คนที่รู้ทันทักษิณ ชินวัตร ต่างรู้ดีว่าทักษิณหนีคดีอาญาแผ่นดิน และไม่ต้องการติดคุก แล้วก็รู้ด้วยว่าทักษิณทำทุกอย่าง เพื่อให้ตนเองหลุดพ้นจากคดีอาญา
ด้วยเหตุที่ทักษิณหนีคดีอาญา จึงทำให้คนที่พยายามโกหกสังคมตลอดเวลาว่า รวยแล้วไม่โกง ไม่สามารถกลับเข้ามาในประเทศไทยได้อีก หากไม่ยอมติดคุก
มาบัดนี้ สังคมไทยได้ยินคำโกหกครั้งที่เท่าไรไม่มีใครจดจำได้จากปากของทักษิณว่า จะกลับมาเมืองไทย แม้จะต้องติดคุก
ถามว่าทำไมทักษิณกล้าโกหกแบบนี้ ถามว่าทักษิณกล้ากลับมาติดคุกจริงๆ หรือ ถามว่าทำไมทักษิณต้องยกเอาเรื่องกลับมาติดคุก มาพูดในระยะที่ลูกสาวคนเล็กของตนเองกำลังประกาศจะเป็นนายกรัฐมนตรี
เกมการเมืองตื้นๆ แบบนี้ ไม่จำเป็นต้องให้ปรมาจารย์ด้านรัฐศาสตร์ที่สอนเรื่องการเมืองไทยวิเคราะห์ เพราะแม้แต่คนที่อ่านข่าวการเมืองมาระยะหนึ่งก็สามารถวิเคราะห์ได้ แล้วก็สามารถฟันธงได้ทันทีว่า ทุกคำพูดของทักษิณนั้นล้วนโกหกไม่ต่างไปจากเดิม
ประเด็นทักษิณมีอิทธิพลเหนือพรรคเพื่อไทย ประเด็นนี้ชัดเจนแจ่มกระจ่างในหมู่ผู้ติดตามการเมืองไทยเป็นอย่างดี เพราะฉะนั้น ไม่ต้องถามอีกว่า ทักษิณมีอำนาจเหนือพรรคเพื่อไทยหรือไม่
ประเด็นต่อมาคือ หัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย มีความหมายอย่างไร ทำไมทักษิณต้องส่งลูกสาวคนเล็กไปเป็นหัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย ทั้งๆ ที่มีหัวหน้าพรรค
เพื่อไทย แล้วตกลงว่าหัวหน้าครอบครัว กับหัวหน้าพรรค ใครมีอำนาจบงการพรรคเหนือกว่ากัน
มีคำถามอีกว่า หัวหน้าพรรคเป็นลูกไล่ของหัวหน้าครอบครัว ใช่หรือไม่ แล้วทำไมลูกสาวคนเล็กของทักษิณไม่รับตำแหน่งหัวหน้าพรรค หัวหน้าครอบครัวมีอำนาจควบคุมบริหารพรรค มากกว่าหัวหน้าพรรค ใช่หรือไม่
ทำไมจู่ๆ อยู่ๆ ทักษิณก็ประกาศว่าจะยอมกลับมาติดคุกในประเทศไทย ในขณะที่พลพรรคเพื่อไทยของทักษิณก็โฆษณาชวนเชื่อทุกวันว่า พรรคของทักษิณจะชนะการเลือกตั้งแบบ Land Slide ทั้งๆ ที่แต่ก่อนนี้ ทักษิณบอกว่าตนเองไม่จำเป็นต้องกลับประเทศไทย เพราะสามารถอาศัยอยู่ในประเทศไหนก็ได้ทั่วโลก
กลอุบายยอมกลับมาติดคุก มีความโยงใยอย่างไรกับคำโฆษณาชวนเชื่อเรื่อง Land Slide แล้วสุดท้ายจะส่งผลอย่างไรต่อคะแนนเลือกตั้ง สส. ของพรรคเพื่อไทย จะให้ผลดีหรือทำให้พรรคเพื่อไทยพลาดหวัง เรื่องนี้มองได้หลายมุมขึ้นอยู่กับว่ามองจากมุมของผู้สนับสนุนหรือผู้ต่อต้านพรรคเพื่อไทย และต่อต้านทักษิณ
คอการเมืองไทยจำได้ดีว่า ทักษิณพยายามจะกลับประเทศไทย โดยที่ไม่ต้องติดคุกมาโดยตลอด และยังจำได้ด้วยว่าทักษิณใช้กลเกมอะไรในการทำให้ตัวเองสามารถบรรลุเป้าหมายสูงสุดนั้น แล้วก็ยังจดจำได้ดีอีกว่า สุดท้ายแล้วกลอุบายต่างๆ ที่ทักษิณใช้เพื่อให้ตัวเองกลับไทยได้โดยไม่ต้องติดคุก ก็ประสบความล้มเหลวทุกแผน จนกระทั่งล่าสุด เมื่อทักษิณไปพูดกับสื่อฯ ของญี่ปุ่นเมื่อเร็วๆ นี้ว่า จะกลับมาติดคุกในเมืองไทย
