster นางสาวอัญชะลี ไพรีรัก
ดูแลรับผิดชอบข่าว/ภาพ/โฆษณา/ข้อมูลอื่นที่เกียวข้องกับเว็บไซต์
กรรมการบริษัทฯ, กรรมการผู้มีอำนาจ ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการนำเสนอข่าว/ภาพ/ข้อมูลใดๆในเว็บไซต์ทั้งสิ้น

Social Media

  • หน้าแรก |
  • เกี่ยวกับแนวหน้า |
  • โฆษณากับเรา |
  • ร่วมงานกับเรา |
  • ติดต่อแนวหน้า |
  • นโยบายข้อตกลง
Copyright © 2017 Naewna.com All right reserved