ทั้งหมดทั้งมวลนั้น แสดงให้เห็นชัดๆ ว่าทักษิณยังต้องการจะกลับมาประเทศไทย ส่วนจะกลับมาเพื่ออะไรนั้นต้องวิเคราะห์กันอย่างละเอียดอีกทีหนึ่ง เพราะทักษิณมีเป้าประสงค์ในการกลับไทยหลายชนิด เช่น กลับมาตายบนแผ่นดินไทย กลับมาเป็นนายกรัฐมนตรี กลับมาเลี้ยงหลาน ฯลฯ
ย้อนกลับไปดูกลอุบายทางการเมืองที่ทักษิณเดินเกมเพื่อพาตัวเองกลับไทยโดยไม่ต้องติดคุก จะพบว่ามีหลากหลายกลวิธี เช่น ความพยายามแก้รัฐธรรมนูญเพื่อล้างผิดให้ตนเอง ดังที่ปรากฏว่าเป็นการแก้รัฐธรรมนูญสุดซอยเพื่อฟอกขาวล้างผิดให้ทักษิณ คอการเมืองไทยยังจดจำปรากฏการณ์นี้ได้ดีว่าเกิดในยุคสมัคร สุนทรเวช เป็นนายกรัฐมนตรี แล้วก็จำได้ดีด้วยว่า ผลสุดท้ายความพยายามแก้รัฐธรรมนูญสุดซอยจบลงด้วยฉากการเมืองคือการประท้วงใหญ่ การยึดทำเนียบรัฐบาล และการชุมนุมใหญ่ที่หน้าสนามบินสุวรรณภูมิ แล้วลงท้ายด้วยพรรคพลังประชาชน (พรรคนอมินีของทักษิณ) ถูกศาลพิพากษายุบพรรคเมื่อ 2 ธันวาคม 2551
เมื่อกลอุบายการเมืองครั้งแรกล้มเหลว ทักษิณก็เดินเกมการเมืองใหม่ในยุครัฐบาลยิ่งลักษณ์ ชินวัตร รัฐบาลหุ่นเชิดของทักษิณ โดยการเล่นเกมออกพระราชบัญญัติปรองดองแห่งชาติ เพราะเข้าใจผิดคิดว่าเรื่องราวจะผ่านฉลุย เพราะพรรคเพื่อไทยได้คะแนนเสียง สส. 265 เสียง แล้วยังกวาดเอาสส. พรรคอื่นๆ ไปร่วมเป็นรัฐบาลผสมมี สส. รวม 300 เสียงเมื่อเหตุว่ามีเสียงในสภาถึง 300 เสียงก็เลยชะล่าใจ คิดว่าเกมจะง่ายเหมือนต้อนหมูเข้าเล้า โดยเล่นเกมให้สนธิ บุญยรัตกลินผู้ที่ทำรัฐประหารโค่นทักษิณ เมื่อปี 2549 กลับเข้าสภาในฐานะนักการเมืองสังกัดพรรคมาตุภูมิ โดยเข้ามาผลักดันเรื่องการสร้างความปรองดองแห่งชาติ แต่ทว่าสุดท้ายก็ไม่เป็นไปตามความฝันของทักษิณ เพราะไม่มีใครสามารถปรองดองกับนักโทษหนีคดีอาญาแผ่นดินได้
เกมการเมืองในยุคนั้นคือ พยายามหาทางล้างผิดให้กับคดีการเมืองทุกคดี โดยการประกาศนิรโทษกรรมคดีการเมืองควบคู่ไปกับการอ้างว่าปฏิรูปกระบวนการยุติธรรม โดยยกคำอ้างว่า เพื่อให้เป็นไปตามหลักการของความยุติธรรม แต่สิ่งที่ซ่อนอยู่คือการให้เพิกถอนเรื่องที่เป็นผลทางกฎหมายที่ดำเนินการโดย คตส. (คณะกรรมการตรวจสอบการกระทำที่ก่อให้เกิดความเสียหายแก่รัฐ)
ในยุคนั้น พรรคการเมืองของทักษิณชะล่าใจมาก เพราะคิดว่าฝั่งของตนมีเสียงในสภาท่วมท้นจนสามารถจะลากกฎหมายไปเพื่อรับใช้ตนเองได้โดยสะดวก แต่ทว่าการณ์
ไม่เป็นไปตามนั้น เพราะมีการคัดค้านอย่างหนักจากฝ่ายค้านในสภา และยังมีการคัดค้านอย่างหนักจากนอกสภาอีกด้วยเพราะฉะนั้น ความฝันของทักษิณที่จะใช้เสียงข้างมาก (กฎหมู่ในสภา) ลากกฎหมายนิรโทษกรรมออมาล้างมลทินให้ทักษิณก็เป็นอันต้องล้มไปอีกครั้งหนึ่ง
แฟนพันธ์ุแท้การเมืองไทยจำได้ดีว่า ประธานสภาผู้แทนราษฎรที่ทำหน้าที่เสมือนจงใจลากให้พระราชบัญญัติล้างมลทินให้ทักษิณผ่านสภาให้จงได้ ชื่อว่า สมศักดิ์เกียรติสุรนนท์ โดยพยายามดึงดันลากให้ พ.ร.บ. ปรองดอง4 ฉบับเข้าสู่การพิจารณาของสภาให้ได้ จนในที่สุดในสภาก็เกิดความโกลาหล นำไปสู่การกระชากเก้าอี้ประธานสภา จนเป็นข่าวครึกโครมทั่วประเทศ แล้วสุดท้ายกฎหมายล้างผิด ฟอกขาวให้ทักษิณก็ถูกทิ้งไว้คาสภา โดยไม่มีการนำขึ้นพิจารณา
แต่แม้กฎหมายฟอกขาวให้ทักษิณจะไม่บรรลุเป้าประสงค์แต่พรรคการเมืองของทักษิณก็ยังคงพยายามเดินเกมล้างผิดให้ทักษิณเสมอมา และกระทำการทุกครั้งเมื่อมีโอกาส ดังจะพบว่าในที่สุดแล้ว สส. พรรคการเมืองของทักษิณก็ยังคงพยายามดัน พ.ร.บ. ล้างผิดให้ทักษิณเข้าสภาอีก
แต่แล้วความพยายามดันกฎหมายนิรโทษกรรมสุดซอยครั้งนี้ก็นำไปสู่การชุมนุมใหญ่ที่นำโดย สุเทพ เทือกสุบรรณ แห่ง กปปส. แล้วเหตุการณ์ก็จบลงที่การทำรัฐประหารโดยประยุทธ์ จันทร์โอชา เมื่อเดือนพฤษภาคม 2557
ทั้งหมดนี้แสดงให้เห็นชัดๆ ว่า เกิดขึ้นมาจากความจงใจของทักษิณ ชินวัตร ที่ต้องการใช้กลไกรัฐสภาเพื่อล้างความผิด ฟอกสีให้ตนเอง เพื่อให้ไม่ต้องติดคุกติดตะราง
คอการเมืองไทยชนิดแฟนพันธ์ุแท้มองตรงกันว่า ทักษิณไม่เคยยอมรับความผิดที่ตนเองจงใจก่อขึ้น แต่กลับพยายามใช้กลอุบายการเมืองเพื่อเป็นเครื่องมือล้างความผิดให้ตนเองเสมอมา
ครั้งนี้ก็เช่นกัน ก็เห็นได้ชัดว่าทักษิณก็ยังคงพยายามจะล้างความผิดให้ตนเอง โดยการส่งลูกสาวคนเล็กให้กระโจนลงบ่อน้ำครำการเมืองไทย แล้วอุปโลกน์ตำแหน่งหัวหน้าครอบครัวเพื่อไทยให้ลูกสาวของตน ซึ่งเท่ากับประกาศชัดว่า พรรคเพื่อไทยเป็นพรรคการเมืองของครอบครัวชินวัตร แล้วตามมาด้วยการโฆษณาชวนเชื่อเรื่อง Land Slide จนกระทั่งมาถึงคำโกหกว่ายอมกลับมาติดคุกในเมืองไทย
ทั้งหมดทั้งมวลที่ทักษิณวางหมากการเมืองเพื่อให้ตนเองพ้นผิด แล้วกลับมามีอำนาจรัฐให้ได้อีกสักครั้ง ล้วนเป็นกลการเมืองที่ทักษิณดำเนินมาตั้งแต่วันที่ตนเองถูกทำรัฐประหารเมื่อปี 2549 เรื่อยมาจวบจบบัดนี้ คอการเมืองไทยพบว่าไม่เคยมีสักครั้งที่ทักษิณจะยอมรับความผิดที่ตนเองจงใจก่อขึ้น
มาวันนี้ทักษิณเล่นกลการเมืองด้วยการโกหกอีกครั้งว่า จะกลับมาติดคุกในไทย ถามว่าคนอย่างทักษิณีนี่หรือจะกล้าหาญกลับมาติดคุกไทย ทั้งๆ ที่พยายามหนีคดีหัวซุกหัวซุนมาโดยตลอด
ดังนั้นคำโกหกเรื่องกลับมาติดคุกไทย ก็จึงเป็นอีกหนึ่งคำโกหกของทักษิณ โดยมีเป้าหมายอยู่ที่ Land Slide ของพรรคเพื่อไทย พรรคการเมืองของทักษิณ เพื่อทักษิณ ดังนั้น คำโฆษณาชวนเชื่อเรื่อง Land Slide ของพรรคเพื่อไทยในขณะนี้ ก็จึงมีเป้าหมายไปต่างไปจากเดิมคือ เพื่อให้ได้คะแนนเสียง สส. มากที่สุด แล้วนำไปสู่การล้างมลทินให้ทักษิณด้วยกระบวนการทางสภา
กลอุบายการเมืองเพื่อฟอกขาว ล้างผิดให้ทักษิณจะไม่มีวันยุติลง ตราบเท่าที่ทักษิณยังต้องการจะกลับมามีอำนาจรัฐให้จงได้ เรื่องแบบนี้จะดำเนินไปเรื่อยๆ ตราบวันสุดท้ายที่ทักษิณยังมีลมหายใจ
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี